เมื่อ อาทิตย์ ก่อน เพื่อนบ้านเราคนหนึ่ง ได้โทรหาเราว่าน้องหมาเขาป่วย ซึมไม่กินข้าว แค่ 2 วัน กินอะไรเข้าไป ก็อาเจียนหมด ทั้งๆที่ ก่อนหน้านี้ เขาก็กินได้ปกติ พี่เขาเก็บน้องหมาเหล่านี้ มาจากวัด บ้าง ป้ายรถเมล์บ้าง เราก็เลยเอา ยาให้น้องหมากิน ที่เรามียาหลายชนิด เพราะ เราช่วยน้องหมามามากมาย จึงรู้จักยา ของน้องหมาหลายชนิด ซื้อยาหลายชนิด เก็บเอาไว้ เพราะ ถ้าไปซื้อยา กับคลีนิค บางที ก็แพงมาก สำหรับหลายๆ คลีนิค ปรากฎว่า ให้ อะไรไป น้องเขา อาเจียนออกหมด เหมือน คนที่เป็นโรคกระเพาะ ปกติ เรามีคลีนิค คุณหมอ ที่เรารักษา ประจำอยู่ แต่เนื่องจาก เราย้ายบ้าน ออกมา ก็เลยไกลจากคลีนิค คุณหมอ ออกไปอีก
จนคืนนั้น พี่เขาโทรมาให้เราอีก บอกว่า อยากให้เรา พาเขาไปหาหมอให้หน่อย เรียก รถ ก็กลัวเขาไม่ให้ขึ้น เพราะ เป็นหมาจร เราก็เลยไปรับน้องหมาไปคลีนิค แถวบ้าน เราเห็นสภาพ น้องเขานอนซึม ดูน่าสงสาร จนพี่เขาพาเข้าไปในห้อง คุณหมอ บอกว่า น้องเขา ขาดน้ำอย่างรุนแรง เรารักษา น้องหมามาเยอะ เพิ่งได้ยิน อาการนี้ ต้องให้น้ำเกลือจนหมดขวด เราเข้าไปในห้องน้องเขา ก็เลยเห็นเห็บเกาะ ตามตัว เลยคิดว่า เป็นเพราะ โรคพยาธิเม็ดเลือด มาด้วยแน่ๆ คุณหมอ เช็คเลือด ซึ่งต้องรอผลรุ่งเช้า สรุปคือ คุณหมอให้น้องหมาอยู่คลีนิค ในคืนนั้น แต่สำหรับเรา เราจะไม่ให้น้องหมา อยู่คลีนิค ถ้าเป็นหมาที่เราดูแล ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอเราอยู่ใกล้เขาจนนาทีสุดท้าย เราจะให้คามรักเขาจนนาทีสุดท้าย และ เรามีความรู้สึกว่า เขาอาจจะไปได้ทุกเวลา
จนรุ่งเช้าพี่เขาโทรหาเราแต่เช้า ในใจคิดว่า อย่าโทรมาบอกว่า น้องเขาไปแล้วน่ะ และ ก็เป็นจริงๆ พี่เขาโทรมาบอกว่า น้องเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สุดท้าย คุณหมอ โทรมาแจ้งว่า น้องหมาติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง เราเองก็ไม่รู้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร จน พี่เขาบอกเราว่า น้องหมาที่บ้านอีกตัว มีน้ำหนองไหล ออกมาจาก จิมิ และ มีตัวผู้มาช่วยเลีย และ พี่เขาบอกว่า เคยฉีดยาคุมให้น้องเขาด้วย โอ้ว.... ฟังแล้ว น่าจะเริ่มแย่แล้ว พี่เขาเก็บน้องมาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้ ก็น่าจะ 3 ขวบ จาก น้องหมาตัวแรก ทำให้เรา ต้องรีบช่วยน้องเขาอย่างด่วน พี่เขาก็ไม่ค่อยมีเงิน รถก็ไม่มี ตาก็มองไม่ค่อยเห็น เราเพิ่งสังเกต ว่าพี่เขามองไม่เห็นเมื่อไม่นานนี้เอง เราก็เลยถามว่า พี่จะไปฉีดยาคุม ทำไม ผลตามมามันร้ายแรงมาก ทีเดียว พี่เขาเลยบอกว่า ทำไงล่ะ ไม่มีเงินพาเขาไปทำหมัน และ ก็กลัวเขาผสมพันธุ์ อีก
