สึดดีค่ะก่อนจะถึงวันแห่งความรักในปีนี้หนูมีเรื่องที่อึดอั้นตันใจจะมาเล่าทุกๆคนฟังนะคะ
once upon a time.
เริ่มเรื่องคือหนูเรียนอยู่มหาลัยย่านอโศก ไม่ขอบอกนะคะว่าที่ไหน
หนูเรียนอยู่ที่ม.นี้มาได้สักพักแล้วล่ะค่ะ จนวันหนึ่งหนูได้พบกับผช.คนหนึ่งที่แคนทีน ช็อตแรกที่หนูพบเค้า
เค้ายืนสั่งก๋วยเตี๋ยวอยู่ ซึ่งหนูก็ได้ยืนสังอยู่ข้างๆแล้วก็ได้ยินเสียงสั่งก๋วยเตี๋ยวว่า"เย็นตาโฟต้มยำครับ"แล้วหนูก็หน้าไปดู(แบบสะบัดบ๊อบเบาๆ)พอเจอเค้ามันเหมือนโลกใบนี้มีแต่สีชมพู(โอ๊ยยยไม่นะฉันเหมือนได้ทานช็อกโกแลต) หนูก็รู้สึกว่าหนูก็หลงรัก เหมือนตรัสรู้ว่าความรักคือ? ชอบบบ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจของหนูร้องเพลงได้ในขณะนั่น "พรหมลิตบันดาลชักพา ทำให้เราพบกันทันใด"
เจอครั้งแรกก็แค่ชอบแบบธรรมดา (คิดว่าเจอแค่ครั้งเดียว)แต่เจอเรื่อยๆบ่อยๆทำให้ความชอบทวีคูณ เพิ่มขึ้นจาก0เป็น1000000+++อิฟีนิตี้++แบบเกินเหตุจนปัจจุบันหนูประเมินค่าความรักที่ให้กับไม่ได้แล้ว เคยมีคนบอกว่าเจอครั้งแรกเป็นเรื่องบังเอิญ เจอครั้งที่2เป็นพรหมลิขิต เจอครั้งที่3เป็นเนื้อคู่ แต่สำหรับหนูแล้วตั้งแต่ เห็นหน้าเค้าเป็นเป็นครั้งแรกหนูรู้สึกว่าเค้าคือเนื้อคู่เลยค้าาาา(บอกให้จักวาลนี้รู้ว่า คนนี้พ่อของลูกฉันแน่นอน)
ทุกวันกิจวัตรประจำวันของหนูคือ ประมาณ12.00-12.30 นี้จะเป็นเวลาที่เค้ามากินข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร(ซึ่งหนูได้ประพันธ์ชื่อให้โรงอาหารนี้ว่า โรงอาหารอร่อย((หรอ!!)))ซึ่งจะบอกก่อนว่าโรงอาหารที่เค้าไปกินนั้นอาหารไม่อร่อยแบบเกินเหตุ มีอาหารให้เลือกน้อย(อารมณ์ประมาณว่า กระเพราหมูผสมกระดูกหมู เงี้ยย เป็นการผสมผสานแบบ เี้ย(ม)มาก) หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงไปกินที่โรงอาหารนี้ คงเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้คณะเค้ามั้ง
ซึ่งเพื่อนๆเหล่าแก๊งค์ชะนีทีมงานคุณภาพของหนูก็ไม่มีใครอยากไปกินที่โรงอาหารนี้เลย หนูก็เลยต้องใช้มาตรการบังคับขั้นสูงสุดคือหนูจะอาสา เก็บถ้วยจาน ชามโน้นนี่นั้นนี่ของเพื่อนที่กินเสร็จแล้วเอาไปเก็บที่เก็บจาน เพื่อจะได้เดินไปใกล้ๆโต๊ะเค้าให้มากที่สุดหนู
