ผมเลิกกับผู้หญิงคนนึงครับ ยิ่งขอโทษ ขอร้องเขา เขาก็ยิ่งหาว่าผมเลว สันดารผู้ชาย ผมสงสัยไม่เข้าใจครับ อยากขอร้องเพื่อนๆ
ช่วยบอกทีครับว่าผมมีแนวคิดอะไรที่ผิด เรื่องยาวหน่อยนะครับ
เมื่อปลายปีที่แล้วผมคบกับผู้หญิงคนนึง ชื่อสาวAนะครับ พี่เขาอายุเยอะกว่าผมค่อนข้างมาก แต่ว่าครอบครัวผมค่อนข้างหัว
โบราณ คิดว่าท่านคงรับไม่ค่อยได้ อีกอย่างคือสาวAก็ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับผม เราไปดูหนัง เที่ยวด้วยกันอย่างมากสุดก็จับมือ
ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นครับ ก็เลยยังไม่ได้ไปเปิดตัวกับพ่อแม่ หรือว่าประกาศให้เพื่อนๆรู้ ซึ่งทางพี่เขาก็มีน้องสาวเขาที่รู้ ก็ยังไม่ได้
เปิดตัวกับคนอื่นๆเหมือนกัน
ผมมีแผนว่าจะซื้อรถตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็เกริ่นๆให้เขาช่วยสอนขับรถเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะตอนนั้นอาจพึ่งรู้จักกัน และช่วงปลายปี
เขามีงานเยอะครับก็ไม่ค่อยได้เจอกัน สาวAมักบ่นอยู่บ่อยๆว่า เขาต้องไปกับลูกของเจ้าของบริษัทที่จะมารับช่วงต่อจากพ่อ
ซึ่งต้องมาเรียนรู้งานกับผู้แทนหลายๆคน รู้จักลูกค้า ซึ่งบางครั้งก็ต้องไปกับสาวAด้วย ผมเลยถามว่าพี่เขาชื่ออะไร สาวAไม่บอกผมออก
แนวโกรธๆด้วย กล่าวหาว่าผมหึงเขา ซึ่งผมก็หึงบางส่วนแต่หลักๆผมแค่คิดว่าเขารู้จักใครถ้าไม่ก้าวก่ายเกินไปผมก็อยากทำความรู้จักด้วย
สุดท้ายก็จบที่เขาไม่ได้บอกชื่อลูกเจ้าของบริษัท ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร
ปัญหามันเริ่มจากมีเพื่อนผมจะแต่งงานปลายเดือนมกราคมปีนี้ แต่ผมยังไม่มีรถ จึงมีเพื่อนผมอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มครับ อาสาจะรับ
ไปส่งที่งานและเขากะจะแนะนำน้องคนนึงให้ผมทำความรู้จัก ชื่อสาวBนะครับ เนื่องจากยังไม่พร้อมเปิดตัวและก็กระทันหันผมจึงปฏิเสธ
ไปว่า"จะดีเหรอ ไม่เป็นไร" เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรลองคุยดูก่อนถ้าไม่โอเคก็ไม่เป็นไร ตอนนั้นผมเซ็งมากๆแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรใคร
จนกระทั้ง2-3วันก่อนวันแต่งงานเพื่อนบอกว่าน้องBเขาไม่มาแล้ว ผมนี่แอบดีใจมากก็บอกว่าไม่เป็นไร จึงนัดกับสาวAไปเลือกชุดไปงาน
แต่งกันลั้นล้ามากๆ จนสุดท้ายวันงานแต่งกำลังขึ้นแท็กซี่ไปที่นัดกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าน้องBมาด้วยนะ เงิบครับทำอะไรไม่ถูก
ในงานเพื่อนก็คอยให้ผมแทคแคร์น้องB อันนี้ผมไม่โทษอะไรเพื่อนเพราะเพื่อนคงหวังดีกับเราแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าผมมีคนคุยอยู่
ด้วยความเกรงใจเพื่อนผมเลยคุยไลน์กับน้องB ทุกๆครั้งที่คุยผมก็รู้สึกผิดมากขึ้นๆ หน้าของสาวAก็ลอยขึ้นมาเสมอ คุยไปได้ประมาณ