เราก็เลยบอกว่า งั้น เราเอาเขาไปตรวจเลือด ที่แล๊บ อย่างด่วนเลยแล้วกัน เพราะกลัวว่า จะติดเชื้อในกระแสเลือดอีก สุดท้ายพาไปเช็ค รพ. ที่ตรวจเลือดได้อย่างรวดเร็ว เสียค่าจ่ายแพงกว่าคลีนิคทั่วไป ที่นั่นคุณหมอคิด 700 กว่าบาท เราก็ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตเขา ผลออกมา ผลปกติ แต่เราเห็นน้องเขา เห็บเยอะเหมือนกัน กลัวเป็นพยาธิเม็ดเลือด และ ผ่าตัดไม่ได้ อย่างน้อย ตอนนี้ เรารู้แล้วว่า เขาน่าจะผ่าตัดได้ เราเลยถาม รพ. ที่นั่นว่า ถ้าผ่าตัด คุณหมอ คิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ คุณหมอบอกว่า ค่าผ่าตัด ประมาณ 2,300-2,500 บาท แต่ต้อง ไปนอน รพ. ก่อน 3 วัน ถึงจะผ่าตัดได้ นี่ไม่รวมค่ายา และ ค่าฝาก หลังผ่าตัดอีก เราเลยบอกว่า เดี๋ยวไปหาเงินก่อน ถึงผ่าตัด ซึ่งคุณหมอบอกว่า ต้องรีบผ่าตัด ก่อนที่ มดลูกอักเสบมากกว่านี้
เราก็เลยบอกให้พี่เขาโทรไปถาม ราคา คลีนิคแรก ว่า เขาคิดราคาค่าผ่าเท่าไหร่ พี่เขาเลยถามว่า มันเป็นราคา special หรือ พี่เขาเลยโทรไปถามคุณหมอ และบอกรายละเอียดน้ำหนัก 15 กิโล คุณหมอคิดค่าผ่าตัด 3,000 บาท ไม่รวมค่าฝาก กับค่ายาเหมือนกัน ส่วนคุณหมอ ที่เราเคยพาน้องหมาจรไป เราโทรไปหลายครั้ง คุณหมอ ก็ยังไม่เข้าคลีนิค เราก็เลย โทรไปหาเพื่อนอีกคน ขอเบอร์ คลีนิคคุณหมอ ที่เพื่อนเรา พาน้องเขาไปรักษา เผื่อฉุกเฉิน เราโทรไป และเล่ารายละเอียดให้ฟังทั้งหมด คุณหมอบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ต้องรมยา ไม่สามารถฉีดยาสลบได้ เขาไม่รับผ่าตัด เพราะ ยาจะหมดแล้ว เรางงๆ อะไรน่ะ ยาไม่พร้อม เราก็เลยมาหา ข้อมูลใน google รมยานี่ ต้องอาการหนัก น้องหมาอายุเยอะ จนเราคิดว่า หรือ ต้องพาไปเขาไป รพ.เกษตร
สุดท้ายเราตัดสินใจ ขอโทรหาคุณหมอที่เรารักษาประจำก่อนดีกว่า เราเชื่อใจคุณหมอคนนี้ที่สุด ไม่เคยทำน้องหมาจรตายสักตัว และ คุณหมอก็จะบอกเราตรงๆ ว่าได้หรือไม่ได้ อย่างน้อย หลายๆครั้ง คุณหมอ ทำให้เราเห็นว่า เขาไม่เคยรังเกียจน้องหมาจรเลย สภาพน้องอย่างเน่า น้ำเหลืองไหล คุณหมอจับเขา แบบไม่ใส่ถุงมือ อันนี้ที่ทำให้เราเห็นความเมตตา จริงๆ ของคุณหมอ กว่าเราจะได้คุยกับคุณหมอ ประมาณ 4 ทุ่ม เราเล่าอาการให้ฟังทั้งหมด และบอกว่า ตรวจเลือด เรียบร้อยแล้ว คุณหมอ ผ่าตัดเขาได้มั๊ย สุดท้ายคุณหมอบอกว่า พี่มณฑ์ มาผ่าเลยค่ะ เราเลยถามราคา คุณหมอ บอกว่า ประมาณ 2,000 บาท และสำหรับ คุณหมอคนนี้ เรารู้เลยว่า รวมค่ายา เรียบร้อยแล้ว
