ช่วยไม่ได้ที่คนส่วนมากเวลาคิดถึงสายลับ
มักจะคิดถึงเรื่องหนังสายลับ James Bond
และมักจะคิดถึงอุปกรณ์พิเศษของพระเอก James Bond
ในชีวิตการเป็นสายลับก็มีอุปกรณ์พิเศษแบบนั้นจริง ๆ ด้วย
ยิ่งกล้องถ่ายรูปสายลับจะมีหลายแบบมากกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วไป
ทำให้ทุกวันนี้กล้องถ่ายรูปสายลับเหล่านี้กลายเป็นของยอดนิยมของนักสะสมกล้องถ่ายรูป
เพราะในอดีตกล้องถ่ายรูปพวกนี้เป็นของคู่ใจและคู่ชีวิตของสายลับ
สายลับในยุคนั้นถึงในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องมีการสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก
ในการแอบถ่ายภาพบุคคลหรือเอกสารลับในสถานที่ต้องการ
แม้ว่าในบางครั้งก็ต้องอาศัยโชคช่วย(ความบังเอิญ)ให้มีผลงานด้วยเช่นกัน
.
.
1. Automatique De Bertsch
ทุกวันนี้กล้องถ่ายรูปสายลับเป็นแบบง่าย ๆ เหมาะสำหรับคนทั่วไป
ด้วยการเล็งแล้วถ่ายภาพส่งภาพไปได้ทันทีทันใดไม่ต้องเสียเวลาล้างอัดภาพอีก
แต่ในปี 1861 กระบวนการถ่ายภาพจะสลับซับซ้อนและค่อนข้างวุ่นวายมาก
จะต้องหาห้องมืดก่อนในการถ่ายภาพที่ใช้แผ่นฟิล์มแบบเปียกน้ำ wet-plate photography
แล้วต้องหาจังหวะเวลา/ระยะใกล้กับเป้าหมายที่ต้องการถ่ายได้อย่างเหมาะสมเท่าที่จะทำได้
เพราะตัวเลนส์กับลำกล้องมีความยาวเพียง 1.5 นิ้วเอง
ผลงานประดิษฐ์ของ The French Chambre Automatique De Bertsch
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเคยมีการใช้งานในภารกิจลับหรือไม่
แต่นี่คือ รุ่นปู่ของของกล้องสายลับขนาดเล็ก ที่ได้รับการยกย่อง
.

.
Images Credit:George Eastman House
.
.
2. The Ansco Memo
พัฒนาการต่อมาของการถ่ายภาพของกล่องถ่ายรูปสายลับ
ด้วยการเป็นกล้องถ่ายรูปที่มีฟิล์มแห้งขนาดมาตรฐานมากขึ้น
ดังนั้นกล้องขนาด 35mm ของ Ansco Memo Miniature
ได้รับความนิยมอย่างในระหว่างปี 1920 - 1930
จัดว่าเป็นกล้องมาตรฐานสากลเหมาะสมกับงานสายลับ
เพราะพกพาง่ายและถ่ายภาพที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วทันใจ
.

.
Image Credit: John Kratz
.
.
3. Ticka Expo Watch Camera
นาฬิกาพกที่ใช้ใช้บอกเวลาไม่ได้แต่อย่างใด
มีขนาดหนาเป็น 2 เท่าของนาฬิกาพกทั่วไป
(ไม่เหมาะกับสายลับเพราะจะเปิดเผยร่องรอยได้ง่าย)
แต่ในช่วงปี 1905 - 1914 ยังไม่มีกล้องสายลับที่ดีกว่านี้
The Expo Watch Camera ขายในราคาเพียง 1 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
ทำให้สามารถสร้างรายได้และความร่ำรวยให้กับผู้ขายอย่างมาก
เพราะใช้การตลาดที่บอกกับลูกค้าว่า ถ่ายภาพได้โดยไม่ถูกตรวจพบ
แน่นอนจะต้องไม่ใช้กล้องถ่ายภาพด้วยการเล็งเลนส์ตรงไปยังเป้าหมาย
หรือเดินไปมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่คนทั่วไปมองเห็นเลนส์ถ่ายภาพ
.

