สวัสดีค่ะ ปกติก็เคยแต่อ่านเรื่องของชาวบ้าน แต่วันนี้มีข้อสงสัยอยากมาสอบถามความเห็นชาวพันทิพย์หน่อยอ่ะคะ
พอดีเราเพิ่งเริ่มคบกับแฟนปัจจุบันได้สักพักใหญ่ ก่อนหน้านี้คบกับแฟนเก่ามาเกือบ 5 ปีได้ แต่ก็รักๆเลิกๆกันหลายครั้ง ตามประสาคนเป็นแฟนกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ตอนที่คบกับแฟนเก่า เราย้ายไปอยู่บ้านของเค้า ทำงานที่เดียวกัน ไม่ว่าจะไปไหน จะทำอะไร จะตัดสินใจอะไร เราแชร์ความคิดกันทุกอย่าง เรียกได้ว่า 24 ชั่วโมงเราอยู่ด้วยกันแทบตลอด นอกจากมีธุระที่จำเป็นจะต้องแยกกัน แต่ก็ไม่เคยห่างกันนานๆสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเราเริ่มทะเลาะกันบ้าง มีปัญหาไม่ค่อยได้เคลียกันบ้าง ปล่อยให้วันนึงหายโกรธกันไปเอง แต่ก็ไม่เคยถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมเราต้องทะเลาะ จนในที่สุดก็เริ่มห่างๆกันไปเรื่อยๆๆ เราเคยรู้สึกเบื่อเค้ามากๆอยู่ครั้งนึง ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานแล้วไปทำงานต่างจังหวัดพักนึงค่ะ จากคนตัวติดกันตลอด หนีไปไกลมากๆ แต่สุดท้ายพอรู้ว่าห่างกันมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็กลับมาหางานใหม่ที่กรุงเทพ และก็กลับมาคบกันอีกครั้ง...
แล้ววันนึงเราได้เริ่มทำงานที่ใหม่ค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนเข้ากับคนง่าย ชอบปาร์ตี้(หรือที่เรียกกันว่า ชอบบรรยากาศในวงเหล้า555) ก็เลยทำให้ได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่ทำงานใหม่ค่ะ เวลาที่เจอกัน เค้าก็มักจะชอบเดินเข้ามาใกล้ๆ ชวนคุยบ้าง ทักทายบ้าง แสดงออกให้เรารู้อ่ะคะว่าเค้าชอบเรา ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดไรกับเค้านะคะ มองว่าเค้าดูเจ้าชู้ เป็นคนกวนๆ ขี้อ้อนๆ ลุคแบบเพล์บอยซะมากกว่า บางวันในตอนเช้า พอเรามาถึงที่โต๊ะทำงานก็จะมีขนมมาวางไว้บ้าง หรือกลางวันก็มีฝากขนมมากับรุ่นพี่ที่ทำงานชั้นเดียวกับเราบ้าง ก็รู้สึกตลกดี คือตอนนั้นเค้าเคยให้รุ่นพี่คนนี้โทรมาชวนเราลงไปนั่งเล่นที่ม้านั่งตอนเย็น เค้าก็เลยเมมเบอร์เราไว้ จากนั้นก็เลยได้คุยไลน์กันค่ะ ในทุกๆเช้าเค้าจะไลน์มาทักตลอดค่ะ หยอดคำหวานๆบ้าง กวนๆบ้าง เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีปิดเสียงไปก็มี 555 แต่บางวันที่เค้ายังไม่ไลน์มา เราก็แอบรอไลน์จากเค้านะ บางทีสงสัยว่าตื่นสายหรือเปล่า เราก็เลยส่งสติ๊กเกอร์ไปบ้าง หรือถามว่าตื่นยังบ้าง ก็คุยกันมาสักพักนะคะ จากที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย ก็เริ่มนึกถึงเค้ามากขึ้น อยากเจอบ่อยขึ้น แอบมองที่ประจำที่เค้าจะนั่ง ว่าเค้ามาหรือยัง