ทำไมสังคมไทยสอนลูก-หลาน ให้ใช้คำว่า ‘ไม่เป็นไร’ เพื่อซ่อนความอดทนเกินความจำเป็น ทั้งๆที่มัน 'เป็นไร' ?

คำว่า “ไม่เป็นไร” ในสังคมไทย ดูเหมือนจะเป็นคำพูดง่าย ๆ ที่แสดงถึงความใจดี ความอ่อนโยน และความเกรงใจต่อกัน

คนไทยมักใช้คำนี้เพื่อป้องกันความขัดแย้ง ลดความตึงเครียด หรือแสดงน้ำใจ เช่น เวลามีใครทำผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ

แล้วอีกฝ่ายตอบกลับว่า “ไม่เป็นไร” ก็เหมือนการให้อภัยโดยไม่ถือสา แต่ในขณะเดียวกัน คำนี้ยังเป็นเกราะที่ใช้ซ่อนความรู้สึกจริง ๆ ของตัวเองไว้

เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลาย หรือไม่อยากให้ใครเดือดร้อน แม้ในใจอาจจะรู้สึกเสียใจ ผิดหวัง หรือเจ็บปวดก็ตาม

เมื่อมองลึกลงไป “ไม่เป็นไร” จึงไม่ใช่แค่คำปลอบใจ แต่ยังสะท้อนวัฒนธรรมไทยที่ให้ความสำคัญกับการรักษาหน้าตา ความสงบเรียบร้อย

และความกลมเกลียวของสังคม บางครั้งคำนี้กลายเป็นดาบสองคม ที่ทำให้คนไทยอดทนเกินไป ไม่กล้าพูดในสิ่งที่ควรพูด

ไม่กล้าเรียกร้องในสิ่งที่ควรได้รับ หรือเก็บซ่อนความไม่พอใจไว้จนกลายเป็นความอัดอั้นเรื้อรัง คำว่า “ไม่เป็นไร”

จึงเป็นทั้งสัญลักษณ์ของความอ่อนโยนและความเข้มแข็ง แต่ก็สะท้อนถึงช่องโหว่ในการสื่อสารและการเข้าใจความรู้สึกของกันและกันในสังคมไทย

เราควรสอนลูกหลาน ยกเลิกการใช้คำว่า 'ไม่เป็นไร'  ดีไหม ? หรือควรหมดยุคของการต้องเก็บซ่อนความรู้สึกส่วนลึกที่แท้จริงได้แล้ว ....

สอนให้คนไทย..."กล้าพูด" ในความรู้สึกของตัวเองจริงๆจากข้างใน ....คุณคิดว่าไง..และเปลี่ยนกัน .....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่