ก่อนของทุกวัน12.00หนูต้องอ้อนวอน ขอร้อง ท่าน อ.ให้รีบปล่อยเพื่อที่จะมาจองโต๊ะ เพื่อจะได้โต๊ะที่มีองศาที่ตรงกับเค้า และมีจุดวิวที่จะสามารถมองเห็นเค้าตอนกินข้าวได้ และเวลาที่เค้ามาซื้อน้ำเค้าก็จะได้เดินผ่านโต๊ะเราแบบได้ดมกลิ่นแบบกรุ๊บกริบก็ดี (อันนี้ดูโรคจิตนิดๆ) แล้วพอเดินไปเก็บจาน หนูก็จะแอ๊บๆเดินผ่านเค้าแล้วก็ไปแอบกรี๊ดดดดดดด!!!!ในห้องน้ำแบบเวอร์ๆ แอบไปยิ้มและ มโน อยู่หน้ากระจก(ถ้าใครเห็นแล้วก็ต้องคิดว่าอีนี่มันเป็นบ้าาาาอ่ะค่ะ)
ซึ่งประมาณเดือนแรกๆที่เห็นเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร(ก็เลยตั้งฉายาตามกระเป๋าที่เค้าสะพายอ่ะค่ะ)ไม่รู้ว่าเค้าเรียนคณะไหนด้วย เหล่าแก๊งค์ชะนีอันคุณภาพของหนูก็ได้มาสุ่มหัวกันได้ความว่าต้องสะกดรอยตามมมมตั้งแต่โรงอาหาร (เล่นเป็นนักสืบโคนันแล้วสิตรู)หนูก็เลยได้ใช้วิชา รด.ที่หนูเรียนมาตอนมัธยมปลายมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในวันนี้แหละ (เคลื่อนที่ด้วยวิธีการโผลไปทั้งหมู่ไปได้ เฮ้ยยยยยยยย) ซึ่งหนูเดินตามเค้าไปแบบห่างๆแบบพรางตัวเป็นต้นไม้บ้าง โต๊ะหินอ่อนบ้าง และในที่สุดก็ได้รู้ว่าเค้าเรียนคณะหนึ่ง(เฮ่ๆๆๆๆตรบมือรั่วๆๆคร้าาาขอบคุณความสวยและไหวพริบอันชาญฉลาดของตัวเอง)
และแล้วทุกๆเช้าหนูต้องเดินผ่านคณะที่เค้าเรียนอยู่(อารมณ์ประมาณว่าไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาคณะก็ยังดี) และบางที่เราก็เจอกันโดยบังเอิญบ้าง ตามหอสมุด 7 -11 ท่าเรือ(เค้าคงไม่รู้ตัวหรอกว่ามีคนแอบมองอย่างบ้าครั่ง) ถ้าเจอหน้าเค้าโดยบังเอิญหนูจะทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ(เขิน+ดีใจ+ตื่นเต้น+หัวใจไม่เป็นจังหวะ etc.)ถ้าวันไหนได้เจอกันหนูจะกลับบ้านมาเขียนบันทึก เช่น (วันนี้เจอกันได้มองตากันตั้ง3วิ)อิอิ อันนี้แอบโลกสวยนิดๆๆ
แต่มาถึงจุดพีคแห่งความรักที่มีสีอื่นเข้ามานอกจากสีชมพูที่มาเติม จนกลายเป็นสีชมพูอมม่วงนิดๆ(ชมพูอมม่วงพาสเทล) วันนั้นคือหนูกินข้าวเสร็จก็รอเค้ามา จนประมาณ12.50 รอเท่าไหร่เค้าก็ไม่มาหนูเลยตัดสินใจขึ้นไปเรียน(ถึงจะพบรัก แต่ก็ไม่พักเรื่องเรียนนะจร้าาหนูๆตรบมือแบบรั่ววๆ)แต่อีกขณะหนึ่งที่หนูเปิดประตูโรงอาหารออกหนูเดินมาได้ประมาณ2เก้า พร้อมเหล่าแก๊งค์ชะนีอันคุณภาพของหนู หนูยืนอยู่ตรงกลาง(เหมือนกับเป็นลางสังหรอะไรสักอย่าง ตะหงิดๆ) และแล้ว ก็ได้เจอเค้าจับมือมากับผู้หญิงคนหนึ่ง เค้ายิ้มมาด้วยกัน (แต่เค้าคงไม่รู้หรอกว่ามีอีอีกคนปาดน้ำตาอยู่ข้าง)
