16/01/2015 จากมาเก๊าสู่ฮ่องกง
เราตื่นตั้งแต่ตีสี่ เนื่องจากนอนไม่หลับ เพราะความตื่นเต้น
หลังจากตื่นนอนเราก็เก็บข้าวของ และอาบน้ำ แต่งตัว
ประมาณ 8โมง
ก็ลงมาทานอาหารเช้าฟรี ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้

หลังทานอาหารเสร็จเราก็ทำการcheck out แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมเพื่อจะเที่ยวที่ต่างๆในมาเก๊า ที่เรายังไม่ได้ไปก่อนที่จะข้ามไปฝั่งฮ่องกง
สถานที่แรกที่เราไปในวันนี้คือ '
Grand lisbaoคาสิโน'
โดยที่เราเริ่มเดินทางจากโรงแรม ไปยังsenadoquare เพื่อผ่านไปยัง
Grand lisbaoคาสิโน
(เราไม่สามารถให้รายละเอียดการเดินทางไปยังGrand lisbaoคาสิโนได้นะคะ ขอโทษด้วยค่ะเพราะเราก็เดินไปเรื่อยๆตามการสังเกตของเราแล้วก็เจอเอง)

ภายใน

ของทุกชิ้นที่จัดแสดงอลังการงานสร้างมากเลยทีเดียวคะ แสบตากันไปปปปป

เดินถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะไปยัง
Wyn casinoต่อโดยเดินออกจาก
Grand lisbaoคาสิโนเดินผ่านป้ายรถเมลล์หน้าคาสิโนจะเห็นทางลอดใต้ดินเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง
เจอมาเก๊าทาวเวอร์อีกแล้วขออีกสักแชะ

และแล้วก็เจอ'
Wyn casino' โดยส่วนด้านหน้าคาสิโนจะเป็นน้ำพุ

แล้วเราก็เดินเข้าไปด้านใน
เราเดินเล่นไปมาซักพักก็กะว่าจะถามทางเพื่อไปชมการแสดงต้นไม้แห่งความสุข
แต่
ก่อนที่จะพบกับความสุข…….
กระเป๋าตังค์เราดันหาย


(ความทุกข์เข้ามาเยือนเลยทันที!!!!

ซวยแทบจะตลอดทริปหลงไม่พอมาซวยอีก โอ้ละหนอ ชีวิตเด็กดอย

)
ตอนนั้นลนลานมากแต่พยายามรวบรวมสติพยายามคิดว่าเราลืมไว้ที่ไหน ก่อนหน้านั้นเราไปไหนมา ซึ่งก่อนที่เราจะมา
Wyn casinoเราได้เข้าห้องน้ำที่
Grand lisbaoคาสิโนก่อนมาที่นี้ เราเลยตัดสินใจข้ามกลับไปฝั่งเดิม เพื่อไปยัง
Grand lisbaoคาสิโน
(แทบจะวิ่งด้วยความเร็วแสงเลยทีเดียว เหนื่อยสุดๆ

)
พอถึง
Grand lisbaoคาสิโนปุ๊บเราก็ตรงไปยังห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
แต่!ปรากฏว่ากระเป๋าตังค์ของเราไม่อยู่ซะแล้ว
เราเลยเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อขอความช่วยเหลือจากพนักงาน
ซึ่งหน้าห้องน้ำจะมีโซนคาเฟ่เล็กๆบริการอยู่ พอเราบอกว่ากระเป๋าตังค์เราหาย
พนักงานก็บอกเราว่าทางคาสิโนได้เก็บไว้ให้แล้ว ใจเย็นๆ ตอนนี้เรายังทำการส่งคืนให้ไม่ได้ต้องทำการตรวจสอบก่อน
ให้บอกครอบครัว หรือเพื่อนที่มาด้วยว่าไม่ต้องกังวล แต่เด็กดอยอย่างเราที่ฉายเดี่ยวมาเพียงผู้เดียวก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรเรามาคนเดียว
พนักงานเลยเชิญให้เรานั่งที่โต๊ะด้านหน้าเพื่อรอเจ้าหน้าที่ของทางคาสิโนก่อน
บอกเลยว่า ณ จุดนั้น สำหรับคำว่า Thank you นิยังน้อยไป ถ้าเราคำนับได้นี่เราทำไปแล้ว แทบจะก้มกราบทีเดียวอารมณ์ตอนนั้น
(ประนึงกระเป๋าตังค์พกเงินเป็นร้อยล้าน ความเวอร์ไม่เคยปราณีใครเลยจริงๆ

