[CR] [[ปลีกวิเวก]]ปีนัง ,, ,ไป HIPSTER ในงบไม่เวอร์ 2500 บาท

เอาล้ะครับ  หลังจากคิดอยู่นานว่าจะรีวิวหรือไม่รีวิวดี  เพราะมีคนรีวิวซะเยอะ  แต่ละรีวิวรายละเอียดเจ๋งๆทั้งนั้น
แต่เอาว้ะ!!  อย่างน้อยมันต้องมีอะไรเป็นประโยชน์บ้างล้ะ
ออกตัวก่อนครับ  รีวิวนี้ ‘หญิงเดี่ยว  แบกเป้เที่ยว’  ( พูดครับนี่คิดว่าผู้ชายล้ะสิ  ป่าวนะฮ้า เราเป็นผู้หญิงแค่ติดปากครับมากกว่าค่ะแค่นั้นเอง )  
ทริปนี้มันเริ่มจากอาการเสพติดการท่องเที่ยวนั่นเอง  คนที่ชอบเที่ยวหรือติดเที่ยวเหมือนกันจะรู้ว่ามันจะมีอาการทุรนทุราย อึดอัด  และเหมือนจะลงแดงเมื่อเห็นคนอื่นไปเที่ยว  ทั้งๆที่ตัวเองก็เพิ่งกลับจากเที่ยว  และนั่นคือเราที่เพิ่งกลับจากเจจูได้สองวัน  แต่ แต่ อยากไปเที่ยวโว้ยยยยยยยยยยยยยยยย  ทำไงล้ะ  แม่ต้องไม่ให้ไปแน่เลย ตื้ออยู่นานเมื่อผู้ใหญ่เซย์เยส  ก็เป็นไปตามแผนครับ  แต่ปัญหายังไม่หมดแค่นั้น
1.  ปีนัง . .. เมื่อเพื่อนเป่าหู ‘ น่ากลัวนะแก ปืน ระเบิด’  ( ความคิดสามจังหวัดชายแดนภาคใต้เริ่มลอยมา ) >>  ความอยากมากกว่ากลัวตาย  หมดไปครับข้อนี้
2.  คนเดียว . ..ใครจะถ่ายรูปให้ว้ะ ( ปัญหาหลักระดับนานาชาติ ><” )  >> หมดไปเมื่อมีไม้เซลฟี่
3. ตังค์ . ..เพิ่งกลับจากเที่ยวได้ไม่นาน  เป๋าแห้ง  งั้นทริปนี้น้อยสุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ( บอกก่อนครับเราเป็นคนติดเที่ยวแล้วลืมกิน  เพราะงั้นเราจะเน้นอาหารประจำเมือง  หรือขึ้นชื่อเป็นหลัก ) >> หมดไปเมื่อมื้อย่อยๆระหว่างเดินทางเป็นขนมที่พกไปจากไทย ^^
เมื่อทุกอย่างพร้อมก็ไปสิคัรบ  Let’s  goooooooooooooooooooooo  !!
เราเป็นคนสุราษฎร์นะ  แผนคือ สุราษฎร์ – หาดใหญ่ – ปีนัง – หาดใหญ่ – สุราษฎร์
เริ่มออกจากสุราษฎร์ตอนเช้า  ขึ้นรถที่ตลาดเกษตร 2 หรือระหว่างทางก็ได้  ราคานักศึกษา 220  บาท ไม่แน่ใจว่าคนทั่วไป 250 รึเปล่านะ  รถรอบแรก  6.30 น. ออกทุกครึ่งชั่วโมง  เราจองรอบ  7  โมง  

