ภาคก่อนหน้า
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 1:
http://pantip.com/topic/33223396
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 2 - 4:
http://pantip.com/topic/33227755
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 5
ก็มาถึงวันที่ 5 ของทริปแล้วนะค้าา
ตารางของวันนี้จะออกชิวๆซะหน่อย เนื่องจากจขกท.และเพื่อนพ้องต่างก็เหนื่อยล้าจากการผจญภัยเมื่อวานนี้จ้าา
09:00 - ออกเดินทาง กินหมูสามชั้น(ซัมยอบซัล)
10:30 - Kitty cafe
11:30 - ไป Hongdae free market
13:00 - ช้อปปิ้งในฮงแด (hongik u.)
17:00 - ไปนัมซานทาวเวอร์(N Seoul tower) เพื่อล๊อกกุญแจกัน
ก่อนอื่นเลย จขกท.นั้นเชื่อว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"

จขกท.เลยต้องขอแวะกินข้าวเช้าก่อนแถวๆสถานีที่พักอยู่ค่ะ
ไหนๆก็มาเกาหลีแล้ว เราก็ต้องไปลองกิน
หมูสามชั้นย่าง(ซัมยอบซัล) ของเกาหลีกันซิค่ะ
ขั้นตอนการกิน
1. ย่างหมู แล้วตัดเป็นชิ้นๆให้พอดีคำค่ะ
2. นำผักมาถือไว้(ถ้าชอบทานผักก็สามารถซ้อนๆผักหลายๆชนิดได้ในทีเดียวค่ะ แล้วแต่ความต้องการ)
3. คีบหมูย่างที่ตัดไว้มาวางบนผัก
4. ใส่ซอสเกาหลี หรือเครื่องเคียงเยอะตามแต่ต้องการค่ะ เช่น กระเทียมสด, พริกชี้ฟ้า, หรือหัวหอม
อัดวีดีโอมา เสียงย่างน่ากินสุดๆๆ ฟังแล้วอยากกลับไปกินอีกค้าา แต่ลงไม่เป็น ดูภาพแล้วกันค่ะ
ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยไม่ไกลจากทางออกที่9ของสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ เดินไปตามทางที่จขกท.บอกเลยจ้าา
นี่คือหน้าร้านค่ะ ขึ้นบันไดไม้ไปก็จะเจอประตูเข้าร้านค่ะ
ถ้าหันมามองตึกฝั่งตรงข้ามตึกก็จะเห็นร้าน olive young ค่ะ
เป็นการกินที่อิ่มมากกกกก
แต่การกินก็ไม่ได้หยุดแค่เท่านี้ๆๆ
จขกท.ก็ไปต่อเลยที่
คิตตี้คาเฟ่ฮงแด เพื่อกินของหวานค่ะ
จขกท. สั่งชาเขียวลาเต้ร้อน, วัฟเฟิล มาลองค้าา
จขกท.ชอบชาเขียวค่ะ แต่วาฟเฟิล แข็งๆ แอบผิดหวังเล็กๆค่ะ รู้สึกไม่คุ้มราคา
ก่อนออกจากร้านก็ถ่ายภาพอีกหน่อยยย
แผนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินไปต่อ
Hongdae free market ค่ะ
ตลาดนี้เปิดแค่วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา บ่าย ถึง 6โมงเย็นค่ะ
ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆกับมหาลัยค่ะ
ตลาดนี้เป็นการรวมตัวของจิตรกรทั้งหลายค่ะ
มีวาดรูปการ์ตูน,วาดรูปเหมือน,หรือจะวาดรูปล้อเลียนก็มีค่ะ
จขกท.ไปอุดหนุนคุณลุงที่แกะตัวปั๊มหินค่ะ สามารถเลือกหินได้ค่ะ มีทั้งถูก(5,000วอน) และแพง(10,000วอน)
นอกจากนั้นก็ยังมีของพวกที่ทำด้วยมือมาวางขายกันอยู่บ้างค้าาา
คล้ายๆตลาดเปิดท้ายขายของบ้านเราแหละค่ะที่จริง แต่เล็กกว่าาา
การไปสวนก็ไม่ยากเลยค่ะ
แทนที่จะเลี้ยวเข้าถนนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ ก็เดิน ตรงต่อไปจนเห็นตึกนี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาลัยฮงอิกค่ะ
พอเดินเจอตึกก็เลี้ยวขวาค่ะ อยู่ทางเดินฝั่งขวาไว้ค่ะ เดินไปไม่ถึง100เมตรก็จะมีทางเลี้ยวเข้าตรอกทางขวามือ
มองไปทางซ้ายของตรอกก็จะเห็นสวนที่มีต้นไม้เยอะๆ ที่นั่นแหละค่ะ ไปไม่ยากเลยยยย
แผนที่เพิ่มเติมจ้าา
ตอนรอรับของก็ไปถ่ายรูปรอจ้าา อิอิ (มีสนามเด็กเล่นอยู่ตรงนั้นค่ะ)
พอได้ของมา เราก็ถึงเวลาช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์กันแล้วค่ะ!