อาทิตย์พ่อแม่เขามากรุงเทพพอดี เพื่อนก็บอกว่าให้ไปหาพ่อแม่เขาด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่มาก็เลยต้องไปหา พอเจอผู้ใหญ่เหมือนยิ่ง
ผูกมัด ซึ่งพอดีสาวAก็สงสัยเพราะผมไม่ได้ตอบไลน์เหมือนมีเซ็นต์ก็งอนอยู่พักหนึ่งก็เคลียร์กันไปได้ ระหว่างนั้นก็คุยกันน้องB ความรุ้สึก
ผิดก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนผมทนแทบไม่ไหวแต่ไม่รู้ความเกรงใจหรืออะไรผมก็ไม่กล้าปฏิเสธน้องเขา แต่ที่แน่ๆผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องBเลย
ไม่อยากไปหา ไม่คิดถึงจนสุดท้ายผ่านไปอีกอาทิตย์ผมก็นัดกับสาวAไปกินไรกัน แล้วก็ขอให้เขาสอนขับรถเขาก็ตกลง จนสุดท้ายด้วย
ความที่ผมทนทำสิ่งที่ผิดต่อไปไม่ไหวก็เลยบอกสาวAเรื่องสาวB คิดว่าจะขอกำลังใจคำปรึกษาเพื่อไปปฏิเสธน้องBแล้วคิดว่าถ้าเราเปิดตัว
ซะคราวนี้จะได้ไม่มีใครมาแนะนำใครอีก สาวAก็แนะนำประมาณว่าบางทีก็ต้องกล้าปฏิเสธ จนกระทั้งกลับบ้านแยกย้ายผมก็แวะห้างอีกกะ
จะไปหาซื้อขนทไปฝากแม่ ก็ไปเจอเสื้อผ้าแบบที่เป็นเสื้อคู่ก็เลยไปดูขนาดเสื้อแต่สาวAตัวเล็กเสื้อก็มีเล็กสุดขนาดMก็เลยโทรไปหา
สาวAว่าจะใส่ได้ป่าว แต่ว่าสาวAก็บล็อคเบอร์ผมแล้ว(จริงๆพึ่งมารู้ทีหลังว่าบล็อคเบอร์)
สาวAคิดว่าผมชวนไปเลือกเสื้อเพื่อไปหาน้องBโดยเฉพาะ และผมขอให้สาวAสอนขับรถเพื่อจะไปหาสาวBได้ และไม่เชื่อว่าคุยกับสาวB
เพราะความเกรงใจสาวAบอกว่าถ้ามีแต่คนที่เขาชอบกันเขาถึงจะคุยกันเท่านั้นแหละ ผมก็มาคิดได้ว่าเราควรเกรงใจหรือแคร์คนที่เรารัก
ซิจะไปเกรงใจคนอื่นทำไม ก็เลยบอกสาวAไปว่าผมผิดเองที่ไปเกรงใจคนอื่น ทั้งๆที่ควรเกรงใจสาวAที่สุด ถึงแม้ว่าสาวAจะไม่ให้อภัยผม
ก็จะไปปฏิเสธสาวBนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เรื่องผิดพลาดมันเกิดขึ้นไปแล้วมันคงย้อนไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ผมเรียนรู้ความ
ผิดพลาด แล้วจะไม่ทำอีก อยากให้สาวAให้อภัย แต่สาวAก็ไม่ให้อภัย
ผมเลยส่งเสื้อคู่อีกตัวที่เป็นของผู้หญิงไปทางไปรษณีย์พร้อมเขียนจดหมายขอโทษไปเขียนข้อความประมาณที่เล่าไปข้างบน ว่าไปซื้อ
เสื้อให้แล้วก็ขอโทษบอกว่าผมผิดเอง แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้นอกกายนอกใจสาวA เป็นเพราะความเกรงใจเพื่อนๆ พ่อแม่ฝ่ายน้องB ระหว่าง
ที่คุยกับน้องBก็รู้สึกผิดตลอดถึงได้เล่าให้สาวAฟัง และก็บอกว่าปฏิเสธน้องBไปแล้วเพราะว่าผมรักสาวAจนไม่สามารถปันใจให้ใครได้
ผมบอกว่าผมผิด ผมขอโทษแต่ผมเรียนรู้และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก (ข้อความประมาณนี้)
สุดท้ายสาวAส่งข้อความกลับมาว่าอ่านที่ผมส่งผัสดุแล้ว ผมเลวมาก สันดารผู้ชาย แล้วเขาก็บอกว่าเขาไปคบกับลูกเจ้าของบริษัทแล้ว
???!!!?
