ผมเป็นลูกค้าที่ใช้ผลิตภัณฑ์บริการทั้ง AIA และธนาคารกสิกร มาโดยตลอด แต่หลังจากเกิดเหตุการณ์ที่จะเล่าต่อไปนี้ ผมคงต้องกลับมาคิดใหม่แล้วละครับ
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงปลายเดือน มกราคม มีคนโทรศัพท์มาหาผม บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารกสิกรไทย ดูแลเรื่องบัตรเครดิต จะโทรมาแจ้งว่า จะทำการ upgrade วงเงินให้และแถมประกันชีวิต + อุบัติเหตุของ AIA แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งผมก็ได้ถามย้ำไปว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใช่มั๊ย ทางปลายสายก็ตอบยืนยันมาว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย แถมสิทธิพิเศษให้คุ้มครองคนในครอบครัว หนึ่งคนด้วย พอวางสายเสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่ของ AIA โทรมาบอกว่า รับเรื่องจากเจ้าหน้าที่คนก่อน ที่เพิ่งวางสายไปแล้วให้ระบุชื่อคนในครอบครัวอีกคนที่จะให้คุ้มครอง ผมเลยให้คุ้มครองพ่อผมอีกคน พอสอบถามรายละเอียดเสร็จ เจ้าหน้าที่ของ AIA ก็บอกว่า ขออ่านรายละเอียด และขอตกลงก่อน และขอบันทึกการตอบรับในสายซึ่งขออ่านเร็วๆ จะได้ไม่รบกวนเวลา จากนั้นเธอคนนั้น ก็อ่านเงื่อนไขอย่างเร็วมากๆ เรียกได้ว่าเร็วกว่า พี่โจอี้ บอย แร๊ฟ ซะอีก ขอสารภาพเลยว่าตอนนั้นผมฟังไม่ทัน แต่ด้วยความที่ว่า ตอนนั้นเป็นเวลางาน เลยอยากรีบเสร็จๆไป พออ่านเสร็จ ผมเลยถามย้ำอีกที ว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใช่มั๊ย ทางเจ้าหน้าที่คนเดิม ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วเรื่องก็ผ่านไป
จนมาถึงเมื่อวาน ผมลองเช็ครายการการใช้บัตรเครดิต ก็พบว่า โดนหักค่าประกันจาก AIA ไปเลยจ้า สองคน คนละ 2 กรมธรรม์ รวมเป็นเงินประมาณสองพันกว่าบาท พอเห็นแบบนั้น เลยโทรไปหาธนาคารกสิกร ก่อนเลยว่า เจ้าหน้าที่บอกฟรี แต่ทำไมไม่ฟรี ผลปรากฏว่า ธนาคารบอกว่า ไม่มีสัญญากับ AIA เรื่องการทำประกัน คาดว่า คนที่โทรไปตอนแรก น่าจะแอบอ้าง ให้โทรไปตามเรื่องต่อกับทาง AIA เพื่อขอยกเลิกเอง มาถึงจุดนี้ เซอร์ไพร์เลยครับเพราะว่าในมุมมองผม ผมมองว่า
1. ในเมื่อมีการขอทำรายการหักผ่านบัตรเครดิตจาก AIA แต่ในเอกสารนั้นไม่มีการลงลายมือของผม ทางธนาคารไม่คิดจะตรวจสอบจากเจ้าของบัตรก่อนเหรอครับ ว่าจะอนุมัติรึเปล่า ผมว่าตรงนี้ยังเป็นช่องว่างให้พวกมิจฉาชีพ หรือใครก็ไม่รู้ใช้ตรงนี้หาประโยชน์ได้ แต่ในกรณีผม ยังโชคดีที่ว่า คนที่ขอหักผ่านบัตรเครดิตเป็นหน่วยงานที่มีตัวตนจริง หาตัวง่าย
2. ในสายที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ call center ผมได้บอกว่า ถ้าแบบนั้นคงมีผู้แอบอ้าง แต่ทางธนาคารไม่คิดจะทำอะไร ทั้งๆที่ AIA เป็นคนทำเรื่องขอหักเงิน ถ้าจะตรวจสอบจริงๆ ว่าใครทำ แล้วเอาข้อมูลมาจากไหน ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร แต่ให้ลูกค้าไปตามเอง มันเลยทำให้ผมคิดว่า ในกรณีนี้ ทางธนาคารเป็นผู้เสียหายชื่อเสียงจากการถูกแอบอ้าง แต่ไม่คิดจะทำอะไร จนกว่าธนาคารจะเป็นผู้เสียหายทางการเงินเอง ใช่มั๊ยครับ
