- ชอบผลิตสินค้าคุณภาพต่ำมาขายเอง (made in Thailand) ที่ดูยังไงก็ไม่น่าจะผ่าน QC เช่น ตัดเย็บเบี้ยว ขนาดไม่ได้มาตรฐาน ผลิตสินค้าเลียนแบบสินค้านำเข้า แต่คุณภาพต่างกันคนละเรื่อง แต่กลับขายในราคาสูงเหมือนกับสินค้านำเข้า
- นำเข้าสินค้าไม่ครบเซ็ท เช่น มีเสื้อกับกางเกงเข้าชุดกัน ก็นำเข้าแต่เสื้อ แต่ไม่นำเข้ากางเกง
- ตีตลาดมอเตอร์สปอร์ต ทั้งๆที่ตลาดไลฟ์สไตล์มีความต้องการซื้อสูงกว่า
- เราต้องการ Suede ?????
- สินค้านำเข้า มักจะนำเข้ามาขายล่าช้าร่วม 2-3 เดือนนับจากวันที่สินค้านั้นๆ เปิดตัววางขายต่างประเทศ
- ให้พนักงานนำรองเท้าลดราคามาใส่ แล้วนำมาวางขายต่อ (อันนี้ไม่ทราบว่าอนุญาตหรือไม่ แต่ยืนยันว่าเห็นกับตา ได้ยินกับหู ในบูธลดราคาของ Puma ในหลายๆ ห้าง)
- การจัดเก็บดูแลสินค้าไม่ดี บ่อยครั้งที่สินค้ามีตำหนิจากความไม่ระมัดระวังของใครก็แล้วแต่ทั้งๆที่เป็นสินค้าใหม่เพิ่งวางขาย เช่น เสื้อวิ่งมีรอยโดนเกี่ยว
- มีสาขาเยอะ แต่กลับมีสินค้าน้อย บ่อยครั้งที่ size ไม่เพียงพอ บ้างก็สินค้าสีนั้นส่งเฉพาะสาขานี้ บลาๆๆๆ ถ้าเช่นนั้นทำไมไม่ลดสาขา เพื่อให้แต่ละสาขามีสินค้าเพียงพอกับความต้องการ
เป็นต้น

ผมเป็นแฟน Puma มาตั้งแต่จำความได้ สมัยเด็กๆ พ่อแม่ก็ซื้อแต่เสื้อยืดของ Puma ให้ ลูกฟุตบอลลูกแรกในชีวิตก็ยังเป็นของ Puma เลย ปัจจุบันผมมีรองเท้าของ Puma ไม่ต่ำกว่า 10 คู่ แต่ทั้งหมดเป็นสินค้าที่ซื้อจากต่างประเทศเกือบทั้งหมดเนื่องจากไม่นำเข้ามาขายในประเทศไทยหรือนำเข้ามาช้ามากอย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นจนคิดว่าไม่นำเข้ามาเสียแล้ว ผมขออนุญาตถามในฐานะแฟนสินค้า Puma มากว่า 20 ปี ทำไมถึงได้ดูถูกลูกค้าตัวเองแบบนี้ครับ ทั้งๆ ที่แบรนด์นี้ไม่ได้ด้อยไปกว่า adidas หรือ nike เลย

ถ้าหากทางแบรนด์มีการพัฒนาจัดการแผนการตลาดใหม่ ผมเชื่อว่า Puma สามารถตีตลาดประเทศไทยเทียบเท่าแบรนด์กีฬายักษ์ใหญ่ 2 ยี่ห้อได้แน่นอน

หมายเหตุ : โพสระบาย เผื่อถึงหูเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ Puma Thailand (เยอรมันสปอร์ตแอนด์ไลฟ์สไตล์ จํากัด)