ปลาหางนกยูงนั้น หลายๆ ท่านอาจจะนึกได้ว่า เป็นปลาที่เลี้ยงได้ง่าย บางทีเอาไปเลี้ยงในบ่อบัว ที่หน้าบ้าน หรือ อ่างซีเมนต์ ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แพล่บเดียว ก็โตใหญ่ มีลูกมีหลาน มากมายยั้วเยี้ย จนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ต้องเอาไปให้คนอื่นบ้าง ต้องเอาไปเป็นปลาเหยื่อบ้าง ( ไม่ควรนำไปปล่อย ในธรรมชาติ ที่เป็นพื้นที่เปิดนะครับ อาจจะกลายไปเป็น เอเลี่ยน สปีชียส์ ในท้องถิ่นของท่านใด้ ) ดังนั้น บางท่านอาจจะคิดว่า ถ้าขึ้นชื่อว่า ปลาหางนกยูง แล้ว ล้วนเลี้ยงได้ง่ายๆ ทั้งนั้น แต่ ความเชื่อนั้น จะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดครับ ปลาหางนกยูง บางสายพันธุ์ มีความทนทานก็จริง โดยเฉพาะพวกปลาที่มีพื้นฐานเป็นปลาหางนกยูงป่า หรือ ลูกหลานที่เจริญเติบโตมา จะมีความอดทน และ ปรับตัว รับสภาพในที่เลี้ยงได้ค่อนข้างดีมาก จะเป็นปลาหางนกยูงที่มีความทนทานจริงๆ ตามที่คุ้นเคยกัน แต่ปลาหางนกยูง ที่เป็นปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ นั้น ส่วนใหญ่ จะเป็นปลาหางนกยูง ที่มีการผ่าเหล่า หรือ ได้รับการอินบรีด มาเป็นเวลานาน ๆ จนได้ลักษณะพิเศษบางประการ เช่น สีขาวมากเป็นพิเศษ , เครื่องครีบ ที่ยาวจัด , สีสันโดดเด่น เช่นสีแดงฉูดฉาดมากเป็นพิเศษ หรือ ลักษณะ ตาสีแดง ที่เป็นลักษณะของปลาเผือกแท้ เป็นต้น ซึ่งปลาหางนกยูงเหล่านี้ จะเป็นปลาที่ไม่ได้มีความทนทานสูง เหมือนปลา หางนกยูง โดยทั่วๆไปเลย ถ้าผู้เลี้ยงไม่ให้ความสนใจ ซื้อมาเลี้ยง โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อน นึกว่าเลี้ยงเหมือนๆกัน ก็มีโอกาศที่จะพบกับความสูญเสียได้สูงมากครับ ดังนั้น ในวันนี้ ทางกระผม จึงขออนุญาตแนะนำแนวทางการเลี้ยงปลาหางนกยูงสวยงาม แบบชนิดเกรดสูง ที่อาจจะช่วยให้เป็นแนวทางที่ทำให้ท่านผู้อ่าน เลี้ยงปลาหางนกยูง ในเกรดนี้ได้ง่ายขึ้น โดยลดโอกาศต่อความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้ครับ
สำคัญอันดับแรกๆ ก็คือ ต้องศึกษาข้อมูลก่อนครับ ยิ่งถ้า ได้ข้อมูลการเลี้ยง จากผู้ที่จำหน่ายปลาโดยตรง ที่เป็นผู้จำหน่ายปลาคุณภาพ ที่ให้ข้อมูลด้วยความจริงใจ ก็จะยิ่งเป็นการดี เพราะว่า เราจะได้ทราบแนวทางการดูแลปลาก่อนหน้านี้ของเขามาบ้าง การเซ็ตน้ำ เซ็ตค่าต่างๆ ในตู้เลี้ยง โดยถ้าได้ข้อมูลในการเลี้ยงปลา ของร้าน หรือ เจ้าของคนก่อนมาอย่างถูกต้อง โอกาสที่ปลาจะปรับตัวได้ดี และเลี้ยงต่อเนื่องได้ โดยลดการสูญเสีย จากการปรับตัวสู่สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไปได้มากๆครับ
ขั้นต่อมาก็คือ “ การมีปลาที่เลี้ยง แต่เพียงพอเพียง “ ทำไมถึงต้องจำกัดการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ ตั้งแต่ตอนเริ่มเลี้ยง ก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงเริ่มแรก ก็มีแนวโน้ม จะซื้อปลาเยอะ เพราะอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองนั้นชอบ ปลาหางนกยูง เกรด สีสัน แนวใหนกันแน่ เลยอาจจะเผลอซื้อปลาหางนกยูงเกรดสูง มาหลายๆ รุปแบบ จะเรียกได้ว่า อยู่ในช่วงของการ “ ค้นหาตัวเอง “ ก็ได้ครับ บางคน ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าตัวเองนั้น