)
เรานั่งรอไปสักพักก็เจอเจ้าหน้าที่ของทางคาสิโน เค้าก็ให้เราเขียนชื่อบนบัตรประชาชน
แล้วก็สอบถามนิดหน่อยว่าในกระเป๋าตังค์เรามีอะไรบ้าง เราก็ตอบๆไป เสร็จแล้วเค้าก็คืนกระเป๋าตังค์ให้เรา
แล้วบอกให้เราก็ไว้ในกระเป๋าสพายซะ ระวังจะโดนฉก ประมาณนี้ เราก็ขอบคุณเค้าไป
จากนั้นก็ตัดสินใจไปเที่ยวที่
Fisherman wharf ต่อโดยนั่งรถเมลล์สาย3A หน้า
Grand lisbaoคาสิโน
นั่งไปจนสุดสายแล้วต่อรถเมลล์สาย10A ไปลงที่วัดอาม่าก่อน

พอเข้าไปไหว้พระในวัดอาม่าเสร็จ เราก็รอรถเมลล์สาย10A
เพื่อที่จะไป
Fisherman wharf แต่รถเมลล์สาย10Aก็ไม่มาสักที
เราเลยตัดสินใจเรียกtaxi เพื่อที่จะไป
Fisherman wharf แทน
ค่าเสียหายปรมาณ 37 ดอลล่าฮ่องกง
เข้ามาชมด้านในกันเลยค่ะ

โคลอสเซียมจำลอง

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็น
Sand casino

พอเดินถ่ายรูปรอบๆ สักพัก เราก็นั่งรถเมลล์สาย 10A ไปยั
งWyn Casino เพื่อไปชมการแสดงต้นไม้แห่งความสุขต่อ
ขานั่งรถกลับแอบผ่านเจ้าแม่กวนอิม

ถึง
Wyn Casinoแล้วเราก็สอบถามพนักงานในนั้นว่าเราจะชมการแสดงต้องไปยังไง
เค้าก็แนะนำว่าสามารถผ่านส่วนของคาสิโนไปได้แต่ต้องอายุยี่สิบ คุณอายุยี่สิบหรือยัง? เราก็ตอบกลับไปว่าเราอายุยี่สิบแล้ว
ก่อนถึงส่วนของคาสิโนจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ด้านหน้าเพื่อตรวจพาสปอร์ตของเรา ตอนนั้นเราก็ทำหน้านิ่งๆท่าทางมั่นใจๆหน่อยเดินเข้าไปเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร และก็ไม่ได้ตรวจพาสปอร์ตของเราด้วย (งงๆดีเหมือนกัน บทจะผ่านก็ผ่านได้ง่ายๆเลย

)
พอผ่านส่วนของคาสิโนมาได้เราก็จะเจอกับเจ้านี้

การแสดงโชว์จะเริ่มทุกๆสามสิบนาที
พอการแสดงจบเราก็เดินทางกลับโรงแรมเพื่อเอากระเป๋า แล้วนั่งรถเมลล์สาย26 เพื่อไปยังท่าเรือ
Taipa Macau Ferry
ปล. เรานั่งเรือของCotaijet เพราะว่าเราพักที่ฝั่งฮ่องกง
พอถึงท่าเรือเราก็ไปยื่นตั๋วเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงแล้วเลือกเวลาที่จะเดินทาง โดยรอบที่เราเลือกคือรอบ 16.30 น.

แล้วก็ถึงเวลาขึ้นเรือ

ประมาณหกโมงเราก็มาถึงฝั่งHongkokใกล้กับMRTของ
สถานีSheung wan
เราก็ไปเอากระเป๋าที่เก็บไว้ด้านหน้า แล้วตามคนอื่นๆไปเพื่อที่จะไปยังตม.สุดโหดดดดดดดดดของที่นี้
โหดไม่โหดยังไงเดี๋ยวตามมาดูกัน…..
พอถึงด่านตม.เราก็ทำการกรอกใบผ่านเข้าเมือง แล้วไปต่อแถวเอาไปยื่นพร้อมพาสปอร์ตของเรา
แต่!! เดี๋ยวก่อน
ชีวิตเด็กดอยก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น (อีกแล้วววว

)
เจ้าหน้าที่ : คุณมาที่นี้ครั้งแรกเหรอ?
เรา : ใช่ครั้งแรก
เจ้าหน้าที่ : มาคนเดียว?
เรา : ใช่มาคนเดียว
พอตอบมาคนเดียวเสร็จเท่านั้นแหละ! หายะนะมาเยือนเลยทันที. . . . .