.
Image Credit: Coleccionando Camaras
.
.
4. The ABC Wristwatch Camera
ไม่มีอะไรที่เด่นไปกว่านาฬิกาข้อมือ พร้อมเลนส์ หน้าปัดนาฬิกา ปุ่มต่าง ๆ
The ABC Wristwatch Camera (made in Germany ในปี 1949)
ยิ่งใส่เสื้อแขนยาวปิดบังไว้ยิ่งสังเกตได้ยาก
ดูดีมีประโยชน์มากเช่นกัน เว้นแต่ดูเวลาไม่ได้
ส่วนรูปร่างและขนาดนาฬิกายังดูค่อนข้างน่ากลัว
.
.
.
5. The Echo 8 Lighter Camera
ในปี 1951 กล้องถ่ายรูป Cigarette Echo 8 lighter
สามารถจุดไฟได้ด้วย เพื่อการอำพรางความสามารถที่แท้จริง
แต่เวลาใช้งานจริงจึงค่อยประกอบอุปกรณ์เข้าด้วยกัน
.

.
.
6. Tessina 35 (Cigarette Camera)
เพื่อความรอบคอบหลังจากพกกล้องถ่ายรูปไฟแช็ค Echo 8
ควรพกพากล้องถ่ายรูป Tessina 35
ที่มีขนาดเล็กและบางพอใส่ลงในซองใส่บุหรี่ได้
แล้วให้ใส่บุหรี่ที่สูบได้ลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นบุหรี่ปลอมในซองบุหรี่
กล้องถ่ายรูปสายลับรุ่นนี้เยี่ยมมาก
เพราะสร้างความประทับใจให้กับวงการสายลับ
มีการผลิตขายมากกว่า 38 ปี ตั้งแต่ปี 1957 - 1996
7. Minox
กล้องถ่ายรูปสายลับระดับจอมถึก(วัวงาน)
เพราะใส่ฟิล์มครั้งเดียวสามารถถ่ายภาพคุณภาพดีได้ถึง 50 ภาพ
มีขนาดเล็กเพียงพอกับการซ่อนในกล่องแว่นตาหรือในแปรงขัดรองเท้า
แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของสายลับในการหลบซ่อนกล้องถ่ายรูป
มีความนิยมใช้กันมากในช่วงปี 1960 ถึงปี 1970
เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของสายลับที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1937
ทุกวันนี้ยังเป็นกล้องถ่ายรูปยอดนิยมของนักสะสมกล้องถ่ายรูป
จัดว่าเป็นกล้องสายลับที่ดีที่สุดสำหรับงานจารกรรมที่ยังหาซื้อกันได้
ไม่กี่ปีนี้ทาง Minox ยังได้ผลิตกล้องแบบดิจิตอลวางขายในท้องตลาดด้วย
8. Pigeon Camera
ทุกวันนี้มีดาวเทียมสายลับที่สามารถถ่ายภาพทางอากาศ
และถ่ายภาพจากมุมสูงในสถานที่ต้องการได้
แต่ในช่วงปี 1940-1950 พวกสายลับจะใช้นกพิราบถ่ายภาพ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ผ่านมา
นกพิราบสามารถปฏิบัตการลับสุดยอด
ได้ผลสำเร็จตามที่ต้องการได้มากกว่า 95%
ด้วยการเปิดโหมดทำงานอัตโนมัติให้กับนกพิราบ
แล้วรอผลงานการถ่ายภาพแบบมั่ว ๆ ของนกพิราบ
ถ้านกพิราบไม่ถูกสอยร่วงจากฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด
และสามารถบินกลับรังนกพิราบได้ในตอนเสร็จงาน
.

.
.