เริ่มคุยไลน์ คุยโทรศัพท์กันบ่อยๆ ใช้เวลาแบบนี้อยู่ประมาณ 3 เดือนค่ะ ช่วงนี้เรากะแฟนเก่าก็ยังไม่ได้บอกเลิกกันนะคะ แต่ตั้งแต่ที่เราเริ่มทำงาน เราก็กลับมาอยู่บ้านของเราเองค่ะ เพราะมาทำงานสะดวกมากกว่า เรียกได้ว่าห่างกันไปเลยก็ว่าได้ คุยบ้างไม่คุยบ้าง ปรึกษาเรื่องงานบ้าง คุยแค่ธุระเสร็จก็วางไป เค้าก็พอดูออกนะคะว่าเราเปลี่ยนไป แต่ก็ปากหนักทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลง ก็ปล่อยเลยตามเลยเหมือนทุกๆครั้ง และในวันนึงเค้าก็ทักเรามาในไลน์ค่ะ คุยกันไปคุยกันมาก็เปิดใจใส่กันทุกเรื่อง เราก็เล่าให้เค้าฟังเรื่องคนที่เราคบอยู่ปัจจุบัน เค้าก็เข้าใจนะคะ และเค้าก็เล่าให้เราฟังว่าเค้าก็คุยกะน้องคนนึงอยู่เช่นกัน (ซึ่งเราก็รู้จักนิสัยน้องผู้หญิงคนนี้อยู่บ้าง เราก็โล่งใจค่ะ ที่แฟนเก่าเราจะได้คบคนดี(มากกว่าเรา) ต่อให้เราทั้งคู่ฝืนคบกันไป สุดท้ายวันนึงก็คงต้องเลิก เราก็คุยกันแบบแฟร์ๆค่ะ จบและจากกันด้วยความเป็นเพื่อน)
จนวันนึงเรากะแฟนปัจจุบันเริ่มรู้สึกดีต่อกันมากขึ้น ทานข้าวกลางวันด้วยกัน ในที่ทำงานก็เริ่มเห็นชัดมากขึ้นว่าเราสองคนกำลังคบกัน ทุกอย่างมันก็ดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว แรกๆเราก็รู้สึกนะคะว่าเค้าคอยดูแลเราดีมาก เทคแคร์ทุกอย่าง เราต้องมาอันดับหนึ่งเสมอ แต่พอผ่านไปสักพักความทะเล้น ความกวนทีนที่เค้าเคยเล่นกะเพื่อนก็เอามาใช้กับเรา แกล้งเราบ้าง ให้เราหยิบโน่น นี่ นั่นให้บ้าง แบบทำต่อหน้าเพื่อนในวงเหล้า จะโชว์พาวว่าใช้เราได้ว่างั้น แต่เราก็โอเคนะคะ ไม่ได้ใส่ใจอะไร เห็นเค้าขำๆกันในวง เป็นตัวตลกบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้แกล้งเราตลอดหรอกนะคะ บางทีเราก็แอบโชว์พาว ใช้เค้าทำโน่นนี่นั่นบ้าง เพื่อนๆเค้าก็ขำๆกัน ก็ยอมๆกันไปตามประสา หลายๆครั้งที่เรากะแฟนไปกินเที่ยวด้วยกัน ก็มีเมาแล้วไปเปิดห้องนอนกันบ้าง เดือนๆนึงก็หลายวันอยู่ เปิดโรงแรมนอนครั้งนึงก็หลายตังค์ค่ะ เลยมาคุยกันว่าเราเปิดห้องอยู่ด้วยกันดีมั้ย เพราะค่าเช่าห้องกะค่าพักโรงแรม เฉลี่ยแล้วก็พอๆกันเลย วันไหนไม่สะดวกก็ต่างคนต่างกลับบ้าน วันไหนอยากอยู่ด้วยกันก็ค่อยมานอนพักที่ห้องค่ะ ด้วยความที่เราเคยตัวติดแฟนมาตลอด ทำอะไรก็มีเพื่อนตลอด กลับไปอยู่ที่บ้านก็เป็นครอบครัวใหญ่ มีเพื่อนคุยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่า แทบไม่เคยทำอะไรคนเดียวเลยก็ว่าได้ แต่แฟนเราเค้าไม่เคยพักอยู่กับแฟนตลอดเวลา ทำอะไรก็มักจะมีโลกส่วนตัว ปกติเวลาเราจะกิน จะไปไหน หรือจะทำอะไร เราก็คิดเป็นสองคนก่อนตลอด แต่กับเค้า เค้าก็จะคิดแค่หนึ่งก่อนแล้วค่อยบวกเราเข้ามาทีหลัง