สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ผมขออธิบายที่ปฏิบัติกันทุกวันดังนี้ครับ ( เนื้อหายาวมากจากประสพการณ์ตรง รับรองอ่านแล้วหิวครับ
)
1. เรือจอด
อันนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ก็ไปซื้อตามตลาดสดเหมือนร้านอาหารทั่วไปครับ
เรียกว่า "การจ่ายเสบียง" ซึ่งแล้วแต่นโยบายเรือรบแต่ละลำ ว่า จะไปจ่ายทุกวัน หรือวันเว้นกี่วัน
ส่วนมากจะออกไปจ่ายทุกวันเวลาตี 4 กว่า ๆ เพราะจะได้ของสดใหม่ และเผื่อมีอะไรแปลก ๆ กิน
และสหโภชน์ (เป็นชื่อเรียกของพ่อครัว) จะได้ทำเมนูแปลก ๆ ให้กินกันครับ
2. ออกเรือ
ในกรณีออกเรือ ฝ่ายพลาธิการก็จะต้องเรียกประชุมกันหน่อย
ว่าภาคนี้ออกกี่วัน หรือจอดที่ใหนบ้าง จอดกี่วัน เพื่อจะได้เอาข้อมูลไปวางแผนจ่ายเสบียงครับ
ส่วนมาก ในการออกเรือภาคปกติ เช่น การฝึกต่าง ๆ - ลาดตระเวณในพื้นที่ ก็จะได้เข้าฝั่งทุก 5 - 8 วัน (ไม่เกินนี้)
ดังนั้น เมื่อเข้าฝั่งที่ใด ฝ่ายพลาธิการก็จะวางแผนจ่ายเสบียงที่นั่น ซึ่งพื้นที่ของไทยก็คุ้น ๆ กันหมดครับ
ไล่ไปตั้งแต่ สัตหีบ - ระยอง - ตราด - หัวหิน - ชุมพร - เกาะสมุย - สงขลา
หรือฝั่งทัพเรือภาคที่ 3 (อันดามัน) ก็คือ พังงา - ภูเก็ต - ระนอง .... ก็จ่ายเสบียงกันตามแผนที่เรือจอดครับ
การจ่ายเสบียงแบบนี้ จะเก็บอาหารใว้ในห้องเย็น ซึ่งเรือทุกลำจะมีห้องเย็นที่ออกแบบให้เก็บเสบียง
ได้นาน 45 วันครับ ห้องเย็นนี้จะแบ่ง compartment เป็นสอง zone คือ 10 องศา และ -10 องศาครับ
ทางสหโภชน์เค้าจะชำนาญในเรื่องการวางแผนทำอาหารมาก ตอนผมเป็น ผบ.เรือ นั้น
ผมจะ "แอบ" เอาใจสหโภชน์เป็นพิเศษ เพราะพวกเค้าจะทำงานหนักมาก ทำอาหารด้วย วางแผนด้วย
บางทีฟ้าฝนตกหนักหรือพายุเข้า ก็จ่ายเสบียงลำบากมาก ได้ของไม่ครบละแย่เลย
กรณีออกเรือในบริเวณที่อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น เกาะเต่า สมุย ระยอง
ก็จะมีการซื้อโดยตรงจากเรือประมงแถวนั้นครับ อย่างเรือของผมเนี่ย จะ mem เบอร์เรือประมงเจ้าประจำในพื้นที่นั้น ๆ ใว้เลย
เวลาเข้าพื้นที่ก็จะโทรนัดล่วงหน้าให้มาส่ง .... แบบนี้ win win มากครับ เพราะเราได้ของสดใหม่ เค้าก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
และเนื่องจากงานในเรือซ้ำซาก จำเจ บางทีก็มีคลื่นลมแรงลำบากในการปฏิบัติงานมาก
ออกเรือทีหนึ่งเป็นเดือน ๆ ....ทหารเรือจะเบื่อหน่ายมากในบางครั้ง
ดังนั้น "สหโภชน์" เค้าจึงหาอะไรพิเศษ ๆ มาให้กินเสมอเพื่อแก้เบื่อ
โดยเฉพาะเวลาเรือจอดในบริเวณที่อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น เกาะสมุย เกาะเต่า
จะมีเรือประมงเข้ามาเทียบ เพื่อแบ่งปันอาหารทะเลสด ๆ ให้เสมอ....
