บางคนอาจยังไม่เข้าใจปัญหาที่เราเจอมา หลายคนอาจไม่ได้เข้าไปอ่านในกระทู้ที่เคยตั้งไปแล้ว (เล่าไม่จบ) แต่ก็ได้รับความคิดเห็นจากเพื่อนๆมากมาย. ขอบคุณทุกๆคนค่ะ. และน้อมรับคำติชมมาปรับปรุงแก้ไขพยายามจะทำในสิ่งที่ถูกต้องเสมอ แต่มันก็ไม่ได้เป็นไปโดยง่ายเลย ขอเท้าความก่อนนะค่ะเรากับแฟนคบกันมาได้ประมาณ6-7ปี เราลูกคนเดียวส่วนแฟนมีพี่น้อง5คนเขาเป็นน้องชายคนเล็ก ญาติพี่น้องเราและเขารับรู้ว่าเราคบกัน คบกันได้2-3ปีเขาจะบอกเสมอว่าอยากมีลูก แต่เราไม่ยอมมีให้แอบกินยาคุมตลอดเวลา แต่ด้วยการเดินทางและเวลาที่อยู่ด้วยกันบางครั้งเห็นเรากินยาก็โยนยาเราทิ้งทุกครั้ง ทำให้เราไม่สามารถแอบกินยาได้ตรงเวลา สุดท้ายพลาดมีลูกจริงๆ ในขณะเดียวกันเราก็ไม่รู้เลยว่าผู้ชายที่เราคบมีแฟนที่คบกันมาเป็นสิบกว่าปีก่อนเราแล้ว โดยที่เขาไม่เคยทำอะไรไรให้เราสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว พี่น้องเขาก็ไม่บอกเราเรื่องนี้เลย จนกระทั่งเราท้องได้เกือบ2เดือน มีคนมาบอกว่าคนที่เราคบมีแฟนแล้วอยู่กินกันมาสิบกว่าปีแค่ยังไม่แต่งงานกัน เราคาดคั้นเอาคำตอบสุดท้ายผู้ชายยอมรับ ว่ามีเมียจริงแต่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน 3-4เดือนเจอกันครั้ง เราตัดสินใจเลิกยุติความสัมพันธุ์นั้นด้วยการเป็นฝ่ายไปไม่เคยเอ่ยปากให้เขาทั้ง2คนเลิกกันจนถึงปัจจุบัน ผู้ชายไม่ยอมเลิกเราหนีไปอยู่ตามบ้านญาติก็ตามง้อตามขอโทษ สุดท้ายพี่ชายเขาเป็นคนเคลียให้เราค่อยๆคุยกันเพื่อลูก ผู้ชายรับปากจะรับผิดชอบดูแลเราและลูกขออย่างเดียวเราอย่าไปจากชีวิตเขา เขาจะเคลียจะจัดการทุกอย่างเองขอให้เราให้โอกาสให้เขาได้แก้ตัวอีกครั้ง ฝ่ายผู้หญิงคนนั้นจับได้ว่าสามีตัวเองมีเราเพิ่มมาอีกคน โทรมาหาเราอ้างว่าเป็นเจ้านายเป็นน้าของผู้หญิงคนนั้นและเป็นเพื่อนกับพ่อของลูก (ตอนนั้นไม่รู้ว่าเราท้อง) โดยบอกว่า2คนนี้คบกันมานานสิบกว่าปี มีลูกด้วยกันแล้วอยู่ที่บ้านผู้ชาย ครอบครัวฝ่ายชายรักฝ่ายหญิงมาก ผู้ชายคนนี้เจ้าชู้มาก ทำให้เมียเขาเสียใจหลายครั้งมีผู้หญิงมาแล้วหลายคน แต่เมียเขาก็ไม่เคยเข้าไปยุ่ง เมียเขาเป็นคนดีมากเขารับส่งเมียเขาทุกเช้าเย็น เราตัดสินใจเลิกอีกครั้ง