Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 1

สวัสดีค้า~ นี่เป็นครั้งแรกของจขกท.ที่ลองเขียนกระทู้นะค้า ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ขออภัยด้วยน้า

Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 2 - 4: http://pantip.com/topic/33227755
Backpack adventure in Korea -- Seoul // day 5 - 6: http://pantip.com/topic/33238795

วันนี้จขกท.จะมาเล่าสู่กันฟังเรื่องราวแบกเป้ที่จขกท.ไปเที่ยวเกาหลีด้วยตัวเองในโซลจ้า
จขกท.ได้เดินทางไปเกาหลีประมาณปลายเดือนพฤษภาคมที่แล้วนี้ค่ะ อาจนานไปนิดส์
เพิ่งจะตัดสินใจลองเขียนเล่าเผื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับเพื่อนๆคนอื่นที่อยากเที่ยวด้วยตัวเองมั้งนะค้า


วันที่ 1

ตารางการเดินทาง
01:20 - ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ
11:30 - ฝากกระเป๋าที่ staykorea guesthouse แล้วออกไปเที่ยวรอ
12:30 - กินข้าวเที่ยงและเดินเล่นแถว เมียงดง
16:00 - กลับมาเช็คอิน และ กินข้าวเย็น แถว ฮงแด

ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ 01:20 - สนามบินอินชอน 08:40 ด้วยเที่ยวบิน t'way ค่ะ
(จขกท.ได้กะเวลาเพื่อเข้าไปฝากของก่อนเที่ยงค่ะ จะได้มีเวลาเที่ยวว)



นั่งมา5ช.ม.ลงมาถึงก็ต้องขอทำธุระก่อนเลยค่ะ อิอิ เชื่อว่าหลายๆคนคงต้องแวะเหมือนกัน ^^



การจะไปเอากระเป๋าเราต้องนั่ง shuttle train ไปค่ะ ไม่นานนักก็ถึงค่ะ



ก่อนจะเอากระเป๋าเราต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง(immigration)ก่อนค่ะ



ตอนแรกกังวลอยู่ค่ะ ได้ข่าวมาว่าเข้มงวดมาก  เห็นมีบางคนโดนเรียกด้วยค่ะ แต่จขกท.ก็เดินผ่านฉลุยออกมาได้แบบไม่มีปัญหาค่ะ
เดินออกมาจากด่านตรวจก็จะเห็นที่รับกระเป๋าเลยค่ะ



แหมมาถึงก็เจอพี่คิมซูฮยอนเลยค่ะ พี่เค้าดังจริงหลังจาก "You who came from the star" ฉายที่ไทยค่ะ จขกท.ก็แอบติ่ง อิอิ
พอออกมาจากเกทก็หาที่เช่า pocket wifi ได้เลยค่ะ อยู่ไม่ไกลจาก gate D มากนักค้า แต่บูตที่เช่ามีหลายที่ค่ะ
ราคามีอธิบายในกระทู้นี้ค้า >> http://pantip.com/topic/30569597
จะเช่าwifiต้องมีบัตรเครดิตมาคำ้ประกันด้วยนะค่ะ เผื่อเราอุบอิบไม่คืนค่ะ

เช่าไวไฟเสร็จก็หาทางเข้าเมืองเลยค่ะ ที่สนามบินมีหลายรูปแบบการเดินทางให้เลือกค่ะ
รถบัส, รถไฟเร็ว(express;จอดแค่บางสถานี), รถไฟปกติ(จอดทุกสถานี), แท๊กซี่, หรือจะเช่ารถตู้ก็ได้ค่ะ
แต่จขกท.ได้เลือกรถไฟเร็วค่ะ เดินทาง1ช.ม.เข้าเมือง ด้วยราคาไม่แพงนักค่ะ (ถูกกว่านั่งแท็กซี่แน่ๆ)
ก็เดินตามป้ายเลยค่ะ ต้องเดินข้ามถนนไปตึกฝั่งตรงข้ามค่ะ เป็นทางไปรถไฟเร็วค่ะ



