นี่เป็นกระทู้แรกที่ผมเขียน มันถูกเขียนขึ้นมาเพราะผมไม่มีทางออกจริงๆ มึดไปหมด ทำอะไรไม่ถูก ไม่มีคนปรึกษารอบตัวเลย มีแต่คนบอกว่าให้ยอมรับแล้วปล่อยให้มันผ่านไป
เริ่มเกริ่นก่อนเลยนะครับ ผมเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศมาเกินครึ่งชีวิต อยู่มาตั้งแต่ 15 ถือสองสัญชาติ ขออภัยล่วงหน้าถ้าภาษาในการพิมพิ์แปลกๆ ตอนนี้ก็ 33แล้ว ในชีวิตมีแฟน 2 คนถ้วน คนแรกคบกัน10ปี แล้วก็จบลงเพราะความเข้ากันไม่ได้และคบกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กทั้งคู่ และคนปัจุบัน กำลังจะ6ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ เรื่องมีอยูว่า
ผมเป็นคนที่เหมือนกับคนทั่วๆไปคือครอบครัวไม่ได้รวยอะไรมาก มาเรียนและทำงานมาตลอด พอเรียนจบก็ทำงานต่อซักพักก็เก็บเงินเปิดธุรกิจร้านอาหารมาโดยที่มีแฟนผมคนปัจจุบันคอยช่วยเหลือทุกๆอย่างในการบริหาร รวมทั้งดูแลเรื่องการเงินทั้งหมด ทั้งของธุรกิจเราสองคน และส่วนตัว เราล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันตั้งแต่ร้านแรก จนถึงร้านปัจุบันก็ร้านที่7แล้ว ไม่ใช่เพราะรวยหรืออะไรนะครับ 7ร้านก็จริงแต่สิ่งที่เราทำคือ เช่าที่มา,ตกแต่งสร้างมันให้เป็นร้านขึ้นมา, เปิดมาแล้วดำเนินการ์ณไปซักระยะให้ได้ถึงจุดที่คิดว่าลูกค้ามากที่สุด แล้วขายเพื่อให้ได้เงินก้อนมา ที่ผ่านมาก็มีปัญหากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างเหมือนอย่างคู่อื่นๆทั่วๆไป เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงานมากๆ แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินด้วย แต่ทะเลาะกันเรื่องงาน ด้วยความที่เวลาผมทำงาน ดุดัน ใจร้อน ใครทำอะไรผิด รวมถึงแฟมผมด้วย ดุ ว่า ด่าทันที แล้วก็จบกันไป เลิกงานก็เหมือนเดิม ผมคิดเสมอว่าตัวเองรู้มากกว่าเพราะทำงานอย่างงี้ Hospitality, ร้านอาหาร มาตั้งแต่ 15 ทำเป็นทุกตำแหน่งตั้งแต่บริหารยันล้างจาน, Chef, Bartender ส่วนแฟนผมพึ่งจะมาสายนี้ตอนที่เค้ามาที่นี่เพื่อมาเรียนโท และเค้ามาจากสาย Engineer
มีช่วงที่เราเงินขาด เช่น ยังขายร้านเก่าไม่ได้ แต่ที่ของร้านใหม่มันงามเหลือเกินถ้าได้มาสร้างร้านใหม่ ได้กำไรดีแน่ๆ จึงต้องลงทุนและกัดฟันทำทั้งสองที่ไปพร้อมๆกัน ต้องหยิบยืมทั้งทางฝ่ายบ้านผม และบ้านเค้า บางครั้งมีเงินจำกัดมาก พอสำหรับมาม่าเท่านั้น ฝ่าฟันกันมา ทั้งสุข ทุกข์ หัวเราะ ร้องไห้ ใช้เงินกันสุรุ่ยสุร่ายด้วยกัน ประหยัดด้วยกันเพราะเงินเหลือน้อย แล้วแต่จังหวะที่ชีวิตเราจะพาเราไป
จนเวลาผ่านเลยไป เกิดอิ่มตัวในการทำร้านอาหาร เราขายร้านล่าสุดทิ้งแล้วมานั่งสรุปเงินกัน ผมจึงทราบว่า
1. เงินที่หยิบยืมมาทางฝ่ายแฟนผมได้รับการชำระคืนหมดแล้วเรียบร้อย
2. เงินที่ยืมมาจากทางบ้านผมไม่ได้รับการชำระคืนเลยซักบาท
3. หนี้ Suppliers ต่างๆก็ยังคงค้างอยู่อย่างงั้นจำนวนมาก Supplierบางคนกำลังยื่นฟ้องร้อง
