ท่องเที่ยวครั้งนี้นำเสนอ ความเหนื่อย ความเมื่อย ความอดทนสูงสุด ความอร่อยสูงสุด(เพราะมันอยู่สุดยอด....สุดยอดเขานะ) ที่นั่นคือ....เขาวงพระจันทร์ บางคนอาจจะบอกว่าไม่เคยได้ยินชื่อเลย....แน่นอนถ้าไม่ไช่คนลพบุรี จะไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่ (ก็เหมือนกับเราที่จะไม่รู้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด ถ้าไม่ใช่ แหล่องท่องเที่ยว Unseen) >>>>>>>>>>>>>
มา มา มา ว่าแล้ว เราก็จะพาไปรู้จักกัน ด้วยการพาไปพิชิตเขาวงพระจันทร์>>>>>>>>ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้นด้วยบันได 3790 ขั้น (แบบว่า ขึ้นไปเนี่ยะ ลมจับ หอบกินกันไปเป็นแถวเลย แฮกๆๆๆๆ ไปตามกัน) แต่พอขึ้นถึงข้างบนแล้ว จะบอกว่า มันสุดยอดม๊ากกกกกกกก จริงๆๆนะ confirm!!!!!!
Cr. ททท. เที่ยวหลายสไตส์ภาคกาง
เริ่มต้นจาก การขับรถออกจากบ้าน

>>>>>>>>> จุดมุ่งหมายอยู่ที่....เขาวงพระจันทร์........สิ่งที่ต้องเตรียมเลยคือ...เตรียมใจจ้า++++ คือแบบว่าถ้าไม่ใจขึ้นไม่ถึงนะจ๊ะ คนพร้อม ร้องเท้าพร้อม ของกินไม่ต้อง ตามรายทางมี 5555
เราเริ่มขึ้นกันเวลา 18.00 น. (เวลาพระอาทิตย์กำลังตก แบบว่าอยากได้เส้นขอบฟ้าอ่ะ) ซึ่งถ้าถามว่า เขาวงพระจันทร์เขาขึ้นได้ตอนไหนบ้าง ถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันจะขึ้นได้ตลอดค่ะ........ ถ้าช่วงเทศกาล จะอยู่ในช่วง กลางเดือนก.พ. ถึง ต้นเดือน มี.ค. ของทุกปี ซึ่งช่วงเทศกาลจะเปิดให้ขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน มีไฟเปิดตลอดทาง มีคนขึ้นตลอดคืน ถ้าถามว่าทำไมไม่ขึ้นช่วงกลางวัน.....ขอบอกว่า มันโคตร ร้อนนนนนนม๊ากกกกกก แดดเปรี้ยงๆๆๆ ขึ้นเขาม่ะไหว คงได้เป็นลมกันบ้างล่ะ แต่ก็มีคนขึ้นกลางวันนะ ต้องอึดและทนจริงๆๆถึงจะขึ้นกลางวันได้ ขอเลือกได้.....กลางคืนดีกว่า ชมวิวไปด้วย สวยไปอีกแบบ>>>>>>เดินกันไปเรื่อยๆๆ หอบไปเรื่อยๆๆๆ เหนื่อยก็ต้องทน เมื่อยมากกก เหงื่อเนียะเต็มตัวเลย แต่ก็สนุกดี
เพื่อนร่วมเดินทางเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเปลี่ยวค่ะ......โดยเฉพาะ ยิ่งดึกยิ่งคนขึ้นเยอะม๊ากกกกกก
ในที่สุดเราก็ถึงจุดสุดยอดดดดดด......ยอดเขานะคะ

ใช้เวลาไปไปถงยอดเขา เวลา 19.13 น.
