เมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม ผมได้ลาพักร้อน4วัน จึงได้ตัดสินใจไปลาวคนเดียวโสดๆ (แอร๊ โฆษณาแฝง)
สองคืนในวังเวียงผ่านไป ไม่มีอะไรพิเศษครับ
เหตุเกิด คืนที่สาม ณ เวียงจันทน์ ด้วยความที่งบประมาณเหลือไม่มาก ผมเลยตัดสินใจนอนโฮสเทลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ข้างๆวัดมีไซ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ Vientiane Backpacker Hostel
หลังจากที่ผมเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาจากวังเวียง ถึงห้องพักก็ประมาณหนึ่งทุ่มละ จากกำหนด ห้าโมงเย็น (การเดินทางไกลๆในลาว ล่าช้าเป็นเรื่องธรรมดาครับ - -" )
ก็เดินเล่นหาไรกินริมโขง
ประมาณเที่ยงคืนก็กลับมา อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอนครับ พรุ่งนี้ยังได้เที่ยวอีกหนึ่งวัน
ห้องนอนของผมอยู่ชั้นบนสุด ชื่อห้องแนวลิงๆไรสักอย่าง ในคืนนั้นไม่มีเตียงว่างนะครับ ทุกที่เต็มหมด
ด้วยความที่เป็นคนนอนดึกอยู่แล้วจากหน้าที่การงานที่ต้องนอนไม่เป็นเวลา ขณะนั้น 01.00 เวลาท้องถิ่น ในห้องนอนรวมปิดไฟมืดแล้ว มีเพียงแสงรำไรจากบันไดหน้าห้อง อุณหภุมิจากเครื่องปรับอากาศในห้องประมาณ 25 องศา แน่นอน ในห้องมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน
ไม่ช้านาน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ผมได้ยิน ... เสียงกระซิบคุยกันเป็นภาษาต่างชาติ 1 ชาย 1 หญิง จับศัพท์ไม่ได้เนื่องจากไม่น่าใช่ภาษาอังกฤษครับ เสียงนี้ใกล้มาก ด้วยความสงสัยขณะที่นอนคลุมโปงอยู่ ผมเห็นเงาตะคุ่มๆชายหญิง ต้องใช่แน่ ชัดเจนเหลือเกิน เพราะอยู่ตรงข้ามเตียงของผมนี่แหละครับ
ทั้งสองนอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ พร้อมกินมาก อ่ะสักพัก เสียงเตียงเริ่มเขย่า เอียดอ๊าดๆ มีเสียงครางแทรกเบาๆ
ตอนนั้นคือภาพไม่ชัดนะครับ แต่เสียงนี่อีกกว่าระดับ HD
ด้วยความที่เป็นหนุ่มไทยใจ(ไม่)กล้า อยากจะสื่อสารให้ทั้งคู่หยุดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเพศในที่พักสาธารณะ ก็เลยแกล้งดิ้นพลิกตัว
อ่ะ ได้ผลว่ะ ทั้งสองคนหยุด
แต่ไม่ได้เกินสองนาทีครับ กิจกรรมกายบริหารก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ผมนี่ไปไม่ถูกเลย ตั้งใจจะหลับก็หลับไม่ลง อุณหภูมิห้องก็สูงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ผมว่าผู้เข้าพักคนอื่นๆ เค้าก็รู้สึกนะ บางคนแกล้งเปิดไฟฉายหัวเตียงชาร์จแบตมือถือ ทั้งสองก็หยุด พอดับไฟ อ่าว มาอีกละ คือบางทีผู้ร่วมเข้าพักอาจจะพิมพ์เมสเสจไปบอกเพื่อน เห้ย แกร ชั้นได้มาดูหนังสะบะละฮึ้มที่ต่างประเทศด้วย นักแสดงตีบทได้ดีมาก เตรียมเสนอชื่อชิงออสการ์สาขาอิโรติค