หนูshock &สตั้นไป 10วิ คืออยากจะร้องให้ก็ร้องไม่ออก กลัวอายเพื่อนด้วยกลัวอาย อ. ด้วยเลยคิดว่าเก็บไปร้องที่บ้านเราดีกว่า กำลังใจตอนนั้นไม่มีเลยค่ะหนูก็เลยเปิดเพลงบิ้วอารมณ์(ปัญหาคือ ไม่เข้าใจตัวเองตอนนั้นเหมือนกันว่าจะเปิดเพลงบิ้วตัวเองทำไม (มโนว่าตัวเองเป็นนางเอกเอ็มวี ))
ก็เลยมาลองคิดดูว่าตัดใจดีไหม ก็พยายามตัดใจเรื่อยๆ จนกระทั้งวันหนึ่งเพื่อนหนูนางหนึ่ง ชีมือดีมากไปค้นเจอเฟสบุ๊คเค้าาาาา และแล้วหนูก็ได้เฟสบุ๊คเค้า(แต่ไม่กล้าแอด) แต่หนูก็ส่องเค้าทุกวันค่ะเปิดเฟสบุ๊คเค้าแล้วหนูนอนกอดipadทุกคืนค่ะ แล้วก็แอบส่องigเพื่อนเค้า(เค้าไม่เล่นig)เพื่อนเค้าลงรูปคู่กับเค้าเยอะ(แอบรักออนไอจี&เฟสบุ๊ค) จนทำให้หนูตัดใจจากเค้าไม่ได้ บวกกับเห็นหน้าเค้าเกือบจะทุกวัน5วันเจอ4วันไรอย่างเงี้ยยิ่งทำให้หนูตัดใจจากเค้าไม่ได้จริงง
อีกอย่างเค้าเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้หนูขยันไปมอ โดยไม่อยากให้มอมีวันหยุดเลย อยากไปเรียนหนังสือทุกๆวัน ก็เลยลองมาคิดทบทวนถามใจตัวเองว่า เราแค่ได้เห็นหน้าเค้า เห็นเค้ายิ้ม แค่ได้แอบมองเค้าอยู่ห่างๆ หนูก็มีความสุขมากแล้ววว ส่วนที่เค้ามีแล้วแฟนมันก็ทำให้เค้ามีความสุขของเค้าเราเห็นเค้ามีความสุขหนูก็มีความสุขเหมือนกันค่ะ สำหรับหนูมันเลยจุดคำว่าอกหักมาแล้วค่ะ
สำหรับการแอบรักของหนูครั้งนี้หนูจะทิ้งความเสียใจออกไปให้เหลือไว้แต่ความสุขเวลาที่ได้แอบรักเค้า แม้เวลา 12.00-13.00 มันจะเป็นเพียงแค่เวลาสั่นๆอย่างน้อยเราก็ได้อยู่ในพื้นที่4เหลี่ยมด้วยกันตั้ง1 ชั่วโมง มันก็สามารถต่อลมหายใจให้คนที่แอบรักได้เป็นเวลานานน สิ่งที่หนูได้เรียนรู้จากความรักครั้งนี้คือ ความรักไม่ใช่การได้มาหรือการเอามาครอบครอง แต่ความรักคือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ก็เพียงพอแล้ว
แม้เราจะไม่มีตัวตนในสายตาเค้าก็ตาม อย่างน้อย หนูก็จะเก็บความทรงจำไว้ว่าหนูเคยแอบรักเค้าคนนี้ตลอดไปและจะยังแอบรักแบบนี้ตลอดไป .............
The end
ปล.1ขอโทษด้วยนะค่ะที่ยาว
ส่วนปล.2หนูใส่ทรงเอยืนฉี่ค่ะ
เรื่องเล่าจากเดือนแห่งความรัก"แค่รักเธอยังต้องกลัว"
once upon a time.
