[CR] เทียวไปบ่นไป ตามประสา...คนไม่เตรียมตัว Kualar Lumpur - OSAKA - KYOTO - TAKAYAMA - SHIRAKAWAGO

กระทู้รีวิว

ภาพถ่ายทิวทัศน์ ภาพถ่าย บันทึกนักเดินทาง เที่ยวต่างประเทศ Backpack

ทริปนี้ถือว่าเป็นทริป Backpack ทริปแรกเลย...จะบอกให้ จริงๆก็มีประสบการณ์เที่ยวต่างแดนพอสมควร แต่ทั้งหมดทั้งมวลเป็นการเที่ยวกับบริษัทและก็ทัวร์พาไป ปีกกล้าขาแข็งแล้วจ้าาา กระเหี้ยนกระหือรืออยากจะเที่ยวเอง เป็นไงหล่ะ... ก็กะลังจะเล่าให้ฟังนี้แหละ
สายฝันทริปนี้ด้วยแอร์เอเชีย ใครๆก็บินได้ เราก็ต้องบินได้สิ เราเลือกไฟท์บินตรงจากกัวลาลัมเปอร์ ก็ไม่มีอะไรมากก็ผมอยู่หาดใหญ่ ไฟท์เดินทาง กัวลา-โอซาก้า ประมาณ ตี 1 เราเดินทางจากหาดใหญ่บ่ายๆ ไปถึงประมาณ 5 โมงเย็นมั้ง มันมีไฟล์เดียวต่อวัน แต่โอ้พระเจ้า...โชคเข้าข้างไฟท์เลื่อนเป็นบ่ายโมง ทำให้ไปถึงประมาณบ่ายสาม เลยมีเวลาเที่ยวกัวลาลัมเปอร์ เพิ่มอีกหลายอึดใจ ได้แชะภาพกับ Petronas twin tower และก็เดินเตร็ดเตร่หาไรกินกันจนเพลินปายย กระเป๋าอ่ะนะ ก็ลากไปด้วย - เข้าในเมืองไม่ยากครับ มีรถทัวร์ทุกชั่วโมง ไปกลับ 160 บาท นั่งประมาณชั่วโมงนึง อันนี้จากสนามบิน Klia2 นะครับ ถามๆเอาแถวๆนั้นแหละครับ หาไม่ยาก อย่าไปซีเรียส
(กระเป๋าลาก ควรจะหาแบบ 4 ล้อ อันนี้แนะนำ มันชิลกว่าเยอะ)

     ผมจองแอร์เอเชียเดือน ก.พ.57 เดินทาง ก.พ.58 ตอนจองไม่รู้หรอกว่าจะไปเที่ยวไหนบ้าง รู้แต่อยากไปดูหิมะแบบเต็มๆตาซักที
ฟินเวอออร์เพราะก่อนเดินทางประมาณ 1 เดือน ไฟท์กลับ Cancel ได้ต่ออายุเที่ยวอีก 1  วัน ทีแรกแอบเศร้าเพราะจองน้อยไป สรุปเราได้ตั๋ว 5 คืน 6 วัน มาแบบโชคเข้าข้าง ...คงจะทำบุญมาเยอะ จริงๆ

    จองตั๋วล่วงไว้นานมากกก ปีนึงเต็มๆ เหมือนจะมีเวลาเตรียมตัวเยอะ เปล่าเลยครับ ว่างๆ อ่านรีวิว คนโน้นที คนนี้ที อยากไปซะหมด แต่ไม่ได้จับประเด็น ทำทริปให้มันเป็นรูปเป็นร่างอะไรเลย ต่างคนงานยุ่งกันทั้งน้านนน นัดเจอกันวันเดินทาง ไปกันเลยคร๊าบบ ถึงแล้วค่อยว่ากัน ข้อมูลอยู่ในหัวทั้งนั้น หัวใครหัวมัน เอาแค่ว่าวันไหนจะอยู่เมืองไหน แค่นั้นพอ เพราะจะได้จองที่พักได้ กลัวจะไม่มีที่นอน เที่ยวไหนบ้างไม่รู้ รู้แต่ต้องกินอิ่ม หลับสบาย แค่นั้นก่อน
ที่พักทั้งหมด ผมจองผ่าน Booking.com ครับ จ่ายเงินปลายทาง พร้อมจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

