6 ข้อดีที่ของการทำงาน/ ฝึกงานระหว่างเรียน
6 advantages of working while studying
สวัสดีครับ วันนี้ AEC Job Listing ขอแนะนำเรื่องการทำงานและเรียนไปพร้อมกันให้กับน้องๆ คนรุ่นใหม่อย่างคุณๆกันครับ ในยุคปัจจุบันที่คุณพ่อคุณแม่หาเงินมาให้เราเรียนหนังสือสูงๆอย่างเหน็ดเหนื่อย ค่าเรียนก็สูง ถามเด็กสมัยนี้นอกจากการเรียนปกติในห้องเรียนแล้วก็ยังต้องมีเรียนพิเศษ ไม่ว่าจะเรียนเพิ่มเติมในวิชาหลัก หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเสริมบุคลิกภาพ ความสามารถ และการสันทนาการ ดังนั้นผมเชื่อว่าเด็กยุคใหม่สมัยนี้ แทบจะมีความสามารถพิเศษกันหลากหลายมาก (บางคนมากกว่า 1 อย่างเสียด้วยซ้ำ) ซึ่งความสามารถและความกล้าเหล่านี้แหละครับ ที่จะช่วยน้องๆ ให้สามารถทำงานไปพร้อมกับการเรียนได้ครับ
ผมไม่ได้หมายถึงพวกลูกๆดารานะครับ (เดี๋ยวจะหาว่าผมแนะนำให้ไปเรียนเต้น เรียนร้องเพลง ศัลยกรรม เพื่อไปเป็นดารานักแสดง) แต่ที่ผมกำลังสื่อให้น้องๆ คุณพ่อคุณแม่น้องๆ เข้าใจคือ ทำไมเราไม่ใช้เวลาว่างที่เรามี กับความสามารถของเราที่เรามี ไม่ว่าจะเรื่องเรียน หรือทักษะอื่นๆนอกจากวิชาหลักในการหารายได้ระหว่างเรียนล่ะครับ
วันนี้ผมแนะนำประโยชน์ สัก 6 ข้อ ใหญ่ๆที่ได้จากการทำงานหรือการฝึกงานระหว่างเรียนมาให้ครับ
1. Increase your personal Experience
เพิ่มประสบการณ์
การทำงานระหว่างเรียนนั้น ทำให้น้องๆได้มีโอกาสในการใช้ การฝึกฝนทักษะความสามารถของตัวคุณเอง คิดในทางที่ดีนะครับ ว่าแทนที่คุณจะฝึกทักษะนั้นอยู่ที่บ้านคุณเงียบๆ ทำไมคุณไม่มาฝึกทักษะของคุณกับสนามจริงดูล่ะครับ ถึงแม่ว่าคุณอาจจะยังไม่ได้ทำมันได้ดีที่สุดเท่ากับพี่ๆที่เค้าเรียนจบแล้ว อาจจะถูกดุบ้าง ถูกว่าบ้าง แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเรียนรู้ มีความอดทนและก้าวผ่านความเป็นมือสมัครเล่นไปสูความเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วแน่นอนครับ
นอกจากประสบการณ์เกี่ยวกับเนื้องานแล้ว คุณจะยังได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์การทำงานอันมีค่าอื่นๆอีกด้วย เช่น การจัดการและการสื่อสารกับบุคคลหรือเพื่อนร่วมงานที่มีระดับหรือตำแหน่งที่ แตกต่างกัน ซึ่งทักษะเช่นนี้เป็นสิ่งที่คุณจะไม่ได้รับเลยถ้าคุณเอาแต่เรียนเพียงอย่างเดียว
2. Job Reference
การรับรองการทำงาน
การทำงานพิเศษหรือการฝึกงาน เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีสำหรับประสบการณ์การทำงาน ที่คุณจำเป็นต้องมีในการออกไปสมัครงานในอนาคต ซึ่งบางครั้งก็อาจจะนำไปสู่ผู้ที่สามารถเขียนจดหมายรับรองให้หรืออาจจะนำไป สู่ตำแหน่งงานในอนาคตหลังจากเรียนจบเลยทีเดียว
3. Future Career
การเลือกอาชีพในอนาคต