9. Looking through walls
ไม่ใช่ไม้ถ่ายถ่ายภาพแบบ selfie
แต่เป็นเลนส์ขนาดยาวที่ยื่นผ่านกำแพงหรือรูที่เจาะผ่านกำแพง
กล้องถ่ายรูป The 1980 Stasi "robot"
ไม่ใช่หุ่นยนต์แน่นอน แต่เป็นชื่อเลนส์
สายลับเยอรมันนีตะวันออกในยุคแบ่งแยกประเทศ
ใช้ถ่ายภาพผ่านกำแพง/รูที่เจาะไว้
เพื่อถ่ายภาพภูมิประเทศชีวิตผู้คน/ทหาร
อีกด้านหนึ่งของกำแพงเบอร์ลินตะวันตก

.
.
10. The Buttonhole Camera
เสื้อกันหนาวทำให้อบอุ่น
แต่เสื้อกันหนาวสายลับใช้เก็บความลับ/ถ่ายภาพเป้าหมาย
สายลับจากสหรัฐ สหภาพโซเวียต ยุโรปชาติต่าง ๆ
ต่างออกแบบเสื้อผ้า/เสื้อคลุมที่ซ่อนกล้องถ่ายรูปสายลับ
กระดุมเสื้อมักจะเป็นเลนส์ของกล้องถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด
ในภาพเป็นกล้องถ่ายภาพสายลับของสหภาพโซเวียตในปี 1970
กระบวนการทำงานไม่แตกต่างกับกล้องถ่ายรูปทั่วไป
ถ้าต้องการถ่ายภาพ ขยับตัวกล้องขึ้นมา และกดชัตเตอร์
แต่ต้องระมัดระวังการถูกตรวจค้นพบกล้องถ่ายรูปที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อ
.

.
.
11. The Infrared Briefcase Camera
กล้องถ่ายรูปสายลับไม่ใช่ทุกชนิดที่จะต้องมีขนาดเล็กแบบพกพาง่าย ๆ
แต่กล้องถ่ายรูป Stasi Briefcase มีขนาดใหญ่มากต้องใส่ในกระเป๋าเอกสาร
การสั่งซื้อหรือเป็นเจ้าของทำได้ยากมากในช่วงปี 1970 - 1980
แต่กล้องถ่ายรูปรุ่นนี้มีฟิล์มอินฟราเรด และไฟแฟลตอินฟราเรต
ที่สายตาคนทั่วไปมองไม่เห็นแสงได้
จึงสามารถถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างสบาย ๆ
.

.
.
12. Keychain camera
ในช่วงปี 1970 สายลับ CIA จะมีกล้องพกติดตัวเสมอ เว้นแต่จะลืมกุญแจบ้านนั่นคือเรื่องใหญ่
.

.
.
13. Microdot cameras
ไม่มีอะไรที่น่าประทับใจไปมากกว่า
กล้องถ่ายรูป Microdot photograph
เป็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพขนาดเล็กมาก
จนต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ในการดูภาพถ่าย
ความสามารถของกล้องรุ่นนี้เยี่ยมมาก
ภาพถ่ายเอกสารสำคัญจากล้องขนาดมิลลิเมตร
สามารถซ่อนไปในจดหมายหรือเน็คไท
โดยอีกฝ่ายถ้าไม่สังเกตอย่างจริงจังจะหลุดรอดไปได้
การลักลอบข้อมูล/ภาพถ่ายต่าง ๆ มีการใช้กันมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับช่วงสงครามเย็น
รวมทั้งมีการลักลอบจารกรรมข้อมูลข่าวสาร
ข้ามกำแพงเบอร์ลินในเยอรมันนี
มีการทำกันอย่างแพร่หลายมาก
ด้วยการใช้นกพิราบเป็นแนวร่วมสายลับ
ในการลักลอบส่งข่าวสารข้อมูลจารกรรม
.

.
