กทม. เตรียมพัฒนาแลนด์มาร์คใหม่ริมเจ้าพระยาทางปั่นจักรยานคนเมืองระยะทาง 14 กิโลเมตร เตรียมรื้อถอน 268 บ้านรุกริมน้ำ
ที่ประชุมโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2558 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการอำนวยการ ร่วมกับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหารือแผนการดำเนินงาน รูปแบบโครงการ รวมถึงปัญหาอุปสรรค ศึกษาผลกระทบและแนวทางการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก่อนตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์คให้ประชาชนได้มีพื้นที่สันทนาการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาริมเจ้าพระยา คือการสร้างเส้นทางจักรยานตลอดแนวริมแม่น้ำ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 14 กิโลเมตร ตั้งแต่สะพานพระราม7-สะพานปิ่นกล้า ทั้งสองฝั่ง โดยรูปแบบการก่อสร้างจะมีการลงเสาเข็มลงไปแม่นำเจ้าพระยา ขนาดความกว้างฝั่งละ 20 เมตร แต่ไม่ได้ทำสะพานข้ามเชื่อมระหว่างกัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ทั้งนี้ยังไม่มีการสรุปจำนวนเงินงบประมาณที่ต้องใช้ ซึ่งต้องรอให้ได้ผลสรุปจากการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะต้องทำการรื้อถอนบ้านเรือนของประชาชนที่รุกล้ำลงมาในแม่น้ำ จำนวน 268 ครัวเรือน โดยต้องย้ายออกจากพื้นทันทีเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย หรือเจรจาจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้ ส่วนโรงแรมและร้านอาหาร ที่อยู่ในบริเวณก่อสร้างมีจำนวน 6 แห่งยังไม่พบว่ามีแห่งใดรุกล้ำลงมาในเจ้าพระยา วัด 8 แห่ง ท่าเรือ 36แห่ง สถานที่สำคัญขนาดใหญ่ 19 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการฯเพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาริมเจ้าพระยา จำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย
1. คณะอนุกรรมการฯ ด้านบริหารโครงการ มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาความเหมาะสม กำกับ ติดตาม พร้อมทั้งรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรี
2. คณะอนุกรรมการฯ ด้านออกแบบและภูมิสถาปัตย์ มีอำนาจออกแบบ กำหนดเวลา แผนปฏิบัติการและงบประมาณในการก่อสร้างให้คุ้มค่า
3. คณะอนุกรรมการฯ ด้านกฏหมาย ศึกษาระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ
4. คณะอนุกรรมการฯด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ
“โครงการนี้รับรองว่าสวยงามแน่นอน โดยจะเป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ มีความปลอดภัย รองรับการสัญจรด้วยจักรยาน ประชาชนสามารถชื่นชมทัศนียภาพริมเจ้าพระยา ออกกำลังกาย พร้อมทั้งเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศอีกด้วย” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ที่มา : www.posttoday.com
คนเมืองกรุง เฮลั่น!!!!! แลนด์มาร์คใหม่ริมเจ้าพระยาทางปั่นจักรยานคนเมือง....
กทม. เตรียมพัฒนาแลนด์มาร์คใหม่ริมเจ้าพระยาทางปั่นจักรยานคนเมืองระยะทาง 14 กิโลเมตร เตรียมรื้อถอน 268 บ้านรุกริมน้ำ
ที่ประชุมโครงการพัฒนาริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 1/2558 โดยมีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม เป็นประธานกรรมการอำนวยการ ร่วมกับผู้บริหารกรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อหารือแผนการดำเนินงาน รูปแบบโครงการ รวมถึงปัญหาอุปสรรค ศึกษาผลกระทบและแนวทางการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ก่อนตั้งเป้าเป็นแลนด์มาร์คให้ประชาชนได้มีพื้นที่สันทนาการริมแม่น้ำเจ้าพระยา ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยว่า โครงการพัฒนาริมเจ้าพระยา คือการสร้างเส้นทางจักรยานตลอดแนวริมแม่น้ำ ระยะทางรวมทั้งสิ้น 14 กิโลเมตร ตั้งแต่สะพานพระราม7-สะพานปิ่นกล้า ทั้งสองฝั่ง โดยรูปแบบการก่อสร้างจะมีการลงเสาเข็มลงไปแม่นำเจ้าพระยา ขนาดความกว้างฝั่งละ 20 เมตร แต่ไม่ได้ทำสะพานข้ามเชื่อมระหว่างกัน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาการก่อสร้างประมาณ 18 เดือน ทั้งนี้ยังไม่มีการสรุปจำนวนเงินงบประมาณที่ต้องใช้ ซึ่งต้องรอให้ได้ผลสรุปจากการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากภาคประชาชนให้เสร็จสิ้นก่อน เพราะต้องทำการรื้อถอนบ้านเรือนของประชาชนที่รุกล้ำลงมาในแม่น้ำ จำนวน 268 ครัวเรือน โดยต้องย้ายออกจากพื้นทันทีเนื่องจากกระทำผิดกฎหมาย หรือเจรจาจ่ายเงินชดเชยเยียวยาให้ ส่วนโรงแรมและร้านอาหาร ที่อยู่ในบริเวณก่อสร้างมีจำนวน 6 แห่งยังไม่พบว่ามีแห่งใดรุกล้ำลงมาในเจ้าพระยา วัด 8 แห่ง ท่าเรือ 36แห่ง สถานที่สำคัญขนาดใหญ่ 19 แห่ง
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะอนุกรรมการฯเพื่อขับเคลื่อนโครงการพัฒนาริมเจ้าพระยา จำนวน 4 คณะ ประกอบด้วย
1. คณะอนุกรรมการฯ ด้านบริหารโครงการ มีอำนาจหน้าที่ในการศึกษาความเหมาะสม กำกับ ติดตาม พร้อมทั้งรายงานผลต่อคณะรัฐมนตรี
2. คณะอนุกรรมการฯ ด้านออกแบบและภูมิสถาปัตย์ มีอำนาจออกแบบ กำหนดเวลา แผนปฏิบัติการและงบประมาณในการก่อสร้างให้คุ้มค่า
3. คณะอนุกรรมการฯ ด้านกฏหมาย ศึกษาระเบียบข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ
4. คณะอนุกรรมการฯด้านประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสาธารณะ
“โครงการนี้รับรองว่าสวยงามแน่นอน โดยจะเป็นพื้นที่ให้ประชาชนได้ใช้ประโยชน์ มีความปลอดภัย รองรับการสัญจรด้วยจักรยาน ประชาชนสามารถชื่นชมทัศนียภาพริมเจ้าพระยา ออกกำลังกาย พร้อมทั้งเป็นสถานที่ที่มีประวัติศาสตร์ความเป็นมาของประเทศอีกด้วย” ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ กล่าว
ที่มา : www.posttoday.com