นี่เป็นการตั้งกระทู้ดราม่าครั้งแรก ผิดถูกอย่างไรแนะนำกันได้นะคะ เริ่มกันเลย
ด้วยที่เราเป็นคนชอบท่องเที่ยวดังนั้นการจองโรงแรมส่วนใหญ่จะจองผ่านพวก Agoda หรือ booking ประมาณนี้ ด้วยที่ว่าเราไปหลีเป๊ะหน้า High Season ช่วงเดือน กุมภาพันนธ์ ณ เวลาตอนที่ทำการจองรีสอร์ทก็ประมานวันที 19/12/22557 ซึ่งมันก็ค่อนข้างเต็มแล้วที่เหลือก็แพง จากการหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็มาเจอรีสอร์ท A (นามสมมุติค่ะ) ใน Agoda ก็ราคาสูงเหลือเกิน ก็เลยลองโทรโดยตรงกับทางรีสอร์ทดีกว่า แต่เราจำไม่ได้ว่าเปิดเว็ปไหน อ่ะได้เบอร์มาติดต่อทันที คุยกับคุณ B ก็ตกลงกันได้ว่าคืนละ 2500 บาท 2 คืน โดยมีการ Add Line ID คุยกัน จนมีการออก Voucher เป็นที่เรียบร้อย โดยการโอนมัดจำไปก่อน 800 บาทจากนั้นก่อนเข้าพัก 3 วันโอนเต็มจำนวน
วันที่ 19/02/2015 นึกขึ้นได้มาต้องโอนเงิน เลยรีบโอนไป พอไลน์หลักฐานการโอนเงินไปก็ไม่มีการตอบรับ เราเลยรีบเมล์ไป แล้วเตรียมตัวลั้ลลา ในวันรุ่งขึ้น ตอนเช้าเปิดเมล์ดู พบข้อความว่า
“ทางเรายังไม่ได้รับเงินจำนวนนี้นะค่ะเพราะว่าคุณฺBได้พ้นสภาพการเป็น พนักงานของเราแล้วก่อนโอนคุณก้อไม่ได้ติดต่อมาทางเรา ลูกค้าต้องดำเนินการทวงเงินคืนเองนะค่ะเพราะว่าทางเราไม่ได้รับจริงๆค่ะ แล้วเราก้อไม่มีเมลล์หริว่าเบอร์โทรติดต่อคุณได้เลย ต้องขอโทษจริงๆที่ทางเราไม่สามารถปล่อยห้องให้คุณได้. “ งานเข้าแล้ว เงิน 5000 บาทนี่มันเยอะมากสำหรับเรานะ แล้วสงสัยว่าในเมื่อชั้นติดต่อพนักงานคุณ ด้วยเบอร์ของคุณจากเวปไซต์ ละเรายังต้องไปติดต่อใครอีกในเมื่อเชื่อใจรีสอร์ท แล้วการรับลูกค้าไม่มีการลงข้อมูลรายละเอียดของลูกค้าเลยหรอ ซึ่งทางคุณ B ก็ยังคงเงียบ เราก็เลยเอาวะ ไปตายเอาดาบหน้า ในระหว่างนั้นก็ยังคงส่งเมล์ส่งเมล์ถาม โดยที่ทางรีสอร์ทไม่มีประกาศในเฟซหรืออะไรให้รู้ได้เลยว่าพนักงานคนนี้ลาออก โดยที่เราก็มีการแนบ Voucher ไปให้ดู ได้คำตอบแบบนี้
“คือการที่ออกหลักฐานใบสำคัญมันจะต้องมีรายละเอียดที่สามารถ ที่สามารถติดต่อกันได้ทั้งสองฝ่ายค่ะนี่ทางเราไม่มีอีเมลล์ไม่มีเบอร์โทรที่ จะสามารถติดต่อกลับคุณได้ ส่วนลูกค้าท่านอื่นที่สามารถติดต่อได้เราก็ได้แจ้งไปหมดแล้ว เหลืออีกไม่กี่รายที่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเรื่องว่าทำไมเราไม่ประกาศทางเฟส คือว่าทุกอย่างคุณB ดำเนินการโดยที่เราไม่ทราบแม้แต่ระหัสผ่าน แล้วส่วนมากเราจะติดต่อกับลูกค้าทางอีเมลล์หรือทางโทรศัพท์มากกว่าค่ะ ก้อขอให้ลูกค้าดำเนินการกับคุณBเองนะค่ะเพราะถ้าเรายังไม่ได้รับเงินเรา ก้อไม่สามารถปล่อยให้ได้จริงๆค่ะ เราขอแนะนำให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดกับคุณBค่ะ เพราะสาเหตุที่เขาพ้นสภาพจากที่นี่ไปก็เพราะการทุจริตนี่แหละค่ะ”