ภาพที่ไม่ระบุที่มาเป็นภาพของ
Courtesy of the International Spy Museum
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/17ya4J0
กล้องถ่ายรูปสายลับที่เป็นตำนาน 13 แบบ
มักจะคิดถึงเรื่องหนังสายลับ James Bond
และมักจะคิดถึงอุปกรณ์พิเศษของพระเอก James Bond
ในชีวิตการเป็นสายลับก็มีอุปกรณ์พิเศษแบบนั้นจริง ๆ ด้วย
ยิ่งกล้องถ่ายรูปสายลับจะมีหลายแบบมากกว่ากล้องถ่ายรูปทั่วไป
ทำให้ทุกวันนี้กล้องถ่ายรูปสายลับเหล่านี้กลายเป็นของยอดนิยมของนักสะสมกล้องถ่ายรูป
เพราะในอดีตกล้องถ่ายรูปพวกนี้เป็นของคู่ใจและคู่ชีวิตของสายลับ
สายลับในยุคนั้นถึงในยุคปัจจุบันจำเป็นต้องมีการสร้างสรรค์เป็นอย่างมาก
ในการแอบถ่ายภาพบุคคลหรือเอกสารลับในสถานที่ต้องการ
แม้ว่าในบางครั้งก็ต้องอาศัยโชคช่วย(ความบังเอิญ)ให้มีผลงานด้วยเช่นกัน
.
.
1. Automatique De Bertsch
ทุกวันนี้กล้องถ่ายรูปสายลับเป็นแบบง่าย ๆ เหมาะสำหรับคนทั่วไป
ด้วยการเล็งแล้วถ่ายภาพส่งภาพไปได้ทันทีทันใดไม่ต้องเสียเวลาล้างอัดภาพอีก
แต่ในปี 1861 กระบวนการถ่ายภาพจะสลับซับซ้อนและค่อนข้างวุ่นวายมาก
จะต้องหาห้องมืดก่อนในการถ่ายภาพที่ใช้แผ่นฟิล์มแบบเปียกน้ำ wet-plate photography
แล้วต้องหาจังหวะเวลา/ระยะใกล้กับเป้าหมายที่ต้องการถ่ายได้อย่างเหมาะสมเท่าที่จะทำได้
เพราะตัวเลนส์กับลำกล้องมีความยาวเพียง 1.5 นิ้วเอง
ผลงานประดิษฐ์ของ The French Chambre Automatique De Bertsch
แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานแน่ชัดว่าเคยมีการใช้งานในภารกิจลับหรือไม่
แต่นี่คือ รุ่นปู่ของของกล้องสายลับขนาดเล็ก ที่ได้รับการยกย่อง
Images Credit:George Eastman House
.
.
2. The Ansco Memo
พัฒนาการต่อมาของการถ่ายภาพของกล่องถ่ายรูปสายลับ
ด้วยการเป็นกล้องถ่ายรูปที่มีฟิล์มแห้งขนาดมาตรฐานมากขึ้น
ดังนั้นกล้องขนาด 35mm ของ Ansco Memo Miniature
ได้รับความนิยมอย่างในระหว่างปี 1920 - 1930
จัดว่าเป็นกล้องมาตรฐานสากลเหมาะสมกับงานสายลับ
เพราะพกพาง่ายและถ่ายภาพที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วทันใจ
Image Credit: John Kratz
.
.
3. Ticka Expo Watch Camera
นาฬิกาพกที่ใช้ใช้บอกเวลาไม่ได้แต่อย่างใด
มีขนาดหนาเป็น 2 เท่าของนาฬิกาพกทั่วไป
(ไม่เหมาะกับสายลับเพราะจะเปิดเผยร่องรอยได้ง่าย)
แต่ในช่วงปี 1905 - 1914 ยังไม่มีกล้องสายลับที่ดีกว่านี้
The Expo Watch Camera ขายในราคาเพียง 1 เหรียญสหรัฐเท่านั้น
ทำให้สามารถสร้างรายได้และความร่ำรวยให้กับผู้ขายอย่างมาก
เพราะใช้การตลาดที่บอกกับลูกค้าว่า ถ่ายภาพได้โดยไม่ถูกตรวจพบ
แน่นอนจะต้องไม่ใช้กล้องถ่ายภาพด้วยการเล็งเลนส์ตรงไปยังเป้าหมาย
หรือเดินไปมาพร้อมกับกล้องถ่ายภาพที่คนทั่วไปมองเห็นเลนส์ถ่ายภาพ
Image Credit: Coleccionando Camaras
.