มีน้องๆหลายๆคนไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้ทำงานตรงสายกับคณะหรือภาควิชาที่ตัวเองเลือกเรียนหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุดของการกำหนดอนาคตของตัวเองและไม่เป็นการเสียเวลาไปลองสมัครงานในตำแหน่งที่ตนเองไม่อยากทำในอนาคต ก็คือ การที่คุณได้ลองฝึกงานดูครับ การฝึกงานหรือทำงานระหว่างเรียนทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าขอบเขตของงานกับสายวิชาที่เราเลือกเป็นอย่างไร แล้วคุณทำได้ดีหรือไม่ ถ้าคุณลองได้ทำงานดูแล้วคุณชอบแต่ยังทำได้ไม่ดีพอ คุณก็จะมีกำลังใจมากขึ้นที่จะพยายามตั้งใจเรียนครับ แต่ถ้าคุณลองทำงานดูแล้วค้นพบว่าไม่ใช่แนวทางของคุณเลย คุณก็ยังกลับลำทันด้วยการเรียนต่อหรือเรียนเสริมในสิ่งที่คุณชอบมากกว่า และเมื่อคุณเรียนจบ คุณจะมีแนวทางต่อในทันทีว่าคุณจะเรียนต่อหรือคุณจะสมัครงานที่ไหน ทำงานอะไรครับ
4. Future Education
การเลือกแผนการศึกษาในอนาคต
ผมไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้นนะครับ ที่จะไปฝึกงานหรือทำงานพิเศษได้ ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค AEC และมีความเป็นนานาชาติมากขึ้นแล้วครับ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ขอให้ทำงานสุจริตและเปิดเผย ผมว่าทุกคนสามารถทำงานพิเศษระหว่างเรียนได้ครับ เช่น ถ้าคุณเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายและมีความสามารถทางด้านภาษา คุณก็สามารถให้บริการแปลหรือไปฝึกงานในบริษัทรับแปลเอกสารได้ครับ ผมเห็นน้องๆรุ่นใหม่หลายๆคนไปฝึกงานที่ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร หรือร้านตัดเย็บเสื้อผ้า พอเรียนจบเค้ากลายเป็นผู้จัดการร้านอาหาร เปิดร้านอาหารเอง หรือไม่ว่าจะกลายเป็นดีไซน์เนอด้วยซ้ำไปครับ การที่เราได้ฝึกงานไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนมัธยมหรือนักศึกษามหาวิทยาลัย จะทำให้คุณรู้ว่าคุณชอบที่จะศึกษาต่อทางด้านไหน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีไฟและพยายามที่จะศึกษาต่อในสิ่งที่คุณชอบ และความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ ดังคำพูดที่ว่า “put the right man to the right job” ถ้าคุณได้ทำงานในสิ่งที่คุณชอบและถนัด คุณก็จะทำมันได้ดีครับ
5. Increase your Income
เพิ่มรายได้
แน่นอนครับ การทำงานพิเศษก็เป็นอีกหนึ่งทางในการหารายได้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยคุณพ่อคุณแม่ของคุณลดค่าใช้จ่ายด้วยครับ ส่วนตัวคุณเองนอกจากความภูมิใจแล้ว คุณจะได้เรียนรู้การบริหารจัดการรายรับ-รายจ่าย และวิธีการหาเงินอีกด้วยครับ เคยได้ยินไหมครับ “การใช้เงินน่ะง่าย แต่การหาเงินสักบาทสิครับ มันหายาก” การที่คุณได้มีประสบการณ์ในการหาเงินตั้งแต่ในช่วงที่คุณยังศึกษาอยู่ จะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ไม่ตึงเครียดอีกด้วย (คิดดูสิครับ ว่าถ้าเรียนจบแล้วเพิ่งเริ่มหาเงิน ความเครียดของคุณจะเป็นกี่เท่ากันครับ) แต่ทั้งนี้ ผมแนะนำว่า ไม่ใช่ทุกสายอาชีพและทุกคนจะฝึกงานแล้วได้เงินเดือนทุกคนนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่นายจ้างและความพอใจของคุณด้วย แต่แนะนำเบื้องต้นอย่างนี้ สำหรับมือใหม่ครับ “ประสบการณ์มีค่ามากกว่ารายได้” ครับ เพราะอย่าเพิ่งคาดหวังให้องค์กรที่เค้ารับเราเข้าไปฝึกงานจ่ายเงินเดือนให้กับมอสมัครเล่นเลยครับ ผมคิดว่าการที่คุณได้รับโอกาสในการเข้าฝึกงาน คุณได้ทั้งทักษะที่เพิ่มขึ้น สังคมใหม่ๆ ความก้าวหน้าในสายอาชีพ จดหมายแนะนำตัว ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับที่คุณหาไม่ได้จากในห้องเรียนไม่ว่าคุณจะมีเงินมากมายเท่าไหร่อย่างแน่นอนครับ
6. New society
ได้สังคมใหม่
สังคมของการทำงานกับสังคมที่คุณมีในรั้วการศึกษา ต่างกันอย่างแน่นอนครับ การที่คุณมีโอกาสได้เรียนรู้สังคมใหม่ๆ ที่เป็นสังคมของการทำงานที่คุณจะต้องเจอในอนาคต จะทำให้คุณสามารถรับมือได้ดีกว่าคนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้สังคมของการทำงานครับ (ผมไม่ได้ให้เรียนรู้สังคมการเมืองในที่ทำงานนะครับ อันนั้นน่ากลัวจริงๆ อิอิ แต่ถ้าคุณเจอขึ้นมา ผมก็แนะนำว่า อยู่นิ่งๆ ตั้งใจทำงานให้นายจ้างดีที่สุดครับ อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดครับ) สังคมของการทำงาน นอกจากจะสอนให้คุณรู้ว่า การมาทำงานควร ต้องแต่งตัวอย่างไร พูดจาอย่างไร ใช้อุปกรณ์ออฟฟิศอย่างไรแล้ว คุณอาจจะค้นพบเพื่อใหม่ๆ รุ่นพี่ที่เค้ามีประสบการณ์ในสายงานของคุณ ที่จะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำทั้งด้านการงานและการศึกษาในอนาคตของคุณด้วยครับ
จริงๆ ข้อดีของการทำงานระหว่างเรียน ยังมีอีกมากมายนะครับ ไม่อย่างนั้นหลักสูตรการศึกษาของคนต่างชาติ เช่นประเทศอังกฤษ ประเทศอเมริกา เค้าไม่หยุดเรียนตั้ง 1 – 2 ปี (ตอนเรียนชั้นปี 3) เพื่อไปทดลองฝึกงานกันหรอกครับ (ประเทศไทย ให้ไปฝึกแค่ 3 เดือน แถมบางคนไม่ได้ไปฝึกจริงๆด้วยใช่ไหมล่ะครับ ผมก็ผ่านมาก่อน 555+ แต่ถ้าผมย้อนกลับไปได้ ผมจะไปฝึกงานจริงๆครับและผมจะขอเค้าฝึกงานวันเสาร์วันอาทิตย์ด้วยครับ

สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าข้อคิดดีๆที่ผม ร่ายยาวมานี้ จะมีประโยชน์กับคุณ ที่เป็นนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ที่มีน้องๆอยู่ในยุคสมัยใหม่นี้ (คุณก็รู้ว่าเวลาที่คุณรับเด็กเพิ่งจบ มาทำงาน คุณรู้สึกอย่างไรกับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์เลย กับคนที่ผ่านการทำงานมาแล้วอย่างไรครับ) ยังไงก็ตาม ผมไม่ได้บอกว่าเด็กทุกคนต้องทำงานระหว่างเรียนนะครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกทำงานหรือไม่ทำงานในระหว่างเรียนก็ตาม แต่สิ่งที่ผมแนะนำมันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่คุณสามารถได้รับทักษะที่ดีและกลายเป็นทักษะอัน ยอดเยี่ยมหลังจากที่คุณเรียนจบครับ