ตอนนั้นเรารู้เลยว่าเค้าไม่ให้เราผ่านเข้าไปแน่ๆ เนื่องจากเค้ายื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆตรงนั้น
แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็พาเราไปรออยู่อีกห้องหนึ่ง
ตอนรออยู่ที่ห้องแยกนี้เราก็รื้อข้อมูลที่เราเตรียมมาจากกระเป๋าเดินทางเพื่อจะใช้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่
สักพักเจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสั้นท่าทางใจดีหน่อยก็เรียกเราเข้าไปในห้องสอบสวน
พอเข้าไปห้องสอบสวนแล้วก็เริ่มบทสนทนากับเรา
เจ้าหน้าที่ : คุณมีแพลนที่จะไปที่ไหนไหม?
เรา : มีแต่มันเป็นภาษาไทยนะ (แล้วเราก็ยื่นแผนที่ทั้งหมดกับแพลนทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ไป
เจ้าหน้าที่อ่านไปซักพัก
เจ้าหน้าที่ : คุณจะไปดิสนีย์แลนด์เหรอ (พอดีในแพลนของเรา เราปริ๊นรูปติดไปด้วย)
เรา : ใช่ แล้วฉันก็มีตั๋วขากลับประเทศไทยด้วยนะคุณจะดูไหม? (แล้วเราก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู)
เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลสักพักแล้วถามเราว่า
เจ้าหน้าที่ : คุณมีเงินเท่าไร
เรา : ประมาณเก้าร้อยดอลล่าฮ่องกง แล้วฉันก็มีVisa cardด้วยนะ(หยิบให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยความเร็ว)
พอหมดคำถามที่เค้าจะถามเราแล้ว เราก็ถูกปล่อยตัวคะเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปยื่นพาสปอร์ตซ้ำแล้วก็ผ่านด่านไป
ปล. ตอนที่อยู่ในห้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ใจดีมากค่ะ ไม่ได้ตะคอกอะไร ถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร แล้วก็สุภาพกับเรามากๆ

จากนั้นเราก็ออกไปตามป้าย เพื่อลงไปยังMRT
สถานีSheung wan
ก่อนอื่นเราก็ไปใช้บริการMTR Single-journey ticket machineเพื่อซื้อตั๋วแบบSingle Pass ไปยัง
สถานีFotress hill
หน้าตาตู้ก็จะเป็นแบบนี้ มีภาษาอังกฤษบอกไว้ชัดเจน ใช้งานง่ายค่ะ

(อ้างอิงจากhttp://www.hongkongextras.com/trainservices.html)
แต่ถ้าบางท่านต้องการOctopus card สามารถซื้อได้กับเจ้าหน้าที่ที่สถานีนั้นได้เลยค่ะ
และแล้วเราก็ถึง
สถานีFotress Hill เราพักที่
Yesinn Hostel ค่ะ
และแล้วก็จบการเดินทางร่อนเร่พเนจรของเด็กดอย ผู้พกพาสกิลภาษาอังกฤษระดับง่อยๆวันที่สองไปอีกหนึ่งวัน
เราอาจจะตัดเหตุการณ์บางช่วงออกไปนะคะเนื่องจากรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะเยิ่นเย่อเกินไปเลยตัดเหตุการณ์บางส่วนออกไปค่ะ
สุดท้ายขอขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ


หมายเหตุ
-หากผิดพลาดประการใด เราก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ เนื่องจากนี้เป็นกระทู้แรกของเรา ไม่ว่าจะการใช้ภาษา หรือการเลือกใช้คำที่เยิ่นเย้อ
[CR] ⊹⊱‧:❉●•﹎.εїз︷✿‧ ✎First Time : [ •Episode 2• ] เด็กดอยท่องโลก ✈ ตอน เยือนมาเก๊า-ฮ่องกง⊰⊹
ตอนที่ 1 :http://pantip.com/topic/33258084/comment6-1
เราตื่นตั้งแต่ตีสี่ เนื่องจากนอนไม่หลับ เพราะความตื่นเต้น
หลังจากตื่นนอนเราก็เก็บข้าวของ และอาบน้ำ แต่งตัว
ประมาณ 8โมง
ก็ลงมาทานอาหารเช้าฟรี ที่ทางโรงแรมจัดไว้ให้
หลังทานอาหารเสร็จเราก็ทำการcheck out แล้วก็ฝากกระเป๋าไว้กับทางโรงแรมเพื่อจะเที่ยวที่ต่างๆในมาเก๊า ที่เรายังไม่ได้ไปก่อนที่จะข้ามไปฝั่งฮ่องกง
สถานที่แรกที่เราไปในวันนี้คือ 'Grand lisbaoคาสิโน'
โดยที่เราเริ่มเดินทางจากโรงแรม ไปยังsenadoquare เพื่อผ่านไปยังGrand lisbaoคาสิโน
(เราไม่สามารถให้รายละเอียดการเดินทางไปยังGrand lisbaoคาสิโนได้นะคะ ขอโทษด้วยค่ะเพราะเราก็เดินไปเรื่อยๆตามการสังเกตของเราแล้วก็เจอเอง)
ภายใน
ของทุกชิ้นที่จัดแสดงอลังการงานสร้างมากเลยทีเดียวคะ แสบตากันไปปปปป
เดินถ่ายรูปเสร็จเราก็ไปเข้าห้องน้ำ เพื่อที่จะไปยังWyn casinoต่อโดยเดินออกจากGrand lisbaoคาสิโนเดินผ่านป้ายรถเมลล์หน้าคาสิโนจะเห็นทางลอดใต้ดินเพื่อข้ามไปยังอีกฝั่ง
เจอมาเก๊าทาวเวอร์อีกแล้วขออีกสักแชะ
และแล้วก็เจอ'Wyn casino' โดยส่วนด้านหน้าคาสิโนจะเป็นน้ำพุ
แล้วเราก็เดินเข้าไปด้านใน
เราเดินเล่นไปมาซักพักก็กะว่าจะถามทางเพื่อไปชมการแสดงต้นไม้แห่งความสุข
แต่
ก่อนที่จะพบกับความสุข…….
กระเป๋าตังค์เราดันหาย
(ความทุกข์เข้ามาเยือนเลยทันที!!!!
ตอนนั้นลนลานมากแต่พยายามรวบรวมสติพยายามคิดว่าเราลืมไว้ที่ไหน ก่อนหน้านั้นเราไปไหนมา ซึ่งก่อนที่เราจะมาWyn casinoเราได้เข้าห้องน้ำที่Grand lisbaoคาสิโนก่อนมาที่นี้ เราเลยตัดสินใจข้ามกลับไปฝั่งเดิม เพื่อไปยังGrand lisbaoคาสิโน
(แทบจะวิ่งด้วยความเร็วแสงเลยทีเดียว เหนื่อยสุดๆ
พอถึงGrand lisbaoคาสิโนปุ๊บเราก็ตรงไปยังห้องน้ำด้วยความรวดเร็ว
แต่!ปรากฏว่ากระเป๋าตังค์ของเราไม่อยู่ซะแล้ว
เราเลยเดินออกมาจากห้องน้ำเพื่อขอความช่วยเหลือจากพนักงาน
ซึ่งหน้าห้องน้ำจะมีโซนคาเฟ่เล็กๆบริการอยู่ พอเราบอกว่ากระเป๋าตังค์เราหาย
พนักงานก็บอกเราว่าทางคาสิโนได้เก็บไว้ให้แล้ว ใจเย็นๆ ตอนนี้เรายังทำการส่งคืนให้ไม่ได้ต้องทำการตรวจสอบก่อน
ให้บอกครอบครัว หรือเพื่อนที่มาด้วยว่าไม่ต้องกังวล แต่เด็กดอยอย่างเราที่ฉายเดี่ยวมาเพียงผู้เดียวก็ตอบกลับไปว่า ไม่เป็นไรเรามาคนเดียว
พนักงานเลยเชิญให้เรานั่งที่โต๊ะด้านหน้าเพื่อรอเจ้าหน้าที่ของทางคาสิโนก่อน