.
4. The ABC Wristwatch Camera
ไม่มีอะไรที่เด่นไปกว่านาฬิกาข้อมือ พร้อมเลนส์ หน้าปัดนาฬิกา ปุ่มต่าง ๆ
The ABC Wristwatch Camera (made in Germany ในปี 1949)
ยิ่งใส่เสื้อแขนยาวปิดบังไว้ยิ่งสังเกตได้ยาก
ดูดีมีประโยชน์มากเช่นกัน เว้นแต่ดูเวลาไม่ได้
ส่วนรูปร่างและขนาดนาฬิกายังดูค่อนข้างน่ากลัว
.
.
5. The Echo 8 Lighter Camera
ในปี 1951 กล้องถ่ายรูป Cigarette Echo 8 lighter
สามารถจุดไฟได้ด้วย เพื่อการอำพรางความสามารถที่แท้จริง
แต่เวลาใช้งานจริงจึงค่อยประกอบอุปกรณ์เข้าด้วยกัน
.
6. Tessina 35 (Cigarette Camera)
เพื่อความรอบคอบหลังจากพกกล้องถ่ายรูปไฟแช็ค Echo 8
ควรพกพากล้องถ่ายรูป Tessina 35
ที่มีขนาดเล็กและบางพอใส่ลงในซองใส่บุหรี่ได้
แล้วให้ใส่บุหรี่ที่สูบได้ลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง
ส่วนอีกด้านหนึ่งจะเป็นบุหรี่ปลอมในซองบุหรี่
กล้องถ่ายรูปสายลับรุ่นนี้เยี่ยมมาก
เพราะสร้างความประทับใจให้กับวงการสายลับ
มีการผลิตขายมากกว่า 38 ปี ตั้งแต่ปี 1957 - 1996
.
7. Minox
กล้องถ่ายรูปสายลับระดับจอมถึก(วัวงาน)
เพราะใส่ฟิล์มครั้งเดียวสามารถถ่ายภาพคุณภาพดีได้ถึง 50 ภาพ
มีขนาดเล็กเพียงพอกับการซ่อนในกล่องแว่นตาหรือในแปรงขัดรองเท้า
แล้วแต่ความคิดสร้างสรรค์ของสายลับในการหลบซ่อนกล้องถ่ายรูป
มีความนิยมใช้กันมากในช่วงปี 1960 ถึงปี 1970
เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญของสายลับที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1937
ทุกวันนี้ยังเป็นกล้องถ่ายรูปยอดนิยมของนักสะสมกล้องถ่ายรูป
จัดว่าเป็นกล้องสายลับที่ดีที่สุดสำหรับงานจารกรรมที่ยังหาซื้อกันได้
ไม่กี่ปีนี้ทาง Minox ยังได้ผลิตกล้องแบบดิจิตอลวางขายในท้องตลาดด้วย
.
8. Pigeon Camera
ทุกวันนี้มีดาวเทียมสายลับที่สามารถถ่ายภาพทางอากาศ
และถ่ายภาพจากมุมสูงในสถานที่ต้องการได้
แต่ในช่วงปี 1940-1950 พวกสายลับจะใช้นกพิราบถ่ายภาพ
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ผ่านมา
นกพิราบสามารถปฏิบัตการลับสุดยอด
ได้ผลสำเร็จตามที่ต้องการได้มากกว่า 95%
ด้วยการเปิดโหมดทำงานอัตโนมัติให้กับนกพิราบ
แล้วรอผลงานการถ่ายภาพแบบมั่ว ๆ ของนกพิราบ
ถ้านกพิราบไม่ถูกสอยร่วงจากฝ่ายตรงข้ามแต่อย่างใด
และสามารถบินกลับรังนกพิราบได้ในตอนเสร็จงาน
.
