คำตอบเรื่องการมองเห็นสีของชุดเจ้าปัญหาว่าเป็นสีน้ำเงิน-ดำ หรือว่าเหลืองทอง-ขาว ที่กำลังเป็น talk of the town อยู่ในขณะนี้ ผศ.ดร. สุจิตรา สื่อประสาร อาจารย์ประจำภาควิชาเทคโนโลยีทางภาพและการพิมพ์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กรุณามาตอบให้แล้วค่ะ อาจารย์จบทางด้าน color science โดยตรง ลองอ่านดูค่ะ ข้างล่างนี้เลย อาจารย์ตอบได้ละเอียดดีแถมเข้าใจง่าย ^^ ใครอยากนำไปเผยแพร่ต่อก็เชิญเลยนะคะ เพราะเป็นคำตอบจากอาจารย์ผู้สอนทางด้านนี้โดยตรงและอาจารย์ตอบแบบ public ให้ด้วย
................................................................................................................
เรื่องนี้ต้องแบ่งตอบเป็นสามส่วนค่ะ เริ่มตั้งแต่ตอนถ่ายภาพ ตอนแชร์รูปไปดูตามหน้าจอต่าง ๆ และสุดท้ายทำไมคนสองคนดูภาพด้วยกันแต่เห็นสีต่างกัน
1. การถ่ายภาพ - ภาพนี้ถ่ายมาแบบที่เรียกเป็นภาษาเทคนิคว่า over exposure คือ แสงสว่างมากเกินไป สังเกตได้จากรายละเอียดของภาพต่ำ ไม่เห็นลายของลูกไม้ ฉากหลังแทบจะไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย ซึ่งส่งผลให้สีของภาพซีดจางไปทั้งหมดด้วย
หากว่าตอนถ่ายภาพมีการตั้งค่าชดเชยแสงสีของแหล่งแสงไว้ถูกต้อง อาจเป็นการตั้ง auto white balance หรือว่าตั้งตามแสงจริง เช่น ถ่ายภายใต้แสงสีเหลือง ก็ตั้ง tungsten ภายใต้แสงขาว ตั้ง daylight สีจริงของชุดนี้คือ สีน้ำเงิน-ดำ (สำหรับคนที่เห็นเป็นสีขาว-ทอง ให้ลองปิดบริเวณอื่น ๆ ให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นพื้นสีเสื้อ แล้วจะเห็นเป็นสีน้ำเงินค่ะ)
หากตอนถ่ายภาพ ตั้ง white balance ไม่ตรงกับแสงจริงตอนถ่ายภาพ สีจะเพี้ยนไปจากความเป็นจริง ถ้าชุดนี้ จริง ๆ แล้วเป็นสีขาว-ทอง แสดงว่า ตอนถ่ายภาพ อยู่ภายใต้แสง daylight แต่ตั้ง white balance เป็น tungsten ทำให้กล้องเปลี่ยนข้อมูลสีของภาพ โดยการดึงเอาสีเหลืองออก เพื่อชดเชยแสงสีเหลืองตอนถ่ายภาพ สีขาวของเสื้อ จึงกลายเป็นสีน้ำเงิน
ซึ่งจากการพิจารณาฉากหลังร่วมด้วย พบว่า ไม่ติดสีน้ำเงินเลย แต่มีติดสีเหลือง ๆ ตรงมุมขวาล่าง แสดงว่าไม่น่าจะใช่กรณีนี้ ดังนั้น ชุดนี้ของจริง น่าจะเป็นสีน้ำเงิน-ดำค่ะ
2. หน้าจอและสภาวะแสง - เมื่อมีการแชร์ภาพกันไป แต่ละคนดูภาพนี้บนอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน หน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความหลากหลายทั้งการตั้งความสว่าง และแสงสี สภาวะแสงแวดล้อมขณะดูก็ต่างกัน ส่งผลให้สีที่เห็นแตกต่างกันไป จะมาก จะน้อย ขึ้นกับความแตกต่างของอุปกรณ์และสภาวะ
สีที่เราเห็นนั้น เป็นปฎิสัมพันธ์ระหว่าง แสง วัตถุ และตัวผู้ดูเอง ส่วนของผู้ดู (หรือเรียกตามศัพท์ในวงการสี จะเรียกว่า ผู้สังเกต) จะกล่าวในข้อ 3 ต่อไปนะคะ