จะชอบปลาในแนวใหนกันแน่ จะสีเดียว , หลากสี หลากลาย , หางสั้น , หางยาว ฯลฯ สารพัดรูปแบบ เลยพลอยซื้อปลาหางนกยูง มาจนเต็มบ้าน บางคนเดินตลาด ดูปลาหางนกยูงเกรดสูงอยู่ดีๆ แต่ไปเห็น ปลาหางนกยูงเหยื่อ อยู่กับ ปลาล่าเหยื่อสายโหดๆ ทั้งหลาย ก็เปลี่ยนใจจากจะเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูง ไปเลี้ยงปลาโหดแทน ก็มีครับ แบบนี้ เขาเรียกได้ เปลี่ยนรสนิยมกันอย่างฉับพลัน ดุจดั่ง ดาราชาย กล้ามโต หน้าอย่างหล่อ สาวกรี๊ดหลายคน แต่ซักพัก พี่ท่านก็ออกมาเปิดตัว ว่าจริงๆ เป็นเพศที่ 3 แถมยังแต่งหญิงโชว์ อีกต่างหาก เรียกว่า เปลี่ยนแนวไปได้ถึงประมาณนั้นเลยก็มี ซึ่งก็ไม่แปลกล่ะนะครับ สำหรับคนเรา ที่ในช่วงเริ่มแรกๆ ก็ยังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง สำหรับการเลี้ยงปลา หรือสัตว์ต่างๆ ว่าจริงๆ เราชอบแบบไหนกันแน่ล่ะนะครับ แต่ถ้ายังมั่นใจ หรือ เข้าใจหัวใจตัวเอง อย่างแน่ชัดแล้ว ก็ขอให้เลือกปลาหางนกยูงเกรดสูง ที่ท่านเลือก เพียงไม่กี่รูปแบบก็พอครับ และ เลือกเลี้ยงในปริมาณที่พอเหมาะ พอสมกับพื้นที่ในบ้านเรา และแบ่งแยก ที่เลี้ยง อย่างชัดเจน ไม่ให้แต่ละสายพันธุ์นั้น เข้ามาปะปนกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการผสมพันธุ์กัน ข้ามสีสัน ทำให้ปลาหางนกยูง ที่ได้มีการคัดเลือกเกรดเอาไว้ดีแล้ว ตามที่เราตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก มีสีสัน และ รูปร่างที่ผิดเพี้ยนไปจากตอนแรกที่ต้องการครับ เพราะว่าในการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ นั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นที่ผู้เลี้ยง ควรจะมีที่เลี้ยงแยกกันไปสำหรับพ่อและแม่พันธุ์อย่างละคู่ และ อาจจะต้องรวมไปถึง รุ่นลูก รุ่นหลานที่จะทยอยออกมาอีกด้วย ซึ่งบางที แค่รูปแบบสี เพียงไม่กี่แบบ ก็ทำให้ทั้งตู้พ่อ พันธุ์ แม่พันธุ์ และ ลูกปลา , หลานปลา , เหลนปลา , โหลนปลา เต็มบ้านไปหมดแล้ว ยิ่งถ้ามีสายพันธุ์ที่เลี้ยงเยอะเกินไปแล้วล่ะก็ มีโอกาสที่จะทำให้ผลผลิตออกมาผิดเพี้ยนไป จากการเลี้ยงปนกันสูงมากๆ ทีเดียวครับ นี่ยังไม่นับรวมเรื่อง เวลาที่ต้องใช้ในการดูแล ที่ถ้ามีตู้มากขึ้น ก็ต้องใช้เวลามากยิ่งขึ้น ซึ่งการต้องใช้เวลานี่ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะลดละวาง หรือทำเป็นปล่อยผ่านไปได้ ถ้าต้องการประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูง ผู้เลี้ยงต้องขยัน อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ในการดูแลคุณภาพน้ำ และ รวมทั้งการคัดแยกลูกปลา หรือ ตอนที่แม่ปลาจะเตรียมออกลูก ก็ต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นถ้าผู้เลี้ยงเผลอ หรือ เกิดอารมณ์ขี้เกียจเพียงแป๊บเดียว ลูกปลาครอกสวย ที่กำลังเป็นที่รอคอย อาจจะผลุบหายเข้าไปในปากแม่ปลา ( ตามธรรมชาติของปลาชนิดนี้ ที่บางที มักกินลูกของตัวเอง เป็นอาหาร ) ก็เป็นไปได้ครับ และยิ่งถ้าเราเกิดขี้เกียจเปลี่ยนน้ำ บางทีอย่าว่าแต่จะทำให้เรื่องการผสมพันธุ์ของปลาเกิดความสำเร็จเลย แค่จะเลี้ยงให้รอด ยังไม่สามารถจะทำได้อย่างตลอดรอดฝั่งเลยครับ
