ยาวหน่อยนะ แต่อ่านแล้วสนุกดี
ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวจีนหลายคนยังจดจำได้ถึงเหตุการณ์วอลเลย์บอลโอลิมปิกปี 1984 ที่ลอสแองเจลีส หลางผิงพาทีมชาติจีนเอาชนะสหรัฐคาบ้าน 3-0 เซ็ตพร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครอง 24 ปีต่อมา ฉายาค้อนเหล็กของหลางผิง ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอมาในฐานะโค้ชทีมชาติหญิงสหรัฐที่พาลูกทีมเอาชนะทีมชาติบ้านเกิดตัวเองไป 3-2 เซ็ตกับการแข่งขันโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่ง แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์เผ็ดร้อนเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตั้งแต่การปฏิรูปวงการวอลเลย์บอลในปี 1980 วอลเลย์บอลหญิงของจีนถือเป็นจิดวิญญาณของชาวจีนมาตลอด และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเสียงวิจารณ์ตามสื่อท้องถิ่นและอินเตอร์เน็ตก็หลากหลาย คำถามแรก ทำไมเธอถึงต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปศึกษาต่อที่สหรัฐในช่วงจุดสูงสุดในอาชีพของเธอ? แล้วเธอได้อะไรจากการเป็นโค้ชที่ต่างประเทศบ้าง? นี่เป็นบทความในปี 2008 ที่ Southern Weekend ได้สัมภาษณ์หลางผิง วันที่ 9 มิถุนายน ที่ค่ายฝึกซ้อมที่โคโลราโดสปริงส์
ในช่วงที่ทีมชาติหญิงทำการเก็บตัวฝึกซ้อมที่นี่ และการแข่งขันโอลิมปิกกำลังใกล้เข้ามา ร้านค้าขายของที่ระลึกเริ่มนำสินค้าจีนเช่น ป้ายตัวอักษร ออกมาวางขาย ห้องอาหารถูกประดับเป็นสไตล์จีน อาหารกลางวันมีปอเปี๊ยะกุ้ง ซาลาเปา และบะหมี่ผัด เพื่อให้สาวอเมริกันได้ทดลองรสชาติที่พวกเธอจะได้เจอในโอลิมปิก ในระหว่างฝึกซ้อม ทุกๆครึ่งชั่วโมงงจะมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติเดินเข้ามาเยี่ยมชม ไกด์ของที่นี่จะแนะนำเสมอว่า เจ็นนี่(หลางผิง) เป็นนักกีฬาแชมป์โลกและโอลิมปิกจากจีน เมื่อทุกคนได้ยินก็พากันทึ่งในกิตติศัพท์ของเธอ
ก่อนหน้านี้ไม่นานวันหยุดสุดสัปดาห์ หลางผิงเพิ่งพาลูกสาว หลางหลางและหลานของเธอไปดูภาพยนตร์กังฟูแพนด้าและเล่นวอลเลย์บอลชายหาด เมื่อเธอกลับมาแม้ว่าเธอจะดูคลายเครียดไปได้บ้าง แต่เธอยังคงมีอาการอ่อนล้า และอ่อนไหวต่อคำถามของผู้สื่อข่าว ในช่วงชีวิตของเธอ เธอได้เหรียญทองชิงแชมป์โลก จากนั้นเธอเดินทางมาศึกษาต่อที่สหรัฐ ไปเป็นโค้ชในลีกอิตาลี ก่อนจะไปเป็นโค้ชทีมชาติหญิงของจีน จากนั้นก็มาเป็นโค้ชทีมชาติสหรัฐ เธอได้สัมผัสถึงระบบกีฬาที่หลากหลายของแต่ละประเทศ
ในฐานะที่คุณเป็นโค้ชทีมชาติหญิงอเมริกัน คุณเปลี่ยนพวกเธอหรือพวกเธอเปลี่ยนคุณ?
ความแตกต่างในวัฒนธรรม ทำให้การเป็นโค้ชแตกต่างกันมากระหว่างทีมชาติจีนและสหรัฐ ชาวอเมริกันคิดว่าฉันเปลี่ยนนักกีฬาสหรัฐให้แนบเนียนและแม่นยำมากขึ้นในเรื่องการเล่น แต่ในความคิดของฉัน อเมริกาเปลี่ยนตัวตนฉันไปหลายอย่างมาก นักกีฬาอเมริกันมีพื้นฐานที่ดีและเรียนรู้ได้รวดเร็ว ฉันเคารพแนวคิดของพวกเธอเวลาเจอกับปัญหา พวกเธอจะค่อนข้างไม่ซีเรียสกับมันมากนักและนั่นเปลี่ยนฉันในระดับนึง ฉันผ่อนคลายมากขึ้น พวกเธอมีความสุขกับวอลเลย์บอลและวอลเลย์บอลก็ไม่ใช่ชีวิตทั้งหมดของพวกเธอ ในตอนแรกฉันไม่เข้าใจชุดความคิดแบบนี้เลย ฉันพยายามผลักดันให้พวกเธอเล่นเต็มที่ทุกครั้งเพื่อเอาชัยชนะ แต่พวกเธอมีวัฒนธรรมระบบความคิดของเสียงส่วนใหญ่ ฉันซึ่งเป็นคนนอกต้องการให้พวกเธอเล่นตามที่ฉันต้องการอย่างเดียว สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมรับและเปลี่ยนทัศนคติตรงนี้ ดังนั้นฉันคิดว่าใช่ อเมริกาเปลี่ยนแปลงฉัน ทุกวันนี้ฉันก็เริ่มสนุกไปกับแนวคิดไม่คิดมากของพวกเธอ ฉันยอมรับว่าในบางจุดมันก็มีข้อดีตรงที่พวกเธอจะมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
คุณเรียนรู้อะไรจากการเป็นโค้ชทีมอเมริกัน?