เริ่มเรื่องคือหนูเรียนอยู่มหาลัยย่านอโศก ไม่ขอบอกนะคะว่าที่ไหน
หนูเรียนอยู่ที่ม.นี้มาได้สักพักแล้วล่ะค่ะ จนวันหนึ่งหนูได้พบกับผช.คนหนึ่งที่แคนทีน ช็อตแรกที่หนูพบเค้า
เค้ายืนสั่งก๋วยเตี๋ยวอยู่ ซึ่งหนูก็ได้ยืนสังอยู่ข้างๆแล้วก็ได้ยินเสียงสั่งก๋วยเตี๋ยวว่า"เย็นตาโฟต้มยำครับ"แล้วหนูก็หน้าไปดู(แบบสะบัดบ๊อบเบาๆ)พอเจอเค้ามันเหมือนโลกใบนี้มีแต่สีชมพู(โอ๊ยยยไม่นะฉันเหมือนได้ทานช็อกโกแลต) หนูก็รู้สึกว่าหนูก็หลงรัก เหมือนตรัสรู้ว่าความรักคือ? ชอบบบ ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว หัวใจของหนูร้องเพลงได้ในขณะนั่น "พรหมลิตบันดาลชักพา ทำให้เราพบกันทันใด"
เจอครั้งแรกก็แค่ชอบแบบธรรมดา (คิดว่าเจอแค่ครั้งเดียว)แต่เจอเรื่อยๆบ่อยๆทำให้ความชอบทวีคูณ เพิ่มขึ้นจาก0เป็น1000000+++อิฟีนิตี้++แบบเกินเหตุจนปัจจุบันหนูประเมินค่าความรักที่ให้กับไม่ได้แล้ว เคยมีคนบอกว่าเจอครั้งแรกเป็นเรื่องบังเอิญ เจอครั้งที่2เป็นพรหมลิขิต เจอครั้งที่3เป็นเนื้อคู่ แต่สำหรับหนูแล้วตั้งแต่ เห็นหน้าเค้าเป็นเป็นครั้งแรกหนูรู้สึกว่าเค้าคือเนื้อคู่เลยค้าาาา(บอกให้จักวาลนี้รู้ว่า คนนี้พ่อของลูกฉันแน่นอน)
ทุกวันกิจวัตรประจำวันของหนูคือ ประมาณ12.00-12.30 นี้จะเป็นเวลาที่เค้ามากินข้าวเที่ยงที่โรงอาหาร(ซึ่งหนูได้ประพันธ์ชื่อให้โรงอาหารนี้ว่า โรงอาหารอร่อย((หรอ!!)))ซึ่งจะบอกก่อนว่าโรงอาหารที่เค้าไปกินนั้นอาหารไม่อร่อยแบบเกินเหตุ มีอาหารให้เลือกน้อย(อารมณ์ประมาณว่า กระเพราหมูผสมกระดูกหมู เงี้ยย เป็นการผสมผสานแบบ เี้ย(ม)มาก) หนูก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมเค้าถึงไปกินที่โรงอาหารนี้ คงเป็นเพราะว่าอยู่ใกล้คณะเค้ามั้ง
ซึ่งเพื่อนๆเหล่าแก๊งค์ชะนีทีมงานคุณภาพของหนูก็ไม่มีใครอยากไปกินที่โรงอาหารนี้เลย หนูก็เลยต้องใช้มาตรการบังคับขั้นสูงสุดคือหนูจะอาสา เก็บถ้วยจาน ชามโน้นนี่นั้นนี่ของเพื่อนที่กินเสร็จแล้วเอาไปเก็บที่เก็บจาน เพื่อจะได้เดินไปใกล้ๆโต๊ะเค้าให้มากที่สุดหนู