รถจะจอดกินข้าวที่พัทลุง  20  นาที  เราก็จัดการกินอาหารเช้า + เที่ยงซะที่นั่นเลย  -----30  บาท
พอเข้าตัวเมืองหาดใหญ่เราลงที่  บขส.  เพราะดูรถที่จะไปของ  KST  ดูๆมาเห็นจะเป็นราคาที่ถูกสุดไป – กลับ  750  บาท
ถ้าไปเดินถามตามคิวแถว บขส ราคาไปเที่ยวละ  450  ไปกลับ  900 แพงกว่าเย้อออออออ  อย่าหวังจะได้แอ้มเงินอันน้อยนิดของชั้น  !!  มาทำความรู้จัก  KST  กัน
KST  สามารถขึ้นได้  2  ที่คือ  office KST  ใกล้สถานีรถไฟ แถวธนาคารธนชาต  ตรงข้ามโรงแรมคิง  และที่ๆสองคือ บขส  บริเวณหน้าโลตัส เอ็กซ์เพลส  เบอร์โทรติดต่อ  074-354551 ,074-245700 ,081-6907253  ( เราโทรติดแค่เบอร์สุดท้ายนะ    )  โทรแจ้งเค้าก่อนว่าเราขึ้นที่ไหน  ไป-กลับ หรือเที่ยวเดียว จากนั้นเค้าก็จะขอติดต่อเราไว้เป็นอันเสร็จพิธี   รถมี  3  รอบนะ  ดูเวลาดีๆ คือ  9.30 ,12.30 ,15.30   เราไปถึงหาดใหญ่ไม่ทันรถรอบสอง  เซงโฮกกกก  นั่งรอไปรอบบ่ายสามนี่เหงือกแห้งบอกเลย ย   ถ้าใครไปไม่ทันเหมือนเราก็เข้าไปนั่งรอใน บขส ได้  ถึงเวลาแล้วค่อยมายืนหน้าโลตัส  เอ็กเพลส  มันอยู่ตรงข้ามกัน   อ่อ ลืมบอกไป  รถไปรับ – ส่ง  ถึงหน้าโรงแรมเลยนะ  งานนี้ดึกแค่ไหนก็สบายแฮ  ^^

ลืมบอกไปไอนี้สำคัญมากก ก  เพราะเป็นเรื่องเงิน ๆทองๆ เงินแลกที่ไทยไปได้เยอะกว่านะครับ  ส่วนใหญ่บอกแลกในตัวเมืองหาดใหญ่ที่ไม่ใช่ธนาคารจะได้ดีกว่า แต่เราไม่ได้แลกเลยไม่มีตังค์ติดตัวไปเล้ยยย  แล้วเรื่องยุ่งๆก็เกิดเพราะไม่มีเงินมาเลนี่แหละ  ติดตามกันต่อปาย ย ย

พอขึ้นรถจะมีจอด  3  ที่ก่อนตรงสู่ปีนัง  คือ ด่านขาออกไทย  ด่านขาเข้า มาเลเซีย  และปั๊มน้ำมัน
   ด่านขาออก  พอรถจอดปั๊ป  มองไปที่ซ้ายมือครับพี่ครับ มีเคาน์เตอร์เป็นล๊อคๆอยู่  ตรงไปที่นั่นเลย สำหรับใครที่ยังไม่มีใบสีฟ้า  หรือใบขาเข้า – ขาออก ( เหมือนเรา )  ก่อนถึงเคาน์เตอร์ขาออก  จะมีโต๊ะจำหน่ายและกรอกบัตรขาเข้า – ขาออกอยู่  ยื่นพาสปอร์ตกับบัตรประชาชนให้  และเงินให้เค้า  20 บาท  หรือ  2  ริงกิต เป็นอันเสร็จพิธี  รถก็จะรอเราอยู่ที่เดิม  ไปขึ้นรถ  (( ก่อนลงจำทะเบียนไว้ด้วยก็ดีเน้อ  ))  

ด่านขาเข้ามาเลเซีย  รถจอดปั๊ป ลงไปที่นี้อยู่ด้านขวาครับพี่  เป็นอาคารเล็กๆเข้าไปในนั้น  ยื่นพาสปอร์ตให้เค้า  จากนั้นเค้าจะให้สแกนนิ้ว  ผ่านตรงนี้แล้วไปตั้งกระเป๋าเข้าเครื่องสแกน  ทุกอย่างผ่านเป็นอันเสร็จพิธี  ณ  จุดนี้  รถอยู่ด้านหลังครับ  เดินตามทางไปเรื่อยๆแล้วเจอแล้ว  อย่าได้กังวลว่าจะหาไม่เจออ  
ปั๊มน้ำมัน  ไอเราก็ไม่เคยมานี่  พอมันจอดก็ลงหมด  ตรงนี้ไม่ต้องลงก็ได้  คิดแล้วขำตัวเอง