วิทยาศาสตร์การกีฬาดีกว่าจีนเป็นอย่างมาก พวกเขาสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย การปรับกล้ามเนื้อ การวิเคราะห์แคลอรี่ที่ชัดเจนในทุกกิจกรรม ผลวิเคราะห์แม่นยำและมีรายละเอียดอย่างมาก ในส่วนของทัศนคติ ในขณะที่การแข่งขันในจีน ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ผู้เล่นจึงเกิดความกังวลอยู่ตลอดเวลา แต่คนอเมริกันไม่คิดมากกับผลลัพธ์นัก พวกเธอจะมองว่าทำเต็มที่แล้วรึยัง ถ้าคุณทำเต็มที่และเล่นได้ตามศักยภาพแล้วก็ถือว่าคุณคือผู้ชนะ มันทำให้คุณไม่ต้องเครียดหลังจากพ่ายแพ้ คุณรับผลการแข่งขันได้ง่ายขึ้น ถ้าพวกเธอแพ้ พวกเธอก็จะลุกขึ้นแล้วสู้ในเกมต่อไป
แรกๆคุณรับแนวคิดนี้ได้เลยไหม หรือต้องใช้เวลา?
ตอนแรกที่ฉันเข้ามาเป็นโค้ช บอกตามตรงว่ารับไม่ได้เลย ที่จีน โค้ชมีอำนาจหลายอย่างและลูกทีมก็เหมือนกับลูกน้อง ระบบการฝึกจะเคร่งครัดและชัดเจน แต่ที่นี่แตกต่างเป็นอย่างมาก นักกีฬาอเมริกันมารวมตัวจากความสนใจ พวกเธอจะมีความเป็นปัจเจก แม้กระทั่งจะแข่งโอลิมปิก พวกเธอก็ยังมารวมตัวเพื่อศึกซ้อมกันค่อนข้างยาก พวกเธอซ้อมกับค่ายในรัฐของพวกเธออยู่แล้ว พวกเธอมีตารางเวลาของตนเอง และมันยากมากที่จะนำพวกเธอมาฝึกตามตารางของฉัน สองเดือนก่อนวันแข่งขัน ทีมของฉันยังรวมตัวกันไม่ได้ ผู้เล่นหลักคนหนึ่งเข้ารับการผ่าตัดและไม่พร้อมแข่งโอลิมปิก ส่วนอีกสองคนก็บาดเจ็บฉันไม่แน่ใจว่าพวกเธอจะหายทันหรือเปล่า ฉันกังวลเป็นอย่างมาก สถานการณ์นี้ทำให้ฉันยอมแพ้เรื่องเอาตารางเวลาของตัวเองเป็นหลัก แล้วปรับเปลี่ยนไปตามที่สามารถทำได้ ฉันเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ซึ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอ และนั่นทำให้ฉันต้องตัดสินใจในนาทีสุดท้าย เมื่อฉันวิจารณ์นักกีฬาบางคนที่เล่นไม่เต็มที่ พวกเธอมักจะตอบว่า วันนี้ “เล่นไม่ค่อยออก” มันเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก ที่จีนคุณจะไม่สามารถใช้ข้ออ้างนี้ได้เลย คุณจะทำตัวไม่สนใจอะไรไม่ได้เพราะสายตาของคนทั้งประเทศกำลังดูคุณอยู่ ประเทศของคุณต้องการชัยชนะ ดังนั้นคุณจะเอาอารมณ์ความคิดตัวเองมาก่อนไม่ได้
ก่อนหน้านั้นคุณเคยเป็นโค้ชในลีคอาชีพของอิตาลีมาหกปี
วงการวอลเลย์บอลที่อิตาลีต่างจากสหรัฐเช่นกัน ที่นั่นวอลเลย์บอลต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพ หน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างโค้ชและนักกีฬาถือว่าชัดเจนมาก ทุกคนรู้หน้าที่และเคารพสัญญาที่ตนเองเซ็นเอาไว้ ความกดดันของที่นั่นจะเป็นเรื่องของเงิน โค้ชเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งของสโมสร บางครั้งมันก็เหนื่อยเอาการ เพราะเงินมาก่อนมันจึงเหมือนใจร้ายและไม่มีมนุษยธรรมอยู่บ้าง คุณต้องปรับตัว เผอิญช่วงนั้นลูกสาวของฉันอยู่ในสหรัฐและฉันอยากอยู่ใกล้ๆเธอบ้าง ฉันจึงออกมาจากอิตาลี