ก่อนของทุกวัน12.00หนูต้องอ้อนวอน ขอร้อง ท่าน อ.ให้รีบปล่อยเพื่อที่จะมาจองโต๊ะ เพื่อจะได้โต๊ะที่มีองศาที่ตรงกับเค้า และมีจุดวิวที่จะสามารถมองเห็นเค้าตอนกินข้าวได้ และเวลาที่เค้ามาซื้อน้ำเค้าก็จะได้เดินผ่านโต๊ะเราแบบได้ดมกลิ่นแบบกรุ๊บกริบก็ดี (อันนี้ดูโรคจิตนิดๆ) แล้วพอเดินไปเก็บจาน หนูก็จะแอ๊บๆเดินผ่านเค้าแล้วก็ไปแอบกรี๊ดดดดดดด!!!!ในห้องน้ำแบบเวอร์ๆ แอบไปยิ้มและ มโน อยู่หน้ากระจก(ถ้าใครเห็นแล้วก็ต้องคิดว่าอีนี่มันเป็นบ้าาาาอ่ะค่ะ)
ซึ่งประมาณเดือนแรกๆที่เห็นเค้ายังไม่รู้ว่าเค้าชื่ออะไร(ก็เลยตั้งฉายาตามกระเป๋าที่เค้าสะพายอ่ะค่ะ)ไม่รู้ว่าเค้าเรียนคณะไหนด้วย เหล่าแก๊งค์ชะนีอันคุณภาพของหนูก็ได้มาสุ่มหัวกันได้ความว่าต้องสะกดรอยตามมมมตั้งแต่โรงอาหาร (เล่นเป็นนักสืบโคนันแล้วสิตรู)หนูก็เลยได้ใช้วิชา รด.ที่หนูเรียนมาตอนมัธยมปลายมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในวันนี้แหละ (เคลื่อนที่ด้วยวิธีการโผลไปทั้งหมู่ไปได้ เฮ้ยยยยยยยย) ซึ่งหนูเดินตามเค้าไปแบบห่างๆแบบพรางตัวเป็นต้นไม้บ้าง โต๊ะหินอ่อนบ้าง และในที่สุดก็ได้รู้ว่าเค้าเรียนคณะหนึ่ง(เฮ่ๆๆๆๆตรบมือรั่วๆๆคร้าาาขอบคุณความสวยและไหวพริบอันชาญฉลาดของตัวเอง)
และแล้วทุกๆเช้าหนูต้องเดินผ่านคณะที่เค้าเรียนอยู่(อารมณ์ประมาณว่าไม่เห็นหน้าเห็นหลังคาคณะก็ยังดี) และบางที่เราก็เจอกันโดยบังเอิญบ้าง ตามหอสมุด 7 -11 ท่าเรือ(เค้าคงไม่รู้ตัวหรอกว่ามีคนแอบมองอย่างบ้าครั่ง) ถ้าเจอหน้าเค้าโดยบังเอิญหนูจะทำอะไรไม่ถูกเลยค่ะ(เขิน+ดีใจ+ตื่นเต้น+หัวใจไม่เป็นจังหวะ etc.)ถ้าวันไหนได้เจอกันหนูจะกลับบ้านมาเขียนบันทึก เช่น (วันนี้เจอกันได้มองตากันตั้ง3วิ)อิอิ อันนี้แอบโลกสวยนิดๆๆ
แต่มาถึงจุดพีคแห่งความรักที่มีสีอื่นเข้ามานอกจากสีชมพูที่มาเติม จนกลายเป็นสีชมพูอมม่วงนิดๆ(ชมพูอมม่วงพาสเทล) วันนั้นคือหนูกินข้าวเสร็จก็รอเค้ามา จนประมาณ12.50 รอเท่าไหร่เค้าก็ไม่มาหนูเลยตัดสินใจขึ้นไปเรียน(ถึงจะพบรัก แต่ก็ไม่พักเรื่องเรียนนะจร้าาหนูๆตรบมือแบบรั่ววๆ)แต่อีกขณะหนึ่งที่หนูเปิดประตูโรงอาหารออกหนูเดินมาได้ประมาณ2เก้า พร้อมเหล่าแก๊งค์ชะนีอันคุณภาพของหนู หนูยืนอยู่ตรงกลาง(เหมือนกับเป็นลางสังหรอะไรสักอย่าง ตะหงิดๆ) และแล้ว ก็ได้เจอเค้าจับมือมากับผู้หญิงคนหนึ่ง เค้ายิ้มมาด้วยกัน (แต่เค้าคงไม่รู้หรอกว่ามีอีอีกคนปาดน้ำตาอยู่ข้าง)