ลักษณะค่อยข้างเป็นผู้นำ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเสมอ เหมือนมองกันคนละมุมมากกว่า เราเป็นคนที่ชอบอะไรหวานๆกุ๊กกิ๊กๆตามประสาผู้หญิง แต่เค้าก็จะเป็นคนเรียบๆง่ายๆไม่หวือหวา ไม่หวาน(เหมือนตอนหยอดใหม่ๆ555) อย่างวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราก็แอบรอนะคะ ว่าจะมีเซอไพรส์มั้ย (เห็นคู่อื่นเค้านิยมกันก็เลยแอบมโนบ้าง) แต่เค้ามีธุระค่ะ ก็เลยไม่คาดหวังอะไรเท่าไหร่(หราา) ก็รอว่าวันที่เค้าว่างอาจจะพาเราไปดินเนอร์หรือทานข้าว หรือมีข้อความหรือคำพูดดีๆให้เราฟังบ้าง ก็มันปีแรกนี่หน่า แต่แล้วมันก็เป็นเพียงวันธรรมดาๆวันนึง ก็พยายามไม่คิดไรเยอะนะ แอบถามรุ่นพี่ที่รู้จักว่าเซอร์ไพรส์ไรแฟนคะพี่(พี่ผู้ชาย) พี่เค้าก็ตอบว่า ไม่อ่ะ คบกันมา 5 ปี ไม่เคยซื้อดอกไม้ให้แฟนเลย ก็พี่เค้าไม่หวาน ไม่กล้าให้ มันเขิน (ก็เลยมาคิดย้อนดูแฟนตัวเอง คงเป็นเพราะเค้าไม่หวานมั้ง) ส่วนตัวเราก็แอบมีเซอร์ไพรส์ของขวัญให้เค้าชิ้นนึง เลยอยากถามความคิดเห็นหน่อยอ่ะคะ ว่าเราควรปรับความคิดตัวเองใหม่ หรือปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับเค้าได้ดีกว่านี้ จะได้คบกันไปนานๆอ่ะคะ เราคิดมากหรือคิดน้อยไปตรงไหนหรือเปล่า หรือใครมีมุมมองที่จะเสนอแนะ ยินดีรับฟังค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(รายละเอียดระหว่างที่คบกัน เล่าแบบย่อๆนะคะ เล่าหมดไม่ไหว มีเรื่องราวที่เล่าไม่ได้อยู่บ้าง และก็มีเรื่องราวทั้งที่ทำให้ยิ้มได้และบั่นทอนรอยยิ้มได้อีกเยอะเลยค่ะ แต่เล่าคร่าวๆประมาณนี้ล่ะกันคะ)
เมื่อเรากับแฟนมีมุมมองที่ต่างกัน นั่นไง!! ทำไงดี...
พอดีเราเพิ่งเริ่มคบกับแฟนปัจจุบันได้สักพักใหญ่ ก่อนหน้านี้คบกับแฟนเก่ามาเกือบ 5 ปีได้ แต่ก็รักๆเลิกๆกันหลายครั้ง ตามประสาคนเป็นแฟนกันก็ต้องมีกระทบกระทั่งกันบ้าง ตอนที่คบกับแฟนเก่า เราย้ายไปอยู่บ้านของเค้า ทำงานที่เดียวกัน ไม่ว่าจะไปไหน จะทำอะไร จะตัดสินใจอะไร เราแชร์ความคิดกันทุกอย่าง เรียกได้ว่า 24 ชั่วโมงเราอยู่ด้วยกันแทบตลอด นอกจากมีธุระที่จำเป็นจะต้องแยกกัน แต่ก็ไม่เคยห่างกันนานๆสักเท่าไหร่ จนกระทั่งเราเริ่มทะเลาะกันบ้าง มีปัญหาไม่ค่อยได้เคลียกันบ้าง ปล่อยให้วันนึงหายโกรธกันไปเอง แต่ก็ไม่เคยถามเหตุผลว่าเพราะอะไร ทำไมเราต้องทะเลาะ จนในที่สุดก็เริ่มห่างๆกันไปเรื่อยๆๆ เราเคยรู้สึกเบื่อเค้ามากๆอยู่ครั้งนึง ก็เลยตัดสินใจลาออกจากงานแล้วไปทำงานต่างจังหวัดพักนึงค่ะ จากคนตัวติดกันตลอด หนีไปไกลมากๆ แต่สุดท้ายพอรู้ว่าห่างกันมันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น ก็กลับมาหางานใหม่ที่กรุงเทพ และก็กลับมาคบกันอีกครั้ง...