ดังนั้นคุณจึงได้เห็นความแตกต่างของวงการกีฬาในสามประเทศ
ทั้งสามประเทศมีระบบแตกต่างกัน มันยากที่จะบอกว่าอะไรดีกว่า ทุกแบบมีข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่ว่าคุณเหมาะกับแบบไหน ถ้าคุณไม่ซีเรียสกับผลลัพธ์และอยากคุมทีมวอลเลย์บอลเพราะความชอบส่วนตัว อเมริกาเป็นที่สำหรับคุณ ถ้าคุณชอบความท้าทายคุณควรไปลีคอิตาลี ถ้าคุณอยากไปชิงแชมป์โลก ระบบจีนจะดีกว่าเพราะเรื่องการเงิน กำลังคนและเวลาที่แน่นอน
ช่วงบ่ายวันที่ 9 เมษา เป็นวันที่มีการวิ่งคบเพลิงที่ซานฟรานซิสโก โชคร้ายที่เราไม่ได้เห็นคุณถือคบเพลิง แต่เราได้ชมในทีวีหลังจากนั้น ปรากฎว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางในช่วงนาทีสุดท้ายเพราะเรื่องความปลอดภัย
หลายๆฝ่ายห่วงความปลอดภัยของฉัน นอกจากเพื่อนและญาติ อีกคนที่กังวลมากคือประธานสมาคมวอลเลย์บอลของสหรัฐ เขาโทรหาฉันทุกวัน ก่อนที่ฉันจะบินไปร่วมวิ่งคบเพลิงที่ซานฟรานซิสโก เขาบอกให้ฉันเปลี่ยนใจเพราะเรื่องความปลอดภัย แต่ฉันไม่ได้กังวลอะไรมาก คนจีนคนนึงจะยอมพลาดโอกาสนี้ได้ยังไง? ฉันบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล ถ้ามีใครจะเข้ามาแย่งคบเพลิงของฉัน รู้ไว้ซะด้วยว่าฉันเป็นใคร ฉายาฉันค้อนเหล็กนะ ฉันจะทุบมันด้วยคบเพลิงนี่แหละ ตอนฉันไปถึง ทุกคนที่วิ่งคบเพลิงต่างกระตือรือล้นกันมาก คนที่อายุ 80 ยังไม่ยอมแพ้เลย แล้วฉันเป็นใคร ฉันแข็งแรงกว่าเธอตั้งเยอะ เพื่อนชาวจีนที่ซานฟรานซิสโกหลายคนมาให้กำลังใจฉัน แต่เส้นทางถูกเปลี่ยนกระทันหัน ฉันวิ่งคนที่ 37 และไม่เจอใครเลย ทิวทัศน์ขณะวิ่งถือว่าสุดยอดมาก มีเฮลิคอปเตอร์ 8 ลำและเรือวิ่งอยู่ข้างๆ ยังกับรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี เมื่อฉันกลับถึงบ้านลูกสาวของฉันถามถึงไม้ถือคบเพลิงว่าเธอจะยืมมันไปโชว์เพื่อนที่โรงเรียนได้ไหม ฉันปฏิเสธเพราะกลัวว่าเธอจะไม่สามารถนำมันกลับมาได้
คุณดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่เป็นโค้ชผู้หญิงในระดับแนวหน้า คุณรู้สึกกังวลบ้างไหม?
ทุกครั้งที่ฉันเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติแล้วพบว่าตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียว ฉันรู้สึกเหมือนเป็นดวงตาของพายุ ฉันชินกับความรู้สึกโดดเดี่ยวแบบนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าพวกผู้ชายเหล่านั้นยอมรับ และสนับสนุนฉัน พวกเขารู้ว่าฉันไม่ได้มาอยู่จุดนี้อย่างง่ายๆ ในฐานะแม่คนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ฉันรู้สึกกังวล
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เสฉวน คุณซึ่งอยู่ที่อเมริกามีความรู้สึกอย่างไร?