แต่จขกท.เหลือบไปเห็นร้านไอศครีมราดรังผึ้ง หน้าตาน่ากินมากกก
แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากจขกท.เท่าไหร่ เสียดายย
แต่ร้านน่ารักค่ะ
มีขนมทุบๆด้วยย ลองเลยค้าา ตอนทุบเกรงใจโต๊ะข้างๆมากค่ะ แต่เป็นการระบายที่ดีค้าา
ร้านนี้อยู่ข้างๆสวนเลยค่ะ ตรงตรอกข้างๆนั่นแหละค่ะ
การช้อปเครื่องสำอางค์เริ่มหลังจากนี้ค้าา~
ร้านที่ไม่ไปไม่ได้ก็เห็นจะเป็น "
stylenanda flagship store" ในฮงแดค่ะ
กำลังบูมค่ะๆ จขกท. ไม่ทันได้ถ่ายรูปมาค่ะ เลยขอยืมรูปจาก
http://www.twinrabbit.co.kr/stylenanda-hongdae-flagship-shop-3-concept-eyes/ จ้า
ตอนกำลังไปนั้นเราก็ได้เดินผ่าน ร้านที่ coffee prince มาถ่ายทำโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ
พอดี จขกท.ไม่ติ่งเรื่องนี้ เลยไม่ได้ตั้งใจจะไป ฮ่าๆ
ไหนๆก็ผ่านเก็บภาพหน่อยละกันนนน
แล้วก็เดินต่อจ่ะ ไปร้าน stylenanda
ร้านตั้งอยู่ในซอย Wausan-ro 29da-gil Road (와우산로29다길) ค่ะ
เอาภาพ
แผนที่มาให้ดูกันจะได้ไม่งงจ้าา
ถ้ามาจากด้าน สถานีก็เดิน ตามแผนที่เลยยย จะผ่านซอย stylenanda ก่อน coffee prince cafe นะค่ะ (จขกท.มาด้านหลัง)
พอถึงstylenanda ก็ต้องถ่ายตู้สติกเกอร์เค้าหน่อย ฟรีๆๆ

(จขกท. ซื้อของเค้านิดเดียว แต่ถ่ายรูปไปเยอะเลยย อิอิ)
จขกท.โดยส่วนตัวแล้วชอบ ยาทาเล็บนะคะ แต่ อายไลน์เนอร์แบบกันน้ำก็ดี
ร้านนี้ขายของหลายแบบค่ะ ทั้งเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ของเค้ามีดีหลายอย่างแต่ก็ราคาพอตัวเลยค่ะ
ต่อมาก็ไปร้านเครื่องสำอางค์
clio ค่ะ
จขกท.ซื้อทีเขียนตาแบบสีๆกันน้ำของเค้ามา ติดทนนานมากค่ะ(ถึงแม้ตาจขกท.จะมันมาก)
แล้วก็ได้ซื้อลิปสติกด้วยค่ะ แบบtint และ แบบแท่ง เพื่อนที่อยู่เกาหลีแนะนำมาค่ะว่า ลิปสติกติดดี ราคาเป็นกันเองค่ะ
แบบแท่งค่ะ แบบอื่น จขกท.ไม่ได้ถ่ายยย
ราคาไม่แตกต่างกันมากค่ะ แต่บางตัวไ่มีที่ไทยค่ะ แนะนำว่าควรจะเช็คในตลาดไทยก่อนซื้อค่ะ
ร้าน clio ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคิตตี้คาเฟ่ค่ะ อยู่บนถนนช้อปปิ้งเดียวกัน
แต่เลยซอยที่ร้านคิตตี้คาเฟ่อยู่ไปอีกไม่ไกลค่ะ(ถ้ามาทางเดียวกับแผนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ค่ะ)
