กด 1 : รู้ตัวว่าเป็นเกย์บอกพ่อแม่
กด 2 : รู้ตัวว่าเป็นเกย์ ไม่! บอกพ่อแม่
ผมเชื่อว่ามีเกย์มากมายที่จมอยู่กับคำถามนี้ และ แต่ละคนก็หาทางออกแตกต่างกันไป บางคนก็คิดไปอีกอย่าง แต่บางคนก็คิดไปอีกแบบ
นานาจิจังละครับ เรื่องนี้บังคับกันไม่ได้ ไม่มีผิด ไม่มีถูก เพราะนิสัยคนเรายังไม่เหมือนกันเลยคร้าบบ
"กำแพงของจิตใจ" มันคงมีมาไม่เท่ากันมั้ง แต่สำหรับผม เรื่องนี้ที่เกิดมาเป็นเกย์ที่ผ่านมา 32ปี มัน คือโลกแห่งความลับ
ที่ผมเลือกจะเก็บเอาไว้จนกว่าผมสบายใจที่จะบอก พร้อมก็บอก ไม่พร้อมก็อยู่แบบนี้ละครับ ชินมา 32 ปีแล้ว จะกลัวอะไร555
เพราะสำหรับพ่อผม ผมคงหมดโอกาสที่จะบอกท่านไปนานแล้ว แต่สำหรับแม่ผมยังมีโอกาสแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะบอกดีหรือไม่ คิดหนักครับ
ลองอ่านดูนะว่ายังไง
มีหลายครั้งช่วงที่พ่อผมมีชีวิตอยู่ ผมเคยมีความคิดอยากจะพูดในสิ่งที่ผมเป็น ให้พ่อผมรับรู้ โดยไม่สนใจว่าท่านจะคิดไง?
เพราะไม่ว่าผมจะพูดอะไรทำอะไร...ผมก็คือลูกท่านปะวะ แต่ทุกๆครั้งที่ผมพยายามจะพูดผมก็หยุด หยุดปากตัวเอง เสมอ
ก็ผมไม่สามารถพูดได้จริงๆผมพยายามแล้ว แต่บางทีการที่เรา เลือกจะไม่พูดอะไรก็ใช้ว่าเราโกหก
เพียงแค่เราไม่บอกมันก็ไม่ผิด *แต่ถ้าวันไหนท่านถาม เชื่อเหอะครับ ผมพร้อมจะบอกท่านอย่างไม่ลังเล
คนเป็นพ่อลูกกัน ผมว่าท่านดูผมออก ท่านเลี้ยงผมมา ท่านโตกว่าผมเยอะ แต่ที่ท่านไม่เคยจะปริปากพูด
ผมคิดว่า : ท่านเลือกจะไม่รู้เสียดีกว่า จนวันสุดท้ายของชีวิตพ่อผม ผมก็ยังเก็บความลับนี้จนท่านได้จากไป
ผมไม่รู้หรอกว่าถ้าผมตายไปผมจะเจอพ่อผมอีกไหม แบบที่เขาเล่ากันเรื่องโลกวิญญาณ แต่ผมก็มีเรื่องจะบอกพ่อผมน้าา
"พอ่ครับผมเป็นคนดี ผมรักพ่อ ผมทำบุญให้พ่อตลอดชีวิตที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และผมก็จะกอดพ่อแน่นๆ"
ส่วนแม่
ผมพึ่งได้เจอแม่แท้ๆผมได้ไม่นาน เลยไม่ได้เรียนรู้กันว่าตัวตนของใครเป็นแบบไหนลึกซึ่ง เราก็ยังคุยกันบ่อยๆ
เจอกันบ่อย ถ้าผมพร้อม ผมก็จะพาท่านมาอยู่กับผมที่บ้านนี้ละ และ ก็คงต้องใช้ชีวิตจริงๆกันเสียที
แรกๆแม่ชอบถามผมว่า "ทำไมไม่มีเมียมาให้แม่ดู บ้างก็ถามว่า ให้แม่หาเมียให้ไหม"
ไอ้ผมก็โกหกคนไม่เป็น ได้แต่บอกว่า "โถ่แม่ผมทำงาน ถ้าผมมีเมีย ผมเลี้ยงเมีย ติดเมียทำไง ผมก็มาหาแม่น้อยลงดิ 555"
ผมเนียนขำตลอด แต่คนเป็นแม่คน ก็คงเหมือนพ่อผมละ
จนหลังๆท่านบอกว่า "แม่ไม่อยากให้ลูกมีเมีย อยู่กับแม่นี้ละ เรามีกัน2คนก็พอเนอะ แม่ลูก"
ผมก็ยิ้ม "แล้วก็ถามแม่ว่า "แล้วถ้าผมแก่ไปละแม่ ผมจะเหงาไหม?"