หนูshock &สตั้นไป 10วิ คืออยากจะร้องให้ก็ร้องไม่ออก กลัวอายเพื่อนด้วยกลัวอาย อ. ด้วยเลยคิดว่าเก็บไปร้องที่บ้านเราดีกว่า กำลังใจตอนนั้นไม่มีเลยค่ะหนูก็เลยเปิดเพลงบิ้วอารมณ์(ปัญหาคือ ไม่เข้าใจตัวเองตอนนั้นเหมือนกันว่าจะเปิดเพลงบิ้วตัวเองทำไม (มโนว่าตัวเองเป็นนางเอกเอ็มวี ))
ก็เลยมาลองคิดดูว่าตัดใจดีไหม ก็พยายามตัดใจเรื่อยๆ จนกระทั้งวันหนึ่งเพื่อนหนูนางหนึ่ง ชีมือดีมากไปค้นเจอเฟสบุ๊คเค้าาาาา และแล้วหนูก็ได้เฟสบุ๊คเค้า(แต่ไม่กล้าแอด) แต่หนูก็ส่องเค้าทุกวันค่ะเปิดเฟสบุ๊คเค้าแล้วหนูนอนกอดipadทุกคืนค่ะ แล้วก็แอบส่องigเพื่อนเค้า(เค้าไม่เล่นig)เพื่อนเค้าลงรูปคู่กับเค้าเยอะ(แอบรักออนไอจี&เฟสบุ๊ค) จนทำให้หนูตัดใจจากเค้าไม่ได้ บวกกับเห็นหน้าเค้าเกือบจะทุกวัน5วันเจอ4วันไรอย่างเงี้ยยิ่งทำให้หนูตัดใจจากเค้าไม่ได้จริงง
อีกอย่างเค้าเป็นเหมือนแรงบันดาลใจที่ทำให้หนูขยันไปมอ โดยไม่อยากให้มอมีวันหยุดเลย อยากไปเรียนหนังสือทุกๆวัน ก็เลยลองมาคิดทบทวนถามใจตัวเองว่า เราแค่ได้เห็นหน้าเค้า เห็นเค้ายิ้ม แค่ได้แอบมองเค้าอยู่ห่างๆ หนูก็มีความสุขมากแล้ววว ส่วนที่เค้ามีแล้วแฟนมันก็ทำให้เค้ามีความสุขของเค้าเราเห็นเค้ามีความสุขหนูก็มีความสุขเหมือนกันค่ะ สำหรับหนูมันเลยจุดคำว่าอกหักมาแล้วค่ะ
สำหรับการแอบรักของหนูครั้งนี้หนูจะทิ้งความเสียใจออกไปให้เหลือไว้แต่ความสุขเวลาที่ได้แอบรักเค้า แม้เวลา 12.00-13.00 มันจะเป็นเพียงแค่เวลาสั่นๆอย่างน้อยเราก็ได้อยู่ในพื้นที่4เหลี่ยมด้วยกันตั้ง1 ชั่วโมง มันก็สามารถต่อลมหายใจให้คนที่แอบรักได้เป็นเวลานานน สิ่งที่หนูได้เรียนรู้จากความรักครั้งนี้คือ ความรักไม่ใช่การได้มาหรือการเอามาครอบครอง แต่ความรักคือการได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ก็เพียงพอแล้ว
แม้เราจะไม่มีตัวตนในสายตาเค้าก็ตาม อย่างน้อย หนูก็จะเก็บความทรงจำไว้ว่าหนูเคยแอบรักเค้าคนนี้ตลอดไปและจะยังแอบรักแบบนี้ตลอดไป .............
The end
ปล.1ขอโทษด้วยนะค่ะที่ยาว
ส่วนปล.2หนูใส่ทรงเอยืนฉี่ค่ะ