4. เงินที่ได้จากการขายร้านแต่ละร้านที่ผมให้เค้าเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่มีเหลือเลย
เราเริ่มธุรกิจใหม่เพื่อที่จะได้ยืนขึ้นอีกครั้ง ผมทำ Shipping and Logistic ส่วนแฟนมาก็เปิด เป็นนายหน้าหาเด็กนักเรียนมาเรียนที่นี่ เราแชร์ออฟฟิตเดียวกัน แฟนผมขอกลับไปศึกษาระบบงาน รวมถึงขั้นตอนต่างๆที่ไทยเพราะธุรกิจนี่ใหม่มากๆสำหรับเราทั้งคู่ ผมแย้งทุกทางเพราะของอย่างงี้ศึกษาเอาในเวปก็ได้ เพราะการทำเป็นนายหน้า คืองานเอกสารล้วนๆ ซึ่งทุกอย่างถูกระบุไว้ชัดเจน ไม่มีความจำเป็นที่ต้องบินไปศึกษางานให้มันเปลือง แต่เค้าก็รั้นที่จะไปจนได้
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น วันChristmas Eve หลังจากแฟนผมก็กลับไปเมืองไทย 3 อาทิตย์ กลับมาพร้อมแม่ และขอแยกทาง ให้เหตุผลว่าสมัยที่ทำร้านอาหาร เราทะเลาะกันมากไป, ผมอารมณ์แปรปรวนง่ายและรุนแรง, เราเข้ากันไม่ได้, ที่บ้านเค้ามองว่าผมเอาเปรียบเพราะอยู่กันมานานแต่ไม่แต่งซะที (ทั้งๆที่ผมคุยเรื่องแต่งงานทั้งกับที่บ้านเค้า และตัวแฟนผมเอง แต่คำตอบที่ได้จากแฟนผมทุกครั้งคือ การเงินเรายังไม่พร้อม) และอีกหลายๆเหตุผล ผมก็ถามและสรุปยอดหนี้ เค้าก็บอกว่าเค้าจะไป เดินไปตัวเปล่าเงินไม่เอาหนี้ไม่จ่าย แต่ผมยังมีธุรกิจอยู่ ควรจะรับหนี้เกือบสองแสนเหรียญก้อนนี้ไป
ผมเสียใจที่เสียเพื่อนคู่คิด คนที่ร่วมฝ่าฟันกันมาด้วยกันตลอด คนที่รัก คนที่เคยวางแผนอนาคตด้วยกัน มากกว่าเรื่องหนี้ ผมบอกเค้าว่าผมยอมทุกอย่าง รับผิดทุกอย่างเรื่องในอดีต แต่ผมกลับไปแก้ไขอะไรมันไม่ได้ ผมทำได้แค่ทำวันนี้และพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด และไม่ทำอะไรแย่ซ้ำๆอย่างงั้นอีก เค้าก็ตอบมาว่าจะลองถามใจตัวเองอีกครั้ง ขอเวลา1เดือนจะลองดูว่าจะเปลี่ยนใจมั๊ย จะลืมได้รึเปล่า ผมก็ถามเค้าว่ายังคงรักกันอยู่มั๊ย ก็ได้คำตอบว่ายังรักกันอยู่แต่น้อยลง แล้วผมก็ถามว่าแล้วธุรกิจใหม่ที่ตั้งขึ้มาล่ะ เค้าก็บอกว่าไม่ทำแล้วเราเข้ากันไม่ได้ จบการสนทนาแล้วเราก็ดำเนินชีวิตกันมาปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเค้าขอมา1เดือน แล้วตลอดเวลา1เดือนที่ผ่านมา ผมก็ได้คิดละสำนึกในนิสัยส่วนตัวของผม และขอโทษ ขอโอกาศอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบตลอดเวลา1เดือนที่ผ่านมา ได้แต่การต่อว่าเรื่องในอดีตที่กล่าวไว้ข้างบนที่ผมย้อนไปไม่ได้
แล้วเมื่อวานวันที่07-02-2015แฟนผมก็มาบอกว่าพึ่งได้ตั๋วแล้วกำลังจะบินกลับพร้อมแม่เค้าวันพฤหัสที่12-02-2015นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบหกปีของเรา ผมเสียใจมากๆ ทำอะไรไม่ถูก หมดหวัง อยากตาย หมดแรงสู้ต่อ กินอะไรไม่ได้ นอนไม่ได้ นั่งอยู่เฉยๆน้ำตามันซึมออกมาเองเรื่อยๆไม่หยุด
วอนช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ ว่าผมต้องทำยังไงดี?
คู่ชีวิตผมกำลังจะเดินจากไป ผมควรทำยังไงดี?