จากนั้นก็ตรงหน้าสู่ปีนังครับพี่ท่าน น  หลับตลอดทาง  ตื่นอีกทีบนสะพาน  เห็นแสงไฟไกลๆ  สวยงาม ทีเดียว ว  ตรงนี้ตั้งสติจากการตื่นนอนไม่ทัน  กว่าจะทันก็เกือบลงสะพานล้ะ  5555555555  ถึงที่นี่เกือบ  4  ทุ่ม  ( เร็วกว่าเวลาไทย  1  ชม )
พี่ท่านผู้ขับรถก็มาส่งเราที่โรงแรม  เราจองแบบโฮสเทล ของ Kimberry  house  ผ่าน  booking.com  ไว้  เป็นห้องพักหญิงรวม  6  คน ( ไม่เหงา  ไม่ต้องกลัวผี เพราะมีเพื่อน  5555 )  ราคา  2  คืน  414  บาท   แต่ยัง ทุกอย่างมันเพิ่งเริ่มต้น  จากที่บอกไปล้ะค่า  ไม่มีเงินมาเลใครจะให้เช๊คอิน  พนักงานถึงกับสตั๊น  3 วิ  เนื่องจากมีเงินมาเลแค่  5  ริงกิต  ฮ่าๆๆๆ  ไงล้ะค้า  ผลของการงก  โดนยึดพาสปอร์ตไว้เป็นที่เรียบร้อย  เฮียแกก็แนะนำโน่น นั่น นี่  เซย์อิงลิชล้วนๆ  นี่แหละครับปัญหาข้อที่  4  ภาษาอังกฤษ  จับเป็นคำๆเถอะครับ  จับหมดได้นอนหงายคางเหลืองแน่  มาคนเดียวหันหน้าทำหน้างงกับใครก็ไม่ได้  หลังจากเก็บของก็ออกไปสำรวจรอบๆหน่อยว่ามีอะไรบ้าง  ใกล้ๆมีตลาดครับ  ด้านหลังมีห้างสรรพสินค้า  ที่นี่ถือว่าทำเลดีเลยทีเดียว

กินข้าวเมื่อช่วงบ่ายไปยังไม่หิว แต่ลองขนมของที่นี่สักหน่อย  ซุปถั่วแดงครับ  อร่อยเลยทีเดียว

กินเสร็จปั๊ป  เพื่อความปลอดภัยกลับเถอะครับดึกมาแล้ว ว ว  เตรียมตัวสำหรับเช้าพรุง่นี้  มาแบคแพคนอนห้องรวมแบบนี้เตรียมของส่วนตัวมาให้พร้อมนะครับ สบู่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน ครีม ขันไม่ต้องนะ  555555555  อ่อ  ที่นี่เค้าจะถามว่ามีผ้าขนหนูไหมตอนเชคอิน  ถ้าไม่มีเค้าก็มีให้ครับ  


เช้าวันแรก  ตื่นตะเร้น น  นี่ต้องเที่ยวคนเดียวจริงๆหรอ  เตรียมผ้าใบ  ผูกเชือกรองเท้าแน่นๆแล้วไปเที่ยวกันครับ  จุดหมายแรก  แลกตังค์ก่อนครับพี่ท่าน ไม่งั้นชีวิตจะลำบากได้  ไปถามที่เค้าเตอร์ว่าแลกที่ไหนได้บ้าง  เค้าบอกที่ห้างหลัง  โรงแรม ไอเราก็เดินไปเลยครับ  ถามคนเรื่อยๆจนถึงแต่ ยัง เรื่องยังไม่จบ!!!  เห้ยยยยยย  นี่มันเพิ่งแปดโมงเว้ยยยย  ห้างที่ไหนมันจะเปิด  เดินกลับสิครับ  จอร์จทาวน์คือจุดหมายต่อไปที่คิดว่าจะเลิกตังค์ได้  ขั้นตอนการเดินไม่ต้องคิดไรมากครับ  มาทางไหนให้เธอกลับไปทางน้านนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน  ขากลับนี่แหละครับเด็ด  เจอตลาดเช้าด้วย ย  ขายของกินนานาชนิด  จะซื้อโน้น นั่น นี่ ก็ตังค์ ตังค์ ตังค์  ไม่เป็นไรเห็นวิถีชีวิตของที่นี่ล้ะ  คุ้ม!!
กลับเข้าเรื่องครับ  ถ้าจะให้พูดง่ายๆ  การไปจอร์จทาวน์จาก Kimberry  H.  ออกจากที่พักแบบหันหลังให้แล้วเดินไปทางขวามือครับ  ไปสุดซอยแล้วเลี้ยวซ้าย  เดินไปเรื่อยๆ จะเห็นป้ายรถเมล์ครับ  ( จำป้ายรถเมล์นี้ไว้ๆ เดี๋ยวมาบอกว่าทำไม )  ข้ามถนนไปอีกฝั่งเห็นเลยครับตึกขาวๆ นั่นแหละครับตึกจอร์จทาวน์ที่คิดว่าแลกตังค์ได้  

ซึ่งคิดไปเองทั้งเพ  เดินเข้าไปถามด้านในได้ความว่า ให้เดินตรงไปเรื่อยๆล๊อค  2  เดินออกจากจอร์จทาวน์มาครับ  มันไม่ใช่ที่ของเราแล้ววว