ซึ่งเราก็ตอบแทนพวกเขาด้วย ยาสามัญ , น้ำจืด , ข้าวสาร , บุหรี่ , น้ำมันดีเซล
5 อย่างนี้คือ "หัวใจ" ของพวกเรือประมงเลยครับ สิ่งเหล่านี้พวกเค้าขาดแคลน
และต้องซื้อในราคาแพง แต่ของเรากลับเป็นของเหลือใช้ แบ่งปันให้ได้ทีละมาก ๆ
ขอโทษ ... ประมงที่มาเทียบเรือผม สูบ Dunhill กันทุกลำนะครับ
เมื่อสหโภชน์ได้ของสด ๆ มาแล้ว แกก็บรรเลงด้วยสารพัดสูตร
แทบจะเหมือนบุฟเฟ่กันเลยทีเดียว...เพราะถือว่าเรือจอดแล้ว ทุกคนสมควรจะพักผ่อนคลายเครียด
ถ้าได้ของจากเรือประมงที่ดี ๆ หน่อยก็จะเป็น ---> ปูม้าดอง กุ้งเผา ปลานึ่งมะนาว
สหโภชน์เค้าจะอบรมต่อ ๆ กันมาว่าจะต้องมีเทคนิคที่ทำให้อาหารอร่อยกว่าปกติ
เพราะของสดนั้นถูกแช่เย็นมานาน จึงมีสภาพความสดไม่ดี ดังนั้นคนปรุงจึงต้องมีเทคนิคมาก
เท่าที่ผมทราบคือ ใช้ไฟแรงมาก , ใส่กระเทียมในไฟแรงจนเกือบใหม้ , ใส่เศษเกี๊ยวกรอบทอด ใส่กากหมู
เทคนิคพวกนี้มาจากประสบการณ์ล้วน ๆ
ขอเสริมเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เท่าที่ผมนึกออกครับ ....
ท่านทราบหรือไม่ ว่า ....
- ค่าอาหารของทหารเรือไทยที่ตัดจากเบี้ยเลี้ยงนั้น
แค่วันละ 35 บาทต่อวัน ต่อคนเท่านั้น นี่คือราคาทุนที่คำนวณแล้ว
ตกมื้อละ 12 บาทกว่า ๆ แต่อิ่มหนำสำราญ ข้าวหอมมะลิ กับข้าว 2 อย่างพร้อมขนมด้วยนะ
- สหโภชน์ใช้เวลาทำอาหารเลี้ยงคน 120 คน เพียง 50 นาทีเท่านั้น
ผมเข้าไปในครัวบ่อย สหโภชน์ทั้งทีมมี Multi tasking สูงมาก
ทำงานได้ระดับ 4 Core 16 Thread (4 คน แต่ทำ 16 อย่างพร้อมกัน)
- เมื่อเรือจอดเกาะสมุย ลูกเรือจะดีใจกันมาก เพราะมีปลาเก๋าดอกแดงเยอะ
เรือประมงเจ้าประจำมาขายให้แค่ กก.ละ 50 - 60 บาท เท่านั้น
บางที เรือจอดสมุย 5 วัน ก็กินปลาเก๋าไป 5 วัน
- สหโภชน์ ทร. ได้วิชาทำอาหาร (อร่อย) จากโรงเรียนพลาธิการแค่ 20%
อีก 80% ได้ความเก่งกาจจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อจ่ายเสบียงไม่ได้ตามแผน
- ข้าวหอมมะลิที่โรงสีขายให้ ทร. ลูกละ 1,100 บาทเท่านั้น (ลูก = 50 กก.)