9. Looking through walls
ไม่ใช่ไม้ถ่ายถ่ายภาพแบบ selfie
แต่เป็นเลนส์ขนาดยาวที่ยื่นผ่านกำแพงหรือรูที่เจาะผ่านกำแพง
กล้องถ่ายรูป The 1980 Stasi "robot"
ไม่ใช่หุ่นยนต์แน่นอน แต่เป็นชื่อเลนส์
สายลับเยอรมันนีตะวันออกในยุคแบ่งแยกประเทศ
ใช้ถ่ายภาพผ่านกำแพง/รูที่เจาะไว้
เพื่อถ่ายภาพภูมิประเทศชีวิตผู้คน/ทหาร
อีกด้านหนึ่งของกำแพงเบอร์ลินตะวันตก
.
10. The Buttonhole Camera
เสื้อกันหนาวทำให้อบอุ่น
แต่เสื้อกันหนาวสายลับใช้เก็บความลับ/ถ่ายภาพเป้าหมาย
สายลับจากสหรัฐ สหภาพโซเวียต ยุโรปชาติต่าง ๆ
ต่างออกแบบเสื้อผ้า/เสื้อคลุมที่ซ่อนกล้องถ่ายรูปสายลับ
กระดุมเสื้อมักจะเป็นเลนส์ของกล้องถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบมากที่สุด
ในภาพเป็นกล้องถ่ายภาพสายลับของสหภาพโซเวียตในปี 1970
กระบวนการทำงานไม่แตกต่างกับกล้องถ่ายรูปทั่วไป
ถ้าต้องการถ่ายภาพ ขยับตัวกล้องขึ้นมา และกดชัตเตอร์
แต่ต้องระมัดระวังการถูกตรวจค้นพบกล้องถ่ายรูปที่ซุกซ่อนอยู่ในเสื้อ
.
11. The Infrared Briefcase Camera
กล้องถ่ายรูปสายลับไม่ใช่ทุกชนิดที่จะต้องมีขนาดเล็กแบบพกพาง่าย ๆ
แต่กล้องถ่ายรูป Stasi Briefcase มีขนาดใหญ่มากต้องใส่ในกระเป๋าเอกสาร
การสั่งซื้อหรือเป็นเจ้าของทำได้ยากมากในช่วงปี 1970 - 1980
แต่กล้องถ่ายรูปรุ่นนี้มีฟิล์มอินฟราเรด และไฟแฟลตอินฟราเรต
ที่สายตาคนทั่วไปมองไม่เห็นแสงได้
จึงสามารถถ่ายภาพในที่มืดได้อย่างสบาย ๆ
.
12. Keychain camera
ในช่วงปี 1970 สายลับ CIA จะมีกล้องพกติดตัวเสมอ เว้นแต่จะลืมกุญแจบ้านนั่นคือเรื่องใหญ่
.
13. Microdot cameras
ไม่มีอะไรที่น่าประทับใจไปมากกว่า
กล้องถ่ายรูป Microdot photograph
เป็นกล้องที่สามารถถ่ายภาพขนาดเล็กมาก
จนต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ในการดูภาพถ่าย
ความสามารถของกล้องรุ่นนี้เยี่ยมมาก
ภาพถ่ายเอกสารสำคัญจากล้องขนาดมิลลิเมตร
สามารถซ่อนไปในจดหมายหรือเน็คไท
โดยอีกฝ่ายถ้าไม่สังเกตอย่างจริงจังจะหลุดรอดไปได้
การลักลอบข้อมูล/ภาพถ่ายต่าง ๆ มีการใช้กันมาก
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 กับช่วงสงครามเย็น
รวมทั้งมีการลักลอบจารกรรมข้อมูลข่าวสาร
ข้ามกำแพงเบอร์ลินในเยอรมันนี
มีการทำกันอย่างแพร่หลายมาก
ด้วยการใช้นกพิราบเป็นแนวร่วมสายลับ
ในการลักลอบส่งข่าวสารข้อมูลจารกรรม
ภาพที่ไม่ระบุที่มาเป็นภาพของ
Courtesy of the International Spy Museum
.
เรียบเรียง/ที่มา
http://bit.ly/17ya4J0