ส่วนในกรณีของ AIA วันนี้ผมเพิ่งโทรไปยกเลิกกรมธรรม์วันนี้ โดยต้องส่งไปกรมธรรม์คืนให้ แล้วทางบริษัทจะคืนเงินที่เรียกเก็บคืนมาให้ ผมเลยเล่าเรื่องนี้ให้ call center ของ AIA ฟังแล้วขอชื่อคนที่รับเรื่องทำกรมธรรม์ให้ผม กับชื่อของแหล่งข้อมูลของผม ที่อ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เพราะผมถือว่า การแอบอ้างในลักษณะนี้ น่าจะผิดกฏหมาย ทาง AIA เลยขอเวลาตรวจสอบข้อมูลก่อนน่าจะให้คำตอบไม่เกินพรุ่งนี้ ตอนนี้ผมเลยรอว่า ทาง AIA จะ feedback กลับมาหรือไม่ ถ้าพรุ่งนี้ ไม่ได้คำตอบกลับมาผมคงต้องโทรไปตามเรื่องเอง แต่ตอนนี้ ขออยู่รอดูความรับผิดชอบของทางนั้นก่อน
ผมเข้าใจว่า ในภาพรวมของ องค์กร คงไม่มีนโยบายที่จะมาโกงอะไรกับประชาชนธรรมดาหรอกครับ แต่ที่เกิดกรณีนี้ขึ้น ก็แปลว่า องค์กรคุณมีช่องว่างให้พวกที่มักง่าย หากินด้วยวิธีนี้ ถ้าหากไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูล ผมคงต้องมองบริษัทนี้ใหม่อีกที
การเป็นบริษัทประกัน เป็นสถานบันทางการเงิน ความน่าเชื่อถือ น่าจะมาเป็นอันดับหนึ่ง บางครั้งควรมาก่อนผลตอบแทนที่คุ้มค่าซะด้วยซ้ำ จะมาอาศัยการเลี่ยงบาลี หรือ ช่องโหว่เล็กน้อยๆ มาหากิน มันจะดูไม่งามนะครับ ผมคงไม่สามารถเลิกใช้บริการของบริษัททั้งสองนี้ได้โดยทันทีโดยไม่มีผลกระทบต่อชีวิตหรอกครับ แต่เหตุการณ์นี้คงทำให้ผม ต้องหันไปใช้บริการ ของสถาบันอื่นแทนแล้วละครับ
สำหรับกรณีผม ถือว่าไม่ได้เสียหายอะไรมากครับ จะมีก็แค่ เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ กับเสียเวลากับสองลบริษัทนี้
สุดท้ายแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ อยากให้กระทู้นี้ ได้มีประโยชน์กับคนอื่นที่ยังไม่เคยเจอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาทำธุรกรรมอะไรที่ไม่จำเป็นแบบผมครับ
เตือนภัย ความรำคาญกับการหลอกขายประกันที่หักผ่านบัตรเครดิต
เรื่องมีอยู่ว่า ช่วงปลายเดือน มกราคม มีคนโทรศัพท์มาหาผม บอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคารกสิกรไทย ดูแลเรื่องบัตรเครดิต จะโทรมาแจ้งว่า จะทำการ upgrade วงเงินให้และแถมประกันชีวิต + อุบัติเหตุของ AIA แบบไม่เสียค่าใช้จ่ายให้ ซึ่งผมก็ได้ถามย้ำไปว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใช่มั๊ย ทางปลายสายก็ตอบยืนยันมาว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย แถมสิทธิพิเศษให้คุ้มครองคนในครอบครัว หนึ่งคนด้วย พอวางสายเสร็จ ก็มีเจ้าหน้าที่ของ AIA โทรมาบอกว่า รับเรื่องจากเจ้าหน้าที่คนก่อน ที่เพิ่งวางสายไปแล้วให้ระบุชื่อคนในครอบครัวอีกคนที่จะให้คุ้มครอง ผมเลยให้คุ้มครองพ่อผมอีกคน พอสอบถามรายละเอียดเสร็จ เจ้าหน้าที่ของ AIA ก็บอกว่า ขออ่านรายละเอียด และขอตกลงก่อน และขอบันทึกการตอบรับในสายซึ่งขออ่านเร็วๆ จะได้ไม่รบกวนเวลา จากนั้นเธอคนนั้น ก็อ่านเงื่อนไขอย่างเร็วมากๆ เรียกได้ว่าเร็วกว่า พี่โจอี้ บอย แร๊ฟ ซะอีก ขอสารภาพเลยว่าตอนนั้นผมฟังไม่ทัน แต่ด้วยความที่ว่า ตอนนั้นเป็นเวลางาน เลยอยากรีบเสร็จๆไป พออ่านเสร็จ ผมเลยถามย้ำอีกที ว่า ไม่เสียค่าใช้จ่ายใช่มั๊ย ทางเจ้าหน้าที่คนเดิม ก็ยังยืนยันเหมือนเดิม ว่าไม่เสียค่าใช้จ่าย แล้วเรื่องก็ผ่านไป