วันที่ 12 พฤษภาคม ฉันอ่านจากอินเตอร์เน็ตถึงได้รู้เรื่องแผ่นดินไหวที่เสฉวน ฉันได้อ่านเรื่องที่ประธานาธิบดีเหวิน เจียเป่าเข้าเยี่ยมพื้นที่เสียหาย ฉันรู้สึกว่าต้องทำอะไรซักอย่าง ฉันเคยอ่านมาว่า เรารู้ไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดภัยพิบัติ แต่เราเลือกที่จะรับมือกับมันได้ ในตอนนั้นที่โคโลราโดมีชุมชนชาวจีนไม่มาก มันยากที่จะรวมตัวทำอะไร ฉันโทรหาเพื่อนที่ลอส แองเจลีสและเดนเวอร์ ถึงได้รู้ว่ามีการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ฉันบอกทันทีว่าขอเข้าร่วมด้วย ฉันโทรหาสมาคมวอลเลย์บอลของจีนถามว่าพวกเขามีกองทุนแบบนี้หรือเปล่า พวกเขาตอบว่ามี ฉันโอนเงินไปให้แทบจะทันที อาจจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่นั่นแสดงให้เห็นถืงความรู้สึกของฉัน
มีคนบอกว่าคุณอยากก่อตั้งกองทุนของคุณเอง เพื่อช่วยเหลือนักกีฬาวอลเลย์บอลของจีน?
ฉันคิดเรื่องนี้มานานมากแล้ว ปีที่แล้วฉันเป็นธุระให้เฟิงคุนและเจ้ารุยรุยเข้ามาผ่าตัดในสหรัฐ มันทำให้ฉันรู้ว่าที่นี่มีเทคโนโลยีด้านกีฬาที่ก้าวหน้าอย่างมาก ยังมีนักกีฬาทีมชาติตอนนี้และที่รีไทร์ไปแล้วอีกหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือ จางยองเฟงและซุนพูเฟงก็มีอาการป่วยเรื้อรัง ถ้าฉันสามารถรวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือนักกีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพของพวกเธอได้ก็คงดี ฉันเคยเป็นนักกีฬาที่ฝึกและลงเล่นหนักมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและถูกเวลา ฉันผ่าตัดเข่าไป 8 ครั้งและ 3 ปีก่อนฉันผ่าตัดแถวปากมดลูกด้วย การผ่าตัดซ้ำๆแบบนี้ ทำให้ค้อนเหล็กกลายเป็นค้อนกระดาษไปเลย แม้จะยาก แต่หลังจากโอลิมปิกฉันจะพยายามทำ
ทำไมคุณถึงเดินทางมาศึกษาที่อเมริกาในช่วงเวลาที่ถือเป็นจุดสูงสุดของอาชีพคุณ?
ในตอนนั้น ฉันถือเป็นจุดสนใจหลักในจีน ฉันเข้าใจว่านักกีฬาถือเป็นผู้สร้างเกียรติให้กับชาติ แต่บางครั้งฉันก็อยากมีชีวิตแบบคนปกติบ้าง ในตอนนั้นฉันไปไหนไม่ได้ ฉันตัวสูงมากทำให้หลบแอบใครไม่พ้น ฉันออกไปที่สาธารณะหรือดูหนังก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งในห้องทั้งวัน ฉันทบทวนตัวเอง ฉันอยากหาพื้นที่ที่ไม่มีใครรู้จักฉัน วอลเลย์บอลไม่ใช่กีฬาที่โด่งดังมากในสหรัฐ ฉันสามารถมีชีวิตปกติได้ที่นี่ ฉันเลยเข้าศึกษาสาขาการบริหารการกีฬาที่รัฐนิวเม็กซิโก เริ่มต้นจากศูนย์
ได้ยินว่าลูกสาวของคุณเริ่มเล่นวอลเลย์บอลด้วยเช่นกัน เธอเป็นชาวอเมริกันที่เติบโตในวัฒนธรรมแบบอเมริกัน เธอมีความคิดแตกต่างจากคุณบ้างไหม?
ค่อนข้างชัดเจนเลยล่ะ ฉันไม่เคยขอให้เธอเล่นวอลเลย์บอล ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ ในตอนแรกเธอไม่ชอบวอลเลย์บอล แต่ชอบบาสเกตบอลมากกว่า หลังจากนั้นเธอลองเล่นอยู่หลายอย่างก่อนจะเลือกวอลเลย์บอล เธอเติบโตแบบอเมริกัน เธอเล่นวอลเลย์บอลเพราะความชื่นชอบ จึงไม่มีความกดดันทางจิตใจ เธอเล่นมาเกือบสองปีแล้ว ฉันประหลาดใจที่เธอยังเล่นอยู่
[แปล] หลางผิง โค้ชสามทวีป
ผู้เฒ่าผู้แก่ชาวจีนหลายคนยังจดจำได้ถึงเหตุการณ์วอลเลย์บอลโอลิมปิกปี 1984 ที่ลอสแองเจลีส หลางผิงพาทีมชาติจีนเอาชนะสหรัฐคาบ้าน 3-0 เซ็ตพร้อมกับคว้าเหรียญทองไปครอง 24 ปีต่อมา ฉายาค้อนเหล็กของหลางผิง ถูกกลับมาพูดถึงอีกครั้ง แต่คราวนี้เธอมาในฐานะโค้ชทีมชาติหญิงสหรัฐที่พาลูกทีมเอาชนะทีมชาติบ้านเกิดตัวเองไป 3-2 เซ็ตกับการแข่งขันโอลิมปิกปี 2008 ที่ปักกิ่ง แน่นอนว่าเสียงวิจารณ์เผ็ดร้อนเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ตั้งแต่การปฏิรูปวงการวอลเลย์บอลในปี 1980 วอลเลย์บอลหญิงของจีนถือเป็นจิดวิญญาณของชาวจีนมาตลอด และหลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้นเสียงวิจารณ์ตามสื่อท้องถิ่นและอินเตอร์เน็ตก็หลากหลาย คำถามแรก ทำไมเธอถึงต้องเดินทางออกนอกประเทศเพื่อไปศึกษาต่อที่สหรัฐในช่วงจุดสูงสุดในอาชีพของเธอ? แล้วเธอได้อะไรจากการเป็นโค้ชที่ต่างประเทศบ้าง? นี่เป็นบทความในปี 2008 ที่ Southern Weekend ได้สัมภาษณ์หลางผิง วันที่ 9 มิถุนายน ที่ค่ายฝึกซ้อมที่โคโลราโดสปริงส์
ในช่วงที่ทีมชาติหญิงทำการเก็บตัวฝึกซ้อมที่นี่ และการแข่งขันโอลิมปิกกำลังใกล้เข้ามา ร้านค้าขายของที่ระลึกเริ่มนำสินค้าจีนเช่น ป้ายตัวอักษร ออกมาวางขาย ห้องอาหารถูกประดับเป็นสไตล์จีน อาหารกลางวันมีปอเปี๊ยะกุ้ง ซาลาเปา และบะหมี่ผัด เพื่อให้สาวอเมริกันได้ทดลองรสชาติที่พวกเธอจะได้เจอในโอลิมปิก ในระหว่างฝึกซ้อม ทุกๆครึ่งชั่วโมงงจะมีนักท่องเที่ยวจากหลากหลายชาติเดินเข้ามาเยี่ยมชม ไกด์ของที่นี่จะแนะนำเสมอว่า เจ็นนี่(หลางผิง) เป็นนักกีฬาแชมป์โลกและโอลิมปิกจากจีน เมื่อทุกคนได้ยินก็พากันทึ่งในกิตติศัพท์ของเธอ
ก่อนหน้านี้ไม่นานวันหยุดสุดสัปดาห์ หลางผิงเพิ่งพาลูกสาว หลางหลางและหลานของเธอไปดูภาพยนตร์กังฟูแพนด้าและเล่นวอลเลย์บอลชายหาด เมื่อเธอกลับมาแม้ว่าเธอจะดูคลายเครียดไปได้บ้าง แต่เธอยังคงมีอาการอ่อนล้า และอ่อนไหวต่อคำถามของผู้สื่อข่าว ในช่วงชีวิตของเธอ เธอได้เหรียญทองชิงแชมป์โลก จากนั้นเธอเดินทางมาศึกษาต่อที่สหรัฐ ไปเป็นโค้ชในลีกอิตาลี ก่อนจะไปเป็นโค้ชทีมชาติหญิงของจีน จากนั้นก็มาเป็นโค้ชทีมชาติสหรัฐ เธอได้สัมผัสถึงระบบกีฬาที่หลากหลายของแต่ละประเทศ
ในฐานะที่คุณเป็นโค้ชทีมชาติหญิงอเมริกัน คุณเปลี่ยนพวกเธอหรือพวกเธอเปลี่ยนคุณ?
ความแตกต่างในวัฒนธรรม ทำให้การเป็นโค้ชแตกต่างกันมากระหว่างทีมชาติจีนและสหรัฐ ชาวอเมริกันคิดว่าฉันเปลี่ยนนักกีฬาสหรัฐให้แนบเนียนและแม่นยำมากขึ้นในเรื่องการเล่น แต่ในความคิดของฉัน อเมริกาเปลี่ยนตัวตนฉันไปหลายอย่างมาก นักกีฬาอเมริกันมีพื้นฐานที่ดีและเรียนรู้ได้รวดเร็ว ฉันเคารพแนวคิดของพวกเธอเวลาเจอกับปัญหา พวกเธอจะค่อนข้างไม่ซีเรียสกับมันมากนักและนั่นเปลี่ยนฉันในระดับนึง ฉันผ่อนคลายมากขึ้น พวกเธอมีความสุขกับวอลเลย์บอลและวอลเลย์บอลก็ไม่ใช่ชีวิตทั้งหมดของพวกเธอ ในตอนแรกฉันไม่เข้าใจชุดความคิดแบบนี้เลย ฉันพยายามผลักดันให้พวกเธอเล่นเต็มที่ทุกครั้งเพื่อเอาชัยชนะ แต่พวกเธอมีวัฒนธรรมระบบความคิดของเสียงส่วนใหญ่ ฉันซึ่งเป็นคนนอกต้องการให้พวกเธอเล่นตามที่ฉันต้องการอย่างเดียว สุดท้ายแล้วฉันก็ต้องยอมรับและเปลี่ยนทัศนคติตรงนี้ ดังนั้นฉันคิดว่าใช่ อเมริกาเปลี่ยนแปลงฉัน ทุกวันนี้ฉันก็เริ่มสนุกไปกับแนวคิดไม่คิดมากของพวกเธอ ฉันยอมรับว่าในบางจุดมันก็มีข้อดีตรงที่พวกเธอจะมีจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
คุณเรียนรู้อะไรจากการเป็นโค้ชทีมอเมริกัน?
