ธรรมกาย ทำให้รถติด จริงหรือ ?

หลังจากที่ได้สนทนากับสมาชิกหลายๆท่าน ในเรื่องธุดงค์ธรรมชัย ผมรู้สึกแปลกใจสงสัยในหลายๆประเด็น นะครับท่าน
มีสมาชิกบางท่าน บอกว่า ธรรมกาย ทำให้รถติด ชาวบ้านเดือดร้อน เป็นบาป ไม่ใช่บุญ

แต่พอผมถามว่า ที่ท่านพูดอย่างนี้ หมายความว่า ใครก็ตามในโลกนี้ ทำให้รถติด ต้องถือว่าเป็นบาป ด้วยหรือเปล่า ?

ปรากฏว่า เงียบ ไม่มีคำตอบ
แล้วผมจะทราบไหมครับว่า ตกลงแล้ว เหตุผลของท่าน มันคืออย่างไรกันแน่ ?

อีกประเด็นหนึ่งที่ผมสงสัย และสอบถามกับหลายๆท่านมาตลอด แต่ไม่เคยได้รับคำอธิบายเลย คือ
อะไรคือเหตุผลที่ทำให้ท่านเหล่านั้น เข้าใจว่า ธรรมกาย คือเหตุผลเพียงประการเดียวที่ทำให้รถติด ?

หลักปฏิจจสมุปบาท ยืนยันอย่างแข็งขันว่า ไม่มี เหตุเดียว ผลเดียว ในพระพุทธศาสนา
พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องกฏแห่งเหตุปัจจัย ซึ่งสิ่งทั้งหลายล้วนเกิดดับตามเหตุปัจจัย และ/หรือ เป็นเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน เป็นต้น
แต่การที่ท่านกล่าวว่า ธรรมกายทำให้รถติด มันไม่ใช่เหตุผล หรือ วิธีคิดแบบพระพุทธศาสนา เลยนี่ครับ ?

เพราะในความเป็นจริงก็คือ ทุกๆคนที่ใช้รถใช้ถนน ในเวลาและสถานที่นั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุปัจจัย ที่ทำให้รถติด ไม่ใช่หรือ ?

หรือบางที ท่านอาจจะคิดแบบเห็นแก่ตัว เข้าข้างตนเองว่า แต่เดิม รถไม่ติด หรือ ติดน้อย แต่พอมีเรื่องธรรมกายเข้ามา รถก็ติด หรือ ติดมาก
แต่ท่านลองคิดในทางกลับกันสิครับว่า ถ้าหากในวันนั้น เวลานั้น มีแต่ธรรมกาย ไม่มีพวกท่านอยู่บนท้องถนนเลย รถมันก็ไม่ติดนี่ครับ

เมื่อเป็นเช่นนี้ ผมสามารถสรุปได้หรือเปล่าว่า
ถ้าหากไม่มีพวกท่านผู้ใช้รถใช้ถนน รถมันก็ไม่ติดเช่นกัน ดังนั้น พวกท่านนั่นแหละที่เป็นสาเหตุทำให้รถติด

และถ้าเราเอาทั้งสองส่วนมารวมกัน ก็จะได้ความตามความเป็นจริงว่า ผู้ใช้รถใช้ถนนทุกๆฝ่ายนั่นแหละ ที่เป็นสาเหตุให้รถติด
การที่เราจะมาโทษฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือคนใดคนหนึ่งว่าเป็นต้นเหตุ หรือเหตุปัจจัยแต่เพียงประการเดียว
จึงเป็นการพูดที่ไม่สมเหตุผล เป็นการพูดแบบเดียรถีย์ มากกว่าที่จะเป็นการพูดตามแนววิธีคิดแบบชาวพุทธ นะครับท่าน

ถ้าถามความเห็นของผม

เรื่องแรกที่ต้องคำนึงถึงก็คือ ทุกๆคนมีสิทธิ์ใช้ถนนนั้น อย่างเท่าเทียมกันครับ และธรรมกายก็ดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฏหมายเสียด้วย
ดังนั้น การที่คนบางกลุ่ม อ้างความไม่สะดวกสบายของตน แล้วไม่ยินดี หรือไม่ยินยอมให้ผู้อื่นใช้ถนนดังกล่าว จะเป็นการกระทำที่ถูกต้องชอบธรรม ได้อย่างไร ?

คำถามก็คือ เหตุใดท่านจึงคิดว่าตนเองมีสิทธิ์ในความสะดวกสบายนั้นแต่เพียงผู้เดียว ในขณะที่ผู้อื่น หรือคนบางพวก ไม่มีสิทธิ์หละครับ ?

ถามว่า ผมทราบหรือไม่ว่า มีคนได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ? ตอบว่า ทราบครับ และเห็นใจครับ
พร้อมๆ กันนั้น ก็ทราบด้วยว่า มีผู้คนก็ได้รับผลกระทบ เหมือนๆกับเวลาที่มี คอนเสิร์ต แห่นางงาม นักกีฬา ฯลฯ อย่างที่ถูกค่อนขอดนั่นแหละ

แต่ที่ผมสงสัย เหมือนๆกับที่หลายท่านสงสัยก็คือ เพราะว่า กิจกรรมเหล่านั้น มันสนองกิเลสตัณหาของท่าน
มันถูกจริตของท่าน ก็เลยพอที่จะทนกันได้ ต่างจากกิจกรรมทางพระศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งโดยธรรมกาย
ซึ่งมีอคติ ไม่ชอบ หรือไม่ก็ ขัดแย้งกับกิเลสตัณหาส่วนตน ก็ทนไม่ค่อยได้ เลยสาปส่งให้เป็นแพะรับบาปเรื่องรถติดไปเสียเลย ใช่หรือเปล่าครับ ?

นี่ผมจะไม่อ้างถึงการ ชัตดง ชัตดาวน์ การมงการเมือง นะครับ แต่ที่จริงก็อยากจะทราบความเห็นอยู่เหมือนกันว่า
ทั้งผู้ต้นคิด ผู้สนับสนุน รวมไปถึง ผู้เห็นดีเห็นงาม ให้ทำการแบบนั้น มันจะบาปมากไหมครับท่าน ?

แต่ก็ไม่เห็นมีใครพูดถึงประเด็น ทำรถติด บาปกรรม ไม่ใช่พุทธ เลยนี่ครับท่าน ?

บะหมี่Facepalmแพะ

แปลกนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่