ช้อปเสร็จ จขกท.ก็ขอพักเท้าแปปหนึง โดยกลับไปที่พักค่ะ
พอตกเย็นก็ออกเดินทางไปคล้องกุญแจและดูวิวตอนกลางคืนที่ นัมซาน ทาวเวอร์ หรือ N seoul tower ค่ะ
ไปต่อ ที่
Namsan Tower ค่ะ
เนื่องจากเป็นทริปประหยัด จขกท.นำเพื่อนๆเดินขึ้นไป cable car station ค่ะ
ถ้าใครอยากเดินแบบจขกท. ก็ได้ค่ะ แต่เหนื่อยหน่อย ไม่แนะนำให้คนข้อเข่าไม่ดีขึ้นแบบนี้ค่ะ ><
เดินขึ้นเนินซักพัก และ ขึ้นบันไดอีกหน่อย ถึงจะถึงค่ะ
ถ่ายเป็นที่ระลึกค่ะ ทางเดินขึ้น
ขึ้นมาถึงจะเห็นสถานีหน้าตาแบบนี้ค่ะ (คือรีบถ่าย รูปออกมาเลยเป็นแบบนี้ ขออภัยค้าา)
แต่
การไป Namsan tower นั้นไปได้หลายทางค่ะ
จะขึ้นด้วยเคเบิลคาร์แบบเดิน
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 3 เดินขึ้นไปทางขวาของโรงแรมแปซิฟิก(โรงแรมอยู่ซ้ายมือของทางออก) แล้วเดินตรงขึ้นเนินๆเลยค่ะ ไกลพอสมควร สำหรับคนไม่รู้ทาง จากเคเบิคาร์ขึ้นไปเกือบถึง แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อยค่ะ
ขึ้นบันไดไปก็จะเห็น แบบนี้ค่ะ
จขกท.ไปถึงก็มืดแล้ว ได้มาแต่ภาพกลางคืนค่ะ จะถ่ายภาพกันเองนี่ต้องสาดแฟลช 3-4 ตัวจากกล้องมือถือค่ะ
ผลลัพธ์ของแฟลชค่ะ
หน้าชัดนะค่ะที่จริง เพราะสาดแฟลชเยอะ ถ้าน้อยคงไม่โอเคค่ะ
หรือจะขึ้นเคเบิลคาร์แบบลิฟท์
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 4 แล้วเดินตรงขึ้นไป Hoehyeon intersection เลยค่ะ
พอถึงก็จะเห็น Namsan Oreumi ลิฟท์เลยค่ะ
แนะนำให้ไปขึ้น Namsan Oreumi เพราะฟรีเหมือนกัน และไม่เหนื่อยยยย
เป็นเหมือนลิฟท์พาขึ้นไปจุด cable car station ค่ะ
แต่เพราะตอนนั้น จขกท.หาทางไปลิฟท์ไม่เจอเลยเดินขึ้นเอาค่ะ
ราคาเคเบิลคาร์ จะอยู่ที่
8,500 วอน แบบ ผู้ใหญ่ ไปกลับ
6,000 วอน แบบ ผู้ใหญ่ ขาเดียว
5,500 วอน แบบ เด็ก ไปกลับ
3,500 วอน แบบ เด็ก ขาเดียว
ถ้าเป็นกลุ่มมากกว่า 30 คนจะลดคนละ 1,000 วอนค่ะ
เปิด 10 โมง -5 ทุ่ม ค่ะ
จขกท.ซื้อแบบไปกลับจ้าาา
หรือจะขึ้นไปข้างบนด้วยรถเมล์
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 1 แล้วขึ้นรถประจำทางเบอร์ 05 หรือ Seoul City tour bus ก็ได่ค่ะ