แฮกเลย ขอบอก...... จุดหมายแรกที่เราเดินไปก่อนเลยคือ.........ข้าวต้ม....ฉันหิวมากกกกกก จัดการหาที่นั่ง ตักข้าวต้ม เป็นข้าวต้มกุ๊ยนะคะ ได้รสชาติความเค็มหน่อยๆๆ กำลังอุ่นๆๆ ซดทีเดียวรวด กินกับ ผักกาดหวาน-เค็ม อื้มมมมมม รสชาติตอนนั้นบอกเลยว่าอร่อยม๊ากกกกก ซัดไปซะ 2 ถ้วยเต็มๆๆ(แฮ๊ะๆๆๆ กินจุไปนิส) จากนั้นนั่งพักใหญ่ๆๆๆ ค่อยเดินชมบนยอดเขาต่อ
จากนั้นก็เดินชมวิว ไหว้พระตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะต้องไหว้นะคะ เพราะอยู่สูงสุดเลย จากนั้น ก็ต้องไปยกช้างค่ะ ตัวใหญ่มาก หนักมากกกกก ใครอยากขอพรอะไรก็ลองไปยกช้างดูนะคะ
จากมุมมองข้างบน วิวสวยค่ะ ลมพัดเย็นตลอดเลย เย็นจนกลายเป็นหนาวเลยค่ะ......อยู่ข้างบน สัก 2 ชั่วโมง เราก็ลงแล้วค่ะ เพราะชมบรรยากาศ กะถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ถึงเพลากลับบ้านไปนอนได้แล้ว
เราเริ่มลงจากเขาเวลาประมาณ 21.00 น. ค่ะ ก้อลงไปเรื่อยๆๆ ชมวิวไปเรื่อยๆๆๆ ให้กำลังใจคนขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ เพิ่งมารู้ว่า ขาลงเนี่ยะๆๆ มันชันมากกกกก เนี่ยะฉันขึ้นมาชันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ

เฮ้อ!!!! เก่งเหมือนกันที่ขึ้นมาได้ 5555

ขาลงมาเรื่อยๆๆๆ มีเจ้าตัวนี้ มาด้วยล่ะ (เจ้าของเค้าอยู่ข้างหน้าเรา เล่นกับมันมาตลอดทาง)
เจ้าตัวนี้ก็ไปพิชิตยอดเขามาแล้วนะ นายเยี่ยมมาก 5555 (เจ้าของเค้าอุ้มไปตลอดทางเลยล่ะ)
ในที่สุดเราก็ลงมาถึงแล้ววววว ขาลงเนี่ยะ ใช้เวลาไป 45 นาทีเอง แบบว่า แทบจะวิ่งลงกันมาเลย พอหยุดพักปุ๊ป ขาเจ้ากรรมดันสั่นซะงั้น 5555 แบบว่าเดินขาสั่นไปตลอดทางเลย ปวดน่องด้วย หาเรื่องมาลำโน๊ะ......แต่ ชอบบบบบแบบนี้อ่ะ....
เชิญชวนใครสนใจปีหน้าก็มาได้นะคะ เมืองไทยเราไม่ไปเราไม่รู้ ว่าที่เที่ยวเราก็เยอะจ้า
ขอบคุณที่รับชมคร๊าบบบบบ
เขาวงพระจันทร์-------ใครไม่ไปไม่รู้
ท่องเที่ยวครั้งนี้นำเสนอ ความเหนื่อย ความเมื่อย ความอดทนสูงสุด ความอร่อยสูงสุด(เพราะมันอยู่สุดยอด....สุดยอดเขานะ) ที่นั่นคือ....เขาวงพระจันทร์ บางคนอาจจะบอกว่าไม่เคยได้ยินชื่อเลย....แน่นอนถ้าไม่ไช่คนลพบุรี จะไม่ค่อยรู้จักสักเท่าไหร่ (ก็เหมือนกับเราที่จะไม่รู้สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัด ถ้าไม่ใช่ แหล่องท่องเที่ยว Unseen) >>>>>>>>>>>>>
มา มา มา ว่าแล้ว เราก็จะพาไปรู้จักกัน ด้วยการพาไปพิชิตเขาวงพระจันทร์>>>>>>>>ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้นด้วยบันได 3790 ขั้น (แบบว่า ขึ้นไปเนี่ยะ ลมจับ หอบกินกันไปเป็นแถวเลย แฮกๆๆๆๆ ไปตามกัน) แต่พอขึ้นถึงข้างบนแล้ว จะบอกว่า มันสุดยอดม๊ากกกกกกกก จริงๆๆนะ confirm!!!!!!
