กระทู้แรกนะครับ หลังจากคอยสอดส่องรีวิวคนอื่นมานานก็ได้เวลามีกระทู้รีวิวของตัวเอง เพื่อแนะนำวิธีการรักษา ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ และสถานที่ที่ จขก.ไปรักษามาในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้แน่นอนครับ
ต้องบอกก่อนว่า จขก. เป็นสิวมานานหลายปีมากๆๆๆ ตั้งแต่เข้า ม.ปลาย จนตอนนี้กำลังจะเข้าปลาย 20 ละครับ 5555+ ซึ่งตั้งแต่เป็นสิวก็ปล่อยปละละเลยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มรักษาจริงจังตอนเรียน ป.ตรี แต่ด้วยที่เราไม่มีความรู้ ไม่รู้จักหาความรู้ตามอินเตอร์เน็ต ใครว่าอะไรดีก็ใช้ ใครว่าที่ไหนรักษาดีก็ไป ก็หมดเงินครับ เพราะค่ารักษาตามคลินิคมักคิดราคาเป็นคอร์ส ซึ่งตอนเรียนเราก็ไม่ค่อยมีเงิน ก็รักษาไม่ต่อเนื่องครับ ก็เลยไม่หายขาด จนกระทั่งเรียนจบมามีงานทำมีเงินใช้เอง ก็เริ่มศึกษาตัวยา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และสถานพยาบาลที่รักษาโรคผิวหนังตามอินเตอร์เน็ต จนกระทั่ง จขก. ก็พบแสงสว่าง (55555+ หลังจากหมดตังไปหลายหมื่นละ)
เนื่องจากจั่วหัวกระทู้ถึงการใช้ Fractional RF with Microneedle ในการรักษาหลุมสิว ก็จะพูดถึงเจ้านี่ก่อนที่จะไปผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั้งหลาย โดยเครื่องที่ใช้รักษาครั้งนี้คือ
Fractora นะครับ
โดยหลักการทำงานของมันคือส่งผ่านคลื่นแสงและพลังงานความร้อนจากหัวเข็ม (Fractora Pins) แล้วปล่อยพลังงานความร้อนลงไปที่ปลายเข็ม ส่งผ่านไปยังผิวชั้นหนังแท้ที่ระดับความลึกประมาณ 1 มิลลิเมตร ทั้งนี้ในเข็มแต่ละขั้วจะมี Feedback Control เพื่อควบคุมให้ได้อุณหภูมิตามที่ตั้งไว้เพื่อให้ได้ค่าที่เท่ากันทุกเล่ม ซึ่งผิวชั้นบนจะเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยจากการสัมผัสของหัวเข็ม หลังจากนั้นร่างกายจะทำการสมานแผล ซ่อมแซมผิว ตามธรรมชาติ เพื่อสร้างผิวขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวขาวใสขึ้น รอยหมองคล้ำและจุดด่างดำจางลง ริ้วรอยลึกก็ตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน ยิ่งไปกว่านั้น ความร้อนที่สะสมในบริเวณผิวชั้นหนังแท้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทั้งยังช่วยจัดเรียงคอลลาเจนให้เกิดสมดุลที่ดี จึงทำให้เซลล์ผิวที่เคยหย่อนยานหดตัวกระชับขึ้นทันที ผิวบริเวณที่รักษาจึงถูกยกกระชับให้เต่งตึงขึ้น ไม่หย่อนคล้อยอีกต่อไป
จขก. ได้ไปทำ Fractional RF ที่ รพ.รามาธิบดี นะครับ โดยขั้นตอนเข้ารับการรักษามีดังนี้
ทำบัตร > นัดคิวพบแพทย์ผิวหนัง (อาจจะได้พบวันนั้นเลยหรือนัดมาวันหลังหากไม่มีคิว ซึ่ง จขก. ได้คิวถัดจากวันนั้น 1 เดือน!