ค่าเข้าก็ราคาปกติค่ะ
ถ้าจะขึ้นไปดูจุดชมวิวก็ 9,000 วอน ราคาผู้ใหญ่(13ปีขึ้นไป) หรือ 7,000 ราคาเด็กและคนแก่ค่ะ
ถ้าจะเข้าไปดูแค่ alive museum หรือ ภาพวาด3มิติ ราคา 12,000 วอน ผู้ใหญ่ หรือ 9,000 เด็กและคนแก่ค่ะ
หรือถ้าจะเข้าทั้งคู่ ก็ราคา 15,000 วอน ผู้ใหญ่ และ 11,000 วอน เด็กและคนแก่ค่ะ
ถ้าจะไปคล้องกุญแจ สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึกที่นั่นเลยค่ะ ราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าอยากซื้อไปเองก็ได้เหมือนกันค่ะ
จขกท.ไม่ได้ขึ้นไปดูบนหอคอยค่ะ เลยไม่มีรูปมาให้ดูค่ะ
เพราะตรงที่คล้องกุญแจก็สามารถดูวิวได้แล้วค่ะ แต่กล้องไม่ดี ภาพไหวหมดเลยค่ะ
ภาพประมาณนี้ค่ะ มองจากบันไดทางขึ้นไปคล้องกุญแจ
รูปจาก www.alivemuseum.com สำหรับ ภาพ3มิติค่ะ
เก็บรูปที่คล้องกุญแจมาด้วยค่ะ
เพื่อนของจขกท.มีแฟน นางก็ไปคล้องบ้างค่ะ
จขกท.แอบอิจจจจ อิอิ

ทริปวันนี้ก็จบเท่านี้ค่ะ ติดตามทริปพรุ่งนี้ว่าจะไปไหนอีกมั้งนะค้าาา
หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะช่วยทุกๆคนได้บ้างนะค้าาา
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 5 - 6
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 1: http://pantip.com/topic/33223396
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 2 - 4: http://pantip.com/topic/33227755
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 5
ก็มาถึงวันที่ 5 ของทริปแล้วนะค้าา
ตารางของวันนี้จะออกชิวๆซะหน่อย เนื่องจากจขกท.และเพื่อนพ้องต่างก็เหนื่อยล้าจากการผจญภัยเมื่อวานนี้จ้าา
09:00 - ออกเดินทาง กินหมูสามชั้น(ซัมยอบซัล)
10:30 - Kitty cafe
11:30 - ไป Hongdae free market
13:00 - ช้อปปิ้งในฮงแด (hongik u.)
17:00 - ไปนัมซานทาวเวอร์(N Seoul tower) เพื่อล๊อกกุญแจกัน
ก่อนอื่นเลย จขกท.นั้นเชื่อว่า "กองทัพต้องเดินด้วยท้อง"
จขกท.เลยต้องขอแวะกินข้าวเช้าก่อนแถวๆสถานีที่พักอยู่ค่ะ
ไหนๆก็มาเกาหลีแล้ว เราก็ต้องไปลองกิน หมูสามชั้นย่าง(ซัมยอบซัล) ของเกาหลีกันซิค่ะ
ขั้นตอนการกิน
1. ย่างหมู แล้วตัดเป็นชิ้นๆให้พอดีคำค่ะ
