VoiceTV: รัฐบาลลาว ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำราว 50% ดูดแรงงานจากไทยกลับบ้าน ดึงเงินลงทุน, อีก 3 ปีไทยต้องการแรงงานเพิ่ม 3.2 ล้าน


เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานของประเทศลาวเผย รัฐบาลเตรียมขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำเกือบ 50%  โดยอาจประกาศในเดือนมีนาคม หวังดึงดูดคนงานชาวลาวกลับจากประเทศไทย

ในวันพฤหัสบดี เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ เดอะ เนชั่น รายงานอ้างหนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ไทมส์ ระบุว่า กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมของประเทศลาว กำลังรอเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรจากทางทำเนียบรัฐบาล ที่จะประกาศขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ

ปัจจุบัน ค่าจ้างขั้นต่ำรายเดือนของลาว อยู่ที่ 626,000 กีบ หรือ 2,505 บาท อัตราใหม่จะปรับขึ้นเป็น 900,000 กีบ หรือ 3,601 บาท

เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานของลาว เปิดเผยว่า การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจประกาศเป็นทางการหลังเดือนกุมภาพันธ์ รัฐบาลลาวได้รับปากกับสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 22 ธันวาคมว่าจะขึ้นค่าแรงในเร็วๆนี้

การขึ้นค่าแรงดังกล่าวเป็นมาตรการหลัก ที่จะใช้ดึงดูดใจแรงงานชาวลาวที่โยกย้ายไปทำงานในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งส่วนใหญ่เดินทางมายังไทย ให้กลับคืนสู่บ้านเกิด

อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ของกระทรวงแรงงานบางคน ซึ่งเจ้าตัวไม่ประสงค์ระบุนาม บอกว่า ค่าแรงเดือนละ 626,000 กีบ ยังไม่มากพอ ทั้งนี้ รัฐบาลจำเป็นต้องใช้ต้นทุนแรงงานเป็นปัจจัยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ

ตามรายงานของกระทรวงแรงงานของลาว ชาวลาวที่ทำงานอย่างถูกกฎหมายในประเทศไทยมีจำนวน 59,000 คน แต่กระทรวงแรงงานของไทยประเมินว่า ชาวลาวที่ทำงานโดยผิดกฎหมายอยู่ในประเทศไทยมีประมาณ 200,000 คน.

ที่มา: The Nation ผ่าน VoiceTV



สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม คาดการณ์ว่า ในอีก 3 ปีนับจากนี้ ประเทศไทยอาจต้องการแรงงานเพิ่มอีกกว่า 3 ล้านคน

สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ประเมินว่าในช่วงปี 2558 ถึง 2560 หากเศรษฐกิจไทยโตร้อยละ 4 ภาคอุตสาหกรรมไทยใน 5 อุตสาหกรรมหลัก จะมีความต้องการแรงงานรวมกันมากถึง 3 ล้าน 2 แสน 6 หมื่น 8 พันคน ขณะที่ประเทศไทย กำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงจำเป็นต้องอาศัยแรงงานต่างชาติเข้ามาช่วยเสริม

สำหรับในระยะสั้น ประเทศไทยจำเป็นต้องมีการฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพทักษะฝีมือแรงงานก่อนเข้าทำงาน ส่วนระยะกลางถึงระยะยาว ต้องเพิ่มประสิทธิภาพหรือความสามารถของแรงงาน อีกทั้งควรจัดทำยุทธศาสตร์การผลิตและพัฒนากำลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่ชัดเจน

ที่มา - VoiceTV 21 (มีคลิปข่าว)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่