นี่คือราคาทุนที่อึ้งมาก ๆ ถูกกว่าท้องตลาดครึ่งหนึ่ง
MENU อาหาร
อาหารของ ทร.ไทยนี่ถือว่าไม่เลวนะ เพราะสหโภชน์เก่งมาก ๆ
อาหารในเรือรบไทยจึงเป็น "ข้าวแกง" ซะส่วนใหญ่
กับข้าวในเรือรบ มีการปรุงอ้างอิงตามตำราของกรมพลาธิการทหารเรือ คือจะมีสูตรอยู่ครับ
ผมยกตัวอย่างให้ดู ซึ่งนี่คือเมนูเฉลี่ยจากหลาย ๆ ลำที่เคยไปอยู่ ไปฝึกมา
เช้า - แกงจึดผักกาดขาว / ไข่พะโล้ / ข้าวต้ม / โจ๊ก+ปาท่องโก๋ / ผัดผักต่าง ๆ
กลางวัน - เขียวหวานไก่-ไข่ต้ม / ผัดซีอิ้ว / ข้าวผัดไข่ดาว / แกงกะทิอื่น ๆ + ไข่เจียว
เย็น - แกงกะทิต่าง ๆ / น้ำพริก-ปลาทู / ผัดเผ็ด-ไข่ต้ม
นี่คือตัวอย่างนะครับ จะเห็นว่าเป็นอาหารพื้น ๆ ที่ไม่มีอะไรแพงมากนัก
เพราะว่าจะต้องจำกัดงบประมาณให้ได้
ขอแถมให้เรื่องอาหารในเรือรบอเมริกัน จากที่ผมเคยไปฝึกร่วม Cobra Gold ผมเคยอยู่เรืออเมริกันมา 4 ลำ
(USS.Fort Mchenry , USS.German Town , USS.ESSEX และ USS.Curtis Wilber)
อาหารคล้าย ๆ กันหมด ตัวอย่างเช่น
เช้า - ไข่ดาว เบคอน แฮม ไส้กรอก มันบด + ซุปมาตรฐาน (ซุปเห็ด หอยลาย ทูน่า)
กลางวัน - สปาเก็ตตี้ / ขนมปัง + ไก่-ปลา-หมู ทอด + ดั้มปิ้ง(แป้งต้มเป็นก้อน ๆ ) + เฟรนช์ฟราย + Bakery ต่าง ๆ
เย็น - สเต๊ก (ขนาดเล็ก) + ดั้มปิ้ง + เส้นพาสต้าต่าง ๆ
ทุกมื้อมีสลัดผัก และ กาแฟฟรีครับ
จากที่เทียบเมนูให้ดูจะเห็นว่าต่างกันฟ้าดิน...ก็เป็นเพราะหลายเรื่องนะครับ
เช่น คุณภาพชีวิต งบประมาณ ฐานเงินเดือน .... พวกเค้าจะตัดค่าอาหารคนละ
20 - 25 USD ต่อวันต่อคน ( ตัดสูงกว่าทหารเรือไทย 22 เท่า !!! )

1. เรือจอด
อันนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเลย ก็ไปซื้อตามตลาดสดเหมือนร้านอาหารทั่วไปครับ
เรียกว่า "การจ่ายเสบียง" ซึ่งแล้วแต่นโยบายเรือรบแต่ละลำ ว่า จะไปจ่ายทุกวัน หรือวันเว้นกี่วัน
ส่วนมากจะออกไปจ่ายทุกวันเวลาตี 4 กว่า ๆ เพราะจะได้ของสดใหม่ และเผื่อมีอะไรแปลก ๆ กิน
และสหโภชน์ (เป็นชื่อเรียกของพ่อครัว) จะได้ทำเมนูแปลก ๆ ให้กินกันครับ
2. ออกเรือ
ในกรณีออกเรือ ฝ่ายพลาธิการก็จะต้องเรียกประชุมกันหน่อย
ว่าภาคนี้ออกกี่วัน หรือจอดที่ใหนบ้าง จอดกี่วัน เพื่อจะได้เอาข้อมูลไปวางแผนจ่ายเสบียงครับ
ส่วนมาก ในการออกเรือภาคปกติ เช่น การฝึกต่าง ๆ - ลาดตระเวณในพื้นที่ ก็จะได้เข้าฝั่งทุก 5 - 8 วัน (ไม่เกินนี้)
ดังนั้น เมื่อเข้าฝั่งที่ใด ฝ่ายพลาธิการก็จะวางแผนจ่ายเสบียงที่นั่น ซึ่งพื้นที่ของไทยก็คุ้น ๆ กันหมดครับ
ไล่ไปตั้งแต่ สัตหีบ - ระยอง - ตราด - หัวหิน - ชุมพร - เกาะสมุย - สงขลา
