ขอพื้นที่ระบาย อาจเป็นอุทาหรณ์โดยเฉพาะเพื่อนหญิงได้เตรียมใจ

กระทู้สนทนา
เรากับสามีคบกันมา 15 ปี ตั้งแต่มหาวิทยาลัยปี 1 สามีทำงานชลบุรี เราทำงานกรุงเทพฯ อยู่ด้วยกันคืนวันศุกร์-เช้าวันจันทร์ ทะเลาะกันบ้างตามประสา แต่ก็คืนดีกันง่าย 100% เราฝ่ายเดียวที่งอนเขา สามีเป็นคนใจดี เราทำอะไรงี่เง่า ไม่เคยถือสา พยายามจะย้ายมาอยู่ กทม ด้วยกัน แต่ก็ไม่สำเร็จ ก่อนหน้านี้ก็มีความสุขตามอัตภาพ

เมื่อปีใหม่กลับบ้าน ตจว จนจะกลับ กทม. แวะงานแต่งงานและนอนพักโรงแรม ระหว่างงานเลี้ยง สามีเดินออกไปข้างนอกนานผิดปรกติ เราคิดแค่ว่าออกไปสูบบุหรี่ (เพิ่งมารู้ทีหลังว่าคุยโทรศัพท์กับ ผญ) พอกลับมาโต๊ะ เพื่อนแซวขำๆ เรื่องผัวเมียอะไรสักอย่าง ประโยคที่สามีสวนเพื่อน คนอื่นตลก แต่เราไม่ตลกด้วย ทำให้สังหรณ์ใจเลย ความรู้สึกตอนนั้น ทำให้เราอยากดูโทรศัพท์สามี

ตอนเช้าสามีลงไปเอาของที่รถ เราเปิดไลน์อ่าน เราเดารหัสสำเร็จ สิ่งที่เราได้อ่าน (เท่าที่จำได้แค่นี้จริงๆ ผ่านมา 2 เดือน) ประโยคของสามี "พี่เสียใจ xxเคยมีคนที่คบหาจริงใจ แต่สุดท้ายก็เลิกกัน พี่ควรหยุดพร่ำเพ้อได้แล้ว อย่าถามถึงแฟนพี่" ประโยคของผู้หญิง "ขับรถป้ายแดง พกเงินเป็นหมื่น ส่วนหนูกินแกลบ" เมื่อสามีกลับเข้ามาในห้อง เรายื่นมือถือให้เขาทราบว่าเราเห็นไลน์ ผญ คนอื่น  

เราได้แต่ร้องไห้และนั่งสวดมนต์ จนต้องออกเดินทางกลับ กทม พร้อมเพื่อนสามี 2 คน เรากินข้าวไม่ลงทั้ง 3 มื้อ พูดจาเรียบๆ เท่าที่จะแสดงละครได้ อยากขอโทษเพื่อนสามี ทำให้อึดอัด แต่ก็คงไม่กล้าถามว่าเป็นอะไรกัน

สามีปากแข็ง ไม่ยอมเล่าอะไร พูดแต่ว่าไม่มีอะไรแล้ว เลิกติดต่อแล้ว แต่พอคืนวันศุกร์ ผญ รู้ว่าเราอยู่กับสามีแล้ว แต่ยังกล้าโทรมา โทรเยอะมากจนสามีปิดเสียง สามีโทษว่า ผญ ยังไม่ยอมจบ แต่เราไม่โทษ ผญ หรอกนะ เราคงต้องให้เวลาเขาทำใจบ้าง สามีเราเป็นฝ่ายเข้าหา ผญ หรือเปล่า เราก็ไม่รู้ จนผ่านไประยะหนึ่ง พฤติกรรมโทรศัพท์ดูปรกติดี ไม่รู้ว่า ผญ ทำใจได้ หรือนัดแนะกันดีกว่าเดิม อันนี้ก็ไม่รู้จริงๆ เราจะคุยกับ ผญ ก็ได้ แต่ไม่รู้สิ เราคิดว่ามันอยู่ที่สามีเรามากกว่า

เราต้องหลอกตัวเอง เพื่อให้ตัวเองสุขภาพจิตดีขึ้น (จันทร์-พฤหัส) เล่นโยคะ วิ่งอย่างหนัก ทำวัตรเย็น ถ้าว่างแล้วฟุ้งซ่าน กินข้าวเช้าได้มื้อเดียว น้ำหนักลด 3 กิโล จากที่ผอมอยู่แล้ว วันเวลาผ่านไปช้าๆ โดยเฉพาะกลางคืน ปกตินอน 4 ทุ่ม ทุกวันนี้ไม่ต่ำกว่าตี 1 เราคุยโทรศัพท์กับสามีบ่อยกว่าปรกติ สามีเพื่อนเยอะ แต่ละคืนมีกินข้าวเย็นกับเพื่อนแต่ละกลุ่มจันทร์-พฤหัส ไม่ได้เว้น เราบอกสามีว่าทนหน่อยนะ อีกไม่นาน เดี๋ยวเราก็น่าจะดีขึ้น สามีก็เข้าใจและเอ็นดูที่เราซึมเศร้า อยากให้เรากลับมาเป็นคนจิตใจดี คุยสนุก ไม่โทรจิกเหมือนเดิม เราก็บอกว่าจะพยายาม