แล้ววันนึงเราได้เริ่มทำงานที่ใหม่ค่ะ ด้วยความที่เราเป็นคนเข้ากับคนง่าย ชอบปาร์ตี้(หรือที่เรียกกันว่า ชอบบรรยากาศในวงเหล้า555) ก็เลยทำให้ได้เจอกับผู้ชายคนนึงที่ทำงานใหม่ค่ะ เวลาที่เจอกัน เค้าก็มักจะชอบเดินเข้ามาใกล้ๆ ชวนคุยบ้าง ทักทายบ้าง แสดงออกให้เรารู้อ่ะคะว่าเค้าชอบเรา ตอนนั้นเราก็ยังไม่ได้คิดไรกับเค้านะคะ มองว่าเค้าดูเจ้าชู้ เป็นคนกวนๆ ขี้อ้อนๆ ลุคแบบเพล์บอยซะมากกว่า บางวันในตอนเช้า พอเรามาถึงที่โต๊ะทำงานก็จะมีขนมมาวางไว้บ้าง หรือกลางวันก็มีฝากขนมมากับรุ่นพี่ที่ทำงานชั้นเดียวกับเราบ้าง ก็รู้สึกตลกดี คือตอนนั้นเค้าเคยให้รุ่นพี่คนนี้โทรมาชวนเราลงไปนั่งเล่นที่ม้านั่งตอนเย็น เค้าก็เลยเมมเบอร์เราไว้ จากนั้นก็เลยได้คุยไลน์กันค่ะ ในทุกๆเช้าเค้าจะไลน์มาทักตลอดค่ะ หยอดคำหวานๆบ้าง กวนๆบ้าง เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้าง บางทีปิดเสียงไปก็มี 555 แต่บางวันที่เค้ายังไม่ไลน์มา เราก็แอบรอไลน์จากเค้านะ บางทีสงสัยว่าตื่นสายหรือเปล่า เราก็เลยส่งสติ๊กเกอร์ไปบ้าง หรือถามว่าตื่นยังบ้าง ก็คุยกันมาสักพักนะคะ จากที่เราไม่ได้คิดอะไรเลย ก็เริ่มนึกถึงเค้ามากขึ้น อยากเจอบ่อยขึ้น แอบมองที่ประจำที่เค้าจะนั่ง ว่าเค้ามาหรือยัง เริ่มคุยไลน์ คุยโทรศัพท์กันบ่อยๆ ใช้เวลาแบบนี้อยู่ประมาณ 3 เดือนค่ะ ช่วงนี้เรากะแฟนเก่าก็ยังไม่ได้บอกเลิกกันนะคะ แต่ตั้งแต่ที่เราเริ่มทำงาน เราก็กลับมาอยู่บ้านของเราเองค่ะ เพราะมาทำงานสะดวกมากกว่า เรียกได้ว่าห่างกันไปเลยก็ว่าได้ คุยบ้างไม่คุยบ้าง ปรึกษาเรื่องงานบ้าง คุยแค่ธุระเสร็จก็วางไป เค้าก็พอดูออกนะคะว่าเราเปลี่ยนไป แต่ก็ปากหนักทั้งคู่ค่ะ ไม่มีใครพูดถึงสิ่งที่มันเปลี่ยนแปลง ก็ปล่อยเลยตามเลยเหมือนทุกๆครั้ง และในวันนึงเค้าก็ทักเรามาในไลน์ค่ะ คุยกันไปคุยกันมาก็เปิดใจใส่กันทุกเรื่อง เราก็เล่าให้เค้าฟังเรื่องคนที่เราคบอยู่ปัจจุบัน เค้าก็เข้าใจนะคะ และเค้าก็เล่าให้เราฟังว่าเค้าก็คุยกะน้องคนนึงอยู่เช่นกัน (ซึ่งเราก็รู้จักนิสัยน้องผู้หญิงคนนี้อยู่บ้าง เราก็โล่งใจค่ะ ที่แฟนเก่าเราจะได้คบคนดี(มากกว่าเรา) ต่อให้เราทั้งคู่ฝืนคบกันไป สุดท้ายวันนึงก็คงต้องเลิก เราก็คุยกันแบบแฟร์ๆค่ะ จบและจากกันด้วยความเป็นเพื่อน)
จนวันนึงเรากะแฟนปัจจุบันเริ่มรู้สึกดีต่อกันมากขึ้น ทานข้าวกลางวันด้วยกัน ในที่ทำงานก็เริ่มเห็นชัดมากขึ้นว่าเราสองคนกำลังคบกัน ทุกอย่างมันก็ดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็ว แรกๆเราก็รู้สึกนะคะว่าเค้าคอยดูแลเราดีมาก เทคแคร์ทุกอย่าง เราต้องมาอันดับหนึ่งเสมอ แต่พอผ่านไปสักพักความทะเล้น ความกวนทีนที่เค้าเคยเล่นกะเพื่อนก็เอามาใช้กับเรา แกล้งเราบ้าง