วิทยาศาสตร์การกีฬาดีกว่าจีนเป็นอย่างมาก พวกเขาสามารถวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกาย การปรับกล้ามเนื้อ การวิเคราะห์แคลอรี่ที่ชัดเจนในทุกกิจกรรม ผลวิเคราะห์แม่นยำและมีรายละเอียดอย่างมาก ในส่วนของทัศนคติ ในขณะที่การแข่งขันในจีน ความพ่ายแพ้เป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ ผู้เล่นจึงเกิดความกังวลอยู่ตลอดเวลา แต่คนอเมริกันไม่คิดมากกับผลลัพธ์นัก พวกเธอจะมองว่าทำเต็มที่แล้วรึยัง ถ้าคุณทำเต็มที่และเล่นได้ตามศักยภาพแล้วก็ถือว่าคุณคือผู้ชนะ มันทำให้คุณไม่ต้องเครียดหลังจากพ่ายแพ้ คุณรับผลการแข่งขันได้ง่ายขึ้น ถ้าพวกเธอแพ้ พวกเธอก็จะลุกขึ้นแล้วสู้ในเกมต่อไป
แรกๆคุณรับแนวคิดนี้ได้เลยไหม หรือต้องใช้เวลา?
ตอนแรกที่ฉันเข้ามาเป็นโค้ช บอกตามตรงว่ารับไม่ได้เลย ที่จีน โค้ชมีอำนาจหลายอย่างและลูกทีมก็เหมือนกับลูกน้อง ระบบการฝึกจะเคร่งครัดและชัดเจน แต่ที่นี่แตกต่างเป็นอย่างมาก นักกีฬาอเมริกันมารวมตัวจากความสนใจ พวกเธอจะมีความเป็นปัจเจก แม้กระทั่งจะแข่งโอลิมปิก พวกเธอก็ยังมารวมตัวเพื่อศึกซ้อมกันค่อนข้างยาก พวกเธอซ้อมกับค่ายในรัฐของพวกเธออยู่แล้ว พวกเธอมีตารางเวลาของตนเอง และมันยากมากที่จะนำพวกเธอมาฝึกตามตารางของฉัน สองเดือนก่อนวันแข่งขัน ทีมของฉันยังรวมตัวกันไม่ได้ ผู้เล่นหลักคนหนึ่งเข้ารับการผ่าตัดและไม่พร้อมแข่งโอลิมปิก ส่วนอีกสองคนก็บาดเจ็บฉันไม่แน่ใจว่าพวกเธอจะหายทันหรือเปล่า ฉันกังวลเป็นอย่างมาก สถานการณ์นี้ทำให้ฉันยอมแพ้เรื่องเอาตารางเวลาของตัวเองเป็นหลัก แล้วปรับเปลี่ยนไปตามที่สามารถทำได้ ฉันเจอกับสถานการณ์ที่ไม่ได้คาดคิดเอาไว้ซึ่งเกิดขึ้นอยู่เสมอ และนั่นทำให้ฉันต้องตัดสินใจในนาทีสุดท้าย เมื่อฉันวิจารณ์นักกีฬาบางคนที่เล่นไม่เต็มที่ พวกเธอมักจะตอบว่า วันนี้ “เล่นไม่ค่อยออก” มันเป็นอะไรที่น่าโมโหมาก ที่จีนคุณจะไม่สามารถใช้ข้ออ้างนี้ได้เลย คุณจะทำตัวไม่สนใจอะไรไม่ได้เพราะสายตาของคนทั้งประเทศกำลังดูคุณอยู่ ประเทศของคุณต้องการชัยชนะ ดังนั้นคุณจะเอาอารมณ์ความคิดตัวเองมาก่อนไม่ได้
ก่อนหน้านั้นคุณเคยเป็นโค้ชในลีคอาชีพของอิตาลีมาหกปี
วงการวอลเลย์บอลที่อิตาลีต่างจากสหรัฐเช่นกัน ที่นั่นวอลเลย์บอลต้องอาศัยความเป็นมืออาชีพ หน้าที่และความรับผิดชอบระหว่างโค้ชและนักกีฬาถือว่าชัดเจนมาก ทุกคนรู้หน้าที่และเคารพสัญญาที่ตนเองเซ็นเอาไว้ ความกดดันของที่นั่นจะเป็นเรื่องของเงิน โค้ชเป็นแค่ลูกจ้างคนหนึ่งของสโมสร บางครั้งมันก็เหนื่อยเอาการ เพราะเงินมาก่อนมันจึงเหมือนใจร้ายและไม่มีมนุษยธรรมอยู่บ้าง คุณต้องปรับตัว เผอิญช่วงนั้นลูกสาวของฉันอยู่ในสหรัฐและฉันอยากอยู่ใกล้ๆเธอบ้าง ฉันจึงออกมาจากอิตาลี