รุ่งเช้า เราเลยไปรับพี่เขา และน้องหมา ไปหาคุณหมอ เราต้องถามก่อน เพราะ คนไข้น้องหมาเยอะ เราเลยต้องถามคิวก่อน พอถึงคิว คุณหมอ ผ่าตัดให้เลย เราดีใจมาก ที่น้องเขาได้รับการผ่าตัดเลย คุณหมอ วางยา ด้วยการฉีดยาสลบ และ เราคิดว่า น้องเขายังไหวอยู่ คงไม่ต้องรมยาสลบ ถึงเราจะห่วงอยู่บ้าง แต่เราเชื่อใจคุณหมอจริงๆ เราเลยถามว่า คุณหมอให้พี่มารับเขากี่โมง เขาวางยา ประมาณ บ่าย 3 โมงกว่าๆ คุณหมอบอกว่า ประมาณ 2 ทุ่มกว่า พี่มณฑื มารับเขาแล้วกัน เพราะส่วนมาก คุณหมอ จะรอให้เขาฟื้นก่อน และ ดูว่า เขาปลอดภัยจริงๆ
ฉีดยาคุมน้องหมา ซึ่งบางคนยังไม่เข้าใจว่า อันตรายถึงแก่ชีวิตจริงๆ ใครอยู่ระแวกปทุม เรายินดีให้คำปรึกษาค่ะ
จนคืนนั้น พี่เขาโทรมาให้เราอีก บอกว่า อยากให้เรา พาเขาไปหาหมอให้หน่อย เรียก รถ ก็กลัวเขาไม่ให้ขึ้น เพราะ เป็นหมาจร เราก็เลยไปรับน้องหมาไปคลีนิค แถวบ้าน เราเห็นสภาพ น้องเขานอนซึม ดูน่าสงสาร จนพี่เขาพาเข้าไปในห้อง คุณหมอ บอกว่า น้องเขา ขาดน้ำอย่างรุนแรง เรารักษา น้องหมามาเยอะ เพิ่งได้ยิน อาการนี้ ต้องให้น้ำเกลือจนหมดขวด เราเข้าไปในห้องน้องเขา ก็เลยเห็นเห็บเกาะ ตามตัว เลยคิดว่า เป็นเพราะ โรคพยาธิเม็ดเลือด มาด้วยแน่ๆ คุณหมอ เช็คเลือด ซึ่งต้องรอผลรุ่งเช้า สรุปคือ คุณหมอให้น้องหมาอยู่คลีนิค ในคืนนั้น แต่สำหรับเรา เราจะไม่ให้น้องหมา อยู่คลีนิค ถ้าเป็นหมาที่เราดูแล ไม่ว่าจะเป็นอะไร ขอเราอยู่ใกล้เขาจนนาทีสุดท้าย เราจะให้คามรักเขาจนนาทีสุดท้าย และ เรามีความรู้สึกว่า เขาอาจจะไปได้ทุกเวลา
จนรุ่งเช้าพี่เขาโทรหาเราแต่เช้า ในใจคิดว่า อย่าโทรมาบอกว่า น้องเขาไปแล้วน่ะ และ ก็เป็นจริงๆ พี่เขาโทรมาบอกว่า น้องเขาไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว สุดท้าย คุณหมอ โทรมาแจ้งว่า น้องหมาติดเชื้อในกระแสเลือดอย่างรุนแรง เราเองก็ไม่รู้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร จน พี่เขาบอกเราว่า น้องหมาที่บ้านอีกตัว มีน้ำหนองไหล ออกมาจาก จิมิ และ มีตัวผู้มาช่วยเลีย และ พี่เขาบอกว่า เคยฉีดยาคุมให้น้องเขาด้วย โอ้ว.... ฟังแล้ว น่าจะเริ่มแย่แล้ว พี่เขาเก็บน้องมาตั้งแต่เล็กๆ ตอนนี้ ก็น่าจะ 3 ขวบ จาก น้องหมาตัวแรก ทำให้เรา ต้องรีบช่วยน้องเขาอย่างด่วน พี่เขาก็ไม่ค่อยมีเงิน รถก็ไม่มี ตาก็มองไม่ค่อยเห็น เราเพิ่งสังเกต ว่าพี่เขามองไม่เห็นเมื่อไม่นานนี้เอง เราก็เลยถามว่า พี่จะไปฉีดยาคุม ทำไม ผลตามมามันร้ายแรงมาก ทีเดียว พี่เขาเลยบอกว่า ทำไงล่ะ ไม่มีเงินพาเขาไปทำหมัน และ ก็กลัวเขาผสมพันธุ์ อีก