จนมาถึงเมื่อวาน ผมลองเช็ครายการการใช้บัตรเครดิต ก็พบว่า โดนหักค่าประกันจาก AIA ไปเลยจ้า สองคน คนละ 2 กรมธรรม์ รวมเป็นเงินประมาณสองพันกว่าบาท พอเห็นแบบนั้น เลยโทรไปหาธนาคารกสิกร ก่อนเลยว่า เจ้าหน้าที่บอกฟรี แต่ทำไมไม่ฟรี ผลปรากฏว่า ธนาคารบอกว่า ไม่มีสัญญากับ AIA เรื่องการทำประกัน คาดว่า คนที่โทรไปตอนแรก น่าจะแอบอ้าง ให้โทรไปตามเรื่องต่อกับทาง AIA เพื่อขอยกเลิกเอง มาถึงจุดนี้ เซอร์ไพร์เลยครับเพราะว่าในมุมมองผม ผมมองว่า
1. ในเมื่อมีการขอทำรายการหักผ่านบัตรเครดิตจาก AIA แต่ในเอกสารนั้นไม่มีการลงลายมือของผม ทางธนาคารไม่คิดจะตรวจสอบจากเจ้าของบัตรก่อนเหรอครับ ว่าจะอนุมัติรึเปล่า ผมว่าตรงนี้ยังเป็นช่องว่างให้พวกมิจฉาชีพ หรือใครก็ไม่รู้ใช้ตรงนี้หาประโยชน์ได้ แต่ในกรณีผม ยังโชคดีที่ว่า คนที่ขอหักผ่านบัตรเครดิตเป็นหน่วยงานที่มีตัวตนจริง หาตัวง่าย
2. ในสายที่ได้คุยกับเจ้าหน้าที่ call center ผมได้บอกว่า ถ้าแบบนั้นคงมีผู้แอบอ้าง แต่ทางธนาคารไม่คิดจะทำอะไร ทั้งๆที่ AIA เป็นคนทำเรื่องขอหักเงิน ถ้าจะตรวจสอบจริงๆ ว่าใครทำ แล้วเอาข้อมูลมาจากไหน ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากอะไร แต่ให้ลูกค้าไปตามเอง มันเลยทำให้ผมคิดว่า ในกรณีนี้ ทางธนาคารเป็นผู้เสียหายชื่อเสียงจากการถูกแอบอ้าง แต่ไม่คิดจะทำอะไร จนกว่าธนาคารจะเป็นผู้เสียหายทางการเงินเอง ใช่มั๊ยครับ
ส่วนในกรณีของ AIA วันนี้ผมเพิ่งโทรไปยกเลิกกรมธรรม์วันนี้ โดยต้องส่งไปกรมธรรม์คืนให้ แล้วทางบริษัทจะคืนเงินที่เรียกเก็บคืนมาให้ ผมเลยเล่าเรื่องนี้ให้ call center ของ AIA ฟังแล้วขอชื่อคนที่รับเรื่องทำกรมธรรม์ให้ผม กับชื่อของแหล่งข้อมูลของผม ที่อ้างว่าเป็น เจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เพราะผมถือว่า การแอบอ้างในลักษณะนี้ น่าจะผิดกฏหมาย ทาง AIA เลยขอเวลาตรวจสอบข้อมูลก่อนน่าจะให้คำตอบไม่เกินพรุ่งนี้ ตอนนี้ผมเลยรอว่า ทาง AIA จะ feedback กลับมาหรือไม่ ถ้าพรุ่งนี้ ไม่ได้คำตอบกลับมาผมคงต้องโทรไปตามเรื่องเอง แต่ตอนนี้ ขออยู่รอดูความรับผิดชอบของทางนั้นก่อน
ผมเข้าใจว่า ในภาพรวมของ องค์กร คงไม่มีนโยบายที่จะมาโกงอะไรกับประชาชนธรรมดาหรอกครับ แต่ที่เกิดกรณีนี้ขึ้น ก็แปลว่า องค์กรคุณมีช่องว่างให้พวกที่มักง่าย หากินด้วยวิธีนี้ ถ้าหากไม่ให้ความร่วมมือในการตรวจสอบข้อมูล ผมคงต้องมองบริษัทนี้ใหม่อีกที
การเป็นบริษัทประกัน เป็นสถานบันทางการเงิน ความน่าเชื่อถือ น่าจะมาเป็นอันดับหนึ่ง บางครั้งควรมาก่อนผลตอบแทนที่คุ้มค่าซะด้วยซ้ำ จะมาอาศัยการเลี่ยงบาลี หรือ ช่องโหว่เล็กน้อยๆ มาหากิน มันจะดูไม่งามนะครับ ผมคงไม่สามารถเลิกใช้บริการของบริษัททั้งสองนี้ได้โดยทันทีโดยไม่มีผลกระทบต่อชีวิตหรอกครับ แต่เหตุการณ์นี้คงทำให้ผม ต้องหันไปใช้บริการ ของสถาบันอื่นแทนแล้วละครับ
สำหรับกรณีผม ถือว่าไม่ได้เสียหายอะไรมากครับ จะมีก็แค่ เสียความรู้สึก เสียอารมณ์ กับเสียเวลากับสองลบริษัทนี้
สุดท้ายแล้ว ขอขอบคุณทุกท่านที่สละเวลามาอ่านนะครับ อยากให้กระทู้นี้ ได้มีประโยชน์กับคนอื่นที่ยังไม่เคยเจอ จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาทำธุรกรรมอะไรที่ไม่จำเป็นแบบผมครับ