ให้เราหยิบโน่น นี่ นั่นให้บ้าง แบบทำต่อหน้าเพื่อนในวงเหล้า จะโชว์พาวว่าใช้เราได้ว่างั้น แต่เราก็โอเคนะคะ ไม่ได้ใส่ใจอะไร เห็นเค้าขำๆกันในวง เป็นตัวตลกบ้างก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่เค้าก็ไม่ได้แกล้งเราตลอดหรอกนะคะ บางทีเราก็แอบโชว์พาว ใช้เค้าทำโน่นนี่นั่นบ้าง เพื่อนๆเค้าก็ขำๆกัน ก็ยอมๆกันไปตามประสา หลายๆครั้งที่เรากะแฟนไปกินเที่ยวด้วยกัน ก็มีเมาแล้วไปเปิดห้องนอนกันบ้าง เดือนๆนึงก็หลายวันอยู่ เปิดโรงแรมนอนครั้งนึงก็หลายตังค์ค่ะ เลยมาคุยกันว่าเราเปิดห้องอยู่ด้วยกันดีมั้ย เพราะค่าเช่าห้องกะค่าพักโรงแรม เฉลี่ยแล้วก็พอๆกันเลย วันไหนไม่สะดวกก็ต่างคนต่างกลับบ้าน วันไหนอยากอยู่ด้วยกันก็ค่อยมานอนพักที่ห้องค่ะ ด้วยความที่เราเคยตัวติดแฟนมาตลอด ทำอะไรก็มีเพื่อนตลอด กลับไปอยู่ที่บ้านก็เป็นครอบครัวใหญ่ มีเพื่อนคุยอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่า แทบไม่เคยทำอะไรคนเดียวเลยก็ว่าได้ แต่แฟนเราเค้าไม่เคยพักอยู่กับแฟนตลอดเวลา ทำอะไรก็มักจะมีโลกส่วนตัว ปกติเวลาเราจะกิน จะไปไหน หรือจะทำอะไร เราก็คิดเป็นสองคนก่อนตลอด แต่กับเค้า เค้าก็จะคิดแค่หนึ่งก่อนแล้วค่อยบวกเราเข้ามาทีหลัง ลักษณะค่อยข้างเป็นผู้นำ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองเสมอ เหมือนมองกันคนละมุมมากกว่า เราเป็นคนที่ชอบอะไรหวานๆกุ๊กกิ๊กๆตามประสาผู้หญิง แต่เค้าก็จะเป็นคนเรียบๆง่ายๆไม่หวือหวา ไม่หวาน(เหมือนตอนหยอดใหม่ๆ555) อย่างวาเลนไทน์ที่ผ่านมา เราก็แอบรอนะคะ ว่าจะมีเซอไพรส์มั้ย (เห็นคู่อื่นเค้านิยมกันก็เลยแอบมโนบ้าง) แต่เค้ามีธุระค่ะ ก็เลยไม่คาดหวังอะไรเท่าไหร่(หราา) ก็รอว่าวันที่เค้าว่างอาจจะพาเราไปดินเนอร์หรือทานข้าว หรือมีข้อความหรือคำพูดดีๆให้เราฟังบ้าง ก็มันปีแรกนี่หน่า แต่แล้วมันก็เป็นเพียงวันธรรมดาๆวันนึง ก็พยายามไม่คิดไรเยอะนะ แอบถามรุ่นพี่ที่รู้จักว่าเซอร์ไพรส์ไรแฟนคะพี่(พี่ผู้ชาย) พี่เค้าก็ตอบว่า ไม่อ่ะ คบกันมา 5 ปี ไม่เคยซื้อดอกไม้ให้แฟนเลย ก็พี่เค้าไม่หวาน ไม่กล้าให้ มันเขิน (ก็เลยมาคิดย้อนดูแฟนตัวเอง คงเป็นเพราะเค้าไม่หวานมั้ง) ส่วนตัวเราก็แอบมีเซอร์ไพรส์ของขวัญให้เค้าชิ้นนึง เลยอยากถามความคิดเห็นหน่อยอ่ะคะ ว่าเราควรปรับความคิดตัวเองใหม่ หรือปรับตัวอย่างไรให้เข้ากับเค้าได้ดีกว่านี้ จะได้คบกันไปนานๆอ่ะคะ เราคิดมากหรือคิดน้อยไปตรงไหนหรือเปล่า หรือใครมีมุมมองที่จะเสนอแนะ ยินดีรับฟังค่ะ
ขอบคุณค่ะ
(รายละเอียดระหว่างที่คบกัน เล่าแบบย่อๆนะคะ เล่าหมดไม่ไหว มีเรื่องราวที่เล่าไม่ได้อยู่บ้าง และก็มีเรื่องราวทั้งที่ทำให้ยิ้มได้และบั่นทอนรอยยิ้มได้อีกเยอะเลยค่ะ แต่เล่าคร่าวๆประมาณนี้ล่ะกันคะ)