AEC Job Listing
www.aecjoblisting.com
www.facebook.com/AECEnlist
6 ข้อดีที่ของการทำงาน/ ฝึกงานระหว่างเรียน
6 advantages of working while studying
สวัสดีครับ วันนี้ AEC Job Listing ขอแนะนำเรื่องการทำงานและเรียนไปพร้อมกันให้กับน้องๆ คนรุ่นใหม่อย่างคุณๆกันครับ ในยุคปัจจุบันที่คุณพ่อคุณแม่หาเงินมาให้เราเรียนหนังสือสูงๆอย่างเหน็ดเหนื่อย ค่าเรียนก็สูง ถามเด็กสมัยนี้นอกจากการเรียนปกติในห้องเรียนแล้วก็ยังต้องมีเรียนพิเศษ ไม่ว่าจะเรียนเพิ่มเติมในวิชาหลัก หรือเรียนรู้ทักษะใหม่ๆเสริมบุคลิกภาพ ความสามารถ และการสันทนาการ ดังนั้นผมเชื่อว่าเด็กยุคใหม่สมัยนี้ แทบจะมีความสามารถพิเศษกันหลากหลายมาก (บางคนมากกว่า 1 อย่างเสียด้วยซ้ำ) ซึ่งความสามารถและความกล้าเหล่านี้แหละครับ ที่จะช่วยน้องๆ ให้สามารถทำงานไปพร้อมกับการเรียนได้ครับ
ผมไม่ได้หมายถึงพวกลูกๆดารานะครับ (เดี๋ยวจะหาว่าผมแนะนำให้ไปเรียนเต้น เรียนร้องเพลง ศัลยกรรม เพื่อไปเป็นดารานักแสดง) แต่ที่ผมกำลังสื่อให้น้องๆ คุณพ่อคุณแม่น้องๆ เข้าใจคือ ทำไมเราไม่ใช้เวลาว่างที่เรามี กับความสามารถของเราที่เรามี ไม่ว่าจะเรื่องเรียน หรือทักษะอื่นๆนอกจากวิชาหลักในการหารายได้ระหว่างเรียนล่ะครับ
วันนี้ผมแนะนำประโยชน์ สัก 6 ข้อ ใหญ่ๆที่ได้จากการทำงานหรือการฝึกงานระหว่างเรียนมาให้ครับ
1. Increase your personal Experience
เพิ่มประสบการณ์
การทำงานระหว่างเรียนนั้น ทำให้น้องๆได้มีโอกาสในการใช้ การฝึกฝนทักษะความสามารถของตัวคุณเอง คิดในทางที่ดีนะครับ ว่าแทนที่คุณจะฝึกทักษะนั้นอยู่ที่บ้านคุณเงียบๆ ทำไมคุณไม่มาฝึกทักษะของคุณกับสนามจริงดูล่ะครับ ถึงแม่ว่าคุณอาจจะยังไม่ได้ทำมันได้ดีที่สุดเท่ากับพี่ๆที่เค้าเรียนจบแล้ว อาจจะถูกดุบ้าง ถูกว่าบ้าง แต่ที่แน่ๆ สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณเรียนรู้ มีความอดทนและก้าวผ่านความเป็นมือสมัครเล่นไปสูความเป็นมืออาชีพได้อย่างรวดเร็วแน่นอนครับ
นอกจากประสบการณ์เกี่ยวกับเนื้องานแล้ว คุณจะยังได้เรียนรู้และได้ประสบการณ์การทำงานอันมีค่าอื่นๆอีกด้วย เช่น การจัดการและการสื่อสารกับบุคคลหรือเพื่อนร่วมงานที่มีระดับหรือตำแหน่งที่ แตกต่างกัน ซึ่งทักษะเช่นนี้เป็นสิ่งที่คุณจะไม่ได้รับเลยถ้าคุณเอาแต่เรียนเพียงอย่างเดียว
2. Job Reference
การรับรองการทำงาน
การทำงานพิเศษหรือการฝึกงาน เป็นเครื่องพิสูจน์อย่างดีสำหรับประสบการณ์การทำงาน ที่คุณจำเป็นต้องมีในการออกไปสมัครงานในอนาคต ซึ่งบางครั้งก็อาจจะนำไปสู่ผู้ที่สามารถเขียนจดหมายรับรองให้หรืออาจจะนำไป สู่ตำแหน่งงานในอนาคตหลังจากเรียนจบเลยทีเดียว