แม่ตอบว่า "ลูกเป็นคนเก่ง ลูกเป็นคนอดทน แม่รู้ว่าถ้าลูกเลือกจะทำอะไร นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ลูกเลือกเข้ามาในชีวิต"
ผมแทบจะร้องไห้กับคำนี้ของแม่ ผมหันไปยิ้มให้แม่ กอดแม่และพูดว่า
"นี้ไงผมเลือกตามหาแม่ไงครับ เรื่องอื่นค่อยว่ากันเนอะ คนเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ การที่เราได้ทำอะไรที่เราอยากทำตอนนี้ ดีสุดๆแล้วแม่"
จากนั้นแม่ก็ไม่เคยถามอะไรผมอีกเลย และผมก็ไม่คิดจะบอกอะไรแม่ อนาคตก็ไม่แน่ เช่นเดียวกับพ่อ ถ้าแม่ถามผมก็จะบอก
แต่ผมจะไม่เป็นคนบอกก่อนแน่นอน 5555
*********************************************
บางครั้งการไม่พูด มันก็ไม่ใช้การโกหกนะครับ แต่มันเป็นช่องว่างที่คนสองคนเลือกจะไม่คุยกัน เป็นช่องว่างที่เว้นไว้แล้วสบายใจ
แต่ใดวันวันนึง หากมีคนอีกคน ขยับเข้ามาใกล้จนช่องว่างแห่งความลับแทบไม่เหลือ สิ่งที่เกิดก็คือความอึดอัดที่จำเป็นต้องระบายออกมา
ตอนนั้นละครับ ก็น่าจะถึงเวลาที่เราควรจะพูดความจริงต่อกัน
"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงก็ทำให้ตายได้ถ้าพูดมันออกมาในเวลาที่ไม่สมควร"
by : StartnonStop (การเดินทางที่ไม่มีวันหยุด)
รู้ตัวว่าเป็นเกย์ จะบอก หรือไม่ บอก พ่อแม่ดี??? ใครเลือกทางไหนมาแชร์กันเน๋อ
กด 2 : รู้ตัวว่าเป็นเกย์ ไม่! บอกพ่อแม่
ผมเชื่อว่ามีเกย์มากมายที่จมอยู่กับคำถามนี้ และ แต่ละคนก็หาทางออกแตกต่างกันไป บางคนก็คิดไปอีกอย่าง แต่บางคนก็คิดไปอีกแบบ
นานาจิจังละครับ เรื่องนี้บังคับกันไม่ได้ ไม่มีผิด ไม่มีถูก เพราะนิสัยคนเรายังไม่เหมือนกันเลยคร้าบบ
"กำแพงของจิตใจ" มันคงมีมาไม่เท่ากันมั้ง แต่สำหรับผม เรื่องนี้ที่เกิดมาเป็นเกย์ที่ผ่านมา 32ปี มัน คือโลกแห่งความลับ
ที่ผมเลือกจะเก็บเอาไว้จนกว่าผมสบายใจที่จะบอก พร้อมก็บอก ไม่พร้อมก็อยู่แบบนี้ละครับ ชินมา 32 ปีแล้ว จะกลัวอะไร555
เพราะสำหรับพ่อผม ผมคงหมดโอกาสที่จะบอกท่านไปนานแล้ว แต่สำหรับแม่ผมยังมีโอกาสแต่ก็ยังไม่รู้ว่าจะบอกดีหรือไม่ คิดหนักครับ
ลองอ่านดูนะว่ายังไง
มีหลายครั้งช่วงที่พ่อผมมีชีวิตอยู่ ผมเคยมีความคิดอยากจะพูดในสิ่งที่ผมเป็น ให้พ่อผมรับรู้ โดยไม่สนใจว่าท่านจะคิดไง?