คืนนั้นผมทนไม่ไหวอ่ะ ก็ตัดสินใจ สะบัดผ้าห่มอย่างกล้าหาญ แอบหันไปมองแวบนึง และเปิดประตูลงมานั่งเล่นเน็ตที่คอมพิวเตอร์ด้านล่างยันตีสามตีสี่อ่ะครับ นั่งดูแผนที่ไรไปเรื่อยว่าพรุ่งนี้จะไปไหน นั่งคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่มาพักคนเดียวบ้างอะไรบ้าง
... ผมว่านะ คือถ้าคุณอยากทำอะไรแบบนี้ ทำไมไม่หาพื้นที่ส่วนตัวกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ ว่าไหมอ่า
จะว่าก้าวล้ำสิทธิส่วนตัวของผู้อื่นหรือเปล่า ใช่นะ ถ้าตัดความมีน้ำใจคนไทยหรือชาติไหนก็เหอะ ออกไป
สิ่งนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในโฮสเทลอยู่ดีครับ ส่วนตัวเคยเดินทางไปเที่ยวมาเลเซีย ก็พักโฮสเทล ผู้ร่วมพักนอนกรน คุยโทรศัพท์นานไรงี้ ผมว่าปกตินะ รับได้
ไม่รู้เพราะว่าอิจฉาที่ฉายเดี่ยวหรือเปล่า 5555 ก็ไม่นะครับ ถึงผมมีแฟนละคิดจะมีอะไรกันจริงๆ ผมคงไม่เลือกจองที่พักแบบนี้แน่นอน
อย่างน้อยก็เป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะ แม้ว่าคุณจะเสียเงินมาเท่ากับคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมชาติอื่นเค้าอาจจะมองเป็นเรื่องปกติก็ได้มั้ง แต่ ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วย ระหว่างที่ผมลงมาคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เค้าฟังนะ กลัวมันตามขึ้นไปดู 555
จบครับ
แชร์ประสบการณ์สยองกับเพื่อนร่วมทางในโฮสเทลกันครับ
สองคืนในวังเวียงผ่านไป ไม่มีอะไรพิเศษครับ
เหตุเกิด คืนที่สาม ณ เวียงจันทน์ ด้วยความที่งบประมาณเหลือไม่มาก ผมเลยตัดสินใจนอนโฮสเทลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่ง ข้างๆวัดมีไซ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
หลังจากที่ผมเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางมาจากวังเวียง ถึงห้องพักก็ประมาณหนึ่งทุ่มละ จากกำหนด ห้าโมงเย็น (การเดินทางไกลๆในลาว ล่าช้าเป็นเรื่องธรรมดาครับ - -" )
ก็เดินเล่นหาไรกินริมโขง
ประมาณเที่ยงคืนก็กลับมา อาบน้ำ เตรียมตัวเข้านอนครับ พรุ่งนี้ยังได้เที่ยวอีกหนึ่งวัน
ห้องนอนของผมอยู่ชั้นบนสุด ชื่อห้องแนวลิงๆไรสักอย่าง ในคืนนั้นไม่มีเตียงว่างนะครับ ทุกที่เต็มหมด
ด้วยความที่เป็นคนนอนดึกอยู่แล้วจากหน้าที่การงานที่ต้องนอนไม่เป็นเวลา ขณะนั้น 01.00 เวลาท้องถิ่น ในห้องนอนรวมปิดไฟมืดแล้ว มีเพียงแสงรำไรจากบันไดหน้าห้อง อุณหภุมิจากเครื่องปรับอากาศในห้องประมาณ 25 องศา แน่นอน ในห้องมีเพียงเสียงเครื่องปรับอากาศที่กำลังทำงาน