) > เมื่อถึงวันนัดให้ไปชั่งน้ำหนักวัดความดันก่อน > ยื่นใบนัดที่ห้องผิวหนังรอพบแพทย์ > เมื่อพบแพย์แล้วให้เราบอกไปว่าต้องการมารักษาหลุมสิวโดยจะมาทำ Laser ถ้าแพทย์พิจจารณาแล้วเห็นว่ามีสิวขึ้นแล้ว หายดีแล้ว ก็จะส่งตัวเราไปนัดพบแพทย์ที่ศูนย์เลเซเอร์รามาฯ ชั้น 4 > นัดพบแพทย์เลเซอร์ (จขก.ได้คิวประมาณสองเดือนถัดมา) > รอๆๆ วันนัด... > ชั่งน้ำหนักวัดความดัน > ยื่นใบนัดที่ชั้น 4 ศูนย์เลเซอร์รามาฯ รอพบแพทย์ > เมื่อพบแพทย์ก็ให้บอกไปว่าต้องการรักษาอะไร แพทย์ก็จะแนะนำไปตามสภาพหน้าของเราว่าควรทำอะไร ค่าใช้จ่ายเท่าไร ของ จขก. เป็น Fractional RF ทำร่วมกับ Subcition เพื่อตัดพังผืดใต้หลุมที่คอยรั้งหลุมสิวไว้ไม่ให้เนื้อบริเวณนั้นเติมเต็มขึ้นมาเหมือนสภาพผิวปกติได้ ถ้าเรายอมรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นได้ก็นัดคิวมาทำวันหลัง (ของผมก็รอต่ออีกเกือบ 2 เดือน)
ต่อไปเป็นสภาพใบหน้าหลังทำนะครับ สภาพหน้าที่จะเห็นต่อไปนี้ หายเป็นปกติภายใน 5 - 7 วันครับ และ
สิวไม่เห่อสักเม็ด
ก่อนยิงจะทายาชา แล้วปิดด้วยแร็ปพลาสติกไว้ 45 - 60 นาที ถึงล้างออก
หลังยิงเสร็จ หน้าจะแดงร้อน จะต้องทาครีมอะไรสักอย่างซึ่งมันเหม็นมากกก และทำให้หน้ามันมากกๆๆ

จากรูปที่เห็นบวมๆ ปูดๆ เป็นเม็ดนี่ไม่ใช่สิวนะครับ น่าจะเป็นรอยจากการทำ subcision ส่วนร่องรอยจากการยิงก็จะเป็นรอยถลอก เลือดซิปๆบางจุด หัวที่ใช้ยิงเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัส เต็มไปด้วยเข็มกี่เล่มไม่ทราบ แต่ยิงแล้วหน้าเป็นตารางอ่ะครับ งดล้างหน้า 24 ชม. ช่วงนี้หน้าจะมันแผลบๆๆ
วันที่ 2
หน้าเริ่มหายแดงแล้วนะครับ รอยตารางจากหัวยิงเริ่มมองเห็นได้ชัด ส่วนภาพรวมหน้าก็ยังเป็นปุ่มๆ เหมือนสิวอักเสบอยู่
วันที่ 3

สภาพหน้าเริ่มสว่างขึ้น แผลจากการยิงเริ่มเป็นสะเก็ด ถ้าเอามือลูบหน้าเบาๆจะรู้สึกสากๆมือเหมือนกระดาษทรายละเอียด สักเบอร์ได้
วันที่ 5

วันนี้มาส่องกระจกดู โอ้ววว ขุ่นพระ!! หน้าเป็นรอยช้ำเขียวๆ ม่วงๆ เหมือนโดนของ พอมานึกๆดู ก็เป็นเพราะรอย subcision ไม่กี่วันก็หาย
ผมถ่ายรูปไว้แค่นี้นะครับ ขี้เกียจถ่าย
ค่าเสียหายก็ประมาณนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ - ค่าทำ subcision 1,500 บาท
- ค่าทำ Fractional RF 3,750 บาท
- ค่าพบแพทย์ 50 บาท