DAY 1 : OSAKA one day มหากาพย์รถไฟฟ้า
      วันนี้ทัศนศึกษาดูงานกิจการรถไฟฟ้า ขนส่งมวลชน ประเทศญี่ปุ่น ฮะฮะ ยุ่งกับรถไฟฟ้าทั้งวัน
เรามาถึงประมาณ 8 โมงเช้า ผ่าน immigration มาก็ถือว่าปลดแอก เปลี่ยนเสื้อผ้ากัน อะไรหยิบง่ายๆก็ใส่ๆไปก่อน ตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นยังไง Information Counter เลยครับ help me please มีข้อมูลมาคร่าวๆ ว่ามีตั๋ววิเศษ วันเดียวเที่ยวได้ครบ จัดไปเลยครับ  OSAKA One Day Pass แต่ไม่ได้ซื้อตรง Information นะครับ เจ๊แกแนะนำให้เฉยๆ โน้น...ไปเลยครับ ชั้น 2 เดินออกประตูไปเลยครับทุกท่าน สถานีรถไฟฟ้า ผมซื้อแบบ  One Day Pass  เพราะนอนโอซาก้าคืนเดียว ต้องซื้อแบบรวมตั๋วจากสนามบินเข้าตัวเมืองด้วยนะครับ Package นี้ 2900 เยน/คน มาพร้อมคู่มือการเดินทางละเอียดยิบ ....รอดแล้ววันนี้  แล้วที่พักหล่ะอยู่ไหน 5555 go go go

       ที่พักของเราคืออออ Hotel Le Botejour Nanba Annex อยู่ใกล้สถานี  Namba มันดูง่านมากครับ เพราะเรามี แท่ม แท่ม แท้มมม One Day Pass เดินทะลุปรุโปร่งไปเลยครับ แต่ต้องเป็นเส้นทางของ Nankai นะครับ ที่นี่เค้ามีสัมปทานรถไฟฟ้าหลายสาย อันนี้ไม่รู้จัดสรรยังไงไม่แน่ใจ แต่เราซื้อสายไหนก็สายนั้นครับ รายละเอียดมันบอกอยู่แล้วครับว่า ใช้ร่วมกับอะไรได้บ้าง รักอยากจะ Backpack แค่นี้สบายๆ

"ทุกอย่างดูเหมือนง่ายๆชิลๆ" ความคิดนี้ได้จากไปเพียงแค่ก้าวท้าวลง ณ สถานี Namba นี่มันที่ไหนเนี่ย คนพวกนี้จะไปไหนกัน ทางแยกมีอยู่ Surround เอาแล้วครับ เจอรังแม่เลยครับ Hub รถไฟฟ้าทุกสายรวมอยู่นี้หมด Exit มีอยู่ประมาณ 30 Gate ยืนเอ่ออ เป็นบ้านนอกกกัน 4 คน แล้วไอ Hotel Le Botejour นี่มันออกทางไหน ทำไงหล่ะครับ ถามสิครับ ได้ความว่า Gate B27 ปัญหาต่อมาคือแล้วมันต้องเดินทางไหน พยายามหาป้ายนำ แต่มันเยอะไปหมดจิงๆ วนอยู่ในนี้ประมาณ 40 นาที บ้านผีสิงชัดๆ ทางออกที่ว่ามันอยู่ไหนหว่าาา คนดีผีคุ้ม ทำความดีไม่สูญเปล่า สวรรค์โปรดคุณลุงมาหนึ่งคน น่าจะผ่านแซยิดมาเรียบร้อยแล้ว ลุงน่ารักมากๆเดินนำไปเลยครับ เพราะอธิบายเราก็คงไม่รู้เรื่อง จนถึง Gate 27 เพื่อความชัวร์เช็คนายสถานีตรง gate อีกที ตาละปัด คลีพลิก...เสียงยังดังก้องว่าต้องเป็น Gate 15 เมื่อกี้เหมือนฝันหวานแล้วมีคนเอาน้ำมาราดหน้า เดินกลับสิคร๊าบบ รอใครล่ะครับ โผล่ขึ้นมาสัมผัสอากาศภายนอกเป็นครั้งแรก หลังจากที่ตรากตรำอยู่ในโลกใต้ภิภพ ที่ใหญ่ราวกับเอา Central Word ลงไปไว้ใต้ดินทั้งหลัง (บ่นมากไปมั๊ยหว่าาาา)