3. Future Career
การเลือกอาชีพในอนาคต
มีน้องๆหลายๆคนไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าตัวเองจะได้ทำงานตรงสายกับคณะหรือภาควิชาที่ตัวเองเลือกเรียนหรือไม่ วิธีที่ดีที่สุดของการกำหนดอนาคตของตัวเองและไม่เป็นการเสียเวลาไปลองสมัครงานในตำแหน่งที่ตนเองไม่อยากทำในอนาคต ก็คือ การที่คุณได้ลองฝึกงานดูครับ การฝึกงานหรือทำงานระหว่างเรียนทำให้คุณเห็นภาพชัดเจนมากขึ้นว่าขอบเขตของงานกับสายวิชาที่เราเลือกเป็นอย่างไร แล้วคุณทำได้ดีหรือไม่ ถ้าคุณลองได้ทำงานดูแล้วคุณชอบแต่ยังทำได้ไม่ดีพอ คุณก็จะมีกำลังใจมากขึ้นที่จะพยายามตั้งใจเรียนครับ แต่ถ้าคุณลองทำงานดูแล้วค้นพบว่าไม่ใช่แนวทางของคุณเลย คุณก็ยังกลับลำทันด้วยการเรียนต่อหรือเรียนเสริมในสิ่งที่คุณชอบมากกว่า และเมื่อคุณเรียนจบ คุณจะมีแนวทางต่อในทันทีว่าคุณจะเรียนต่อหรือคุณจะสมัครงานที่ไหน ทำงานอะไรครับ
4. Future Education
การเลือกแผนการศึกษาในอนาคต
ผมไม่ได้บอกว่าจะต้องเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยเท่านั้นนะครับ ที่จะไปฝึกงานหรือทำงานพิเศษได้ ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุค AEC และมีความเป็นนานาชาติมากขึ้นแล้วครับ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ ขอให้ทำงานสุจริตและเปิดเผย ผมว่าทุกคนสามารถทำงานพิเศษระหว่างเรียนได้ครับ เช่น ถ้าคุณเรียนอยู่ชั้นมัธยมปลายและมีความสามารถทางด้านภาษา คุณก็สามารถให้บริการแปลหรือไปฝึกงานในบริษัทรับแปลเอกสารได้ครับ ผมเห็นน้องๆรุ่นใหม่หลายๆคนไปฝึกงานที่ร้านกาแฟ/ร้านอาหาร หรือร้านตัดเย็บเสื้อผ้า พอเรียนจบเค้ากลายเป็นผู้จัดการร้านอาหาร เปิดร้านอาหารเอง หรือไม่ว่าจะกลายเป็นดีไซน์เนอด้วยซ้ำไปครับ การที่เราได้ฝึกงานไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนมัธยมหรือนักศึกษามหาวิทยาลัย จะทำให้คุณรู้ว่าคุณชอบที่จะศึกษาต่อทางด้านไหน สิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณมีไฟและพยายามที่จะศึกษาต่อในสิ่งที่คุณชอบ และความสำเร็จก็จะอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อมครับ ดังคำพูดที่ว่า “put the right man to the right job” ถ้าคุณได้ทำงานในสิ่งที่คุณชอบและถนัด คุณก็จะทำมันได้ดีครับ
5. Increase your Income
เพิ่มรายได้
แน่นอนครับ การทำงานพิเศษก็เป็นอีกหนึ่งทางในการหารายได้เพิ่มเติม ซึ่งจะช่วยคุณพ่อคุณแม่ของคุณลดค่าใช้จ่ายด้วยครับ ส่วนตัวคุณเองนอกจากความภูมิใจแล้ว คุณจะได้เรียนรู้การบริหารจัดการรายรับ-รายจ่าย และวิธีการหาเงินอีกด้วยครับ เคยได้ยินไหมครับ “การใช้เงินน่ะง่าย แต่การหาเงินสักบาทสิครับ มันหายาก” การที่คุณได้มีประสบการณ์ในการหาเงินตั้งแต่ในช่วงที่คุณยังศึกษาอยู่ จะเป็นประสบการณ์ที่ดีที่ไม่ตึงเครียดอีกด้วย (คิดดูสิครับ ว่าถ้าเรียนจบแล้วเพิ่งเริ่มหาเงิน ความเครียดของคุณจะเป็นกี่เท่ากันครับ) แต่ทั้งนี้ ผมแนะนำว่า ไม่ใช่ทุกสายอาชีพและทุกคนจะฝึกงานแล้วได้เงินเดือนทุกคนนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่นายจ้างและความพอใจของคุณด้วย แต่แนะนำเบื้องต้นอย่างนี้ สำหรับมือใหม่ครับ “ประสบการณ์มีค่ามากกว่ารายได้” ครับ เพราะอย่าเพิ่งคาดหวังให้องค์กรที่เค้ารับเราเข้าไปฝึกงานจ่ายเงินเดือนให้กับมอสมัครเล่นเลยครับ ผมคิดว่าการที่คุณได้รับโอกาสในการเข้าฝึกงาน คุณได้ทั้งทักษะที่เพิ่มขึ้น สังคมใหม่ๆ ความก้าวหน้าในสายอาชีพ จดหมายแนะนำตัว ฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละครับที่คุณหาไม่ได้จากในห้องเรียนไม่ว่าคุณจะมีเงินมากมายเท่าไหร่อย่างแน่นอนครับ
6. New society
ได้สังคมใหม่
สังคมของการทำงานกับสังคมที่คุณมีในรั้วการศึกษา ต่างกันอย่างแน่นอนครับ การที่คุณมีโอกาสได้เรียนรู้สังคมใหม่ๆ ที่เป็นสังคมของการทำงานที่คุณจะต้องเจอในอนาคต จะทำให้คุณสามารถรับมือได้ดีกว่าคนที่ไม่มีโอกาสได้เรียนรู้สังคมของการทำงานครับ (ผมไม่ได้ให้เรียนรู้สังคมการเมืองในที่ทำงานนะครับ อันนั้นน่ากลัวจริงๆ อิอิ แต่ถ้าคุณเจอขึ้นมา ผมก็แนะนำว่า อยู่นิ่งๆ ตั้งใจทำงานให้นายจ้างดีที่สุดครับ อย่าไปต่อความยาวสาวความยืดครับ) สังคมของการทำงาน นอกจากจะสอนให้คุณรู้ว่า การมาทำงานควร ต้องแต่งตัวอย่างไร พูดจาอย่างไร ใช้อุปกรณ์ออฟฟิศอย่างไรแล้ว คุณอาจจะค้นพบเพื่อใหม่ๆ รุ่นพี่ที่เค้ามีประสบการณ์ในสายงานของคุณ ที่จะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำทั้งด้านการงานและการศึกษาในอนาคตของคุณด้วยครับ
จริงๆ ข้อดีของการทำงานระหว่างเรียน ยังมีอีกมากมายนะครับ ไม่อย่างนั้นหลักสูตรการศึกษาของคนต่างชาติ เช่นประเทศอังกฤษ ประเทศอเมริกา เค้าไม่หยุดเรียนตั้ง 1 – 2 ปี (ตอนเรียนชั้นปี 3) เพื่อไปทดลองฝึกงานกันหรอกครับ (ประเทศไทย ให้ไปฝึกแค่ 3 เดือน แถมบางคนไม่ได้ไปฝึกจริงๆด้วยใช่ไหมล่ะครับ ผมก็ผ่านมาก่อน 555+ แต่ถ้าผมย้อนกลับไปได้ ผมจะไปฝึกงานจริงๆครับและผมจะขอเค้าฝึกงานวันเสาร์วันอาทิตย์ด้วยครับ
สุดท้ายนี้ ผมหวังว่าข้อคิดดีๆที่ผม ร่ายยาวมานี้ จะมีประโยชน์กับคุณ ที่เป็นนักศึกษา คุณพ่อคุณแม่ที่มีน้องๆอยู่ในยุคสมัยใหม่นี้ (คุณก็รู้ว่าเวลาที่คุณรับเด็กเพิ่งจบ มาทำงาน คุณรู้สึกอย่างไรกับเด็กที่ไม่มีประสบการณ์เลย กับคนที่ผ่านการทำงานมาแล้วอย่างไรครับ) ยังไงก็ตาม ผมไม่ได้บอกว่าเด็กทุกคนต้องทำงานระหว่างเรียนนะครับ ไม่ว่าคุณจะเลือกทำงานหรือไม่ทำงานในระหว่างเรียนก็ตาม แต่สิ่งที่ผมแนะนำมันก็เป็นทางเลือกที่ดีที่คุณสามารถได้รับทักษะที่ดีและกลายเป็นทักษะอัน ยอดเยี่ยมหลังจากที่คุณเรียนจบครับ
AEC Job Listing
www.aecjoblisting.com
www.facebook.com/AECEnlist