ไต้หวัน>>>ไทเป เที่ยวไปเรื่อยตามสไตล์...

สวัสดีค่ะ ขอเกริ่นก่อนนะค่ะว่า ปกติ จขกท จะอ่านกระทู้ที่แชร์กันในเฟสเป็นหลัก เคยเขียนกระทู้ตอนไปเที่ยวลาวเมื่อมกราที่ผ่านมาค่ะ แต่เขียนไม่จบ เพราะขี้เกียจ+ไม่มีเน็ตตอนที่ลาว กลับมาก็ต้องเคลียงาน เลยคาไว้แค่นั้นค่ะ ฮ่าๆๆ
แต่ครั้งนี้ มาไทเป ไม่รีวิวไม่ได้แล้วค่ะ อยากแบ่งปันสุดๆ เพราะ จขกท ตกหลุมรักไต้หวันเข้าแล้วค่ะ ฮ่าๆๆๆ เหตุผลที่ตกหลุมรักไต้หวันมีมากมายค่ะ บ้านเมืองสะอาดเรียบร้อย คนมีระเบียบวินัย ผู้คนเป็นมิตร พร้อมช่วยเหลือ อาหารการกินก็ถูกปาก เป็นประเทศที่อบอวลด้วยศิลปะ ฯลฯ ค่ะ

ขอแนะนำตัวก่อนนะค่ะว่า จขกท เป็นล่ามจีนฟรีแลนซ์ค่ะ ที่มาไทเปในครั้งนี้คือมาทำงานค่ะ ทำงานเสร็จ ลูกค้าบินกลับไทย แต่ จขกท อยู่ต่ออีก4วันค่ะ อันที่จริงอยากอยู่ต่อสัก2อาทิตย์ค่ะ แต่ติดงานแต่งเพื่อนสนิท ต้องกลับไปร่วมงานที่หาดใหญ่ค่ะ เลยอยู่ต่อได้แค่นี้ค่ะ ฮ่าๆๆ


บอกก่อนอีกนิด ก่อนมาไม่ได้เตรียมแผนเที่ยวใดๆทั้งสิ้น เพราะเป็นเที่ยวสไตล์ไปหาเอาดาบหน้าค่ะ เร้าใจดีค่ะ หลงทางบ้าง งมทางบ้าง สนุกดีค่ะ ชอบๆ ฮ่าๆๆ

เนื่องจากงานเสร็จก่อนกำหนดค่ะ ลูกค้าจึงรีเครสว่าอยากไปเดินตลาดต้นไม้ ลูกค้าเป็นคนชอบต้นไม้มากค่ะ เห็นต้นอะไรที่ไทยไม่มี อยากซื้อกลับไปปลูกตลอด จขกท ได้แต่บอกว่า "เขาห้ามเอาต้นไม้ ผลไม้ ดอกไม้ และพืชพันธุ์ออกนอกประเทศ" ลูกค้าก็จะถามตลอดว่า"ทำไม" จขกท ก็ตอบเหมือนเดิมทุกครั้งว่า "ไม่มีทำไมค่ะพี่ มันเป็นกฏสากลทั่วโลก" และด้วยความที่ซื้อกลับไม่ได้ ก็ยิ่งทำให้อยากได้ค่ะ นี่แหละหนอมนุษย์ ฮ่าๆๆ
จขกท เข้าไปเสิร์ตหาใน yahoo(ที่ไต้หวัน เค้าจะใช้yahooกันค่ะ) ทันที ขึ้นมาเลยค่ะ 建国假日花市（jianguo holiday flower market) เปิดแค่เสาร์และอาทิตย์ เวลา9.00-18.00ค่ะ

พิกัดนะค่ะ สถานี Daan park สายสีแดงค่ะ ทางออก6ค่ะ ขึ้นมาบนดินปุป เดินไปทางซ้ายมือ ถึงสี่แยกไฟแดง ข้ามไปก็ถึงเลยค่ะ ตลาดจะอยู่ใต้ทางยกระดับค่ะ บอกเลยว่าที่นี่คือสวรรค์ของคนรักต้นไม้ ดอกไม้ค่ะ

ตรงข้ามตลาดต้นไม้ จะเป็นตลาดงานฝีมือและพวกไม้แกะสลักค่ะ เหมาะสำหรับคนมีกะตังค์และรักงานฝีมือค่ะ เพราะราคาค่อนข้างสูง แต่งานสมราคาค่ะ ประณีต สวยงามจริงๆค่ะ อันนี้ไม่มีรูปค่ะ เพราะเค้าติดป้ายห้ามถ่ายรูปทุกร้านเลยค่ะ

อันนี้ภาพบรรยากาศตลาดต้นไม้ ดอกไม้สุดสัปดาห์นะค่ะ จขกท ลงแค่บางส่วนนะค่ะ เพราะถ่ายมาหลายร้อยรูปเลยค่ะ ฮ่าๆๆๆ






















พูดได้เลยว่า มาตลาดนี้ได้ครบทุกอย่างค่ะ มีให้เลือกทุกพันธุ์ ต้นเล็ก ต้นใหญ่ มีรับจัดสวนด้วยนะค่ะ แต่เค้าไม่ให้ถ่ายรูปค่ะ

หลังจากเดินเล่น ถ่ายรูปจนจุใจ ก็ได้เวลาหามื้อกลางวันใส่ท้องค่ะ ออกจากตลาดหันซ้ายหันขวาเห็นผู้คนเดินไปฝั่งตรงข้ามกันเยอะมาก จขกท เลยเดินตามผู้คนไปค่ะ มีร้านข้าว ชานมไข่มุก บะหมี่ และร้านกาแฟเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ หลังจากลูกค้าเดินดูครบทุกร้านแล้วก็ตกลงปลงใจว่าจะกินร้านพะโล้ค่ะ หน้าตาอาหารกลางวันของ จขกท จึงเป็นแบบนี้ค่ะ



ท้องอิ่ม ก็ได้เวลาไปเที่ยวต่อค่ะ เนื่องด้วยลูกค้า ไม่มีความคิดเห็นใดใด จขกท จึงตัดสินใจเอง ว่าจะไป 中正纪念堂（Chiang Kai-Shek Memorial Hall）สายสีแดงค่ะ
อันนี้ภาพบรรยากาศค่ะ







เนื่องด้วยเป็นวันเสาร์ จึงเห็นลูกเล็กเด็กแดงมากมายค่ะ พ่อแม่พาลูกมา ไม่ก็คุณปู่คุณย่าคุณตาคุณยายพาหลานๆมาค่ะ จุงที่มีคนเป่าลูกโป่งจะมีเด็กๆเยอะเป็นพิเศษค่ะ เด็กๆดูสนุกสนานกับการเจาะลูกโป่งให้แตกและวิ่งไล่ตามค่ะ หลังจากถ่ายรูปเป็นที่ระทึกกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว ระหว่างเดินออกเพื่อไปขึ้นใต้ดินนั้น จขกท เดินสวนกับคุณตาที่พาหลานมาเที่ยวค่ะ หลานนั่งอยู่บนรถเข็นค่ะ ในมือถือน้ำยาเป่าลูกโป่ง กำลังจะเป่า ถึงเป็นทิศโต้ลม คุณตาก็เลยห้ามหลาน พร้อมสั่งสอนว่า ตอนนี้เราอยู่ทิศโต้ลม ถ้าเป่าลูกโป่งตอนนี้ ลูปโป่งจะแตกใส่หน้าและน้ำยาจะเข้าตา ทำให้ตาระคายเคืองได้นะ ถ้าจะเป่าตาจะหันรถเข็นไปด้านหลังให้ พอหลานพยักหน้า คุณตาก็หันรถเข็นไปทิศตามลม ส่วนคุณหลานก็เริ่มเป่าลูกโป่งเล่นอย่างสนุกสนาน จขกท รู้สึกปลื้มในการสอนหลานของคุณตาคนนี้ ที่ห้าม พร้อมอธิบายเหตุผล ด้วยน้ำเสียงที่เป็นห่วงเป็นใย ไม่ใช่ ดุ แล้วยังไม่อธิบายเหตุผลใดใด