- ค่ายาอะไรสักอย่าง 200 บาท (ผมลืมไปเอา)
- ค่าครีมยูเซอร์รีน 800 บาท (เป็น moisturizer ผสม omega 12 % ซึ่งช่วยให้แผลหายเร็ว ลดโอกาศกลับมาเป็นซ้ำ)
- ค่าหัวเลเซอร์ 4,000 บาท (อันนี้ซื้อ 1 หัวใช้ได้ 4 ครั้งนะครับ)
รวมแล้วประมาณ 10,300 บาท สำหรับการทำครั้งแรก ทำครั้งที่ 2 ผมจ่ายไป 4,000 บาท ครับ เลเซอร์อย่างเดียว ฉีดแผลสิวที่เป็นตุ่มๆนิดหน่อยมันไม่ยอมยุบ แล้วก็ได้ยาทารอยดำหลอดนึง
อย่าถามว่าปัจจุบันหน้าเป็นยังไง ดีขึ้นเยอะมั้ยนะครับ หลังจากการยิงเลเซอร์สภาพผิวหน้ามักจะใสขึ้น ส่วนผลในเรื่องของริ้วรอยและหลุมสิว จะใช้เวลาประมาณ 3 - 6 เดือน ครับ เพราะผิวหนังต้องใช้เวลาในการจัดเรียงและสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเติมเต็มริ้วรอยและหลุมสิว คุณหมอก็บอกให้ทำประมาณ 5 - 6 ครั้ง แต่ผมกะว่า 4 ครั้งก็พอครับ เปลืองเงิน แต่ถ้าเทียบราคาค่ารักษาของ รพฯ กับคลินิคข้างนอกนับว่าถูกมาก ก็ลองศึกษาค่าใช้จ่ายและวิธีการรักษาที่คิดว่าเหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าของเราแล้วกันครับ
[CR] รีวิว รักษาหลุมสิวโดย Fractional RF ละเอียดไปทุกตารางรูขุมขน
ต้องบอกก่อนว่า จขก. เป็นสิวมานานหลายปีมากๆๆๆ ตั้งแต่เข้า ม.ปลาย จนตอนนี้กำลังจะเข้าปลาย 20 ละครับ 5555+ ซึ่งตั้งแต่เป็นสิวก็ปล่อยปละละเลยมาเรื่อยๆ จนกระทั่งเริ่มรักษาจริงจังตอนเรียน ป.ตรี แต่ด้วยที่เราไม่มีความรู้ ไม่รู้จักหาความรู้ตามอินเตอร์เน็ต ใครว่าอะไรดีก็ใช้ ใครว่าที่ไหนรักษาดีก็ไป ก็หมดเงินครับ เพราะค่ารักษาตามคลินิคมักคิดราคาเป็นคอร์ส ซึ่งตอนเรียนเราก็ไม่ค่อยมีเงิน ก็รักษาไม่ต่อเนื่องครับ ก็เลยไม่หายขาด จนกระทั่งเรียนจบมามีงานทำมีเงินใช้เอง ก็เริ่มศึกษาตัวยา ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และสถานพยาบาลที่รักษาโรคผิวหนังตามอินเตอร์เน็ต จนกระทั่ง จขก. ก็พบแสงสว่าง (55555+ หลังจากหมดตังไปหลายหมื่นละ)
เนื่องจากจั่วหัวกระทู้ถึงการใช้ Fractional RF with Microneedle ในการรักษาหลุมสิว ก็จะพูดถึงเจ้านี่ก่อนที่จะไปผลิตภัณฑ์รักษาสิวทั้งหลาย โดยเครื่องที่ใช้รักษาครั้งนี้คือ Fractora นะครับ