เมื่อเปลี่ยนแสง สีของวัตถุก็เปลี่ยน เช่น รถสีน้ำเงิน ตอนกลางวันเราก็เห็นเป็นสีน้ำเงินดี แต่พอมาจอดไว้ใต้แสงไฟถนนตอนกลางคืน (ซึ่งไฟถนน จะเป็นสีเหลือง เพื่อประหยัดพลังงาน) รถคันนั้นจะเป็นสีเข้ม ๆ ดำ ๆ เพราะสีน้ำเงินดูดกลืนแสงสีเหลืองไว้ ทำให้มีแสงสีเข้าตาเราน้อย
3. เพราะเหตุใดคนสองคนดูภาพอยู่ด้วยกัน ถึงเห็นสีต่างกัน - ระบบการมองเห็นของมนุษย์มีกลไกปรับชดเชยแสงสีที่ผิดเพี้ยนไปจากแสงขาว เพื่อให้เกิดการรับรู้สีคงที่ สำหรับแยกแยะวัตถุภายใต้แสงสีต่าง ๆ สำหรับกล้องถ่ายภาพก็คือฟังก์ชัน white balance นั่นเอง เพื่อบันทึกภาพให้เหมือนที่เรามองเห็นภายใต้แสงสีนั้น ๆ
กลไกนี้ทำงานโดย ขจัดสีส่วนหนึ่งที่ทำให้แสงสีต่างไปจากแสงขาว เช่น กระดาษขาว เมื่อมองภายใต้แสงสีเหลือง เราก็ยังคงเห็นเป็นสีขาวอยู่ เพราะระบบการมองเห็นเราปรับชดเชยแสงสีเหลืองที่เข้าสู่ตา (ถ้าวัดแสงสีจริงที่เข้าสู่ตา จะเป็นแสงสีเหลือง)
ระบบการมองเห็นจะใช้เบาะแสที่มีอยู่ในภาพ แปลความหมายสีของแหล่งแสง ซึ่งในกรณีของภาพนี้ เบาะแสคลุมเคลือ บางคนแปลว่า ชุดนี้อยู่ภายใต้แสงขาว ที่ถ่ายย้อนแสง ทำให้ชุดอยู่ในเงามืด (เงาของวัตถุที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์จัด ๆ จะติดสีน้ำเงินเล็กน้อย) คนกลุ่มนี้จะรับรู้ว่า ชุดนี้เป็นสีขาว-ทอง
สำหรับคนที่เห็นเป็นสีน้ำเงิน-ดำ ระบบการมองเห็นของเขาแปลความว่า ชุดนี้อยู่ภายใต้แสงสีเหลือง (สำหรับผู้เห็นเป็นสีขาว-ทอง ลองปิดภาพส่วนบน แล้วดูจากท่อนที่มองเห็นด้านหลังของชุดเป็นสีเหลือง ๆ นะคะ จะเห็นว่า ชุดเป็นสีน้ำเงินได้ง่ายขึ้น)
(ส่วนผู้ที่เห็นเป็นสีน้ำเงิน ให้ปิดท่อนล่าง แล้วดูจากท่อนที่เห็นด้านหลังเป็นสีขาว จะเห็นชุดเป็นสีขาว)
กลไกนี้เป็นการทำงานของสมอง ซึ่งเกิดจากเรียนรู้ และประสบการณ์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10153040586907931&set=a.385701767930.167511.718987930&type=1
คำตอบเรื่องทำไมถึงเห็นสีเสื้อต่างกัน (สีน้ำเงิน-ดำ และ สีเหลืองทอง-ขาว) จากนักวิชาการด้าน color appearance ค่ะ
................................................................................................................
เรื่องนี้ต้องแบ่งตอบเป็นสามส่วนค่ะ เริ่มตั้งแต่ตอนถ่ายภาพ ตอนแชร์รูปไปดูตามหน้าจอต่าง ๆ และสุดท้ายทำไมคนสองคนดูภาพด้วยกันแต่เห็นสีต่างกัน
1. การถ่ายภาพ - ภาพนี้ถ่ายมาแบบที่เรียกเป็นภาษาเทคนิคว่า over exposure คือ แสงสว่างมากเกินไป สังเกตได้จากรายละเอียดของภาพต่ำ ไม่เห็นลายของลูกไม้ ฉากหลังแทบจะไม่เห็นรายละเอียดอะไรเลย ซึ่งส่งผลให้สีของภาพซีดจางไปทั้งหมดด้วย
หากว่าตอนถ่ายภาพมีการตั้งค่าชดเชยแสงสีของแหล่งแสงไว้ถูกต้อง อาจเป็นการตั้ง auto white balance หรือว่าตั้งตามแสงจริง เช่น ถ่ายภายใต้แสงสีเหลือง ก็ตั้ง tungsten ภายใต้แสงขาว ตั้ง daylight สีจริงของชุดนี้คือ สีน้ำเงิน-ดำ (สำหรับคนที่เห็นเป็นสีขาว-ทอง ให้ลองปิดบริเวณอื่น ๆ ให้เหลือแต่ส่วนที่เป็นพื้นสีเสื้อ แล้วจะเห็นเป็นสีน้ำเงินค่ะ)