ยังไม่เจอหรอกครับ โรงแรม อันที่เจอคือนี่ glico ป้ายโฆษณาของ"เอเซกิกูลิโกะ" ที่กำลัง Hot Hit ทั้งนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นและก็ต่างชาติ เพราะไอที่ยืนถ่ายรูปกันอยู่นี่วัยรุ่นญี่ปุ่นทั้งน้านนน โผล่มาท่ามกลางย่าน Shopping Shinsaibashi ลากกระเป๋าหาที่พักต่อครับ ...สิ่งที่ตามหาอยู่หนใด มันซ่อนอยู่ที่ใด...หยุดๆ หาต่อสิครับ สรุป คือ มันอยู่ใกล้กลับ Gate 27 อยากจะเดินลงไปเคลียร์กับพี่นายสถานีคนนั้นจริงๆ แต่หมดแรงบะหมี่แอร์เอเชียแล้ว อยากได้ราเมงซักชาม
โรงแรมที่นี่จะให้ Check in บ่ายสอง และ Out ตอน 10 โมง แต่จะมีบริการฝากสัมภาระ ตัวปลิวแล้วครับ ไปเที่ยวกัน ณ เวลานี้เที่ยงแล้วครับพี่น้องชาวไทย

ที่แรกเลยครับ ปราสาทโอซาก้า พลาดได้ไง แค่ชื่อก็บ่งบอก Landmark แล้ว แต่เดินไม่ถึงซักที มัวแต่กินกันอยู่ตรงหน้าปราสาทนี่แหละ เหนื่อยๆหิวๆ แหลกได้หมดแหละครับ

ปลาหมึกที่นี่ เด้งดึ๋ง เด้งได้ เด้งในปาก ยิ่งเอาไปทำเป็นทาโกยากิ โอ้โฮ...อร่อยลืมครับ พี่น้องชาวไทย เข้าปราสาทกันได้ยังคร๊าบบบ

ด้านในปราสาทเป็นพิพิทภัณฑ์ เปิดให้เข้าชมได้มีค่าใช้จ่าย แต่เรามี Osaka one pass ผ่านได้เลยครับ รู้สึกมีค่า เดินตัวลอยๆ พี่น้องชาวญี่ปุ่นยังต้องเข้าคิวซื้อบัตร รู้สึกคุ้มค่าคุ้มราคาขึ้นมาทันทีทันใด จะบอกว่าขณะนี้ปาเข้าไปจะสี่โมงแล้วครับ พี่น้องเรายังคงเพลินกับปราสาท ลืมไปว่า มีสถานที่ใน Rout Map อีกประมาณ 20+++ กว่าจุด เลือกไม่ถูก ปล่อยผ่าน ทำลืมมไปดีกว่า จะเก็บให้หมดนี่ ต้องตื่นตั้งแต่ตี 5 มั้ง ว่าแล้วก็หามันเผากินแก้หนาว โอ้ โอ้ โอ้ววว นี่มัน...มันอะไร หวาน หอม แค่ใช้ลิ้นแตะก็ละลายแล้ว อร่อยจิง อะไรจริง ก็ใช่สิ!!! หัวนึง 480 Yen นี่มันกิน KFC ได้เป็นถังเลย

และในที่สุด Landmark ต่อไปที่ได้รับเกียรติ ต้อนรับคณะของเราคือ HEP FIVE ชิงช้าสวรรค์ ที่สร้างเป็นส่วนหนึ่งของห้าง HEP FIVE นั่งสายรถไฟฟ้ามาลงสถานี Umeda ไม่ต้องจำหรอกครับ Guide Map เค้าบรรยายไว้ละเอียดยิบ ทั้งการเดินทาง เวลาทำการ และก็เวลาโดยประมาณที่ต้องใช้เดินไปถึงสถานที่นั้นๆ มาถึง HEP FIVE เราก็แสดงบัตร Osaka One Day ...Pass ไปเลยครับ คิวก็ไม่ต้องรอ อัยย๊ะ มันดีจิงๆ แต่วันนี้คงได้ใช้แค่นี้แหละ เพราะได้เวลาไปหาร้านนั่งจิบเบียร์ Asahi แกล้มเนื้อย่าง ทำร่างกายให้อุ่นๆ ก่อนนอน จะว่าไปการทัศนศึกษาวันนี้...ก็ทำให้เข้าใจรถไฟฟ้าที่นี่มากขึ้นเยอะ