เราก็เลยบอกว่า งั้น เราเอาเขาไปตรวจเลือด ที่แล๊บ อย่างด่วนเลยแล้วกัน เพราะกลัวว่า จะติดเชื้อในกระแสเลือดอีก สุดท้ายพาไปเช็ค รพ. ที่ตรวจเลือดได้อย่างรวดเร็ว เสียค่าจ่ายแพงกว่าคลีนิคทั่วไป ที่นั่นคุณหมอคิด 700 กว่าบาท เราก็ต้องทำเพื่อรักษาชีวิตเขา ผลออกมา ผลปกติ แต่เราเห็นน้องเขา เห็บเยอะเหมือนกัน กลัวเป็นพยาธิเม็ดเลือด และ ผ่าตัดไม่ได้ อย่างน้อย ตอนนี้ เรารู้แล้วว่า เขาน่าจะผ่าตัดได้ เราเลยถาม รพ. ที่นั่นว่า ถ้าผ่าตัด คุณหมอ คิดค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ คุณหมอบอกว่า ค่าผ่าตัด ประมาณ 2,300-2,500 บาท แต่ต้อง ไปนอน รพ. ก่อน 3 วัน ถึงจะผ่าตัดได้ นี่ไม่รวมค่ายา และ ค่าฝาก หลังผ่าตัดอีก เราเลยบอกว่า เดี๋ยวไปหาเงินก่อน ถึงผ่าตัด ซึ่งคุณหมอบอกว่า ต้องรีบผ่าตัด ก่อนที่ มดลูกอักเสบมากกว่านี้
เราก็เลยบอกให้พี่เขาโทรไปถาม ราคา คลีนิคแรก ว่า เขาคิดราคาค่าผ่าเท่าไหร่ พี่เขาเลยถามว่า มันเป็นราคา special หรือ พี่เขาเลยโทรไปถามคุณหมอ และบอกรายละเอียดน้ำหนัก 15 กิโล คุณหมอคิดค่าผ่าตัด 3,000 บาท ไม่รวมค่าฝาก กับค่ายาเหมือนกัน ส่วนคุณหมอ ที่เราเคยพาน้องหมาจรไป เราโทรไปหลายครั้ง คุณหมอ ก็ยังไม่เข้าคลีนิค เราก็เลย โทรไปหาเพื่อนอีกคน ขอเบอร์ คลีนิคคุณหมอ ที่เพื่อนเรา พาน้องเขาไปรักษา เผื่อฉุกเฉิน เราโทรไป และเล่ารายละเอียดให้ฟังทั้งหมด คุณหมอบอกว่า ถ้าเป็นแบบนี้ ต้องรมยา ไม่สามารถฉีดยาสลบได้ เขาไม่รับผ่าตัด เพราะ ยาจะหมดแล้ว เรางงๆ อะไรน่ะ ยาไม่พร้อม เราก็เลยมาหา ข้อมูลใน google รมยานี่ ต้องอาการหนัก น้องหมาอายุเยอะ จนเราคิดว่า หรือ ต้องพาไปเขาไป รพ.เกษตร
สุดท้ายเราตัดสินใจ ขอโทรหาคุณหมอที่เรารักษาประจำก่อนดีกว่า เราเชื่อใจคุณหมอคนนี้ที่สุด ไม่เคยทำน้องหมาจรตายสักตัว และ คุณหมอก็จะบอกเราตรงๆ ว่าได้หรือไม่ได้ อย่างน้อย หลายๆครั้ง คุณหมอ ทำให้เราเห็นว่า เขาไม่เคยรังเกียจน้องหมาจรเลย สภาพน้องอย่างเน่า น้ำเหลืองไหล คุณหมอจับเขา แบบไม่ใส่ถุงมือ อันนี้ที่ทำให้เราเห็นความเมตตา จริงๆ ของคุณหมอ กว่าเราจะได้คุยกับคุณหมอ ประมาณ 4 ทุ่ม เราเล่าอาการให้ฟังทั้งหมด และบอกว่า ตรวจเลือด เรียบร้อยแล้ว คุณหมอ ผ่าตัดเขาได้มั๊ย สุดท้ายคุณหมอบอกว่า พี่มณฑ์ มาผ่าเลยค่ะ เราเลยถามราคา คุณหมอ บอกว่า ประมาณ 2,000 บาท และสำหรับ คุณหมอคนนี้ เรารู้เลยว่า รวมค่ายา เรียบร้อยแล้ว
รุ่งเช้า เราเลยไปรับพี่เขา และน้องหมา ไปหาคุณหมอ เราต้องถามก่อน เพราะ คนไข้น้องหมาเยอะ เราเลยต้องถามคิวก่อน พอถึงคิว คุณหมอ ผ่าตัดให้เลย เราดีใจมาก ที่น้องเขาได้รับการผ่าตัดเลย คุณหมอ วางยา ด้วยการฉีดยาสลบ และ เราคิดว่า น้องเขายังไหวอยู่ คงไม่ต้องรมยาสลบ ถึงเราจะห่วงอยู่บ้าง แต่เราเชื่อใจคุณหมอจริงๆ เราเลยถามว่า คุณหมอให้พี่มารับเขากี่โมง เขาวางยา ประมาณ บ่าย 3 โมงกว่าๆ คุณหมอบอกว่า ประมาณ 2 ทุ่มกว่า พี่มณฑื มารับเขาแล้วกัน เพราะส่วนมาก คุณหมอ จะรอให้เขาฟื้นก่อน และ ดูว่า เขาปลอดภัยจริงๆ