และคิดว่าถ้าเราไม่มีลูกเขาก็คงปล่อยเราไป ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่อยากทำนะเรารู้ว่าผิด เราเองก็รับไม่ได้และไม่รู้จะบอกที่บ้านยังไง? และคิดว่าเป็นทางเดียวที่เขาจะปล่อยเราไป เราพยายามทำทุกอย่างเพื่อจะเอาเด็กออก ยอมลงทุนไปแหล่งรวมขึ้นชื่อที่มีคลินิคทำแท้ง แต่ชะตาฟ้าลิขิตเราไป2-3รอบไม่เคยหาคลินิคนั้นเจอ ทั้งๆที่มีคนบอกว่าตรงนี้ซอยนี้ สุดท้ายหายามากิน พ่อของลูกจับได้เอายาทุกอย่างของเราทิ้งไป บอกเสียใจกับสิ่งที่เราทำ พร้อมขอโทษสัญญาร้องไห้กับเราต่างๆนาๆ พี่ชายเขาก็ขอให้เราใจเย็นๆค่อยๆคุยกัน รู้แล้วก็ต่างคนต่างอยู่( เรามารู้ทีหลังว่าเขา2คนไม่ได้มีลูกกัน อยู่ด้วยกันมานานครอบครัว2ฝ่ายรับรู้แต่ยังไม่ได้แต่งงานกัน ผู้หญิงคนนี้โกหกว่ามีลูก โกหกว่าเป็นเพื่อนเป็นน้า ปิดบังตัวตนของตัวเอง และทำงานที่เดียวกัน ตัวผู้ชายเองก็ช่วยกันปกปิดว่าคนนี้ไม่ใช่เมียตัวเอง ) จากนั้นเราก็ไม่หนี ตัดสินใจดูแลลูกในท้องของเราให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้ ถึงจะมีคนมาบอกเราว่าเขา2คนอยู่ด้วยกันทุกวันอะไรยังไงจะไปไหนกับใครเคลียกับเมียคนนั้นยังไงเราไม่สนใจ เราอยู่ของเราปกติไม่ระรานใคร แต่ระหว่างที่ท้องเขาดูแลเรากับลูกดีมากมาอยู่ด้วยทุกวันจนคลอดซึ่งฝ่ายหญิงคนนั้นก็ไม่ได้โทรมาหาเราอีกเลย ต่างคนต่างอยู่จริงๆระหว่างที่เราอยู่ด้วยกันเราก็ถามนะว่าผู้หญิงคนนั้นละไปเคลียกันยังไง โดยเขาตอบเราว่า ก็ต่างคนต่างทำงาน3-4เดือนเจอกันครั้ง ไม่ต้องสนใจเราอยู่ของเราสร้างครอบครัวของเราพอ เขาจัดการของเขาได้วางแผนเรื่องอนาคตลูกกัน บวกกับพี่ชายเขาขอให้เราทำเพื่อลูกและค่อยๆคุยกันเราก็ไม่ได้สนใจอะไรอีก ไม่ใช่ว่าไม่รู้สึกผิดหรืออยากแย่งของใครนะ ตัวผู้ชายเองจะรู้ว่าเราไม่สบายใจเรื่องเมียน้อยเมียหลวง แต่ตอนนั้นเราแค่คิดว่าถ้าต่างคนต่างอยู่ไม่ระรานเขาจะกลับไปเจอกันไปอยู่ด้วยกันก็ตามสบายเราไม่ว่า ( เรามารู้ตอนคลอดน้องว่าที่เขามาอยู่กับเราได้เพราะเขา 2คนแยกกันอยู่ โดยพ่อของลูกไปอยู่ที่แฟลตตำรวจกับพี่ชาย แค่แยกกันอยู่นะค่ะ ไม่ใช่เลิกกันยังคงไปมาหาสู่กันปกติ ) พอเราคลอดน้องได้2อาทิตย์ผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าเรามีลูกกัน