เดินตรงมาเรื่อยๆ  เห็นร้านของน้า หรือลุง  ช่างมันเถอะครับ  ไอเราก็ถ่ายรูปทั่วๆไปแล้วเฮียแก ( ตกลงเรียกเฮีย) ก็โผล่มา บอก again again  ไอเราก็ again  ไรว้ะ  ป่าววว  ไม่มีไร  แกจะให้ถ่ายรูปแก  ฮ่าๆๆ  น่ารัก

เดินผ่านร้านเฮียแกมาเรื่อยๆซัดโค้งตามโค้งถนนเลยครับ  

จะเห็นป้ายรถเมล์อยูอยู่ฝั่งเดียวกับเราคือขวามือ  ซ้ายมือหัวมุมซอยจะเป็นตึกแบบนี้   เดินตรงไปครับ แล้วข้ามถนน จะเห็นร้านแลกตังค์อยู่ขวามือ
ส่วนมากร้านทั่วไปยังปิดครับ  ซึ่งรวมถึงร้านแลกตังค์  คุณพระ!!!  ทำไงดีว้ะ  ตอนนั้นคิดว่าแย่แน่  ไม่มีตังค์ แทบนั่งขอร้องให้ประตูเปิด  แต่ยังครับฟ้าประทานหันซ้ายปั๊ปป  มีอีกร้านเปิดแล้ว รอดแล้วววว!!!  แลกไปพันห้าครับ  ได้มา  150  ริงกิต  เป็นอันว่ามิชชั่นคิมพลีท   ฮ่าๆๆๆ  พอดูๆไป  ร้านแลกตังค์มีอยู่ทั่วปีนังเลยครับ  ไม่ต้องกังวล ณ จุดนี้

คราวนี้ก็เริ่มออกเดินทางกันจริงๆได้แล้วครับ  วันแรกดูจากรีวิวของหลายๆท่านในบลูแพลนเนตสามารถเดินรอบเมืองได้เลย  เอาล้ะครับวันนี้เรามาเดินกัน  ที่สำคัญ  ฟรี!!!

เดินตรงไปเรื่อยๆ  คราวนี้ข้ามถนนมาอีกด้านครับ
ต่อไปนี่สถาปัตยกรรมเหล่านี้จะอยู่ด้านซ้ายมือของท่านครับ  ชมภาพรัวๆ

เดินตรงมาจะเจอแยกตรงนี้ครับ  ทางม้าลายบ้านเค้าแปลกดี

เดินตรงไปครับ สถานที่ต่อไปเป็นศาลเจ้าของจีน  สวยงามเลยทีเดียว


ยานพาหนะ  หรือสามล้อจะมีทั่วทุกมุมเมืองของปีนังครับ  ดูคลาสสิคไปอีกแบบ



เดินตรงกันต่อไปครับ  เจอที่นี่แวะไปถ่ายรูปด้านหน้ากันครับ  มุมต้นไม้ตัดกับสีขาวดูลงตัวกันจัง

เดินออกมาถนนเส้นเดินครับ  เดี๋ยวจะลงเดินเข้าไปแล้วต้องเดินกลับเหมือนเรา

อาคารนี้น่าจะเป็นสถานที่ราชการ  ดูตัวอาการเป็นเอกลักษณ์มากๆ  

พอเดินออกมาจากซอยเลี้ยวตามโค้งมาเรื่อยๆครับ  จะเป็นตึกอาคารเหลืองๆ ( ค่อนข้างซีดนิดนึง ) เรียกว่า Town Hall ครับ  ตอนนี้เราจะไปดูทะเลของปีนังกัน

ผ่านจากตึกสีเหลืองก็เป็น City Hall  อาคารสีขาวเป็นสถาปัตยกรรมแบบวิกตอเรีย

เราจะเห็นทะเลของปีนังแล้วครับพี่ท่าน  เดินตรงไปแล้วข้ามถนน เจอ  War memorial  ก่อน  ซึ่งสร้างเป็นอนุสรณ์แก่ทหารที่เสียชีวิตเมื่อสงคราม  หันไปทางด้านขวา  จะเจอเรือลำใหญ่มากกกกกก  จอดอยู่ครับ  


พักเดี๋ยวนึง  เท้าเริ่มทรุดเนื่องจากลืมพารองเท้าแตะมา  จะเดินทางไกลแบบนี้  แนะนำรองเท้าสบายเท้านะครับ  เดินไกล เลือกรองเท้าไม่เหมาะ  ทรมานกันไป  ความรักก็เช่นกัน  เอร้ยยย
เดี๋ยวมาต่อครับ.....
ชื่อสินค้า:   ฺBackpacker
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่