สภาพอากาศ และ สภาพแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ เช่นกันครับ เพราะในแต่ละสภาพอากาศนั้น ปลาเองก็จะกินอาหารที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น ร้อน เป็น เย็นมากๆ เช่น อากาศร้อน แล้วมีพายุฝน ผู้เลี้ยงจะต้องพึงจำกัดการให้อาหาร หรือ อาจจะงดอาหารซักระยะสั้น ๆ ก็ได้ครับ
แล้วในเวลาที่ปลาทานอาหารได้ตามปกติก็เช่นกันครับ ผู้เลี้ยงก็ไม่ควรที่จะให้อาหารมากจนเกินไป บางท่านเน้นความสะดวก และ ดูจะอยากให้ปลาอิ่มหนำสำราญทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นลูกน้ำ ( โตขึ้นมาเป็นยุง พอปลากินไม่หมด คนในบ้านก็จะถูกกัดได้ ) , ลูกไร ( ถ้าให้เยอะเกินไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในน้ำจืดได้นาน แต่พอตาย ถ้ามีมากๆ แป๊บเดียว น้ำเน่าเหม็นได้เลยเหมือนกันนะครับ ) , ไส้เดือนน้ำ ( เช่นเดียวกับไรน้ำจืด พอตายปุ๊บ แสนจะมหาแห่งความเหม็นสุดๆ ชนิด ที่คนไม่ชินกลิ่น อาจจะชวนให้คายของเก่าได้ไม่ยากเลยครับ ) , หนอนแดง ( กลายเป็นริ้นน้ำจืดไปเอง ถ้าปลากินไม่หมด ค่อยยังชั่วหน่อย ที่ไม่รบกวนอะไรนัก แต่ก็ถือว่าเป็นความสิ้นเปลือง ) , อาหารสำเร็จรูป ( ถ้าปลากินเหลือ นี่ก็น้ำเน่าเสียแน่นอนครับ ) เอาเป็นว่า ผู้เลี้ยงไม่ควรให้อาหารมากจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่าจะ ควบคุมคุณภาพน้ำได้ดี น้ำไม่เน่าเสีย ปลาโตไว อย่างว่อง แต่ รูปทรงของปลา ก็จะเสียสมดุลไปครับ พูดแล้วก็เหมือนคนเราน่ะแหล่ะ กินมากเกินไป ก็พุงป่อง โรคภัยก็เยอะ ปลาเองก็เช่นกัน กินมากไป โตไว แต่รูปทรง ครีบเครื่อง ก็ดูไม่สมดุล กับขนาดตัว ถ้าท่านเลี้ยงเล่นๆ ไม่ได้ซีเรียส ดูปลาของท่าน พุงพลุ้ย ว่ายน้ำตุ้ยๆ แล้ว มีความสุข ก็สามารถทำได้ครับ แต่ถ้าท่านต้องการ เลี้ยงปลาหางนกยูง เพื่อ จำหน่ายเป็นงานอดิเรก หรือ ออกงาน และการประกวดต่างๆด้วย การให้อาหารปลาอย่างเหมาะสมนี่ ถือเป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง พอๆ กับสายพันธุ์ของปลาที่ได้รับมาเลยล่ะครับ
และเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในส่วนของเงินทุน และ คอนเน็คชั่นต่างๆกับร้านค้า ก็ควรจะมีอย่างต่อเนื่อง และพร้อมสรรพ โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดนั้น ราคาต่อตัวจะค่อนข้างสูงอยู่แล้ว จะใช้วิธี ประมาณว่า ซื้อมาตัวเดียวก่อน แล้วอีกตัวตามมาที่หลัง แบบปลาชนิดอื่นๆ ที่มีอายุยืนยาว ยังไงก็ไม่น่าจะเหมาะสมครับ เพราะปลาหางนกยูงเอง ก็เป็นปลาที่อายุไม่ได้ยืนยาวนัก ถ้าเลยช่วงวัยที่เหมาะสมแล้ว ผลผลิตก็มักจะไม่ค่อยดีแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ ก็อาจจะแก้ได้ ( หรืออาจจะไม่ได้ ) เช่น อย่าให้แฟนถือกระเป๋าตังค์ ต้องจัดการเงินทองด้วยตัวเอง ( เห็นหลายๆคนที่รู้จัก ให้แฟน จัดการเรื่องกระเป๋าตังค์ เรื่องเงินๆทองๆ ให้ แล้วมักจะพบว่า เกือบทุกคน ประสบชะตากรรมอนาถ มีเงินมาทานข้าวกลางวัน ที่บริษัทไปวันๆ ก็เป็นพระคุณแล้ว อย่าว่าแต่ปลาหางนกยูง ตัวราคาแพงๆ แจ่มๆ เลย แค่ปลาหางนกยูง ราคาย่อมเยา ยังไม่มีโอกาส แม้แต่จะซื้อตู้มาเลี้ยงก็มี ( ฮา ) ) ส่วนเรื่องเงินๆทองๆอื่นๆ นอกจากข้อนี้ แล้วผมคิดว่าพวกคุณน่าจะจัดการกันได้แหล่ะ และ ก็อย่าลืมนะครับว่า ซื้อปลามาเท่าไหร่ เวลา บอกราคากับทางบ้าน ให้หาร สอง หรือ หารสี่ ตามความฉลาด ของแฟนนะครับ จะทำให้บรรยากาศการซื้อปลาเข้าบ้าน เป็นปกติสุขมากขึ้น .... อันนี้ก็ต้องเข้าใจล่ะนะครับ ในสายตา ของคนที่รู้จัก ปลาหางนกยูงแต่เพียงผิวเผินนั้น ราคาปลา แบบตัวละไม่เท่าไหร่ กับ ปลาตัวที่ราคาสูงๆ ดูไป ดูมา มันก็คล้ายๆกัน ซะส่วนใหญ่ ( ใช้คำว่าส่วนใหญ่นะครับ เพราะว่าปลาหางนกยูง เกรดสูงๆ หลายสี ก็เปล่งออร่า “ ของแพง “ ออกมาเปล่งปลั่ง ให้คนไม่ค่อยคุ้นเคย รู้สึกได้บ้างเหมือนกัน ว่า “ มันไม่ธรรมดา “ ยิ่งถ้าแฟนรู้ว่า มีตังค์ไปซื้อ ปลาหางนกยูงแพงๆ แต่ไม่มีตังค์มาช่วย ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หรือ ค่าใช้จ่ายตามอารมณ์ของคุณเธอแล้วล่ะก็ บางที อาจจะมีการ “ หูยาน “ เอากันได้ง่ายๆ นะครับ หรือ เบาะๆ ก็ “ ขี้หูร่วง “ จากการบ่นของแฟนกันได้ง่ายๆเลยทีเดียว ( ฮา )
ต่อไปก็คือ การมี “ คอนเน็คชั่น “ ครับ โดยเฉพาะกับร้านขายปลา ถ้าท่านผู้เลี้ยง มีความสนิทสนม และได้ร้านค้า ที่ดี มีคุณธรรมมาเป็นเพื่อนให้การปรึกษา หรือ คัดเลือกสายพันธุ์ ของปลาหางนกยูง เกรดสูง ที่มีคุณภาพให้ รวมถึงสามารถให้คำปรึกษาต่างๆ ได้ นั่นก็จะถือได้ว่า ท่านได้ “ ปิยะมิตร “ อย่างแท้จริง ร้านค้าที่ดี จะให้ความรู้ และ แนวทางการดูแล กับ ภูมิหลัง ในการเลี้ยงปลาหางนกยูงของท่านได้เป็นอย่างดี ไม่โกหกในเรื่องของอายุของปลา ( เอาปลาหางนกยูงที่ปลดระวางแล้ว มาจำหน่าย ) ไม่เอาปลาที่ไม่ดีมาขายให้เรา ( เช่น ปลาที่เป็นหมัน ) หรือ ปลาที่มีแนวโน้มจะป่วย ร้านค้าที่ดี ที่กระผมเคยพบมา จะรีบบอกกับลูกค้า และ งดขายปลาตู้นั้นทันที ที่เริ่มสังเกตเห็นอาการป่วย ไม่เหมือนกับหลายๆร้าน ที่ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ จะขายปลาไปตามปกติ ทั้งๆที่ในตู้ มีปลาที่เริ่มแสดงอาการป่วย และ ป่วยแล้ว หรือแม้กระทั่งตายใหม่ๆ ลอยปนอยู่ในตู้ก็มี แต่ลูกค้าที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ยังไปตักปลามาเลี้ยงกันเหมือนเป็นปกติ แค่คิดก็สยองแล้วครับ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น... และ เมื่อผู้เลี้ยง ซื้อปลาที่เริ่มมีอาการป่วย ของบางโรค เช่น โรคจุดขาว เข้าไปเลี้ยงในที่เลี้ยง ก็มีความเป็นไปได้ ว่า ปลาใหม่ ที่เพิ่งซื้อเข้ามา จะนำเอาโรคเข้าไปติดกับปลาในที่เลี้ยงเก่าของเราได้อย่างง่ายดายครับ ซึ่ง ร้านค้าที่ดี มีความจริงใจ จะไม่ขายปลาที่เริ่มมีอาการป่วย ให้กับทางลูกค้าครับ ซึ่งขั้นตอนนี้ ถ้าท่านยังไม่แน่ใจว่า ปลาที่ได้มา จะมีโรคหรืออาการป่วยแฝงมาหรือไม่ ก็ขอแนะนำให้เลี้ยงแยกเอาไว้ซักชั่วขณะ เพื่อกักโรค ดูอาการก่อนก็ได้ครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผู้ที่ต้องการสลับสายพันธุ์ปลา ก็อาจจะต้องมีร้านที่สนิทสนม หรือ ฟาร์มที่คุ้นเคยกัน ซักหลายๆฟาร์มหน่อย เพื่อ ประโยชน์ในการสลับสายพันธุ์ และพัฒนาปลาหางนกยูงเกรดสูงของเราต่อไปนั้นเองครับ
พบกันใหม่ ในบทความหน้านะครับ ขอบคุณมากครับ
--------------------------------------------------------------------
เขียนโดย กษิดิศ วรรณุรักษ์
--------------------------------------------------------------------