เริ่มเกริ่นก่อนเลยนะครับ ผมเป็นคนไทยที่อยู่ต่างประเทศมาเกินครึ่งชีวิต อยู่มาตั้งแต่ 15 ถือสองสัญชาติ ขออภัยล่วงหน้าถ้าภาษาในการพิมพิ์แปลกๆ ตอนนี้ก็ 33แล้ว ในชีวิตมีแฟน 2 คนถ้วน คนแรกคบกัน10ปี แล้วก็จบลงเพราะความเข้ากันไม่ได้และคบกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กทั้งคู่ และคนปัจุบัน กำลังจะ6ปีในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ครับ เรื่องมีอยูว่า
ผมเป็นคนที่เหมือนกับคนทั่วๆไปคือครอบครัวไม่ได้รวยอะไรมาก มาเรียนและทำงานมาตลอด พอเรียนจบก็ทำงานต่อซักพักก็เก็บเงินเปิดธุรกิจร้านอาหารมาโดยที่มีแฟนผมคนปัจจุบันคอยช่วยเหลือทุกๆอย่างในการบริหาร รวมทั้งดูแลเรื่องการเงินทั้งหมด ทั้งของธุรกิจเราสองคน และส่วนตัว เราล้มลุกคลุกคลานมาด้วยกันตั้งแต่ร้านแรก จนถึงร้านปัจุบันก็ร้านที่7แล้ว ไม่ใช่เพราะรวยหรืออะไรนะครับ 7ร้านก็จริงแต่สิ่งที่เราทำคือ เช่าที่มา,ตกแต่งสร้างมันให้เป็นร้านขึ้นมา, เปิดมาแล้วดำเนินการ์ณไปซักระยะให้ได้ถึงจุดที่คิดว่าลูกค้ามากที่สุด แล้วขายเพื่อให้ได้เงินก้อนมา ที่ผ่านมาก็มีปัญหากันบ้าง ทะเลาะกันบ้างเหมือนอย่างคู่อื่นๆทั่วๆไป เพราะผมเป็นคนที่จริงจังกับงานมากๆ แถมยังมีความมั่นใจในตัวเองสูงเกินด้วย แต่ทะเลาะกันเรื่องงาน ด้วยความที่เวลาผมทำงาน ดุดัน ใจร้อน ใครทำอะไรผิด รวมถึงแฟมผมด้วย ดุ ว่า ด่าทันที แล้วก็จบกันไป เลิกงานก็เหมือนเดิม ผมคิดเสมอว่าตัวเองรู้มากกว่าเพราะทำงานอย่างงี้ Hospitality, ร้านอาหาร มาตั้งแต่ 15 ทำเป็นทุกตำแหน่งตั้งแต่บริหารยันล้างจาน, Chef, Bartender ส่วนแฟนผมพึ่งจะมาสายนี้ตอนที่เค้ามาที่นี่เพื่อมาเรียนโท และเค้ามาจากสาย Engineer
มีช่วงที่เราเงินขาด เช่น ยังขายร้านเก่าไม่ได้ แต่ที่ของร้านใหม่มันงามเหลือเกินถ้าได้มาสร้างร้านใหม่ ได้กำไรดีแน่ๆ จึงต้องลงทุนและกัดฟันทำทั้งสองที่ไปพร้อมๆกัน ต้องหยิบยืมทั้งทางฝ่ายบ้านผม และบ้านเค้า บางครั้งมีเงินจำกัดมาก พอสำหรับมาม่าเท่านั้น ฝ่าฟันกันมา ทั้งสุข ทุกข์ หัวเราะ ร้องไห้ ใช้เงินกันสุรุ่ยสุร่ายด้วยกัน ประหยัดด้วยกันเพราะเงินเหลือน้อย แล้วแต่จังหวะที่ชีวิตเราจะพาเราไป
จนเวลาผ่านเลยไป เกิดอิ่มตัวในการทำร้านอาหาร เราขายร้านล่าสุดทิ้งแล้วมานั่งสรุปเงินกัน ผมจึงทราบว่า
1. เงินที่หยิบยืมมาทางฝ่ายแฟนผมได้รับการชำระคืนหมดแล้วเรียบร้อย
2. เงินที่ยืมมาจากทางบ้านผมไม่ได้รับการชำระคืนเลยซักบาท
3. หนี้ Suppliers ต่างๆก็ยังคงค้างอยู่อย่างงั้นจำนวนมาก Supplierบางคนกำลังยื่นฟ้องร้อง
4. เงินที่ได้จากการขายร้านแต่ละร้านที่ผมให้เค้าเป็นคนจัดการทั้งหมด ไม่มีเหลือเลย