หากตอนถ่ายภาพ ตั้ง white balance ไม่ตรงกับแสงจริงตอนถ่ายภาพ สีจะเพี้ยนไปจากความเป็นจริง ถ้าชุดนี้ จริง ๆ แล้วเป็นสีขาว-ทอง แสดงว่า ตอนถ่ายภาพ อยู่ภายใต้แสง daylight แต่ตั้ง white balance เป็น tungsten ทำให้กล้องเปลี่ยนข้อมูลสีของภาพ โดยการดึงเอาสีเหลืองออก เพื่อชดเชยแสงสีเหลืองตอนถ่ายภาพ สีขาวของเสื้อ จึงกลายเป็นสีน้ำเงิน
ซึ่งจากการพิจารณาฉากหลังร่วมด้วย พบว่า ไม่ติดสีน้ำเงินเลย แต่มีติดสีเหลือง ๆ ตรงมุมขวาล่าง แสดงว่าไม่น่าจะใช่กรณีนี้ ดังนั้น ชุดนี้ของจริง น่าจะเป็นสีน้ำเงิน-ดำค่ะ
2. หน้าจอและสภาวะแสง - เมื่อมีการแชร์ภาพกันไป แต่ละคนดูภาพนี้บนอุปกรณ์ที่แตกต่างกัน หน้าจอมือถือ หน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งมีความหลากหลายทั้งการตั้งความสว่าง และแสงสี สภาวะแสงแวดล้อมขณะดูก็ต่างกัน ส่งผลให้สีที่เห็นแตกต่างกันไป จะมาก จะน้อย ขึ้นกับความแตกต่างของอุปกรณ์และสภาวะ
สีที่เราเห็นนั้น เป็นปฎิสัมพันธ์ระหว่าง แสง วัตถุ และตัวผู้ดูเอง ส่วนของผู้ดู (หรือเรียกตามศัพท์ในวงการสี จะเรียกว่า ผู้สังเกต) จะกล่าวในข้อ 3 ต่อไปนะคะ
เมื่อเปลี่ยนแสง สีของวัตถุก็เปลี่ยน เช่น รถสีน้ำเงิน ตอนกลางวันเราก็เห็นเป็นสีน้ำเงินดี แต่พอมาจอดไว้ใต้แสงไฟถนนตอนกลางคืน (ซึ่งไฟถนน จะเป็นสีเหลือง เพื่อประหยัดพลังงาน) รถคันนั้นจะเป็นสีเข้ม ๆ ดำ ๆ เพราะสีน้ำเงินดูดกลืนแสงสีเหลืองไว้ ทำให้มีแสงสีเข้าตาเราน้อย
3. เพราะเหตุใดคนสองคนดูภาพอยู่ด้วยกัน ถึงเห็นสีต่างกัน - ระบบการมองเห็นของมนุษย์มีกลไกปรับชดเชยแสงสีที่ผิดเพี้ยนไปจากแสงขาว เพื่อให้เกิดการรับรู้สีคงที่ สำหรับแยกแยะวัตถุภายใต้แสงสีต่าง ๆ สำหรับกล้องถ่ายภาพก็คือฟังก์ชัน white balance นั่นเอง เพื่อบันทึกภาพให้เหมือนที่เรามองเห็นภายใต้แสงสีนั้น ๆ
กลไกนี้ทำงานโดย ขจัดสีส่วนหนึ่งที่ทำให้แสงสีต่างไปจากแสงขาว เช่น กระดาษขาว เมื่อมองภายใต้แสงสีเหลือง เราก็ยังคงเห็นเป็นสีขาวอยู่ เพราะระบบการมองเห็นเราปรับชดเชยแสงสีเหลืองที่เข้าสู่ตา (ถ้าวัดแสงสีจริงที่เข้าสู่ตา จะเป็นแสงสีเหลือง)
ระบบการมองเห็นจะใช้เบาะแสที่มีอยู่ในภาพ แปลความหมายสีของแหล่งแสง ซึ่งในกรณีของภาพนี้ เบาะแสคลุมเคลือ บางคนแปลว่า ชุดนี้อยู่ภายใต้แสงขาว ที่ถ่ายย้อนแสง ทำให้ชุดอยู่ในเงามืด (เงาของวัตถุที่อยู่ภายใต้แสงอาทิตย์จัด ๆ จะติดสีน้ำเงินเล็กน้อย) คนกลุ่มนี้จะรับรู้ว่า ชุดนี้เป็นสีขาว-ทอง
สำหรับคนที่เห็นเป็นสีน้ำเงิน-ดำ ระบบการมองเห็นของเขาแปลความว่า ชุดนี้อยู่ภายใต้แสงสีเหลือง (สำหรับผู้เห็นเป็นสีขาว-ทอง ลองปิดภาพส่วนบน แล้วดูจากท่อนที่มองเห็นด้านหลังของชุดเป็นสีเหลือง ๆ นะคะ จะเห็นว่า ชุดเป็นสีน้ำเงินได้ง่ายขึ้น)
(ส่วนผู้ที่เห็นเป็นสีน้ำเงิน ให้ปิดท่อนล่าง แล้วดูจากท่อนที่เห็นด้านหลังเป็นสีขาว จะเห็นชุดเป็นสีขาว)
กลไกนี้เป็นการทำงานของสมอง ซึ่งเกิดจากเรียนรู้ และประสบการณ์
https://www.facebook.com/photo.php?fbid=10153040586907931&set=a.385701767930.167511.718987930&type=1