*** ขอบคุณร้าน 88 Aquarium เอื้อเฟื้อให้ถ่ายรูป ประกอบบทความครับ ***
ติดตามอ่าน เรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ ปลาสวยงาม และ เกร็ดความรู้สัตว์โลกอื่นๆ ได้ที่
meogui.bloggang.com
แนวทาง การเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูง ให้ประสบความสำเร็จ
ปลาหางนกยูงนั้น หลายๆ ท่านอาจจะนึกได้ว่า เป็นปลาที่เลี้ยงได้ง่าย บางทีเอาไปเลี้ยงในบ่อบัว ที่หน้าบ้าน หรือ อ่างซีเมนต์ ไม่ต้องดูแลอะไรมากมาย แพล่บเดียว ก็โตใหญ่ มีลูกมีหลาน มากมายยั้วเยี้ย จนไม่รู้จะเอาไปทำอะไร ต้องเอาไปให้คนอื่นบ้าง ต้องเอาไปเป็นปลาเหยื่อบ้าง ( ไม่ควรนำไปปล่อย ในธรรมชาติ ที่เป็นพื้นที่เปิดนะครับ อาจจะกลายไปเป็น เอเลี่ยน สปีชียส์ ในท้องถิ่นของท่านใด้ ) ดังนั้น บางท่านอาจจะคิดว่า ถ้าขึ้นชื่อว่า ปลาหางนกยูง แล้ว ล้วนเลี้ยงได้ง่ายๆ ทั้งนั้น แต่ ความเชื่อนั้น จะไม่ใช่ความจริงทั้งหมดครับ ปลาหางนกยูง บางสายพันธุ์ มีความทนทานก็จริง โดยเฉพาะพวกปลาที่มีพื้นฐานเป็นปลาหางนกยูงป่า หรือ ลูกหลานที่เจริญเติบโตมา จะมีความอดทน และ ปรับตัว รับสภาพในที่เลี้ยงได้ค่อนข้างดีมาก จะเป็นปลาหางนกยูงที่มีความทนทานจริงๆ ตามที่คุ้นเคยกัน แต่ปลาหางนกยูง ที่เป็นปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ นั้น ส่วนใหญ่ จะเป็นปลาหางนกยูง ที่มีการผ่าเหล่า หรือ ได้รับการอินบรีด มาเป็นเวลานาน ๆ จนได้ลักษณะพิเศษบางประการ เช่น สีขาวมากเป็นพิเศษ , เครื่องครีบ ที่ยาวจัด , สีสันโดดเด่น เช่นสีแดงฉูดฉาดมากเป็นพิเศษ หรือ ลักษณะ ตาสีแดง ที่เป็นลักษณะของปลาเผือกแท้ เป็นต้น ซึ่งปลาหางนกยูงเหล่านี้ จะเป็นปลาที่ไม่ได้มีความทนทานสูง เหมือนปลา หางนกยูง โดยทั่วๆไปเลย ถ้าผู้เลี้ยงไม่ให้ความสนใจ ซื้อมาเลี้ยง โดยไม่ได้ศึกษาข้อมูลก่อน นึกว่าเลี้ยงเหมือนๆกัน ก็มีโอกาศที่จะพบกับความสูญเสียได้สูงมากครับ ดังนั้น ในวันนี้ ทางกระผม จึงขออนุญาตแนะนำแนวทางการเลี้ยงปลาหางนกยูงสวยงาม แบบชนิดเกรดสูง ที่อาจจะช่วยให้เป็นแนวทางที่ทำให้ท่านผู้อ่าน เลี้ยงปลาหางนกยูง ในเกรดนี้ได้ง่ายขึ้น โดยลดโอกาศต่อความล้มเหลวที่อาจจะเกิดขึ้นได้ดังต่อไปนี้ครับ
สำคัญอันดับแรกๆ ก็คือ ต้องศึกษาข้อมูลก่อนครับ ยิ่งถ้า ได้ข้อมูลการเลี้ยง จากผู้ที่จำหน่ายปลาโดยตรง ที่เป็นผู้จำหน่ายปลาคุณภาพ ที่ให้ข้อมูลด้วยความจริงใจ ก็จะยิ่งเป็นการดี เพราะว่า เราจะได้ทราบแนวทางการดูแลปลาก่อนหน้านี้ของเขามาบ้าง การเซ็ตน้ำ เซ็ตค่าต่างๆ ในตู้เลี้ยง โดยถ้าได้ข้อมูลในการเลี้ยงปลา ของร้าน หรือ เจ้าของคนก่อนมาอย่างถูกต้อง โอกาสที่ปลาจะปรับตัวได้ดี และเลี้ยงต่อเนื่องได้ โดยลดการสูญเสีย จากการปรับตัวสู่สภาพแวดล้อมใหม่ๆ ไปได้มากๆครับ