ดังนั้นคุณจึงได้เห็นความแตกต่างของวงการกีฬาในสามประเทศ
ทั้งสามประเทศมีระบบแตกต่างกัน มันยากที่จะบอกว่าอะไรดีกว่า ทุกแบบมีข้อดีและข้อเสีย อยู่ที่ว่าคุณเหมาะกับแบบไหน ถ้าคุณไม่ซีเรียสกับผลลัพธ์และอยากคุมทีมวอลเลย์บอลเพราะความชอบส่วนตัว อเมริกาเป็นที่สำหรับคุณ ถ้าคุณชอบความท้าทายคุณควรไปลีคอิตาลี ถ้าคุณอยากไปชิงแชมป์โลก ระบบจีนจะดีกว่าเพราะเรื่องการเงิน กำลังคนและเวลาที่แน่นอน
ช่วงบ่ายวันที่ 9 เมษา เป็นวันที่มีการวิ่งคบเพลิงที่ซานฟรานซิสโก โชคร้ายที่เราไม่ได้เห็นคุณถือคบเพลิง แต่เราได้ชมในทีวีหลังจากนั้น ปรากฎว่ามีการเปลี่ยนเส้นทางในช่วงนาทีสุดท้ายเพราะเรื่องความปลอดภัย
หลายๆฝ่ายห่วงความปลอดภัยของฉัน นอกจากเพื่อนและญาติ อีกคนที่กังวลมากคือประธานสมาคมวอลเลย์บอลของสหรัฐ เขาโทรหาฉันทุกวัน ก่อนที่ฉันจะบินไปร่วมวิ่งคบเพลิงที่ซานฟรานซิสโก เขาบอกให้ฉันเปลี่ยนใจเพราะเรื่องความปลอดภัย แต่ฉันไม่ได้กังวลอะไรมาก คนจีนคนนึงจะยอมพลาดโอกาสนี้ได้ยังไง? ฉันบอกเขาว่าไม่ต้องกังวล ถ้ามีใครจะเข้ามาแย่งคบเพลิงของฉัน รู้ไว้ซะด้วยว่าฉันเป็นใคร ฉายาฉันค้อนเหล็กนะ ฉันจะทุบมันด้วยคบเพลิงนี่แหละ ตอนฉันไปถึง ทุกคนที่วิ่งคบเพลิงต่างกระตือรือล้นกันมาก คนที่อายุ 80 ยังไม่ยอมแพ้เลย แล้วฉันเป็นใคร ฉันแข็งแรงกว่าเธอตั้งเยอะ เพื่อนชาวจีนที่ซานฟรานซิสโกหลายคนมาให้กำลังใจฉัน แต่เส้นทางถูกเปลี่ยนกระทันหัน ฉันวิ่งคนที่ 37 และไม่เจอใครเลย ทิวทัศน์ขณะวิ่งถือว่าสุดยอดมาก มีเฮลิคอปเตอร์ 8 ลำและเรือวิ่งอยู่ข้างๆ ยังกับรักษาความปลอดภัยประธานาธิบดี เมื่อฉันกลับถึงบ้านลูกสาวของฉันถามถึงไม้ถือคบเพลิงว่าเธอจะยืมมันไปโชว์เพื่อนที่โรงเรียนได้ไหม ฉันปฏิเสธเพราะกลัวว่าเธอจะไม่สามารถนำมันกลับมาได้
คุณดูเหมือนจะเป็นคนเดียวที่เป็นโค้ชผู้หญิงในระดับแนวหน้า คุณรู้สึกกังวลบ้างไหม?
ทุกครั้งที่ฉันเข้าร่วมประชุมระดับนานาชาติแล้วพบว่าตัวเองเป็นผู้หญิงคนเดียว ฉันรู้สึกเหมือนเป็นดวงตาของพายุ ฉันชินกับความรู้สึกโดดเดี่ยวแบบนี้แล้ว ฉันรู้สึกว่าพวกผู้ชายเหล่านั้นยอมรับ และสนับสนุนฉัน พวกเขารู้ว่าฉันไม่ได้มาอยู่จุดนี้อย่างง่ายๆ ในฐานะแม่คนหนึ่งที่ไม่ค่อยมีเวลาให้ลูก ฉันรู้สึกกังวล
เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เสฉวน คุณซึ่งอยู่ที่อเมริกามีความรู้สึกอย่างไร?
