ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่เอสซีจี เมืองทอง สดุดี ''มุ้ย'' ธีรศิลป์ แดงดา เป็นนับเบอร์วันทุกอย่างของสโมสรและวงการฟุตบอลไทย บอกหากไม่เป็นโค้ชจะเป็นนักเตะคนเดียวที่ตนยอมควักกระเป๋าซื้อตั๋วไปนั่งดูในสนาม พร้อมยก ''กิเลนผยอง'' คือเบอร์หนึ่งของเมืองไทยเหนือบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายหลังจากที่เพิ่งประเดิมสนามด้วยการบุกไปเอาชนะน้องใหม่ "สวาดแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้ตามเป้าหมาย โดย ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่เอสซีจี เมืองทอง ออกมาแสดงความชื่นชม "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวเก่ง ที่เพิ่งจะคัมแบ็กกลับมาลงสนามให้กับต้นสังกัดเป็นนัดแรก หลังจากโกอินเตอร์ไปค้าแข้งที่กับอัลเมเรีย ในศึก ลา ลีกา ประเทศสเปน พร้อมบอกอีกว่า "เอลแดงดา" คือนักเตะคนเดียวที่ตนจะยอมควักกระเป๋าซื้อตั๋วเข้าไปชมเกมในสนามอีกด้วย
"ขอต้อนรับ ธีรศิลป์ แดงดา กลับสู่ทีมเอสซีจี เมืองทอง และวงการฟุตบอลไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับธีรศิลป์คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน และเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ แม้ว่าจะยิงประตูได้หรือไม่ก็ตาม แต่เขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเสมอ มันจึงเป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับเราที่ได้เขากลับมาร่วมล่าตาข่ายให้ทีมในปีนี้"
พร้อมกันนี้เฮดโค้ชชาวเซิร์บยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า "หากผมไม่ได้เป็นโค้ชเอสซีจี เมืองทอง เหมือนในตอนนี้ ผมกล้าพูดเลยว่าผมจะเป็นคนหนึ่งที่ยอมซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาชมฝีเท้าของ ธีรศิลป์ แดงดา นี่คือนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่งของเมืองไทยที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ"
ยก "กิเลน" เบอร์ 1 เหนือบุรีรัมย์
ขณะเดียวกันโปรแกรมนัดต่อไปของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านทำศึกบิ๊กแมตช์ด้วยการต้อนรับการมาเยือนของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 21 ก.พ.นี้ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น.
โดย ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่เอสซีจี เมืองทอง กล่าวถึงเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ว่า "ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเราโคจรมาเจอกันเร็วเกินไปหน่อย บุรีรัมย์เป็นทีมใหญ่ระดับสองของเมืองไทย เพราะเมืองทองเป็นเบอร์หนึ่ง ผมเชื่อว่าการเจอกันของสองทีมที่ดีที่สุด จะเป็นการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจสมกับเป็นบิ๊กแมตช์อย่างแน่นอน พวกเราเคารพในบุรีรัมย์ เราเคารพในประธานสโมสรบุรีรัมย์ และขอยินดีต้อนรับสู่เอสซีจี สเตเดี้ยม ขอให้เป็นเกมที่สวยงาม"
สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีม จำนวนทั้งสิ้น 16 เกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ โดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะ 9 นัดและเสมอกัน 7 นัด
ทำไมทีมเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ขี้โม้จังครับ
"กิเลนผยอง" เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ภายหลังจากที่เพิ่งประเดิมสนามด้วยการบุกไปเอาชนะน้องใหม่ "สวาดแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บ 3 แต้มแรกได้ตามเป้าหมาย โดย ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่เอสซีจี เมืองทอง ออกมาแสดงความชื่นชม "มุ้ย" ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวเก่ง ที่เพิ่งจะคัมแบ็กกลับมาลงสนามให้กับต้นสังกัดเป็นนัดแรก หลังจากโกอินเตอร์ไปค้าแข้งที่กับอัลเมเรีย ในศึก ลา ลีกา ประเทศสเปน พร้อมบอกอีกว่า "เอลแดงดา" คือนักเตะคนเดียวที่ตนจะยอมควักกระเป๋าซื้อตั๋วเข้าไปชมเกมในสนามอีกด้วย
"ขอต้อนรับ ธีรศิลป์ แดงดา กลับสู่ทีมเอสซีจี เมืองทอง และวงการฟุตบอลไทยอย่างเป็นทางการอีกครั้ง สำหรับธีรศิลป์คงไม่มีใครปฏิเสธว่าเขาเก่งกาจแค่ไหน และเขาเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยมอยู่เสมอ แม้ว่าจะยิงประตูได้หรือไม่ก็ตาม แต่เขายังเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมเสมอ มันจึงเป็นสิ่งที่วิเศษมากสำหรับเราที่ได้เขากลับมาร่วมล่าตาข่ายให้ทีมในปีนี้"
พร้อมกันนี้เฮดโค้ชชาวเซิร์บยังได้กล่าวต่อไปอีกว่า "หากผมไม่ได้เป็นโค้ชเอสซีจี เมืองทอง เหมือนในตอนนี้ ผมกล้าพูดเลยว่าผมจะเป็นคนหนึ่งที่ยอมซื้อตั๋วเพื่อเข้ามาชมฝีเท้าของ ธีรศิลป์ แดงดา นี่คือนักเตะที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่งของเมืองไทยที่ไม่มีใครกล้าปฏิเสธ"
ยก "กิเลน" เบอร์ 1 เหนือบุรีรัมย์
ขณะเดียวกันโปรแกรมนัดต่อไปของเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด จะเปิดบ้านทำศึกบิ๊กแมตช์ด้วยการต้อนรับการมาเยือนของ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ในวันเสาร์ที่ 21 ก.พ.นี้ ที่สนามเอสซีจี สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น.
โดย ดราแกน ทาลายิช กุนซือใหญ่เอสซีจี เมืองทอง กล่าวถึงเกมซูเปอร์บิ๊กแมตช์ว่า "ผมเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่าเราโคจรมาเจอกันเร็วเกินไปหน่อย บุรีรัมย์เป็นทีมใหญ่ระดับสองของเมืองไทย เพราะเมืองทองเป็นเบอร์หนึ่ง ผมเชื่อว่าการเจอกันของสองทีมที่ดีที่สุด จะเป็นการแข่งขันที่สนุก ตื่นเต้น และเร้าใจสมกับเป็นบิ๊กแมตช์อย่างแน่นอน พวกเราเคารพในบุรีรัมย์ เราเคารพในประธานสโมสรบุรีรัมย์ และขอยินดีต้อนรับสู่เอสซีจี สเตเดี้ยม ขอให้เป็นเกมที่สวยงาม"
สำหรับสถิติการพบกันของทั้งสองทีม จำนวนทั้งสิ้น 16 เกม เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ยังไม่สามารถเอาชนะบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดได้ โดยบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นฝ่ายชนะ 9 นัดและเสมอกัน 7 นัด