โดยหลักการทำงานของมันคือส่งผ่านคลื่นแสงและพลังงานความร้อนจากหัวเข็ม (Fractora Pins) แล้วปล่อยพลังงานความร้อนลงไปที่ปลายเข็ม ส่งผ่านไปยังผิวชั้นหนังแท้ที่ระดับความลึกประมาณ 1 มิลลิเมตร ทั้งนี้ในเข็มแต่ละขั้วจะมี Feedback Control เพื่อควบคุมให้ได้อุณหภูมิตามที่ตั้งไว้เพื่อให้ได้ค่าที่เท่ากันทุกเล่ม ซึ่งผิวชั้นบนจะเกิดการบาดเจ็บเล็กน้อยจากการสัมผัสของหัวเข็ม หลังจากนั้นร่างกายจะทำการสมานแผล ซ่อมแซมผิว ตามธรรมชาติ เพื่อสร้างผิวขึ้นมาใหม่ ทำให้ผิวขาวใสขึ้น รอยหมองคล้ำและจุดด่างดำจางลง ริ้วรอยลึกก็ตื้นขึ้น ทั้งยังช่วยกระชับรูขุมขนให้เรียบเนียน ยิ่งไปกว่านั้น ความร้อนที่สะสมในบริเวณผิวชั้นหนังแท้ จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทั้งยังช่วยจัดเรียงคอลลาเจนให้เกิดสมดุลที่ดี จึงทำให้เซลล์ผิวที่เคยหย่อนยานหดตัวกระชับขึ้นทันที ผิวบริเวณที่รักษาจึงถูกยกกระชับให้เต่งตึงขึ้น ไม่หย่อนคล้อยอีกต่อไป
ทำบัตร > นัดคิวพบแพทย์ผิวหนัง (อาจจะได้พบวันนั้นเลยหรือนัดมาวันหลังหากไม่มีคิว ซึ่ง จขก. ได้คิวถัดจากวันนั้น 1 เดือน!
ก่อนยิงจะทายาชา แล้วปิดด้วยแร็ปพลาสติกไว้ 45 - 60 นาที ถึงล้างออก
หลังยิงเสร็จ หน้าจะแดงร้อน จะต้องทาครีมอะไรสักอย่างซึ่งมันเหม็นมากกก และทำให้หน้ามันมากกๆๆ
วันที่ 2
หน้าเริ่มหายแดงแล้วนะครับ รอยตารางจากหัวยิงเริ่มมองเห็นได้ชัด ส่วนภาพรวมหน้าก็ยังเป็นปุ่มๆ เหมือนสิวอักเสบอยู่
วันที่ 3
สภาพหน้าเริ่มสว่างขึ้น แผลจากการยิงเริ่มเป็นสะเก็ด ถ้าเอามือลูบหน้าเบาๆจะรู้สึกสากๆมือเหมือนกระดาษทรายละเอียด สักเบอร์ได้
วันที่ 5
วันนี้มาส่องกระจกดู โอ้ววว ขุ่นพระ!! หน้าเป็นรอยช้ำเขียวๆ ม่วงๆ เหมือนโดนของ พอมานึกๆดู ก็เป็นเพราะรอย subcision ไม่กี่วันก็หาย
ผมถ่ายรูปไว้แค่นี้นะครับ ขี้เกียจถ่าย ค่าเสียหายก็ประมาณนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อย่าถามว่าปัจจุบันหน้าเป็นยังไง ดีขึ้นเยอะมั้ยนะครับ หลังจากการยิงเลเซอร์สภาพผิวหน้ามักจะใสขึ้น ส่วนผลในเรื่องของริ้วรอยและหลุมสิว จะใช้เวลาประมาณ 3 - 6 เดือน ครับ เพราะผิวหนังต้องใช้เวลาในการจัดเรียงและสร้างคอลลาเจนขึ้นมาเติมเต็มริ้วรอยและหลุมสิว คุณหมอก็บอกให้ทำประมาณ 5 - 6 ครั้ง แต่ผมกะว่า 4 ครั้งก็พอครับ เปลืองเงิน แต่ถ้าเทียบราคาค่ารักษาของ รพฯ กับคลินิคข้างนอกนับว่าถูกมาก ก็ลองศึกษาค่าใช้จ่ายและวิธีการรักษาที่คิดว่าเหมาะสมกับปัญหาผิวหน้าของเราแล้วกันครับ