เริ่มต้นจาก การขับรถออกจากบ้าน
เราเริ่มขึ้นกันเวลา 18.00 น. (เวลาพระอาทิตย์กำลังตก แบบว่าอยากได้เส้นขอบฟ้าอ่ะ) ซึ่งถ้าถามว่า เขาวงพระจันทร์เขาขึ้นได้ตอนไหนบ้าง ถ้าเป็นช่วงเวลากลางวันจะขึ้นได้ตลอดค่ะ........ ถ้าช่วงเทศกาล จะอยู่ในช่วง กลางเดือนก.พ. ถึง ต้นเดือน มี.ค. ของทุกปี ซึ่งช่วงเทศกาลจะเปิดให้ขึ้นทั้งกลางวันและกลางคืน มีไฟเปิดตลอดทาง มีคนขึ้นตลอดคืน ถ้าถามว่าทำไมไม่ขึ้นช่วงกลางวัน.....ขอบอกว่า มันโคตร ร้อนนนนนนม๊ากกกกกก แดดเปรี้ยงๆๆๆ ขึ้นเขาม่ะไหว คงได้เป็นลมกันบ้างล่ะ แต่ก็มีคนขึ้นกลางวันนะ ต้องอึดและทนจริงๆๆถึงจะขึ้นกลางวันได้ ขอเลือกได้.....กลางคืนดีกว่า ชมวิวไปด้วย สวยไปอีกแบบ>>>>>>เดินกันไปเรื่อยๆๆ หอบไปเรื่อยๆๆๆ เหนื่อยก็ต้องทน เมื่อยมากกก เหงื่อเนียะเต็มตัวเลย แต่ก็สนุกดี
เพื่อนร่วมเดินทางเยอะ ไม่ต้องกลัวว่าจะเปลี่ยวค่ะ......โดยเฉพาะ ยิ่งดึกยิ่งคนขึ้นเยอะม๊ากกกกกก
ในที่สุดเราก็ถึงจุดสุดยอดดดดดด......ยอดเขานะคะ
แฮกเลย ขอบอก...... จุดหมายแรกที่เราเดินไปก่อนเลยคือ.........ข้าวต้ม....ฉันหิวมากกกกกก จัดการหาที่นั่ง ตักข้าวต้ม เป็นข้าวต้มกุ๊ยนะคะ ได้รสชาติความเค็มหน่อยๆๆ กำลังอุ่นๆๆ ซดทีเดียวรวด กินกับ ผักกาดหวาน-เค็ม อื้มมมมมม รสชาติตอนนั้นบอกเลยว่าอร่อยม๊ากกกกก ซัดไปซะ 2 ถ้วยเต็มๆๆ(แฮ๊ะๆๆๆ กินจุไปนิส) จากนั้นนั่งพักใหญ่ๆๆๆ ค่อยเดินชมบนยอดเขาต่อ
จากนั้นก็เดินชมวิว ไหว้พระตามจุดต่างๆ โดยเฉพาะรอยพระพุทธบาท ซึ่งเป็นจุดสำคัญที่จะต้องไหว้นะคะ เพราะอยู่สูงสุดเลย จากนั้น ก็ต้องไปยกช้างค่ะ ตัวใหญ่มาก หนักมากกกกก ใครอยากขอพรอะไรก็ลองไปยกช้างดูนะคะ
จากมุมมองข้างบน วิวสวยค่ะ ลมพัดเย็นตลอดเลย เย็นจนกลายเป็นหนาวเลยค่ะ......อยู่ข้างบน สัก 2 ชั่วโมง เราก็ลงแล้วค่ะ เพราะชมบรรยากาศ กะถ่ายรูปจนพอใจแล้ว ถึงเพลากลับบ้านไปนอนได้แล้ว
เราเริ่มลงจากเขาเวลาประมาณ 21.00 น. ค่ะ ก้อลงไปเรื่อยๆๆ ชมวิวไปเรื่อยๆๆๆ ให้กำลังใจคนขึ้นไปเรื่อยๆๆๆ เพิ่งมารู้ว่า ขาลงเนี่ยะๆๆ มันชันมากกกกก เนี่ยะฉันขึ้นมาชันขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยะ
ขาลงมาเรื่อยๆๆๆ มีเจ้าตัวนี้ มาด้วยล่ะ (เจ้าของเค้าอยู่ข้างหน้าเรา เล่นกับมันมาตลอดทาง)
เจ้าตัวนี้ก็ไปพิชิตยอดเขามาแล้วนะ นายเยี่ยมมาก 5555 (เจ้าของเค้าอุ้มไปตลอดทางเลยล่ะ)
ในที่สุดเราก็ลงมาถึงแล้ววววว ขาลงเนี่ยะ ใช้เวลาไป 45 นาทีเอง แบบว่า แทบจะวิ่งลงกันมาเลย พอหยุดพักปุ๊ป ขาเจ้ากรรมดันสั่นซะงั้น 5555 แบบว่าเดินขาสั่นไปตลอดทางเลย ปวดน่องด้วย หาเรื่องมาลำโน๊ะ......แต่ ชอบบบบบแบบนี้อ่ะ....
เชิญชวนใครสนใจปีหน้าก็มาได้นะคะ เมืองไทยเราไม่ไปเราไม่รู้ ว่าที่เที่ยวเราก็เยอะจ้า
ขอบคุณที่รับชมคร๊าบบบบบ