ผมพอเข้าใจถ้าสาวAจะเลิกกับผมเพราะ ผมไปคุยกับคนอื่นไม่ว่าสาเหตุอะไรก็ตาม แต่หลังส่งพัสดุพร้อมกับจดหมายเขียนข้อความไป
ขอโทษดังที่กล่าวไว้ทำไมเขายิ่งเกลียดผม ถ่อยคำที่สาวAส่งกลับมามันรุนแรงมากๆ แบบไม่เผาผี แถมไม่ถึงอาทิตย์ที่ผมบอกเรื่อง
น้องBก็ไปคบกับลูกเจ้าของบริษัทแล้ว ??? มันคาใจผมมากๆครับ ถึงสาวAจะไม่ให้อภัยผม แต่ผมผิดผมพร้อมปรับปรุงตัวแต่ผมพูดอะไร
ผิดครับเรื่องถึงดูแย่ลง อย่างน้อยผมก็อยากรู้ว่าผมยิ่งพูดแล้วดูยิ่งแย่ยังไง ที่ผมพูดมายิ่งทำให้ผมดูเห็นแก่ตัวยังไง อย่างน้อยจะเลิกกัน
ให้ความฉลาดผมตอบแทนมาก็ยังดี ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้โดยสันดาร ผมรู้จะได้ไม่ทำอะไรพูดอะไรทำนองนี้อีก
ขอบคุณที่อ่านครับ ถ้าไม่รบกวนเวลาช่วยอธิบายทีว่าผมทำไมยิ่งพูดยิ่งดูเลว
ผมเลิกกับผู้หญิงคนนึงครับ ยิ่งขอโทษ ขอร้องเขา เขาก็ยิ่งหาว่าผมเลว ผมพูดอะไรผิดครับ ช่วยวิเคราะห์ทีครับ
ช่วยบอกทีครับว่าผมมีแนวคิดอะไรที่ผิด เรื่องยาวหน่อยนะครับ
เมื่อปลายปีที่แล้วผมคบกับผู้หญิงคนนึง ชื่อสาวAนะครับ พี่เขาอายุเยอะกว่าผมค่อนข้างมาก แต่ว่าครอบครัวผมค่อนข้างหัว
โบราณ คิดว่าท่านคงรับไม่ค่อยได้ อีกอย่างคือสาวAก็ยังไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกับผม เราไปดูหนัง เที่ยวด้วยกันอย่างมากสุดก็จับมือ
ไม่มีอะไรไปมากกว่านั้นครับ ก็เลยยังไม่ได้ไปเปิดตัวกับพ่อแม่ หรือว่าประกาศให้เพื่อนๆรู้ ซึ่งทางพี่เขาก็มีน้องสาวเขาที่รู้ ก็ยังไม่ได้
เปิดตัวกับคนอื่นๆเหมือนกัน
ผมมีแผนว่าจะซื้อรถตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็เกริ่นๆให้เขาช่วยสอนขับรถเขาก็ไม่ได้ตอบอะไรเพราะตอนนั้นอาจพึ่งรู้จักกัน และช่วงปลายปี
เขามีงานเยอะครับก็ไม่ค่อยได้เจอกัน สาวAมักบ่นอยู่บ่อยๆว่า เขาต้องไปกับลูกของเจ้าของบริษัทที่จะมารับช่วงต่อจากพ่อ
ซึ่งต้องมาเรียนรู้งานกับผู้แทนหลายๆคน รู้จักลูกค้า ซึ่งบางครั้งก็ต้องไปกับสาวAด้วย ผมเลยถามว่าพี่เขาชื่ออะไร สาวAไม่บอกผมออก
แนวโกรธๆด้วย กล่าวหาว่าผมหึงเขา ซึ่งผมก็หึงบางส่วนแต่หลักๆผมแค่คิดว่าเขารู้จักใครถ้าไม่ก้าวก่ายเกินไปผมก็อยากทำความรู้จักด้วย
สุดท้ายก็จบที่เขาไม่ได้บอกชื่อลูกเจ้าของบริษัท ผมก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร
ปัญหามันเริ่มจากมีเพื่อนผมจะแต่งงานปลายเดือนมกราคมปีนี้ แต่ผมยังไม่มีรถ จึงมีเพื่อนผมอีกคนหนึ่งเป็นเพื่อนในกลุ่มครับ อาสาจะรับ
ไปส่งที่งานและเขากะจะแนะนำน้องคนนึงให้ผมทำความรู้จัก ชื่อสาวBนะครับ เนื่องจากยังไม่พร้อมเปิดตัวและก็กระทันหันผมจึงปฏิเสธ
ไปว่า"จะดีเหรอ ไม่เป็นไร" เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไรลองคุยดูก่อนถ้าไม่โอเคก็ไม่เป็นไร ตอนนั้นผมเซ็งมากๆแต่ก็ไม่ได้บอกอะไรใคร
จนกระทั้ง2-3วันก่อนวันแต่งงานเพื่อนบอกว่าน้องBเขาไม่มาแล้ว ผมนี่แอบดีใจมากก็บอกว่าไม่เป็นไร จึงนัดกับสาวAไปเลือกชุดไปงาน
แต่งกันลั้นล้ามากๆ จนสุดท้ายวันงานแต่งกำลังขึ้นแท็กซี่ไปที่นัดกับเพื่อน เพื่อนก็บอกว่าน้องBมาด้วยนะ เงิบครับทำอะไรไม่ถูก
ในงานเพื่อนก็คอยให้ผมแทคแคร์น้องB อันนี้ผมไม่โทษอะไรเพื่อนเพราะเพื่อนคงหวังดีกับเราแล้วเขาก็ไม่รู้ว่าผมมีคนคุยอยู่
ด้วยความเกรงใจเพื่อนผมเลยคุยไลน์กับน้องB ทุกๆครั้งที่คุยผมก็รู้สึกผิดมากขึ้นๆ หน้าของสาวAก็ลอยขึ้นมาเสมอ คุยไปได้ประมาณ
อาทิตย์พ่อแม่เขามากรุงเทพพอดี เพื่อนก็บอกว่าให้ไปหาพ่อแม่เขาด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่มาก็เลยต้องไปหา พอเจอผู้ใหญ่เหมือนยิ่ง
ผูกมัด ซึ่งพอดีสาวAก็สงสัยเพราะผมไม่ได้ตอบไลน์เหมือนมีเซ็นต์ก็งอนอยู่พักหนึ่งก็เคลียร์กันไปได้ ระหว่างนั้นก็คุยกันน้องB ความรุ้สึก
ผิดก็มากขึ้นเรื่อยๆ จนผมทนแทบไม่ไหวแต่ไม่รู้ความเกรงใจหรืออะไรผมก็ไม่กล้าปฏิเสธน้องเขา แต่ที่แน่ๆผมไม่ได้คิดอะไรกับน้องBเลย
ไม่อยากไปหา ไม่คิดถึงจนสุดท้ายผ่านไปอีกอาทิตย์ผมก็นัดกับสาวAไปกินไรกัน แล้วก็ขอให้เขาสอนขับรถเขาก็ตกลง จนสุดท้ายด้วย
ความที่ผมทนทำสิ่งที่ผิดต่อไปไม่ไหวก็เลยบอกสาวAเรื่องสาวB คิดว่าจะขอกำลังใจคำปรึกษาเพื่อไปปฏิเสธน้องBแล้วคิดว่าถ้าเราเปิดตัว
ซะคราวนี้จะได้ไม่มีใครมาแนะนำใครอีก สาวAก็แนะนำประมาณว่าบางทีก็ต้องกล้าปฏิเสธ จนกระทั้งกลับบ้านแยกย้ายผมก็แวะห้างอีกกะ
จะไปหาซื้อขนทไปฝากแม่ ก็ไปเจอเสื้อผ้าแบบที่เป็นเสื้อคู่ก็เลยไปดูขนาดเสื้อแต่สาวAตัวเล็กเสื้อก็มีเล็กสุดขนาดMก็เลยโทรไปหา
สาวAว่าจะใส่ได้ป่าว แต่ว่าสาวAก็บล็อคเบอร์ผมแล้ว(จริงๆพึ่งมารู้ทีหลังว่าบล็อคเบอร์)