2. นำผักมาถือไว้(ถ้าชอบทานผักก็สามารถซ้อนๆผักหลายๆชนิดได้ในทีเดียวค่ะ แล้วแต่ความต้องการ)
3. คีบหมูย่างที่ตัดไว้มาวางบนผัก
4. ใส่ซอสเกาหลี หรือเครื่องเคียงเยอะตามแต่ต้องการค่ะ เช่น กระเทียมสด, พริกชี้ฟ้า, หรือหัวหอม
อัดวีดีโอมา เสียงย่างน่ากินสุดๆๆ ฟังแล้วอยากกลับไปกินอีกค้าา แต่ลงไม่เป็น ดูภาพแล้วกันค่ะ
ร้านนี้ตั้งอยู่ในซอยไม่ไกลจากทางออกที่9ของสถานีรถไฟใต้ดินค่ะ เดินไปตามทางที่จขกท.บอกเลยจ้าา
นี่คือหน้าร้านค่ะ ขึ้นบันไดไม้ไปก็จะเจอประตูเข้าร้านค่ะ
ถ้าหันมามองตึกฝั่งตรงข้ามตึกก็จะเห็นร้าน olive young ค่ะ
เป็นการกินที่อิ่มมากกกกก
แต่การกินก็ไม่ได้หยุดแค่เท่านี้ๆๆ
จขกท.ก็ไปต่อเลยที่ คิตตี้คาเฟ่ฮงแด เพื่อกินของหวานค่ะ
จขกท. สั่งชาเขียวลาเต้ร้อน, วัฟเฟิล มาลองค้าา
จขกท.ชอบชาเขียวค่ะ แต่วาฟเฟิล แข็งๆ แอบผิดหวังเล็กๆค่ะ รู้สึกไม่คุ้มราคา
ก่อนออกจากร้านก็ถ่ายภาพอีกหน่อยยย
แผนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เดินไปต่อ Hongdae free market ค่ะ
ตลาดนี้เปิดแค่วันเสาร์และอาทิตย์ตั้งแต่เวลา บ่าย ถึง 6โมงเย็นค่ะ
ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะใกล้ๆกับมหาลัยค่ะ
ตลาดนี้เป็นการรวมตัวของจิตรกรทั้งหลายค่ะ
มีวาดรูปการ์ตูน,วาดรูปเหมือน,หรือจะวาดรูปล้อเลียนก็มีค่ะ
จขกท.ไปอุดหนุนคุณลุงที่แกะตัวปั๊มหินค่ะ สามารถเลือกหินได้ค่ะ มีทั้งถูก(5,000วอน) และแพง(10,000วอน)
นอกจากนั้นก็ยังมีของพวกที่ทำด้วยมือมาวางขายกันอยู่บ้างค้าาา
คล้ายๆตลาดเปิดท้ายขายของบ้านเราแหละค่ะที่จริง แต่เล็กกว่าาา
การไปสวนก็ไม่ยากเลยค่ะ
แทนที่จะเลี้ยวเข้าถนนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ ก็เดิน ตรงต่อไปจนเห็นตึกนี้ที่เป็นเอกลักษณ์ของมหาลัยฮงอิกค่ะ
พอเดินเจอตึกก็เลี้ยวขวาค่ะ อยู่ทางเดินฝั่งขวาไว้ค่ะ เดินไปไม่ถึง100เมตรก็จะมีทางเลี้ยวเข้าตรอกทางขวามือ
มองไปทางซ้ายของตรอกก็จะเห็นสวนที่มีต้นไม้เยอะๆ ที่นั่นแหละค่ะ ไปไม่ยากเลยยยย
แผนที่เพิ่มเติมจ้าา
ตอนรอรับของก็ไปถ่ายรูปรอจ้าา อิอิ (มีสนามเด็กเล่นอยู่ตรงนั้นค่ะ)
พอได้ของมา เราก็ถึงเวลาช้อปปิ้งเครื่องสำอางค์กันแล้วค่ะ!
