อ้างอิง
http://news.truelife.com/detail/3290416
----
สปช.เตรียมรื้อคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คดียักยอกทรัพย์ขึ้นมาใหม่พร้อมเชิญDSI-ปปง.สอบเส้นทางการเงิน
วันที่ 23 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัสอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม จะเดินทางเข้าพบนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนและให้ตรวจสอบมติมหาเถรสมาคม ที่ระบุว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่ต้องอาบัติปาราชิก
ส่วนเวลา 10.00 น. กำหนดเข้าพบ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ พร้อมฉันเพลที่รัฐสภา ส่วนช่วงบ่ายจะเข้าพบหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวานนี้เดินทางไปที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ ขอพบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อกราบถวายนมัสการ ถวายสังฆทาน และสอบถามกรณีมติของมหาเถรสมาคม ดังกล่าว โดยมีพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ออกมารับหนังสือแทน
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านสังคม กล่าวว่า วันนี้ จะหารือเรื่องการปาราชิกของธัมมชโย โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาสอบถามถึงการดำเนินคดีพระธัมมชโยกรณียักยอกทรัพย์สมัยรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น โดยจะให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพราะสมัยพันตำรวจโททักษิณ ได้มีการสั่งการให้อัยการยุติสอบในเรื่องนี้หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป โดยคณะกรรมการ จะให้ ปปง.สอบเส้นทางการเงิน
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า มติมหาเถรสมาคม ที่ระบุว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่ปาราชิก เพราะไม่ได้ฝ่าฝืนพระลิขิตสังฆราช และคืนทรัพย์สินให้วัดไปแล้วนั้น ถือเป็นมติที่จะต้องตรวจสอบ เพราะขัดและแย้งกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2542 ที่รับรองโดยมติของมหาเถรสมาคมเองว่าพระธัมมช ต้องอาบัติปาราชิก
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมหลายรูป ถูกร้องเรียนว่า มีลักษณะทับซ้อนกับการใช้ดุลยพินิจในเรื่องพระธัมมชโย โดยเฉพาะกรณี พระธัมมชโยคืนทรัพย์สินให้วัดหมดแล้ว ไม่มีเจตนาถือไว้ จึงไม่ต้องปาราชิก เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการเอาทรัพย์สินที่เป็นของวัดมาใส่ชื่อตัวเอง ต้องถือว่าขาดจากความเป็นพระแล้ว -
------------------
ลงรายการหนึ่งที่พูดถึงธรรมกายและธัมมชโย
###ข่าวดี...สปช.เตรียมรื้อคดีพระธัมมชโย ยักยอกทรัพย์ ขึ้นมาใหม่ ###
http://news.truelife.com/detail/3290416
----
สปช.เตรียมรื้อคดีพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย คดียักยอกทรัพย์ขึ้นมาใหม่พร้อมเชิญDSI-ปปง.สอบเส้นทางการเงิน
วันที่ 23 ก.พ.58 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้าวันนี้พระพุทธอิสระ เจ้าอาวาสวัสอ้อน้อย จังหวัดนครปฐม จะเดินทางเข้าพบนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปแนวทางและมาตรการปกป้องพิทักษ์กิจการพระพุทธศาสนา สภาปฏิรูปแห่งชาติ เพื่อร้องเรียนและให้ตรวจสอบมติมหาเถรสมาคม ที่ระบุว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่ต้องอาบัติปาราชิก
ส่วนเวลา 10.00 น. กำหนดเข้าพบ นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ พร้อมฉันเพลที่รัฐสภา ส่วนช่วงบ่ายจะเข้าพบหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี หลังจากเมื่อวานนี้เดินทางไปที่วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ ขอพบสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ในฐานะประธานคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เพื่อกราบถวายนมัสการ ถวายสังฆทาน และสอบถามกรณีมติของมหาเถรสมาคม ดังกล่าว โดยมีพระพรหมโมลี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ออกมารับหนังสือแทน
ขณะที่ นายสิระ เจนจาคะ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ ด้านสังคม กล่าวว่า วันนี้ จะหารือเรื่องการปาราชิกของธัมมชโย โดยได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) มาสอบถามถึงการดำเนินคดีพระธัมมชโยกรณียักยอกทรัพย์สมัยรัฐบาลพันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น โดยจะให้รื้อคดีขึ้นมาใหม่ เพราะสมัยพันตำรวจโททักษิณ ได้มีการสั่งการให้อัยการยุติสอบในเรื่องนี้หลังจากนั้นเรื่องก็เงียบหายไป โดยคณะกรรมการ จะให้ ปปง.สอบเส้นทางการเงิน
ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า มติมหาเถรสมาคม ที่ระบุว่า พระเทพญาณมหามุนี หรือพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ยังไม่ปาราชิก เพราะไม่ได้ฝ่าฝืนพระลิขิตสังฆราช และคืนทรัพย์สินให้วัดไปแล้วนั้น ถือเป็นมติที่จะต้องตรวจสอบ เพราะขัดและแย้งกับพระลิขิตของสมเด็จพระสังฆราช เมื่อปี 2542 ที่รับรองโดยมติของมหาเถรสมาคมเองว่าพระธัมมช ต้องอาบัติปาราชิก
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านพระผู้ใหญ่ในมหาเถรสมาคมหลายรูป ถูกร้องเรียนว่า มีลักษณะทับซ้อนกับการใช้ดุลยพินิจในเรื่องพระธัมมชโย โดยเฉพาะกรณี พระธัมมชโยคืนทรัพย์สินให้วัดหมดแล้ว ไม่มีเจตนาถือไว้ จึงไม่ต้องปาราชิก เป็นคนละเรื่องกัน เพราะการเอาทรัพย์สินที่เป็นของวัดมาใส่ชื่อตัวเอง ต้องถือว่าขาดจากความเป็นพระแล้ว -
------------------
ลงรายการหนึ่งที่พูดถึงธรรมกายและธัมมชโย