จนกลางเดือนกุมภา เราเกิดลางสังหรณ์อีกแล้ว เราเข้าใช้เฟซบุ๊คของสามีและไปเจอประวัติการสืบค้น สามีค้นหากลุ่มสาขาวิชาของมหาวิทยาลัยนึง เราตามเข้าไปในกลุ่มนั้น (2พันกว่าคน) จนเจอ ผญ คนนั้น เราจำรูปโปรไฟล์ได้เพราะเป็นรูปเดียวกันกับไลน์

ผญ คนนั้นพักอยู่คอนโดเดียวกับสามี เราปะติดปะต่อเหตุการณ์ อ่านจากสเตตัสของ ผญ เมื่อต้นเดือนธันวา ผญ โทรหาสามีขอความช่วยเหลือ เธอลืมกุญแจไว้ในห้อง นั่นคงเป็นครั้งแรกที่เริ่มคุยส่วนตัว สามีคงภูมิใจที่ ผญ นึกถึงเมื่อมีปัญหา (ประมวลจากสเตตัส ผญ ฝันหวาน, คนโสด รับสมัครคนดูแล, 1 เดือน นอน รพ 2 ครั้ง น่าทะนุถนอมตามแบบฉบับ) สามีโทรสั่งให้ลูกน้องไปช่วยจัดการแก้ปัญหาให้ หลังจากนั้นคงสานต่อกัน (คอนโดเพิ่งสร้างเสร็จ ลูกบ้านมีไลน์กลุ่ม)

คืนที่ได้เห็นเฟซบุ๊ค ผญ แว๊บแรกเรารู้สึกปลดปล่อย อะไรที่เราอยากรู้ เราได้รู้ทุกอย่าง แต่เมื่อเรารู้อะไรมากขึ้น เรากลับเอาสิ่งไร้สาระมาพูดกับสามี สามีเริ่มหงุดหงิด ตำหนิว่าเรา "เยอะ" สถานการณ์ช่วงนี้เรายอมรับว่าเราผิด แต่นั่นก็เพราะสามีทิ้งร่องรอยไว้เอง ทำให้เราต้องคิดมากอีกครั้ง สามียืนยันว่าไม่ได้ติดต่อแล้ว เราก็โง่ เชื่อง่ายๆ ทั้งยังเสียใจ นอนร้องไห้ทุกคืน

สามีทำงานยุ่งมาก ไม่ว่าจะโทรไปตอนไหนก็ประชุมๆๆ (แล้วเอาเวลาไหนไปคุยกับคนอื่นนะ) ซึ่งก็เป็นปรกติ เราทราบดี แต่เราเองที่โทรหาสามีมากกว่าเดิม เมื่อ ส-อา ที่ผ่านมา เราต้องเป็นฝ่ายไปชลบุรี เมื่อก้าวเข้าคอนโด เราทั้งเกลียดทั้งชัง แต่ก็ต้องข่มใจที่จะไม่แสดงออก ไม่อยากชวนเถียงกันอีก เราเหนื่อยแล้ว

สามีพยายามให้เราทั้งคู่มีความสุข พาไปทานอาหารที่ร้านดีๆ พาไปร้านเค้กสวยๆ ที่เราอยากไป เขาก็แสดงความรักในแบบฉบับผู้ชายดิบๆ นะ นอกจากความสัมพันธ์ที่สามีประคับประคองให้ดีขึ้น ตั้งแต่เกิดเรื่องสามีเริ่มกลับมาพูดเรื่องซื้อบ้านเดี่ยวอีกครั้ง (เราเคยจองบ้านเดี่ยวไว้แล้วแต่โครงการมีปัญหาก็เลยยกเลิกไป) สามีคงเห็นใจหากเรายังต้องไปมาคอนโดนี้ แม้อยากจะกระแนะกระแหนให้สะใจ แต่เราจะไม่พูด เราจะไม่ทำให้อะไรแย่ลง เราบอกตัวเองว่าสามีเลือกที่จะทำให้เราสบายใจ เราต้องดีใจถึงจะถูก

ทุกวันนี้เราทำงานไปด้วยและนั่งฟังยูทูบไปด้วย เช่น การลดความคาดหวัง, ลดอัตตา, ไม่มีอะไรเป็นของเรา, เตรียมตัวตายก่อนตาย เป็นต้น สิ่งเหล่านี้คือที่พึ่งทางใจที่ดีที่สุดจริงๆ

---------------------------------------------------------------

แม้ว่าหัวใจเราจะบอบช้ำ ความรู้สึกนับถือตัวเองต่ำลง เรารู้ตัวดีว่าผิดพลาดหลายอย่างเพราะอารมณ์ล้วนๆ มันผ่านไปแล้ว ถือเป็นบทเรียน เราตั้งใจว่าจะไม่ขุดคุ้ยเรื่องต่างๆ ขึ้นมาให้ต่างเจ็บช้ำน้ำใจกันอีก เราไม่รู้เลยว่าสามีเรากับ ผญ คนนั้นจบจริงหรือเปล่า หากไม่จบ สักวันก็คงเผยออกมาเอง หาก ผญ ด้วยกัน ไม่เห็นใจกัน ก็ถือซะว่าโลกนี้มันโหดร้ายอย่างนี้เอง

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่กำลังบอบช้ำ แม้จะเลวร้ายแต่มันทำให้เรากลับทบทวนว่าเราบริหารความเสี่ยงในชีวิตได้ดีพอหรือยัง ก่อนหน้านี้มีสามีเป็นส่วนหนึ่งเป็นส่วนสำคัญของชีวิตตลอด ต่อไปจากนี้คงต้องเตรียมตัวให้พร้อมถ้าต้องอยู่คนเดียว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่