แต่จขกท.เหลือบไปเห็นร้านไอศครีมราดรังผึ้ง หน้าตาน่ากินมากกก
แต่รสชาติไม่ค่อยถูกปากจขกท.เท่าไหร่ เสียดายย
แต่ร้านน่ารักค่ะ
มีขนมทุบๆด้วยย ลองเลยค้าา ตอนทุบเกรงใจโต๊ะข้างๆมากค่ะ แต่เป็นการระบายที่ดีค้าา
ร้านนี้อยู่ข้างๆสวนเลยค่ะ ตรงตรอกข้างๆนั่นแหละค่ะ
การช้อปเครื่องสำอางค์เริ่มหลังจากนี้ค้าา~
ร้านที่ไม่ไปไม่ได้ก็เห็นจะเป็น "stylenanda flagship store" ในฮงแดค่ะ
กำลังบูมค่ะๆ จขกท. ไม่ทันได้ถ่ายรูปมาค่ะ เลยขอยืมรูปจาก http://www.twinrabbit.co.kr/stylenanda-hongdae-flagship-shop-3-concept-eyes/ จ้า
ตอนกำลังไปนั้นเราก็ได้เดินผ่าน ร้านที่ coffee prince มาถ่ายทำโดยไม่ได้ตั้งใจค่ะ
พอดี จขกท.ไม่ติ่งเรื่องนี้ เลยไม่ได้ตั้งใจจะไป ฮ่าๆ
ไหนๆก็ผ่านเก็บภาพหน่อยละกันนนน
แล้วก็เดินต่อจ่ะ ไปร้าน stylenanda
ร้านตั้งอยู่ในซอย Wausan-ro 29da-gil Road (와우산로29다길) ค่ะ
เอาภาพแผนที่มาให้ดูกันจะได้ไม่งงจ้าา
ถ้ามาจากด้าน สถานีก็เดิน ตามแผนที่เลยยย จะผ่านซอย stylenanda ก่อน coffee prince cafe นะค่ะ (จขกท.มาด้านหลัง)
พอถึงstylenanda ก็ต้องถ่ายตู้สติกเกอร์เค้าหน่อย ฟรีๆๆ
จขกท.โดยส่วนตัวแล้วชอบ ยาทาเล็บนะคะ แต่ อายไลน์เนอร์แบบกันน้ำก็ดี
ร้านนี้ขายของหลายแบบค่ะ ทั้งเครื่องสำอางค์ เสื้อผ้า ของเค้ามีดีหลายอย่างแต่ก็ราคาพอตัวเลยค่ะ
ต่อมาก็ไปร้านเครื่องสำอางค์ clio ค่ะ
จขกท.ซื้อทีเขียนตาแบบสีๆกันน้ำของเค้ามา ติดทนนานมากค่ะ(ถึงแม้ตาจขกท.จะมันมาก)
แล้วก็ได้ซื้อลิปสติกด้วยค่ะ แบบtint และ แบบแท่ง เพื่อนที่อยู่เกาหลีแนะนำมาค่ะว่า ลิปสติกติดดี ราคาเป็นกันเองค่ะ
แบบแท่งค่ะ แบบอื่น จขกท.ไม่ได้ถ่ายยย
ราคาไม่แตกต่างกันมากค่ะ แต่บางตัวไ่มีที่ไทยค่ะ แนะนำว่าควรจะเช็คในตลาดไทยก่อนซื้อค่ะ
ร้าน clio ตั้งอยู่ไม่ไกลจากคิตตี้คาเฟ่ค่ะ อยู่บนถนนช้อปปิ้งเดียวกัน
แต่เลยซอยที่ร้านคิตตี้คาเฟ่อยู่ไปอีกไม่ไกลค่ะ(ถ้ามาทางเดียวกับแผนที่ไปคิตตี้คาเฟ่ค่ะ)
ช้อปเสร็จ จขกท.ก็ขอพักเท้าแปปหนึง โดยกลับไปที่พักค่ะ
พอตกเย็นก็ออกเดินทางไปคล้องกุญแจและดูวิวตอนกลางคืนที่ นัมซาน ทาวเวอร์ หรือ N seoul tower ค่ะ
ไปต่อ ที่ Namsan Tower ค่ะ
เนื่องจากเป็นทริปประหยัด จขกท.นำเพื่อนๆเดินขึ้นไป cable car station ค่ะ
ถ้าใครอยากเดินแบบจขกท. ก็ได้ค่ะ แต่เหนื่อยหน่อย ไม่แนะนำให้คนข้อเข่าไม่ดีขึ้นแบบนี้ค่ะ ><
เดินขึ้นเนินซักพัก และ ขึ้นบันไดอีกหน่อย ถึงจะถึงค่ะ
ถ่ายเป็นที่ระลึกค่ะ ทางเดินขึ้น
ขึ้นมาถึงจะเห็นสถานีหน้าตาแบบนี้ค่ะ (คือรีบถ่าย รูปออกมาเลยเป็นแบบนี้ ขออภัยค้าา)