เราเริ่มธุรกิจใหม่เพื่อที่จะได้ยืนขึ้นอีกครั้ง ผมทำ Shipping and Logistic ส่วนแฟนมาก็เปิด เป็นนายหน้าหาเด็กนักเรียนมาเรียนที่นี่ เราแชร์ออฟฟิตเดียวกัน แฟนผมขอกลับไปศึกษาระบบงาน รวมถึงขั้นตอนต่างๆที่ไทยเพราะธุรกิจนี่ใหม่มากๆสำหรับเราทั้งคู่ ผมแย้งทุกทางเพราะของอย่างงี้ศึกษาเอาในเวปก็ได้ เพราะการทำเป็นนายหน้า คืองานเอกสารล้วนๆ ซึ่งทุกอย่างถูกระบุไว้ชัดเจน ไม่มีความจำเป็นที่ต้องบินไปศึกษางานให้มันเปลือง แต่เค้าก็รั้นที่จะไปจนได้
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น วันChristmas Eve หลังจากแฟนผมก็กลับไปเมืองไทย 3 อาทิตย์ กลับมาพร้อมแม่ และขอแยกทาง ให้เหตุผลว่าสมัยที่ทำร้านอาหาร เราทะเลาะกันมากไป, ผมอารมณ์แปรปรวนง่ายและรุนแรง, เราเข้ากันไม่ได้, ที่บ้านเค้ามองว่าผมเอาเปรียบเพราะอยู่กันมานานแต่ไม่แต่งซะที (ทั้งๆที่ผมคุยเรื่องแต่งงานทั้งกับที่บ้านเค้า และตัวแฟนผมเอง แต่คำตอบที่ได้จากแฟนผมทุกครั้งคือ การเงินเรายังไม่พร้อม) และอีกหลายๆเหตุผล ผมก็ถามและสรุปยอดหนี้ เค้าก็บอกว่าเค้าจะไป เดินไปตัวเปล่าเงินไม่เอาหนี้ไม่จ่าย แต่ผมยังมีธุรกิจอยู่ ควรจะรับหนี้เกือบสองแสนเหรียญก้อนนี้ไป
ผมเสียใจที่เสียเพื่อนคู่คิด คนที่ร่วมฝ่าฟันกันมาด้วยกันตลอด คนที่รัก คนที่เคยวางแผนอนาคตด้วยกัน มากกว่าเรื่องหนี้ ผมบอกเค้าว่าผมยอมทุกอย่าง รับผิดทุกอย่างเรื่องในอดีต แต่ผมกลับไปแก้ไขอะไรมันไม่ได้ ผมทำได้แค่ทำวันนี้และพรุ่งนี้ให้ดีที่สุด และไม่ทำอะไรแย่ซ้ำๆอย่างงั้นอีก เค้าก็ตอบมาว่าจะลองถามใจตัวเองอีกครั้ง ขอเวลา1เดือนจะลองดูว่าจะเปลี่ยนใจมั๊ย จะลืมได้รึเปล่า ผมก็ถามเค้าว่ายังคงรักกันอยู่มั๊ย ก็ได้คำตอบว่ายังรักกันอยู่แต่น้อยลง แล้วผมก็ถามว่าแล้วธุรกิจใหม่ที่ตั้งขึ้มาล่ะ เค้าก็บอกว่าไม่ทำแล้วเราเข้ากันไม่ได้ จบการสนทนาแล้วเราก็ดำเนินชีวิตกันมาปรกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะเค้าขอมา1เดือน แล้วตลอดเวลา1เดือนที่ผ่านมา ผมก็ได้คิดละสำนึกในนิสัยส่วนตัวของผม และขอโทษ ขอโอกาศอีกครั้ง แต่ก็ไม่ได้คำตอบตลอดเวลา1เดือนที่ผ่านมา ได้แต่การต่อว่าเรื่องในอดีตที่กล่าวไว้ข้างบนที่ผมย้อนไปไม่ได้
แล้วเมื่อวานวันที่07-02-2015แฟนผมก็มาบอกว่าพึ่งได้ตั๋วแล้วกำลังจะบินกลับพร้อมแม่เค้าวันพฤหัสที่12-02-2015นี้ ซึ่งเป็นวันครบรอบหกปีของเรา ผมเสียใจมากๆ ทำอะไรไม่ถูก หมดหวัง อยากตาย หมดแรงสู้ต่อ กินอะไรไม่ได้ นอนไม่ได้ นั่งอยู่เฉยๆน้ำตามันซึมออกมาเองเรื่อยๆไม่หยุด
วอนช่วยวิเคราะห์และแนะนำหน่อยครับ ว่าผมต้องทำยังไงดี?