ภายในตึกสวยมากค่ะ ไม่เก็บภาพคงไม่ได้ค่ะ






ข้อมูลเกี่ยวกับรถไฟ


การซื้อตั๋วรถไฟนั้นจะสามารถกดจากตู้เป็นรอบๆที่ขึ้นก็ได้หรือจะซื้อเป็นบัตรเติมเงินเหมือน rabbit card บ้านเราก็ได้ค่ะ
ราคาไม่ได้แตกต่างกัน มีค่าบัตรเพิ่มขึ้นมาแต่ สะดวกค่ะ เก็บไว้ใช้ได้เป็นปีๆค่ะ
ใครสนใจซื้อเป็นบัตรเติมเงิน ก็ซื้อได้ตามร้านค้าสะดวกซื้อทั่วไปค่ะ
ถ้าออกมาจาก gate D ข้าวขวามือจะมีร้านอยู่ซื้อได้เลยค่ะ เช่น G25 เป็นต้น
ราคาน่าจะอยู่ที่ 10000กว่าวอนค่ะ รวมราคาบัตรและเงินที่ใช้ได้ค่ะ (จขก.ไม่ค่อยมั่นใจราคาเท่าไหร่นะค่ะ)
ใครที่จะกดตู้ก็สามารถกดได้หน้าทางเข้ารถไฟเหมือนปกติค่ะ มีภาพประกอบค่ะ



ในสถานีหน้าตาเป็นอย่างงี้ค่ะ ดูดีมากค่ะ เพราะเป็นรถไฟสายที่เพิ่งเปิดใหม่ไม่นานค่ะ




จขกท.พักสถานีมหาลัยฮงอิกค่ะ เรียกสั้นๆว่าฮงแดค่ะ จขก.พักที่ staykorea ค่ะ เดินจากสถานีทางออกที่2 ไปประมาณ15นาทีค่ะ



ข้อมูลการเดินทางไป staykorea guesthouse


ออกจากสถานีก็เลี้ยวซ้ายเลยค่ะ เดินตรงไปจนข้ามทางม้าลายแล้วก็เลี้ยวขวาเดินไปอีกหน่อยจะเจอสี่แยก ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยไปเลยค่ะ
จากปากซอยเดินไปประมาณ10นาทีค่ะ ผ่านประมาณ3แยกจะเจอร้าน"바다회사라" ร้านที่มีปลาอยู่ข้างหน้า ก็ถึแล้วค่ะ
บ้านที่อยู่อยู่ในซอยข้างๆร้านนี้ค่ะ จะมีป้าย "staykorea" ติดอยู่ตรงเสาแต่ไม่ค่อยใหญ่ค่ะ ต้องสังเกตดีๆ
ครั้งแรกที่มากับกระเป๋าแล้วไม่รู้ทางอาจนานหน่อย แต่พอรู้ทางแล้วก็ไม่ไกลค่ะ
เสียดายไม่ได้ถ่ายภาพเก็บไว้ แต่เจ้าของเป็นกันเองมากค่ะ อยู่แบบห้องน้ำรวมนะค่ะ แต่เนื่องจากห้องเช่ามีไม่เยอะก็สะอาดพอสมควร
ราคาไม่แพงมากนักค่ะ ตอนที่ไปไป4คนแต่ห้อง4คนไม่ว่างเลยได้อยู่ห้อง6คนค่ะ สบายเลย เป็นเตียง2ชั้นนะค่ะ ไม่ใหญ่มาก
จขกท.กะมาแบบลุยๆที่พักไม่ต้องดีมาก แต่ก็โอเคเลยค่ะ ที่พักก็มีขนมปังนมน้ำให้ทานเป็นข้าวเช้าด้วยค่ะ
ซอยบ้านนั้นมีร้านอาหารเยอะค่ะ อุดมสมบูรณ์มาก แต่ไม่มีที่ช้อปปิ้งค่ะ
ที่ช้อปปิ้งจะอยู่อีกฝั่งหนึงถ้าขึ้นมาจากรถใต้ดินค่ะ ฝั่งนั้นคือแถวมหาลัยค่ะ ร้านค้าเลยเยอะแยะ มีคลับด้วยค่ะ จขกท.แนะนำ cocoon ค่ะ ต้องลองซักครั้งค่ะ