ขั้นต่อมาก็คือ “ การมีปลาที่เลี้ยง แต่เพียงพอเพียง “ ทำไมถึงต้องจำกัดการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ ตั้งแต่ตอนเริ่มเลี้ยง ก็เพราะว่า ส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงเริ่มแรก ก็มีแนวโน้ม จะซื้อปลาเยอะ เพราะอาจจะยังไม่แน่ใจว่า ตัวเองนั้นชอบ ปลาหางนกยูง เกรด สีสัน แนวใหนกันแน่ เลยอาจจะเผลอซื้อปลาหางนกยูงเกรดสูง มาหลายๆ รุปแบบ จะเรียกได้ว่า อยู่ในช่วงของการ “ ค้นหาตัวเอง “ ก็ได้ครับ บางคน ก็ยังไม่แน่ใจ ว่าตัวเองนั้น จะชอบปลาในแนวใหนกันแน่ จะสีเดียว , หลากสี หลากลาย , หางสั้น , หางยาว ฯลฯ สารพัดรูปแบบ เลยพลอยซื้อปลาหางนกยูง มาจนเต็มบ้าน บางคนเดินตลาด ดูปลาหางนกยูงเกรดสูงอยู่ดีๆ แต่ไปเห็น ปลาหางนกยูงเหยื่อ อยู่กับ ปลาล่าเหยื่อสายโหดๆ ทั้งหลาย ก็เปลี่ยนใจจากจะเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูง ไปเลี้ยงปลาโหดแทน ก็มีครับ แบบนี้ เขาเรียกได้ เปลี่ยนรสนิยมกันอย่างฉับพลัน ดุจดั่ง ดาราชาย กล้ามโต หน้าอย่างหล่อ สาวกรี๊ดหลายคน แต่ซักพัก พี่ท่านก็ออกมาเปิดตัว ว่าจริงๆ เป็นเพศที่ 3 แถมยังแต่งหญิงโชว์ อีกต่างหาก เรียกว่า เปลี่ยนแนวไปได้ถึงประมาณนั้นเลยก็มี ซึ่งก็ไม่แปลกล่ะนะครับ สำหรับคนเรา ที่ในช่วงเริ่มแรกๆ ก็ยังอยู่ในช่วงค้นหาตัวเอง สำหรับการเลี้ยงปลา หรือสัตว์ต่างๆ ว่าจริงๆ เราชอบแบบไหนกันแน่ล่ะนะครับ แต่ถ้ายังมั่นใจ หรือ เข้าใจหัวใจตัวเอง อย่างแน่ชัดแล้ว ก็ขอให้เลือกปลาหางนกยูงเกรดสูง ที่ท่านเลือก เพียงไม่กี่รูปแบบก็พอครับ และ เลือกเลี้ยงในปริมาณที่พอเหมาะ พอสมกับพื้นที่ในบ้านเรา และแบ่งแยก ที่เลี้ยง อย่างชัดเจน ไม่ให้แต่ละสายพันธุ์นั้น เข้ามาปะปนกัน ซึ่งจะทำให้เกิดการผสมพันธุ์กัน ข้ามสีสัน ทำให้ปลาหางนกยูง ที่ได้มีการคัดเลือกเกรดเอาไว้ดีแล้ว ตามที่เราตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่แรก มีสีสัน และ รูปร่างที่ผิดเพี้ยนไปจากตอนแรกที่ต้องการครับ เพราะว่าในการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ นั้น เป็นเรื่องที่จำเป็นที่ผู้เลี้ยง ควรจะมีที่เลี้ยงแยกกันไปสำหรับพ่อและแม่พันธุ์อย่างละคู่ และ อาจจะต้องรวมไปถึง รุ่นลูก รุ่นหลานที่จะทยอยออกมาอีกด้วย ซึ่งบางที แค่รูปแบบสี เพียงไม่กี่แบบ ก็ทำให้ทั้งตู้พ่อ พันธุ์ แม่พันธุ์ และ ลูกปลา , หลานปลา , เหลนปลา , โหลนปลา เต็มบ้านไปหมดแล้ว ยิ่งถ้ามีสายพันธุ์ที่เลี้ยงเยอะเกินไปแล้วล่ะก็ มีโอกาสที่จะทำให้ผลผลิตออกมาผิดเพี้ยนไป จากการเลี้ยงปนกันสูงมากๆ ทีเดียวครับ นี่ยังไม่นับรวมเรื่อง เวลาที่ต้องใช้ในการดูแล ที่ถ้ามีตู้มากขึ้น ก็ต้องใช้เวลามากยิ่งขึ้น ซึ่งการต้องใช้เวลานี่ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ไม่อาจจะลดละวาง หรือทำเป็นปล่อยผ่านไปได้ ถ้าต้องการประสบความสำเร็จในการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูง ผู้เลี้ยงต้องขยัน อย่างต่อเนื่อง และสม่ำเสมอ ในการดูแลคุณภาพน้ำ และ รวมทั้งการคัดแยกลูกปลา หรือ ตอนที่แม่ปลาจะเตรียมออกลูก ก็ต้องคอยดูแลอยู่ตลอดเวลา ไม่งั้นถ้าผู้เลี้ยงเผลอ หรือ เกิดอารมณ์ขี้เกียจเพียงแป๊บเดียว ลูกปลาครอกสวย ที่กำลังเป็นที่รอคอย อาจจะผลุบหายเข้าไปในปากแม่ปลา ( ตามธรรมชาติของปลาชนิดนี้ ที่บางที มักกินลูกของตัวเอง เป็นอาหาร ) ก็เป็นไปได้ครับ และยิ่งถ้าเราเกิดขี้เกียจเปลี่ยนน้ำ บางทีอย่าว่าแต่จะทำให้เรื่องการผสมพันธุ์ของปลาเกิดความสำเร็จเลย แค่จะเลี้ยงให้รอด ยังไม่สามารถจะทำได้อย่างตลอดรอดฝั่งเลยครับ