หรือฝั่งทัพเรือภาคที่ 3 (อันดามัน) ก็คือ พังงา - ภูเก็ต - ระนอง .... ก็จ่ายเสบียงกันตามแผนที่เรือจอดครับ
การจ่ายเสบียงแบบนี้ จะเก็บอาหารใว้ในห้องเย็น ซึ่งเรือทุกลำจะมีห้องเย็นที่ออกแบบให้เก็บเสบียง
ได้นาน 45 วันครับ ห้องเย็นนี้จะแบ่ง compartment เป็นสอง zone คือ 10 องศา และ -10 องศาครับ
ทางสหโภชน์เค้าจะชำนาญในเรื่องการวางแผนทำอาหารมาก ตอนผมเป็น ผบ.เรือ นั้น
ผมจะ "แอบ" เอาใจสหโภชน์เป็นพิเศษ เพราะพวกเค้าจะทำงานหนักมาก ทำอาหารด้วย วางแผนด้วย
บางทีฟ้าฝนตกหนักหรือพายุเข้า ก็จ่ายเสบียงลำบากมาก ได้ของไม่ครบละแย่เลย
กรณีออกเรือในบริเวณที่อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น เกาะเต่า สมุย ระยอง
ก็จะมีการซื้อโดยตรงจากเรือประมงแถวนั้นครับ อย่างเรือของผมเนี่ย จะ mem เบอร์เรือประมงเจ้าประจำในพื้นที่นั้น ๆ ใว้เลย
เวลาเข้าพื้นที่ก็จะโทรนัดล่วงหน้าให้มาส่ง .... แบบนี้ win win มากครับ เพราะเราได้ของสดใหม่ เค้าก็ได้เงินเป็นกอบเป็นกำ
และเนื่องจากงานในเรือซ้ำซาก จำเจ บางทีก็มีคลื่นลมแรงลำบากในการปฏิบัติงานมาก
ออกเรือทีหนึ่งเป็นเดือน ๆ ....ทหารเรือจะเบื่อหน่ายมากในบางครั้ง
ดังนั้น "สหโภชน์" เค้าจึงหาอะไรพิเศษ ๆ มาให้กินเสมอเพื่อแก้เบื่อ
โดยเฉพาะเวลาเรือจอดในบริเวณที่อาหารทะเลอุดมสมบูรณ์ เช่น เกาะสมุย เกาะเต่า
จะมีเรือประมงเข้ามาเทียบ เพื่อแบ่งปันอาหารทะเลสด ๆ ให้เสมอ....
ซึ่งเราก็ตอบแทนพวกเขาด้วย ยาสามัญ , น้ำจืด , ข้าวสาร , บุหรี่ , น้ำมันดีเซล
5 อย่างนี้คือ "หัวใจ" ของพวกเรือประมงเลยครับ สิ่งเหล่านี้พวกเค้าขาดแคลน
และต้องซื้อในราคาแพง แต่ของเรากลับเป็นของเหลือใช้ แบ่งปันให้ได้ทีละมาก ๆ
ขอโทษ ... ประมงที่มาเทียบเรือผม สูบ Dunhill กันทุกลำนะครับ

เมื่อสหโภชน์ได้ของสด ๆ มาแล้ว แกก็บรรเลงด้วยสารพัดสูตร
แทบจะเหมือนบุฟเฟ่กันเลยทีเดียว...เพราะถือว่าเรือจอดแล้ว ทุกคนสมควรจะพักผ่อนคลายเครียด
ถ้าได้ของจากเรือประมงที่ดี ๆ หน่อยก็จะเป็น ---> ปูม้าดอง กุ้งเผา ปลานึ่งมะนาว
สหโภชน์เค้าจะอบรมต่อ ๆ กันมาว่าจะต้องมีเทคนิคที่ทำให้อาหารอร่อยกว่าปกติ
เพราะของสดนั้นถูกแช่เย็นมานาน จึงมีสภาพความสดไม่ดี ดังนั้นคนปรุงจึงต้องมีเทคนิคมาก
เท่าที่ผมทราบคือ ใช้ไฟแรงมาก , ใส่กระเทียมในไฟแรงจนเกือบใหม้ , ใส่เศษเกี๊ยวกรอบทอด ใส่กากหมู
เทคนิคพวกนี้มาจากประสบการณ์ล้วน ๆ
ขอเสริมเกร็ดเล็ก ๆ น้อย ๆ ให้เท่าที่ผมนึกออกครับ ....
ท่านทราบหรือไม่ ว่า ....
