รู้สึกไหมว่าสิ่งแวดล้อมในไทยไม่เอื้อกับการพัฒนาอะไรใหม่ๆเลย

รุ้สึกแบบนั้นจริงๆ เราว่าสิ่งแวดล้อมทุกอย่างไม่เอื้อให้เกิดการพัฒนาหรือเกิดนวัตกรรมใหม่ๆเท่าไหร่เลย
เอาง่ายๆที่สำคัญสุดเลย ระบบการศึกษา

เด็กไทยวัยประถมมัธยม ที่ควรจะเป็นวัยที่จะค้นหาตัวเอง ค้นหาว่าตัวเองชอบทำอะไรถนัดอะไรจะได้เอาไปประกอบอาชีพในอนาคตได้ กลับต้องมาทุ่มเทเวลาเกือบทั้งช่วงวัยไปกับการเรียนเพื่อเอาไปสอบ ทำให้เวลาที่ควรจะเป็นการค้นหานั้นหายไป

ซึ่งพอจบมอหก ก้เกิดปัญหาขึ้นว่า ไม่รุ้ว่ตัวเองชอบอะไร เพราะไม่เคยมีเวลาให้กับตัวเองมากพอขนาดที่ว่าจะได้ทดลองหาสิ่งที่ตัวเองชอบได้
พอเข้ามหาลัย ก็เลือกคณะตามค่านิยม ตามพ่อแม่ หรือตามคะแนนที่ตัวเองได้ โดยแทบไม่รุ้ด้วยซ้ำว่าเราชอบสายงานนั้นจริงๆไหม
ตรากตรำเรียนจนจบมา ก็เป็นปัญหาต่อมาว่าต้องทำงานที่ไม่ชอบ
ซึ่งนี่ล่ะเราว่ามันเป็นปัญหาใหญ่เลยนะ การทนทำงานที่ไม่ชอบ ไม่ได้อยากทำ แต่ทำเพื่อให้ได้เงินเท่านั้น มันแทบไม่ช่วยพัฒนาอะไรให้ประเทศเลยอ่ะ

เราเคยอ่านเรื่องแบบนี้ของเมืองนอก เค้าจะต่างไปมาก ช่วงวัยเรียนของเค้าจะเน้นให้เด็กทำกิจกรรมมากๆ มากกว่าเรียนอีก เค้าเรียนกันแค่พื้นฐาน แต่กิจกรรมที่เค้าทำในเวลาที่เหลือนั้นมันแทบจะเป็นตัวบอกได้เลยว่ามันจะทำให้เค้าอยากทำสิ่งนั้นไปทั้งชีวิตอย่างมีความสุขได้ไหม และนั่นล่ะคืออาชีพของเขา
ซึ่งถ้าเด็กคนนั้นโตมาโดยการค้นพบสิ่งที่ชอบทำแล้ว หนทางการหาเงินจากสิ่งนั้นมาก็จะมาเองอ่ะ เหมือนคนมีจุดหมาย จะเลือกเรียนเพื่อพัฒนาเฉพาะด้านนั้น จบมาทำงานในสิ่งที่ชอบ ซึ่งมันจะไม่มีวันน่าเบื่อ

พอได้ทำงานที่ชอบ ที่ไม่เบื่อมัน เราจะทำได้เป็นเวลานาน มันก็จะเกิดไอเดีย เกิดการพัฒนาต่อยอด เกิดนวัตกรรมใหม่ๆที่จะมาช่วยพัฒนาประเทศต่อไป

เรารุสึกบ้านเรายังห่างไกลคำนั้นมากจริงๆ ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ต่อไป

แต่เราก็เก็บมาคิดต่อนะ ว่าถ้าเราให้เวลามากๆกับเด็ก จะมีสักกี่เปอร์เซนที่เห็นคุณค่าแล้วนำมันไปใช้อย่างเป็นประโยชน์ กลัวว่าจะเอาเวลาไปนอกลู่นอกทางกันซะมากกว่า เพราะขนาดเวลาเรียนเต็มเอี้ยดขนาดนี้ หลายๆคนยังโดดเรียนกันอยู่เลย ทั้งสิ่งแวดล้อม ทั้งสถาบันครอบครัวของคนส่วนมากของประเทศ ไม่เอื้อเลยจริงๆ

ปล.บางครั้งเราเกิดคำถามต่อมาค่ะว่า ประเทศไทยควรพัฒนาอะไรก่อน ระบบ? หรือ คน?
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่