เพราะไม่ว่าผมจะพูดอะไรทำอะไร...ผมก็คือลูกท่านปะวะ แต่ทุกๆครั้งที่ผมพยายามจะพูดผมก็หยุด หยุดปากตัวเอง เสมอ
ก็ผมไม่สามารถพูดได้จริงๆผมพยายามแล้ว แต่บางทีการที่เรา เลือกจะไม่พูดอะไรก็ใช้ว่าเราโกหก
เพียงแค่เราไม่บอกมันก็ไม่ผิด *แต่ถ้าวันไหนท่านถาม เชื่อเหอะครับ ผมพร้อมจะบอกท่านอย่างไม่ลังเล
คนเป็นพ่อลูกกัน ผมว่าท่านดูผมออก ท่านเลี้ยงผมมา ท่านโตกว่าผมเยอะ แต่ที่ท่านไม่เคยจะปริปากพูด
ผมคิดว่า : ท่านเลือกจะไม่รู้เสียดีกว่า จนวันสุดท้ายของชีวิตพ่อผม ผมก็ยังเก็บความลับนี้จนท่านได้จากไป
ผมไม่รู้หรอกว่าถ้าผมตายไปผมจะเจอพ่อผมอีกไหม แบบที่เขาเล่ากันเรื่องโลกวิญญาณ แต่ผมก็มีเรื่องจะบอกพ่อผมน้าา
"พอ่ครับผมเป็นคนดี ผมรักพ่อ ผมทำบุญให้พ่อตลอดชีวิตที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และผมก็จะกอดพ่อแน่นๆ"
ส่วนแม่
ผมพึ่งได้เจอแม่แท้ๆผมได้ไม่นาน เลยไม่ได้เรียนรู้กันว่าตัวตนของใครเป็นแบบไหนลึกซึ่ง เราก็ยังคุยกันบ่อยๆ
เจอกันบ่อย ถ้าผมพร้อม ผมก็จะพาท่านมาอยู่กับผมที่บ้านนี้ละ และ ก็คงต้องใช้ชีวิตจริงๆกันเสียที
แรกๆแม่ชอบถามผมว่า "ทำไมไม่มีเมียมาให้แม่ดู บ้างก็ถามว่า ให้แม่หาเมียให้ไหม"
ไอ้ผมก็โกหกคนไม่เป็น ได้แต่บอกว่า "โถ่แม่ผมทำงาน ถ้าผมมีเมีย ผมเลี้ยงเมีย ติดเมียทำไง ผมก็มาหาแม่น้อยลงดิ 555"
ผมเนียนขำตลอด แต่คนเป็นแม่คน ก็คงเหมือนพ่อผมละ
จนหลังๆท่านบอกว่า "แม่ไม่อยากให้ลูกมีเมีย อยู่กับแม่นี้ละ เรามีกัน2คนก็พอเนอะ แม่ลูก"
ผมก็ยิ้ม "แล้วก็ถามแม่ว่า "แล้วถ้าผมแก่ไปละแม่ ผมจะเหงาไหม?"
แม่ตอบว่า "ลูกเป็นคนเก่ง ลูกเป็นคนอดทน แม่รู้ว่าถ้าลูกเลือกจะทำอะไร นั้นคือสิ่งที่ดีที่สุด ที่ลูกเลือกเข้ามาในชีวิต"
ผมแทบจะร้องไห้กับคำนี้ของแม่ ผมหันไปยิ้มให้แม่ กอดแม่และพูดว่า
"นี้ไงผมเลือกตามหาแม่ไงครับ เรื่องอื่นค่อยว่ากันเนอะ คนเราจะตายวันไหนก็ไม่รู้ การที่เราได้ทำอะไรที่เราอยากทำตอนนี้ ดีสุดๆแล้วแม่"
จากนั้นแม่ก็ไม่เคยถามอะไรผมอีกเลย และผมก็ไม่คิดจะบอกอะไรแม่ อนาคตก็ไม่แน่ เช่นเดียวกับพ่อ ถ้าแม่ถามผมก็จะบอก
แต่ผมจะไม่เป็นคนบอกก่อนแน่นอน 5555
*********************************************
บางครั้งการไม่พูด มันก็ไม่ใช้การโกหกนะครับ แต่มันเป็นช่องว่างที่คนสองคนเลือกจะไม่คุยกัน เป็นช่องว่างที่เว้นไว้แล้วสบายใจ
แต่ใดวันวันนึง หากมีคนอีกคน ขยับเข้ามาใกล้จนช่องว่างแห่งความลับแทบไม่เหลือ สิ่งที่เกิดก็คือความอึดอัดที่จำเป็นต้องระบายออกมา
ตอนนั้นละครับ ก็น่าจะถึงเวลาที่เราควรจะพูดความจริงต่อกัน
"ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย แต่ความจริงก็ทำให้ตายได้ถ้าพูดมันออกมาในเวลาที่ไม่สมควร"
by : StartnonStop (การเดินทางที่ไม่มีวันหยุด)