“ภูทอก” เป็นภาษาอีสาน แปลว่า “ภูเขาที่โดดเดี่ยว”
ภูทอกเป็นภูเขาหินทราย ตั้งอยู่ในเขตบ้านคำแคน ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ประกอบด้วยภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย
ภูทอกใหญ่เป็นภูโดดเดี่ยวที่ยังเป็นป่า ยังไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปเที่ยวชม ส่วนภูทอกน้อยนั้นเป็นที่ตั้งของ “วัดภูทอก” หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วัดเจติยาคีรีวิหาร” ซึ่งเป็นวัดป่าที่ท่าน“พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ” พระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ได้มาสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 เพื่อเป็น “รุกขมูลเสนาสนัง” สถานที่ปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวก ตัดกระแสโลกย์ เพ่งเพียรในวัติปฏิบัติ เพราะมีพื้นที่ป่ามีความร่มรื่นสงบเงียบ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรมของพระกรรมฐาน
<<ท่องสวรรค์บนดิน..ภูทอก "วัดเจติยาคีรีวิหาร" บึงกาฬ>>
“ภูทอก” เป็นภาษาอีสาน แปลว่า “ภูเขาที่โดดเดี่ยว”
ภูทอกเป็นภูเขาหินทราย ตั้งอยู่ในเขตบ้านคำแคน ต.นาสะแบง อ.ศรีวิไล จ.บึงกาฬ ประกอบด้วยภูทอกใหญ่และภูทอกน้อย
ภูทอกใหญ่เป็นภูโดดเดี่ยวที่ยังเป็นป่า ยังไม่ได้เปิดให้ขึ้นไปเที่ยวชม ส่วนภูทอกน้อยนั้นเป็นที่ตั้งของ “วัดภูทอก” หรือชื่ออย่างเป็นทางการว่า “วัดเจติยาคีรีวิหาร” ซึ่งเป็นวัดป่าที่ท่าน“พระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ” พระป่าสายกรรมฐาน ศิษย์พระอาจารย์มั่น ได้มาสร้างไว้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 เพื่อเป็น “รุกขมูลเสนาสนัง” สถานที่ปฏิบัติธรรม ปลีกวิเวก ตัดกระแสโลกย์ เพ่งเพียรในวัติปฏิบัติ เพราะมีพื้นที่ป่ามีความร่มรื่นสงบเงียบ เหมาะสำหรับปฏิบัติธรรมของพระกรรมฐาน