ซึ่งก็สงสัยอีกว่าคำว่าสองฝ่ายตอนนั้นเป็นทางเรากับรีสอร์ทแต่ตอนนั้นคุณ B ยังไม่พ้นสภาพ รู้ว่ามี Page ของรีสอร์ทแต่ไม่ดำเนินการปิดหรือ Report เลยหรอ ปล่อยให้ค้างเติ่งไว้แบบนี้ จะมีอีกกี่คนที่เข้าใจผิด เราเคยสอบถามข้อมูลในFacebook ได้คำตอบที่ลงท้ายว่าค่ะ แต่คนที่เราติดต่อด้วยเป็นผู้ชาย แล้วที่บอกเค้ารู้พาสเวิร์ดอยู่เดียวคือ???? ที่บอกติดต่อลูกค้าทางอีเมล์หรือโทรศัพท์ ก็นี่งัยชั้นโทรไปปปปปปปปปปปปปป สรุปรีสอร์ทไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น รวมทั้งให้เราไปดำเนินการทวงตังเอง จากนั้นคุณ B ก็ติดต่อมาบอกว่าให้ไปที่รีสอร์ทได้เลย ให้หักเงินค่าที่พักออกจากเงินเดือนเค้า เราก็สงสัยว่าออกแล้วไม่ใช่หรอมีเงินเดือนได้ยังไง คุณ Bบอกเค้ายังไม่จ่ายเงินเดือนให้ ถ้าไม่สามารถเข้าพักได้ เค้าจะโอนเงินให้ทันที โดยเราก็บอกเค้าว่าเราไม่พักแล้ว รู้สึกไม่ดีกับที่นี่ไปแล้ว เลยขอเงินคืน สรุปเค้าก็โอนเงินให้นะคะแค่ 4200 บาท ที่เหลือ 800 บาท ให้กับทางรีสอร์ทไปแล้ว เราก็ขี้เกียจคุยกับทางรีสอร์ทเลยยอมเสีย 800 บาท ซึ่งเราก็งงว่าตกลงใครพูดจริง เท็จ โดยที่ทางรีสอร์ทแสดงข้อความข้อโทษแต่ไม่คิดแม้แต่จะดำเนินการอะไรให้เราเลย รู้สึกอคติ แบบว่าตอนนั้นมืดแปดดด้าน นึกว่าจะเสียเงินฟรี แต่สุดท้ายเราก็ได้ที่ดีกว่า ราคาเท่ากันติดหาดแถมรวมอาหารเข้า ฟินไปเลย ขอบคุณเหตุการณ์เหล่านี้ที่ทำให้รู้ว่าถ้าไปหลีเป๊ะ จะไม่มีทางนึกถึงรีสอร์ทนี้อีก
หากว่า งงๆหรือแทกผิดห้องต้องขอคำแนะนำและขออภัยค่ะ
ความไม่ประทับใจเรื่องการจองที่พักที่หลีเป๊ะ
ด้วยที่เราเป็นคนชอบท่องเที่ยวดังนั้นการจองโรงแรมส่วนใหญ่จะจองผ่านพวก Agoda หรือ booking ประมาณนี้ ด้วยที่ว่าเราไปหลีเป๊ะหน้า High Season ช่วงเดือน กุมภาพันนธ์ ณ เวลาตอนที่ทำการจองรีสอร์ทก็ประมานวันที 19/12/22557 ซึ่งมันก็ค่อนข้างเต็มแล้วที่เหลือก็แพง จากการหาข้อมูลไปเรื่อยๆก็มาเจอรีสอร์ท A (นามสมมุติค่ะ) ใน Agoda ก็ราคาสูงเหลือเกิน ก็เลยลองโทรโดยตรงกับทางรีสอร์ทดีกว่า แต่เราจำไม่ได้ว่าเปิดเว็ปไหน อ่ะได้เบอร์มาติดต่อทันที คุยกับคุณ B ก็ตกลงกันได้ว่าคืนละ 2500 บาท 2 คืน โดยมีการ Add Line ID คุยกัน จนมีการออก Voucher เป็นที่เรียบร้อย โดยการโอนมัดจำไปก่อน 800 บาทจากนั้นก่อนเข้าพัก 3 วันโอนเต็มจำนวน
วันที่ 19/02/2015 นึกขึ้นได้มาต้องโอนเงิน เลยรีบโอนไป พอไลน์หลักฐานการโอนเงินไปก็ไม่มีการตอบรับ เราเลยรีบเมล์ไป แล้วเตรียมตัวลั้ลลา ในวันรุ่งขึ้น ตอนเช้าเปิดเมล์ดู พบข้อความว่า “ทางเรายังไม่ได้รับเงินจำนวนนี้นะค่ะเพราะว่าคุณฺBได้พ้นสภาพการเป็น พนักงานของเราแล้วก่อนโอนคุณก้อไม่ได้ติดต่อมาทางเรา ลูกค้าต้องดำเนินการทวงเงินคืนเองนะค่ะเพราะว่าทางเราไม่ได้รับจริงๆค่ะ แล้วเราก้อไม่มีเมลล์หริว่าเบอร์โทรติดต่อคุณได้เลย ต้องขอโทษจริงๆที่ทางเราไม่สามารถปล่อยห้องให้คุณได้. “ งานเข้าแล้ว เงิน 5000 บาทนี่มันเยอะมากสำหรับเรานะ แล้วสงสัยว่าในเมื่อชั้นติดต่อพนักงานคุณ ด้วยเบอร์ของคุณจากเวปไซต์ ละเรายังต้องไปติดต่อใครอีกในเมื่อเชื่อใจรีสอร์ท แล้วการรับลูกค้าไม่มีการลงข้อมูลรายละเอียดของลูกค้าเลยหรอ ซึ่งทางคุณ B ก็ยังคงเงียบ เราก็เลยเอาวะ ไปตายเอาดาบหน้า ในระหว่างนั้นก็ยังคงส่งเมล์ส่งเมล์ถาม โดยที่ทางรีสอร์ทไม่มีประกาศในเฟซหรืออะไรให้รู้ได้เลยว่าพนักงานคนนี้ลาออก โดยที่เราก็มีการแนบ Voucher ไปให้ดู ได้คำตอบแบบนี้ “คือการที่ออกหลักฐานใบสำคัญมันจะต้องมีรายละเอียดที่สามารถ ที่สามารถติดต่อกันได้ทั้งสองฝ่ายค่ะนี่ทางเราไม่มีอีเมลล์ไม่มีเบอร์โทรที่ จะสามารถติดต่อกลับคุณได้ ส่วนลูกค้าท่านอื่นที่สามารถติดต่อได้เราก็ได้แจ้งไปหมดแล้ว เหลืออีกไม่กี่รายที่ไม่สามารถติดต่อได้ ส่วนเรื่องว่าทำไมเราไม่ประกาศทางเฟส คือว่าทุกอย่างคุณB ดำเนินการโดยที่เราไม่ทราบแม้แต่ระหัสผ่าน แล้วส่วนมากเราจะติดต่อกับลูกค้าทางอีเมลล์หรือทางโทรศัพท์มากกว่าค่ะ ก้อขอให้ลูกค้าดำเนินการกับคุณBเองนะค่ะเพราะถ้าเรายังไม่ได้รับเงินเรา ก้อไม่สามารถปล่อยให้ได้จริงๆค่ะ เราขอแนะนำให้ลูกค้าแจ้งความเอาผิดกับคุณBค่ะ เพราะสาเหตุที่เขาพ้นสภาพจากที่นี่ไปก็เพราะการทุจริตนี่แหละค่ะ”
ซึ่งก็สงสัยอีกว่าคำว่าสองฝ่ายตอนนั้นเป็นทางเรากับรีสอร์ทแต่ตอนนั้นคุณ B ยังไม่พ้นสภาพ รู้ว่ามี Page ของรีสอร์ทแต่ไม่ดำเนินการปิดหรือ Report เลยหรอ ปล่อยให้ค้างเติ่งไว้แบบนี้ จะมีอีกกี่คนที่เข้าใจผิด เราเคยสอบถามข้อมูลในFacebook ได้คำตอบที่ลงท้ายว่าค่ะ แต่คนที่เราติดต่อด้วยเป็นผู้ชาย แล้วที่บอกเค้ารู้พาสเวิร์ดอยู่เดียวคือ???? ที่บอกติดต่อลูกค้าทางอีเมล์หรือโทรศัพท์ ก็นี่งัยชั้นโทรไปปปปปปปปปปปปปป สรุปรีสอร์ทไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น รวมทั้งให้เราไปดำเนินการทวงตังเอง จากนั้นคุณ B ก็ติดต่อมาบอกว่าให้ไปที่รีสอร์ทได้เลย ให้หักเงินค่าที่พักออกจากเงินเดือนเค้า เราก็สงสัยว่าออกแล้วไม่ใช่หรอมีเงินเดือนได้ยังไง คุณ Bบอกเค้ายังไม่จ่ายเงินเดือนให้ ถ้าไม่สามารถเข้าพักได้ เค้าจะโอนเงินให้ทันที โดยเราก็บอกเค้าว่าเราไม่พักแล้ว รู้สึกไม่ดีกับที่นี่ไปแล้ว เลยขอเงินคืน สรุปเค้าก็โอนเงินให้นะคะแค่ 4200 บาท ที่เหลือ 800 บาท ให้กับทางรีสอร์ทไปแล้ว เราก็ขี้เกียจคุยกับทางรีสอร์ทเลยยอมเสีย 800 บาท ซึ่งเราก็งงว่าตกลงใครพูดจริง เท็จ โดยที่ทางรีสอร์ทแสดงข้อความข้อโทษแต่ไม่คิดแม้แต่จะดำเนินการอะไรให้เราเลย รู้สึกอคติ แบบว่าตอนนั้นมืดแปดดด้าน นึกว่าจะเสียเงินฟรี แต่สุดท้ายเราก็ได้ที่ดีกว่า ราคาเท่ากันติดหาดแถมรวมอาหารเข้า ฟินไปเลย ขอบคุณเหตุการณ์เหล่านี้ที่ทำให้รู้ว่าถ้าไปหลีเป๊ะ จะไม่มีทางนึกถึงรีสอร์ทนี้อีก
หากว่า งงๆหรือแทกผิดห้องต้องขอคำแนะนำและขออภัยค่ะ