บอกเลยว่า ณ จุดนั้น สำหรับคำว่า Thank you นิยังน้อยไป ถ้าเราคำนับได้นี่เราทำไปแล้ว แทบจะก้มกราบทีเดียวอารมณ์ตอนนั้น
(ประนึงกระเป๋าตังค์พกเงินเป็นร้อยล้าน ความเวอร์ไม่เคยปราณีใครเลยจริงๆ
เรานั่งรอไปสักพักก็เจอเจ้าหน้าที่ของทางคาสิโน เค้าก็ให้เราเขียนชื่อบนบัตรประชาชน
แล้วก็สอบถามนิดหน่อยว่าในกระเป๋าตังค์เรามีอะไรบ้าง เราก็ตอบๆไป เสร็จแล้วเค้าก็คืนกระเป๋าตังค์ให้เรา
แล้วบอกให้เราก็ไว้ในกระเป๋าสพายซะ ระวังจะโดนฉก ประมาณนี้ เราก็ขอบคุณเค้าไป
จากนั้นก็ตัดสินใจไปเที่ยวที่ Fisherman wharf ต่อโดยนั่งรถเมลล์สาย3A หน้าGrand lisbaoคาสิโน
นั่งไปจนสุดสายแล้วต่อรถเมลล์สาย10A ไปลงที่วัดอาม่าก่อน
พอเข้าไปไหว้พระในวัดอาม่าเสร็จ เราก็รอรถเมลล์สาย10A
เพื่อที่จะไป Fisherman wharf แต่รถเมลล์สาย10Aก็ไม่มาสักที
เราเลยตัดสินใจเรียกtaxi เพื่อที่จะไป Fisherman wharf แทน
ค่าเสียหายปรมาณ 37 ดอลล่าฮ่องกง
เข้ามาชมด้านในกันเลยค่ะ
โคลอสเซียมจำลอง
ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นSand casino
พอเดินถ่ายรูปรอบๆ สักพัก เราก็นั่งรถเมลล์สาย 10A ไปยังWyn Casino เพื่อไปชมการแสดงต้นไม้แห่งความสุขต่อ
ขานั่งรถกลับแอบผ่านเจ้าแม่กวนอิม
ถึงWyn Casinoแล้วเราก็สอบถามพนักงานในนั้นว่าเราจะชมการแสดงต้องไปยังไง
เค้าก็แนะนำว่าสามารถผ่านส่วนของคาสิโนไปได้แต่ต้องอายุยี่สิบ คุณอายุยี่สิบหรือยัง? เราก็ตอบกลับไปว่าเราอายุยี่สิบแล้ว
ก่อนถึงส่วนของคาสิโนจะมีเจ้าหน้าที่อยู่ด้านหน้าเพื่อตรวจพาสปอร์ตของเรา ตอนนั้นเราก็ทำหน้านิ่งๆท่าทางมั่นใจๆหน่อยเดินเข้าไปเค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร และก็ไม่ได้ตรวจพาสปอร์ตของเราด้วย (งงๆดีเหมือนกัน บทจะผ่านก็ผ่านได้ง่ายๆเลย
พอผ่านส่วนของคาสิโนมาได้เราก็จะเจอกับเจ้านี้
การแสดงโชว์จะเริ่มทุกๆสามสิบนาที
พอการแสดงจบเราก็เดินทางกลับโรงแรมเพื่อเอากระเป๋า แล้วนั่งรถเมลล์สาย26 เพื่อไปยังท่าเรือTaipa Macau Ferry
ปล. เรานั่งเรือของCotaijet เพราะว่าเราพักที่ฝั่งฮ่องกง
พอถึงท่าเรือเราก็ไปยื่นตั๋วเปลี่ยนเป็นตั๋วจริงแล้วเลือกเวลาที่จะเดินทาง โดยรอบที่เราเลือกคือรอบ 16.30 น.
แล้วก็ถึงเวลาขึ้นเรือ
ประมาณหกโมงเราก็มาถึงฝั่งHongkokใกล้กับMRTของสถานีSheung wan
เราก็ไปเอากระเป๋าที่เก็บไว้ด้านหน้า แล้วตามคนอื่นๆไปเพื่อที่จะไปยังตม.สุดโหดดดดดดดดดของที่นี้
โหดไม่โหดยังไงเดี๋ยวตามมาดูกัน…..
พอถึงด่านตม.เราก็ทำการกรอกใบผ่านเข้าเมือง แล้วไปต่อแถวเอาไปยื่นพร้อมพาสปอร์ตของเรา
แต่!! เดี๋ยวก่อน
ชีวิตเด็กดอยก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น (อีกแล้วววว