ไม่ช้านาน เรื่องไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ผมได้ยิน ... เสียงกระซิบคุยกันเป็นภาษาต่างชาติ 1 ชาย 1 หญิง จับศัพท์ไม่ได้เนื่องจากไม่น่าใช่ภาษาอังกฤษครับ เสียงนี้ใกล้มาก ด้วยความสงสัยขณะที่นอนคลุมโปงอยู่ ผมเห็นเงาตะคุ่มๆชายหญิง ต้องใช่แน่ ชัดเจนเหลือเกิน เพราะอยู่ตรงข้ามเตียงของผมนี่แหละครับ
ทั้งสองนอนกอดรัดฟัดเหวี่ยงเหมือนงูเหลือมรัดเหยื่อ พร้อมกินมาก อ่ะสักพัก เสียงเตียงเริ่มเขย่า เอียดอ๊าดๆ มีเสียงครางแทรกเบาๆ
ตอนนั้นคือภาพไม่ชัดนะครับ แต่เสียงนี่อีกกว่าระดับ HD
ด้วยความที่เป็นหนุ่มไทยใจ(ไม่)กล้า อยากจะสื่อสารให้ทั้งคู่หยุดแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่างเพศในที่พักสาธารณะ ก็เลยแกล้งดิ้นพลิกตัว
อ่ะ ได้ผลว่ะ ทั้งสองคนหยุด
แต่ไม่ได้เกินสองนาทีครับ กิจกรรมกายบริหารก็เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง ผมนี่ไปไม่ถูกเลย ตั้งใจจะหลับก็หลับไม่ลง อุณหภูมิห้องก็สูงขึ้นอย่างบอกไม่ถูก
ผมว่าผู้เข้าพักคนอื่นๆ เค้าก็รู้สึกนะ บางคนแกล้งเปิดไฟฉายหัวเตียงชาร์จแบตมือถือ ทั้งสองก็หยุด พอดับไฟ อ่าว มาอีกละ คือบางทีผู้ร่วมเข้าพักอาจจะพิมพ์เมสเสจไปบอกเพื่อน เห้ย แกร ชั้นได้มาดูหนังสะบะละฮึ้มที่ต่างประเทศด้วย นักแสดงตีบทได้ดีมาก เตรียมเสนอชื่อชิงออสการ์สาขาอิโรติค
คืนนั้นผมทนไม่ไหวอ่ะ ก็ตัดสินใจ สะบัดผ้าห่มอย่างกล้าหาญ แอบหันไปมองแวบนึง และเปิดประตูลงมานั่งเล่นเน็ตที่คอมพิวเตอร์ด้านล่างยันตีสามตีสี่อ่ะครับ นั่งดูแผนที่ไรไปเรื่อยว่าพรุ่งนี้จะไปไหน นั่งคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติที่มาพักคนเดียวบ้างอะไรบ้าง
... ผมว่านะ คือถ้าคุณอยากทำอะไรแบบนี้ ทำไมไม่หาพื้นที่ส่วนตัวกว่านี้ไม่ดีกว่าเหรอครับ ว่าไหมอ่า
จะว่าก้าวล้ำสิทธิส่วนตัวของผู้อื่นหรือเปล่า ใช่นะ ถ้าตัดความมีน้ำใจคนไทยหรือชาติไหนก็เหอะ ออกไป
สิ่งนี้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นในโฮสเทลอยู่ดีครับ ส่วนตัวเคยเดินทางไปเที่ยวมาเลเซีย ก็พักโฮสเทล ผู้ร่วมพักนอนกรน คุยโทรศัพท์นานไรงี้ ผมว่าปกตินะ รับได้
ไม่รู้เพราะว่าอิจฉาที่ฉายเดี่ยวหรือเปล่า 5555 ก็ไม่นะครับ ถึงผมมีแฟนละคิดจะมีอะไรกันจริงๆ ผมคงไม่เลือกจองที่พักแบบนี้แน่นอน
อย่างน้อยก็เป็นการเคารพความเป็นส่วนตัวในพื้นที่สาธารณะ แม้ว่าคุณจะเสียเงินมาเท่ากับคนอื่นๆ ไม่รู้ว่าวัฒนธรรมชาติอื่นเค้าอาจจะมองเป็นเรื่องปกติก็ได้มั้ง แต่ ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วย ระหว่างที่ผมลงมาคุยกับเพื่อนชาวต่างชาติก็ไม่ได้เล่าเรื่องนี้ให้เค้าฟังนะ กลัวมันตามขึ้นไปดู 555
จบครับ