วันที่ 12 พฤษภาคม ฉันอ่านจากอินเตอร์เน็ตถึงได้รู้เรื่องแผ่นดินไหวที่เสฉวน ฉันได้อ่านเรื่องที่ประธานาธิบดีเหวิน เจียเป่าเข้าเยี่ยมพื้นที่เสียหาย ฉันรู้สึกว่าต้องทำอะไรซักอย่าง ฉันเคยอ่านมาว่า เรารู้ไม่ได้ว่าเมื่อไหร่จะเกิดภัยพิบัติ แต่เราเลือกที่จะรับมือกับมันได้ ในตอนนั้นที่โคโลราโดมีชุมชนชาวจีนไม่มาก มันยากที่จะรวมตัวทำอะไร ฉันโทรหาเพื่อนที่ลอส แองเจลีสและเดนเวอร์ ถึงได้รู้ว่ามีการตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ ฉันบอกทันทีว่าขอเข้าร่วมด้วย ฉันโทรหาสมาคมวอลเลย์บอลของจีนถามว่าพวกเขามีกองทุนแบบนี้หรือเปล่า พวกเขาตอบว่ามี ฉันโอนเงินไปให้แทบจะทันที อาจจะเป็นจำนวนไม่มาก แต่นั่นแสดงให้เห็นถืงความรู้สึกของฉัน
มีคนบอกว่าคุณอยากก่อตั้งกองทุนของคุณเอง เพื่อช่วยเหลือนักกีฬาวอลเลย์บอลของจีน?
ฉันคิดเรื่องนี้มานานมากแล้ว ปีที่แล้วฉันเป็นธุระให้เฟิงคุนและเจ้ารุยรุยเข้ามาผ่าตัดในสหรัฐ มันทำให้ฉันรู้ว่าที่นี่มีเทคโนโลยีด้านกีฬาที่ก้าวหน้าอย่างมาก ยังมีนักกีฬาทีมชาติตอนนี้และที่รีไทร์ไปแล้วอีกหลายคนที่ต้องการความช่วยเหลือ จางยองเฟงและซุนพูเฟงก็มีอาการป่วยเรื้อรัง ถ้าฉันสามารถรวบรวมเงินเพื่อช่วยเหลือนักกีฬาเพื่อพัฒนาสุขภาพของพวกเธอได้ก็คงดี ฉันเคยเป็นนักกีฬาที่ฝึกและลงเล่นหนักมาก ในขณะเดียวกันก็ไม่เคยได้รับการรักษาที่มีประสิทธิภาพและถูกเวลา ฉันผ่าตัดเข่าไป 8 ครั้งและ 3 ปีก่อนฉันผ่าตัดแถวปากมดลูกด้วย การผ่าตัดซ้ำๆแบบนี้ ทำให้ค้อนเหล็กกลายเป็นค้อนกระดาษไปเลย แม้จะยาก แต่หลังจากโอลิมปิกฉันจะพยายามทำ
ทำไมคุณถึงเดินทางมาศึกษาที่อเมริกาในช่วงเวลาที่ถือเป็นจุดสูงสุดของอาชีพคุณ?
ในตอนนั้น ฉันถือเป็นจุดสนใจหลักในจีน ฉันเข้าใจว่านักกีฬาถือเป็นผู้สร้างเกียรติให้กับชาติ แต่บางครั้งฉันก็อยากมีชีวิตแบบคนปกติบ้าง ในตอนนั้นฉันไปไหนไม่ได้ ฉันตัวสูงมากทำให้หลบแอบใครไม่พ้น ฉันออกไปที่สาธารณะหรือดูหนังก็ไม่ได้ ได้แต่นั่งในห้องทั้งวัน ฉันทบทวนตัวเอง ฉันอยากหาพื้นที่ที่ไม่มีใครรู้จักฉัน วอลเลย์บอลไม่ใช่กีฬาที่โด่งดังมากในสหรัฐ ฉันสามารถมีชีวิตปกติได้ที่นี่ ฉันเลยเข้าศึกษาสาขาการบริหารการกีฬาที่รัฐนิวเม็กซิโก เริ่มต้นจากศูนย์
ได้ยินว่าลูกสาวของคุณเริ่มเล่นวอลเลย์บอลด้วยเช่นกัน เธอเป็นชาวอเมริกันที่เติบโตในวัฒนธรรมแบบอเมริกัน เธอมีความคิดแตกต่างจากคุณบ้างไหม?
ค่อนข้างชัดเจนเลยล่ะ ฉันไม่เคยขอให้เธอเล่นวอลเลย์บอล ฉันเคารพการตัดสินใจของเธอ ในตอนแรกเธอไม่ชอบวอลเลย์บอล แต่ชอบบาสเกตบอลมากกว่า หลังจากนั้นเธอลองเล่นอยู่หลายอย่างก่อนจะเลือกวอลเลย์บอล เธอเติบโตแบบอเมริกัน เธอเล่นวอลเลย์บอลเพราะความชื่นชอบ จึงไม่มีความกดดันทางจิตใจ เธอเล่นมาเกือบสองปีแล้ว ฉันประหลาดใจที่เธอยังเล่นอยู่