แต่การไป Namsan tower นั้นไปได้หลายทางค่ะ
จะขึ้นด้วยเคเบิลคาร์แบบเดิน
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 3 เดินขึ้นไปทางขวาของโรงแรมแปซิฟิก(โรงแรมอยู่ซ้ายมือของทางออก) แล้วเดินตรงขึ้นเนินๆเลยค่ะ ไกลพอสมควร สำหรับคนไม่รู้ทาง จากเคเบิคาร์ขึ้นไปเกือบถึง แต่ต้องเดินขึ้นบันไดไปอีกหน่อยค่ะ
ขึ้นบันไดไปก็จะเห็น แบบนี้ค่ะ
จขกท.ไปถึงก็มืดแล้ว ได้มาแต่ภาพกลางคืนค่ะ จะถ่ายภาพกันเองนี่ต้องสาดแฟลช 3-4 ตัวจากกล้องมือถือค่ะ
ผลลัพธ์ของแฟลชค่ะ
หน้าชัดนะค่ะที่จริง เพราะสาดแฟลชเยอะ ถ้าน้อยคงไม่โอเคค่ะ
หรือจะขึ้นเคเบิลคาร์แบบลิฟท์
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 4 แล้วเดินตรงขึ้นไป Hoehyeon intersection เลยค่ะ
พอถึงก็จะเห็น Namsan Oreumi ลิฟท์เลยค่ะ
แนะนำให้ไปขึ้น Namsan Oreumi เพราะฟรีเหมือนกัน และไม่เหนื่อยยยย
เป็นเหมือนลิฟท์พาขึ้นไปจุด cable car station ค่ะ
แต่เพราะตอนนั้น จขกท.หาทางไปลิฟท์ไม่เจอเลยเดินขึ้นเอาค่ะ
ราคาเคเบิลคาร์ จะอยู่ที่
8,500 วอน แบบ ผู้ใหญ่ ไปกลับ
6,000 วอน แบบ ผู้ใหญ่ ขาเดียว
5,500 วอน แบบ เด็ก ไปกลับ
3,500 วอน แบบ เด็ก ขาเดียว
ถ้าเป็นกลุ่มมากกว่า 30 คนจะลดคนละ 1,000 วอนค่ะ
เปิด 10 โมง -5 ทุ่ม ค่ะ
จขกท.ซื้อแบบไปกลับจ้าาา
หรือจะขึ้นไปข้างบนด้วยรถเมล์
ออกจากสถานีเมียงดง สาย4 สีฟ้าอ่อน ทางออก 1 แล้วขึ้นรถประจำทางเบอร์ 05 หรือ Seoul City tour bus ก็ได่ค่ะ
ค่าเข้าก็ราคาปกติค่ะ
ถ้าจะขึ้นไปดูจุดชมวิวก็ 9,000 วอน ราคาผู้ใหญ่(13ปีขึ้นไป) หรือ 7,000 ราคาเด็กและคนแก่ค่ะ
ถ้าจะเข้าไปดูแค่ alive museum หรือ ภาพวาด3มิติ ราคา 12,000 วอน ผู้ใหญ่ หรือ 9,000 เด็กและคนแก่ค่ะ
หรือถ้าจะเข้าทั้งคู่ ก็ราคา 15,000 วอน ผู้ใหญ่ และ 11,000 วอน เด็กและคนแก่ค่ะ
ถ้าจะไปคล้องกุญแจ สามารถซื้อได้ที่ร้านขายของที่ระลึกที่นั่นเลยค่ะ ราคาไม่แพงมาก แต่ถ้าอยากซื้อไปเองก็ได้เหมือนกันค่ะ
จขกท.ไม่ได้ขึ้นไปดูบนหอคอยค่ะ เลยไม่มีรูปมาให้ดูค่ะ
เพราะตรงที่คล้องกุญแจก็สามารถดูวิวได้แล้วค่ะ แต่กล้องไม่ดี ภาพไหวหมดเลยค่ะ
ภาพประมาณนี้ค่ะ มองจากบันไดทางขึ้นไปคล้องกุญแจ
รูปจาก www.alivemuseum.com สำหรับ ภาพ3มิติค่ะ
เก็บรูปที่คล้องกุญแจมาด้วยค่ะ
เพื่อนของจขกท.มีแฟน นางก็ไปคล้องบ้างค่ะ
จขกท.แอบอิจจจจ อิอิ
ทริปวันนี้ก็จบเท่านี้ค่ะ ติดตามทริปพรุ่งนี้ว่าจะไปไหนอีกมั้งนะค้าาา
หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะช่วยทุกๆคนได้บ้างนะค้าาา