สภาพอากาศ และ สภาพแวดล้อมต่างๆ ก็เป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดสูงๆ เช่นกันครับ เพราะในแต่ละสภาพอากาศนั้น ปลาเองก็จะกินอาหารที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น ร้อน เป็น เย็นมากๆ เช่น อากาศร้อน แล้วมีพายุฝน ผู้เลี้ยงจะต้องพึงจำกัดการให้อาหาร หรือ อาจจะงดอาหารซักระยะสั้น ๆ ก็ได้ครับ
แล้วในเวลาที่ปลาทานอาหารได้ตามปกติก็เช่นกันครับ ผู้เลี้ยงก็ไม่ควรที่จะให้อาหารมากจนเกินไป บางท่านเน้นความสะดวก และ ดูจะอยากให้ปลาอิ่มหนำสำราญทั้งวัน ไม่ว่าจะเป็นลูกน้ำ ( โตขึ้นมาเป็นยุง พอปลากินไม่หมด คนในบ้านก็จะถูกกัดได้ ) , ลูกไร ( ถ้าให้เยอะเกินไป ถึงแม้ว่าจะอยู่ในน้ำจืดได้นาน แต่พอตาย ถ้ามีมากๆ แป๊บเดียว น้ำเน่าเหม็นได้เลยเหมือนกันนะครับ ) , ไส้เดือนน้ำ ( เช่นเดียวกับไรน้ำจืด พอตายปุ๊บ แสนจะมหาแห่งความเหม็นสุดๆ ชนิด ที่คนไม่ชินกลิ่น อาจจะชวนให้คายของเก่าได้ไม่ยากเลยครับ ) , หนอนแดง ( กลายเป็นริ้นน้ำจืดไปเอง ถ้าปลากินไม่หมด ค่อยยังชั่วหน่อย ที่ไม่รบกวนอะไรนัก แต่ก็ถือว่าเป็นความสิ้นเปลือง ) , อาหารสำเร็จรูป ( ถ้าปลากินเหลือ นี่ก็น้ำเน่าเสียแน่นอนครับ ) เอาเป็นว่า ผู้เลี้ยงไม่ควรให้อาหารมากจนเกินไป เพราะถึงแม้ว่าจะ ควบคุมคุณภาพน้ำได้ดี น้ำไม่เน่าเสีย ปลาโตไว อย่างว่อง แต่ รูปทรงของปลา ก็จะเสียสมดุลไปครับ พูดแล้วก็เหมือนคนเราน่ะแหล่ะ กินมากเกินไป ก็พุงป่อง โรคภัยก็เยอะ ปลาเองก็เช่นกัน กินมากไป โตไว แต่รูปทรง ครีบเครื่อง ก็ดูไม่สมดุล กับขนาดตัว ถ้าท่านเลี้ยงเล่นๆ ไม่ได้ซีเรียส ดูปลาของท่าน พุงพลุ้ย ว่ายน้ำตุ้ยๆ แล้ว มีความสุข ก็สามารถทำได้ครับ แต่ถ้าท่านต้องการ เลี้ยงปลาหางนกยูง เพื่อ จำหน่ายเป็นงานอดิเรก หรือ ออกงาน และการประกวดต่างๆด้วย การให้อาหารปลาอย่างเหมาะสมนี่ ถือเป็นกุญแจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง พอๆ กับสายพันธุ์ของปลาที่ได้รับมาเลยล่ะครับ
และเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่งก็คือ ในส่วนของเงินทุน และ คอนเน็คชั่นต่างๆกับร้านค้า ก็ควรจะมีอย่างต่อเนื่อง และพร้อมสรรพ โดยเฉพาะการเลี้ยงปลาหางนกยูงเกรดนั้น ราคาต่อตัวจะค่อนข้างสูงอยู่แล้ว จะใช้วิธี ประมาณว่า ซื้อมาตัวเดียวก่อน แล้วอีกตัวตามมาที่หลัง แบบปลาชนิดอื่นๆ ที่มีอายุยืนยาว ยังไงก็ไม่น่าจะเหมาะสมครับ เพราะปลาหางนกยูงเอง ก็เป็นปลาที่อายุไม่ได้ยืนยาวนัก ถ้าเลยช่วงวัยที่เหมาะสมแล้ว ผลผลิตก็มักจะไม่ค่อยดีแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ ก็อาจจะแก้ได้ ( หรืออาจจะไม่ได้ ) เช่น อย่าให้แฟนถือกระเป๋าตังค์ ต้องจัดการเงินทองด้วยตัวเอง ( เห็นหลายๆคนที่รู้จัก ให้แฟน จัดการเรื่องกระเป๋าตังค์ เรื่องเงินๆทองๆ ให้ แล้วมักจะพบว่า เกือบทุกคน ประสบชะตากรรมอนาถ มีเงินมาทานข้าวกลางวัน ที่บริษัทไปวันๆ ก็เป็นพระคุณแล้ว อย่าว่าแต่ปลาหางนกยูง ตัวราคาแพงๆ แจ่มๆ เลย แค่ปลาหางนกยูง ราคาย่อมเยา ยังไม่มีโอกาส แม้แต่จะซื้อตู้มาเลี้ยงก็มี ( ฮา ) ) ส่วนเรื่องเงินๆทองๆอื่นๆ นอกจากข้อนี้ แล้วผมคิดว่าพวกคุณน่าจะจัดการกันได้แหล่ะ และ ก็อย่าลืมนะครับว่า ซื้อปลามาเท่าไหร่ เวลา บอกราคากับทางบ้าน ให้หาร สอง หรือ หารสี่ ตามความฉลาด ของแฟนนะครับ จะทำให้บรรยากาศการซื้อปลาเข้าบ้าน เป็นปกติสุขมากขึ้น .... อันนี้ก็ต้องเข้าใจล่ะนะครับ ในสายตา ของคนที่รู้จัก ปลาหางนกยูงแต่เพียงผิวเผินนั้น ราคาปลา แบบตัวละไม่เท่าไหร่ กับ ปลาตัวที่ราคาสูงๆ ดูไป ดูมา มันก็คล้ายๆกัน ซะส่วนใหญ่ ( ใช้คำว่าส่วนใหญ่นะครับ เพราะว่าปลาหางนกยูง เกรดสูงๆ หลายสี ก็เปล่งออร่า “ ของแพง “ ออกมาเปล่งปลั่ง ให้คนไม่ค่อยคุ้นเคย รู้สึกได้บ้างเหมือนกัน ว่า “ มันไม่ธรรมดา “ ยิ่งถ้าแฟนรู้ว่า มีตังค์ไปซื้อ ปลาหางนกยูงแพงๆ แต่ไม่มีตังค์มาช่วย ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หรือ ค่าใช้จ่ายตามอารมณ์ของคุณเธอแล้วล่ะก็ บางที อาจจะมีการ “ หูยาน “ เอากันได้ง่ายๆ นะครับ หรือ เบาะๆ ก็ “ ขี้หูร่วง “ จากการบ่นของแฟนกันได้ง่ายๆเลยทีเดียว ( ฮา )
ต่อไปก็คือ การมี “ คอนเน็คชั่น “ ครับ โดยเฉพาะกับร้านขายปลา ถ้าท่านผู้เลี้ยง มีความสนิทสนม และได้ร้านค้า ที่ดี มีคุณธรรมมาเป็นเพื่อนให้การปรึกษา หรือ คัดเลือกสายพันธุ์ ของปลาหางนกยูง เกรดสูง ที่มีคุณภาพให้ รวมถึงสามารถให้คำปรึกษาต่างๆ ได้ นั่นก็จะถือได้ว่า ท่านได้ “ ปิยะมิตร “ อย่างแท้จริง ร้านค้าที่ดี จะให้ความรู้ และ แนวทางการดูแล กับ ภูมิหลัง ในการเลี้ยงปลาหางนกยูงของท่านได้เป็นอย่างดี ไม่โกหกในเรื่องของอายุของปลา ( เอาปลาหางนกยูงที่ปลดระวางแล้ว มาจำหน่าย ) ไม่เอาปลาที่ไม่ดีมาขายให้เรา ( เช่น ปลาที่เป็นหมัน ) หรือ ปลาที่มีแนวโน้มจะป่วย ร้านค้าที่ดี ที่กระผมเคยพบมา จะรีบบอกกับลูกค้า และ งดขายปลาตู้นั้นทันที ที่เริ่มสังเกตเห็นอาการป่วย ไม่เหมือนกับหลายๆร้าน ที่ไม่ได้สนใจในเรื่องนี้ จะขายปลาไปตามปกติ ทั้งๆที่ในตู้ มีปลาที่เริ่มแสดงอาการป่วย และ ป่วยแล้ว หรือแม้กระทั่งตายใหม่ๆ ลอยปนอยู่ในตู้ก็มี แต่ลูกค้าที่ไม่ค่อยรู้เรื่อง ก็ยังไปตักปลามาเลี้ยงกันเหมือนเป็นปกติ แค่คิดก็สยองแล้วครับ ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนั้น... และ เมื่อผู้เลี้ยง ซื้อปลาที่เริ่มมีอาการป่วย ของบางโรค เช่น โรคจุดขาว เข้าไปเลี้ยงในที่เลี้ยง ก็มีความเป็นไปได้ ว่า ปลาใหม่ ที่เพิ่งซื้อเข้ามา จะนำเอาโรคเข้าไปติดกับปลาในที่เลี้ยงเก่าของเราได้อย่างง่ายดายครับ ซึ่ง ร้านค้าที่ดี มีความจริงใจ จะไม่ขายปลาที่เริ่มมีอาการป่วย ให้กับทางลูกค้าครับ ซึ่งขั้นตอนนี้ ถ้าท่านยังไม่แน่ใจว่า ปลาที่ได้มา จะมีโรคหรืออาการป่วยแฝงมาหรือไม่ ก็ขอแนะนำให้เลี้ยงแยกเอาไว้ซักชั่วขณะ เพื่อกักโรค ดูอาการก่อนก็ได้ครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับ ผู้ที่ต้องการสลับสายพันธุ์ปลา ก็อาจจะต้องมีร้านที่สนิทสนม หรือ ฟาร์มที่คุ้นเคยกัน ซักหลายๆฟาร์มหน่อย เพื่อ ประโยชน์ในการสลับสายพันธุ์ และพัฒนาปลาหางนกยูงเกรดสูงของเราต่อไปนั้นเองครับ
พบกันใหม่ ในบทความหน้านะครับ ขอบคุณมากครับ
--------------------------------------------------------------------
เขียนโดย กษิดิศ วรรณุรักษ์
--------------------------------------------------------------------
*** ขอบคุณร้าน 88 Aquarium เอื้อเฟื้อให้ถ่ายรูป ประกอบบทความครับ ***
ติดตามอ่าน เรื่องราวน่าสนใจ เกี่ยวกับกุ้งสวยงาม และ ปลาสวยงาม และ เกร็ดความรู้สัตว์โลกอื่นๆ ได้ที่
meogui.bloggang.com