หลังจากส่งลูกค้าขึ้นแท็กซี่ไปสนามบินเรียบร้อยแล้ว จขกท ก็ทำการย้ายที่พักอาศัยค่ะ จากโรงแรมติดใต้ดินเป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆแถวสถานี Taipei Main Station ค่ะ เมื่อถึงที่พัก จขกท ก็ปลื้มเจ้าของที่พักมากค่ะ เพราะ จขกท จองเป็นแบบห้อง6เตียงนอนค่ะ คืนละ 400nt แต่ด้วยความที่เห็นว่า จขกท เป็น ผญ เจ้าของเกสเฮ้าส์จึงอัพให้ จขกท นอนห้องเดี่ยว(700nt/วัน)โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มค่ะ ลุงแกเล่ามาเมื่อเกือบ30ปีก่อน ลุงแกเคยไปใช้ชีวิตที่ไทย1ปีค่ะ ลุงแกชอบเมืองไทยค่ะ ไหนๆห้องเดี่ยวก็ว่างอยู่ ลุงแกก็เลยให้อยู่แบบไม่คิดเงินเพิ่มค่ะ จขกท ก็ฟินส์สิค่ะงานนี้ ฮ่าๆๆ

เก็บของเสร็จเรียบร้อย จขกท ก็เปิดเน็ตเสิร์ตหาที่ไปค่ะ แล้วก็เจอเปิดท้ายงานอาร์ตหน้า redhouse ค่ะ เปิดทุกเสาร์อาทิตย์ 18.00-22.00ค่ะ จขกท เลยพุงตัวไปอย่างไม่รอช้าเลยค่ะ เพราะ จขกท ชอบงานอาร์ต งานฝีทือเป็นทุนอยู่แล้วค่ะ นั่งใต้ดินไปลงสถานี Ximen ค่ะ ทางออก1



อันนี้ภายใน redhouseค่ะ มีจัดบอร์ดประวัติความเป็นมาของ redhouse อยู่ตรงกลางอาคาร ภายในจะมีร้านชา ร้านอาหารกึ่งร้านกาแฟ และร้านขายของที่ระลึกค่ะ ร้านขายของที่ระลึก ของน่ารักทั้งนั้นเลยค่ะ แต่ราคาค่อนข้างสูง โปสการ์ดเริ่มต้นที่ใบละ40nt ค่ะ เสื้อยืดที่ระลึกเริ่มต้นที่ตัวละ 780nt ค่ะ




มาที่บริเวณรอบ redhouse เปิดท้ายงานอาร์ตกันบ้างค่ะ บางร้านถ่ายรูปได้ บางร้านห้ามถ่ายรูปค่ะ จขกท ขอลงแค่บางส่วนนะค่ะ ขี้เกียจรีไซน์หนะค่ะ ให้อภัย จขกท ด้วยน้าาาาา ฮ่าๆๆๆ










จขกท ก็ช็อปของกุ๊กกิ๊กน่ารักติดมือมาหลายชิ้นค่ะ ถือเป็นที่ละลายทรัพย์ชั้นเยี่ยมสำหรับคนชอบงาน hand madeเลยค่ะ และชิ้นนึ่งที่ จขกท อยากนำเสนอมากก็คือ นาฬิกาทำมือค่ะ ไอเดีย ความตั้งใจ ความใส่ใจในรายละเอียดของคนทำโดนใจ จขกท มากค่ะ รู้ตัวอีกที จขกท ก็จ่ายเงินไปเรียบร้อยแล้วค่ะ

นาฬิกาเรือนนี้ทำเป็นตัวล็อคข้อมือ เปลี่ยนเสมือนคนโดนขังเอาไว้ด้วยเวลา ตัวไขลานคือกุญแจที่จะปลดล็อคพันธนาการนี้ ด้านข้างเป็นคุกค่ะ มีเตียงกับชักโครกตัวเล็กๆอยู่ แล้วเค้าก็บอกอีกว่า เวลาคนเราอยู่ในคุกนึ่งวันยังกับหนึ่งปี หนึ่งนาทียังกับหนึ่งชั่วโมง เฉพาะนั้นหน้าปัดอันเล็กทั้งสองอันจึงเป็น year & hour แทน วันกับนาทีค่ะ  มีความหมายแฝงเยอะมาก เอาแค่คราวๆละกันนะค่ะ







วันนี้แค่นี้ก่อนนะค่ะ จขกท ง่วงตาจะปิดแล้วค่ะ แล้วจะมีรีวิวต่อนะค่ะ ถ้าไม่ขี้เกียจซะก่อน
ปล.นับถือคนเขียนกระทู้มากค่ะ ไหนจะเรียบเรียง ไหนจะรีไซน์รูป ไหนจะต้องพิมพ์อีก มันต้องใช้เวลาไม่น้อยเลย ยิ่ง จขกท ใช้ ipad ด้วย กว่าจะจิ้มออกมาได้ขนาดนี้ ปวดนิ้วเลยค่ะ ฮ่าๆๆ