เจ้าหน้าที่ : คุณมาที่นี้ครั้งแรกเหรอ?
เรา : ใช่ครั้งแรก
เจ้าหน้าที่ : มาคนเดียว?
เรา : ใช่มาคนเดียว
พอตอบมาคนเดียวเสร็จเท่านั้นแหละ! หายะนะมาเยือนเลยทันที. . . . .
ตอนนั้นเรารู้เลยว่าเค้าไม่ให้เราผ่านเข้าไปแน่ๆ เนื่องจากเค้ายื่นพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ที่อยู่ใกล้ๆตรงนั้น
แล้วเจ้าหน้าที่คนนั้นก็พาเราไปรออยู่อีกห้องหนึ่ง
ตอนรออยู่ที่ห้องแยกนี้เราก็รื้อข้อมูลที่เราเตรียมมาจากกระเป๋าเดินทางเพื่อจะใช้เป็นหลักฐานกับเจ้าหน้าที่
สักพักเจ้าหน้าที่ผู้หญิงผมสั้นท่าทางใจดีหน่อยก็เรียกเราเข้าไปในห้องสอบสวน
พอเข้าไปห้องสอบสวนแล้วก็เริ่มบทสนทนากับเรา
เจ้าหน้าที่ : คุณมีแพลนที่จะไปที่ไหนไหม?
เรา : มีแต่มันเป็นภาษาไทยนะ (แล้วเราก็ยื่นแผนที่ทั้งหมดกับแพลนทั้งหมดให้เจ้าหน้าที่ไป
เจ้าหน้าที่อ่านไปซักพัก
เจ้าหน้าที่ : คุณจะไปดิสนีย์แลนด์เหรอ (พอดีในแพลนของเรา เราปริ๊นรูปติดไปด้วย)
เรา : ใช่ แล้วฉันก็มีตั๋วขากลับประเทศไทยด้วยนะคุณจะดูไหม? (แล้วเราก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ดู)
เจ้าหน้าที่เช็คข้อมูลสักพักแล้วถามเราว่า
เจ้าหน้าที่ : คุณมีเงินเท่าไร
เรา : ประมาณเก้าร้อยดอลล่าฮ่องกง แล้วฉันก็มีVisa cardด้วยนะ(หยิบให้เจ้าหน้าที่ดูด้วยความเร็ว)
พอหมดคำถามที่เค้าจะถามเราแล้ว เราก็ถูกปล่อยตัวคะเจ้าหน้าที่ก็พาเราไปยื่นพาสปอร์ตซ้ำแล้วก็ผ่านด่านไป
ปล. ตอนที่อยู่ในห้องสอบสวนเจ้าหน้าที่ใจดีมากค่ะ ไม่ได้ตะคอกอะไร ถามด้วยน้ำเสียงเป็นมิตร แล้วก็สุภาพกับเรามากๆ
จากนั้นเราก็ออกไปตามป้าย เพื่อลงไปยังMRTสถานีSheung wan
ก่อนอื่นเราก็ไปใช้บริการMTR Single-journey ticket machineเพื่อซื้อตั๋วแบบSingle Pass ไปยังสถานีFotress hill
หน้าตาตู้ก็จะเป็นแบบนี้ มีภาษาอังกฤษบอกไว้ชัดเจน ใช้งานง่ายค่ะ
(อ้างอิงจากhttp://www.hongkongextras.com/trainservices.html)
แต่ถ้าบางท่านต้องการOctopus card สามารถซื้อได้กับเจ้าหน้าที่ที่สถานีนั้นได้เลยค่ะ
และแล้วเราก็ถึงสถานีFotress Hill เราพักที่Yesinn Hostel ค่ะ
และแล้วก็จบการเดินทางร่อนเร่พเนจรของเด็กดอย ผู้พกพาสกิลภาษาอังกฤษระดับง่อยๆวันที่สองไปอีกหนึ่งวัน
เราอาจจะตัดเหตุการณ์บางช่วงออกไปนะคะเนื่องจากรู้สึกว่ามันค่อนข้างที่จะเยิ่นเย่อเกินไปเลยตัดเหตุการณ์บางส่วนออกไปค่ะ
สุดท้ายขอขอบคุณที่เสียสละเวลาเข้ามาอ่านนะคะ
หมายเหตุ
-หากผิดพลาดประการใด เราก็ต้องขออภัยด้วยค่ะ เนื่องจากนี้เป็นกระทู้แรกของเรา ไม่ว่าจะการใช้ภาษา หรือการเลือกใช้คำที่เยิ่นเย้อ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น