เขา2คนก็กลับไปอยู่ด้วยกันพ่อของลูกก็ไม่ได้มาหาเราแม่ลูกนานๆโทรมาครั้งและแวะมาครั้ง และทุกครั้งที่มาไม่เกิน30นาที และผู้หญิงคนนั้นโทรตามทุกครั้งแม้แต่ลูกป่วยนอนเกือบจะเสียลูกไป และเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ลูกไม่สบายและพยายามโทรคุยกับเราส่งไลน์หาเราตลอด เราเหนื่อยหลายสิ่งรับไม่ได้หลายอย่าง เราถือโอกาสนี้ขอใช้ชีวิตอยู่กับลูกลำพังโดยที่ไม่ต้องมาเกี่ยวข้องอะไรกันอีกให้เขากลับไปใช้ชีวิตครอบครัวกัน2คน เรารับอะไรไม่ได้แล้วกับสิ่งที่เขาทำกับเรากับลูก เราเสียใจมามากพอ แต่เขาไม่เคยยอมปล่อยเราไปบอกเสมอจัดการได้เสียใจแต่เลือกไม่ได้จริงๆ คนนึงคบมานานเหมือนเพื่อนตาย อีกคนเหมือนลมหายใจเข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไป ขอให้เราอดทน รอให้ทุกอย่างดีขึ้นเราก็จะมีเวลาอยู่ด้วยกันพ่อแม่ลูกเช่นเคย..เขาบอกว่า ผู้หญิงคนนั้นขอให้เขาเลิกกับเรา ผู้ชายก็รับปากว่าเลิกกับเราแล้ว ตอนนี้ถูกจับตาถูกตามไปไหนไม่ได้ เสาร์-อาทิตย์จะพยายามกลับบ้านบ่อยๆแล้วจะมารับเรากับลูกกับบ้านด้วย แต่ไม่เคยทำได้ค่ะ ทุกครั้งที่กลับบ้านก็พาผู้หญิงคนนั้นกลับด้วยทุกครั้ง. ที่บ้านเราไม่รู้ว่าเรามีลูกกันและเราก็ไม่กล้าบอก ไม่ใช่จะไม่บอกนะค่ะแต่มันมีอะไรที่ละเอียดอ่อนและยังไม่พร้อมบอกด้วยสุขภาพตายายด้วย แต่เราตั้งใจจะบอกทุกคนแน่นอน!! จากนั้นเราก็ปล่อยไม่สนใจเขาอีก เจาจะมาหาหรือโทรมารึป่าวเราไม่สนใจ เราตั้งหน้าตั้งตาเลี้ยงลูกคนเดียว ทุกอย่างรับผิดชอบคนเดียว เอาลูกไปฝากเลี้ยงตั้งแต่1เดือนเพื่อตัวเราจะได้ไปทำงาน ฝนตกแดดออก เจอลมเจอฝุ่นลูกไม่สบายบ่อยมากเพราะเด็กอยู่ภูมิต้านทานไม่ค่อยมีหอบกันขึ้นแท็กซี่รับส่งกัน ตอนนั้นเราลำบากมากและเหนื่อยมากขับรถไม่เป็นค่าใช้จ่ายเยอะมากๆ โดยเฉพาะค่าแท็กซี่ จนผ่านไป3เดือนเราตัดสินใจไปเรียนขับรถและซื้อรถ. การรับส่งลูกเลยสบายขึ้นลูกก็ไม่ต้องตากฝนลมแดดอีก เราหายไปสักพักนึงไม่รับโทรศัพท์ไม่ติดต่อเขา จนปีใหม่ปี56เข้า57
ลูกโตจนอายุ1.6ขวบ กลับมาบอกว่าไม่ใช่ลูกตัวเอง ทำไมเราถึงไม่รู้สึกอะไรเลยหรืออาจเพราะเราเจ็บมาจนชินไม่มีพื้นที่ให้เสียใจ