พอถึงห้องจขกท.ก็วางกระเป๋าออกเที่ยวเลยค่ะ ที่แรกที่ไปนั้นไม่มีที่อื่นใดแต่เป็นย่านที่ไปเกาหลีแล้วจะไม่ไปไม่ได้
นั่นก็คือ เมียงดงนั่นเองค่ะ เป็นย่านที่ละลายทรัพย์สาวๆได้ดีเลยค่ะ ร้านเครื่องสำอางค์ยาวสุดลูกหูลูกตาเลยค่ะ



จขกท.เองก็ไม่รู้จะเข้าร้านไหนเลยค่ะ ><
จขกท.ก็เดินอย่างไร้จุดหมายชมนู่นชมนี่เข้าออกร้านนู้นนี้เป็นว่าเล่นจนไปเจ้อะกับร้านขนมที่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม
ร้าน "osullog" ชื่อดัง เป็นร้านขนมที่ทำมาจากชาเขียวค่ะ เดินตรงเข้ามาจากทางรถไฟฟ้าใต้ดินผ่าน"myeongdong theater"ไปหน่อยก็จะเจออยู่ทางขวามือค่ะ
เป็นร้านที่ไม่ได้ตั้งใจจะมา แต่พอเจอ ก็ต้องลองดูกันหน่อยค่ะ ว่าจะสมชื่อรึเปล่า
จขกท.ก็ได้สั่งมาชิมเล็กๆน้อยๆ อิอิ อร่อยดีค่ะ ร้านนี้ทำไม่ค่อยหวานมากค่ะ



เสร็จก็เดินเที่ยวเล่นอีกซักหน่อยแวะซื้อขนมข้างทางกิน ก็อร่อยดีนะค่ะ มีไส้กรอก,แป้งต้อกไส้ชีส ราดด้วยซอสมะเขือเทศ เริ่ดค่ะ
จขกท.ชอบกินแป้งค่ะ อิอิ อาหารเกาหลีส่วนใหญ่จะมีแป้งประกอบค่ะ สวรรค์ของจขกท.เลยค่ะ



ช่วงที่ไปตอนบ่ายๆคนยังไม่ค่อยเยอะค่ะ
แต่พอตกกลางคืนคนเยอะขึ้นเห็นได้ชัดเลยค่ะ น่าจะคนเลิกงานนะค่ะ สภาพประมาณนี้เลยค่ะ



พอเดินเล่นเสร็จก็กลับไปทานข้าวเย็นแถวที่พักเลยค่ะ ย่านฮงแด
จขกท.ก็ไม่พลาด ลองชิม ชิคเม้ก (มาจากคำว่า ชิค ไก่ + เม้กจู เบียร์) ตามกระแส แฟนซีรี่มาทั้งทีต้องลองค่ะ
ไก่บ้านเค้าไม่ได้กรอบมากเหมือนบ้านเรา(บอนชอน)ค่ะ แต่ก็เข้าก้านเข้ากันกับเบียร์ อร่อยดีค่ะ หน้าตาแบบนี้ค่ะ



จขกท.ไม่ได้จำชื่อร้านเนื่องจากเข้ามั่ว จำได้แต่หน้าร้านเป็นรูปลูกไก่ค่ะ
ถ้าเดินมาจากทางออก8ของสถานี ก็ตรงเข้ามาถึงวงเวียนที่มีแฟมิลี่มาร์ท เลี้ยวขวา ก็แถวๆนั้นเลยค่ะ
ร้านดีๆมีเยอะมาก จขกท.เวลาน้อยไม่สามารถชิมทุกร้านค่ะ เสียดายยยย

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ จขกท.ก็ขอตัวลากลับไปนอนเนื่องจากดึกแล้วค่ะ
จขกท.จะมาเล่าเรื่องวันที่2ต่อวันพรุ่งนี้นะค้าาาา