สาวAคิดว่าผมชวนไปเลือกเสื้อเพื่อไปหาน้องBโดยเฉพาะ และผมขอให้สาวAสอนขับรถเพื่อจะไปหาสาวBได้ และไม่เชื่อว่าคุยกับสาวB
เพราะความเกรงใจสาวAบอกว่าถ้ามีแต่คนที่เขาชอบกันเขาถึงจะคุยกันเท่านั้นแหละ ผมก็มาคิดได้ว่าเราควรเกรงใจหรือแคร์คนที่เรารัก
ซิจะไปเกรงใจคนอื่นทำไม ก็เลยบอกสาวAไปว่าผมผิดเองที่ไปเกรงใจคนอื่น ทั้งๆที่ควรเกรงใจสาวAที่สุด ถึงแม้ว่าสาวAจะไม่ให้อภัยผม
ก็จะไปปฏิเสธสาวBนั้นคือสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่ผมจะทำได้ เรื่องผิดพลาดมันเกิดขึ้นไปแล้วมันคงย้อนไปแก้ไขอะไรไม่ได้ ผมเรียนรู้ความ
ผิดพลาด แล้วจะไม่ทำอีก อยากให้สาวAให้อภัย แต่สาวAก็ไม่ให้อภัย
ผมเลยส่งเสื้อคู่อีกตัวที่เป็นของผู้หญิงไปทางไปรษณีย์พร้อมเขียนจดหมายขอโทษไปเขียนข้อความประมาณที่เล่าไปข้างบน ว่าไปซื้อ
เสื้อให้แล้วก็ขอโทษบอกว่าผมผิดเอง แต่ก็ยืนยันว่าไม่ได้นอกกายนอกใจสาวA เป็นเพราะความเกรงใจเพื่อนๆ พ่อแม่ฝ่ายน้องB ระหว่าง
ที่คุยกับน้องBก็รู้สึกผิดตลอดถึงได้เล่าให้สาวAฟัง และก็บอกว่าปฏิเสธน้องBไปแล้วเพราะว่าผมรักสาวAจนไม่สามารถปันใจให้ใครได้
ผมบอกว่าผมผิด ผมขอโทษแต่ผมเรียนรู้และจะไม่ให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก (ข้อความประมาณนี้)
สุดท้ายสาวAส่งข้อความกลับมาว่าอ่านที่ผมส่งผัสดุแล้ว ผมเลวมาก สันดารผู้ชาย แล้วเขาก็บอกว่าเขาไปคบกับลูกเจ้าของบริษัทแล้ว
???!!!?
ผมพอเข้าใจถ้าสาวAจะเลิกกับผมเพราะ ผมไปคุยกับคนอื่นไม่ว่าสาเหตุอะไรก็ตาม แต่หลังส่งพัสดุพร้อมกับจดหมายเขียนข้อความไป
ขอโทษดังที่กล่าวไว้ทำไมเขายิ่งเกลียดผม ถ่อยคำที่สาวAส่งกลับมามันรุนแรงมากๆ แบบไม่เผาผี แถมไม่ถึงอาทิตย์ที่ผมบอกเรื่อง
น้องBก็ไปคบกับลูกเจ้าของบริษัทแล้ว ??? มันคาใจผมมากๆครับ ถึงสาวAจะไม่ให้อภัยผม แต่ผมผิดผมพร้อมปรับปรุงตัวแต่ผมพูดอะไร
ผิดครับเรื่องถึงดูแย่ลง อย่างน้อยผมก็อยากรู้ว่าผมยิ่งพูดแล้วดูยิ่งแย่ยังไง ที่ผมพูดมายิ่งทำให้ผมดูเห็นแก่ตัวยังไง อย่างน้อยจะเลิกกัน
ให้ความฉลาดผมตอบแทนมาก็ยังดี ผมไม่ใช่คนเจ้าชู้โดยสันดาร ผมรู้จะได้ไม่ทำอะไรพูดอะไรทำนองนี้อีก
ขอบคุณที่อ่านครับ ถ้าไม่รบกวนเวลาช่วยอธิบายทีว่าผมทำไมยิ่งพูดยิ่งดูเลว