- ค่าอาหารของทหารเรือไทยที่ตัดจากเบี้ยเลี้ยงนั้น
แค่วันละ 35 บาทต่อวัน ต่อคนเท่านั้น นี่คือราคาทุนที่คำนวณแล้ว
ตกมื้อละ 12 บาทกว่า ๆ แต่อิ่มหนำสำราญ ข้าวหอมมะลิ กับข้าว 2 อย่างพร้อมขนมด้วยนะ
- สหโภชน์ใช้เวลาทำอาหารเลี้ยงคน 120 คน เพียง 50 นาทีเท่านั้น
ผมเข้าไปในครัวบ่อย สหโภชน์ทั้งทีมมี Multi tasking สูงมาก
ทำงานได้ระดับ 4 Core 16 Thread (4 คน แต่ทำ 16 อย่างพร้อมกัน)
- เมื่อเรือจอดเกาะสมุย ลูกเรือจะดีใจกันมาก เพราะมีปลาเก๋าดอกแดงเยอะ
เรือประมงเจ้าประจำมาขายให้แค่ กก.ละ 50 - 60 บาท เท่านั้น
บางที เรือจอดสมุย 5 วัน ก็กินปลาเก๋าไป 5 วัน
- สหโภชน์ ทร. ได้วิชาทำอาหาร (อร่อย) จากโรงเรียนพลาธิการแค่ 20%
อีก 80% ได้ความเก่งกาจจากการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เมื่อจ่ายเสบียงไม่ได้ตามแผน
- ข้าวหอมมะลิที่โรงสีขายให้ ทร. ลูกละ 1,100 บาทเท่านั้น (ลูก = 50 กก.)
นี่คือราคาทุนที่อึ้งมาก ๆ ถูกกว่าท้องตลาดครึ่งหนึ่ง
MENU อาหาร
อาหารของ ทร.ไทยนี่ถือว่าไม่เลวนะ เพราะสหโภชน์เก่งมาก ๆ
อาหารในเรือรบไทยจึงเป็น "ข้าวแกง" ซะส่วนใหญ่
กับข้าวในเรือรบ มีการปรุงอ้างอิงตามตำราของกรมพลาธิการทหารเรือ คือจะมีสูตรอยู่ครับ
ผมยกตัวอย่างให้ดู ซึ่งนี่คือเมนูเฉลี่ยจากหลาย ๆ ลำที่เคยไปอยู่ ไปฝึกมา
เช้า - แกงจึดผักกาดขาว / ไข่พะโล้ / ข้าวต้ม / โจ๊ก+ปาท่องโก๋ / ผัดผักต่าง ๆ
กลางวัน - เขียวหวานไก่-ไข่ต้ม / ผัดซีอิ้ว / ข้าวผัดไข่ดาว / แกงกะทิอื่น ๆ + ไข่เจียว
เย็น - แกงกะทิต่าง ๆ / น้ำพริก-ปลาทู / ผัดเผ็ด-ไข่ต้ม
นี่คือตัวอย่างนะครับ จะเห็นว่าเป็นอาหารพื้น ๆ ที่ไม่มีอะไรแพงมากนัก
เพราะว่าจะต้องจำกัดงบประมาณให้ได้
ขอแถมให้เรื่องอาหารในเรือรบอเมริกัน จากที่ผมเคยไปฝึกร่วม Cobra Gold ผมเคยอยู่เรืออเมริกันมา 4 ลำ
(USS.Fort Mchenry , USS.German Town , USS.ESSEX และ USS.Curtis Wilber)
อาหารคล้าย ๆ กันหมด ตัวอย่างเช่น
เช้า - ไข่ดาว เบคอน แฮม ไส้กรอก มันบด + ซุปมาตรฐาน (ซุปเห็ด หอยลาย ทูน่า)
กลางวัน - สปาเก็ตตี้ / ขนมปัง + ไก่-ปลา-หมู ทอด + ดั้มปิ้ง(แป้งต้มเป็นก้อน ๆ ) + เฟรนช์ฟราย + Bakery ต่าง ๆ
เย็น - สเต๊ก (ขนาดเล็ก) + ดั้มปิ้ง + เส้นพาสต้าต่าง ๆ
ทุกมื้อมีสลัดผัก และ กาแฟฟรีครับ
จากที่เทียบเมนูให้ดูจะเห็นว่าต่างกันฟ้าดิน...ก็เป็นเพราะหลายเรื่องนะครับ
เช่น คุณภาพชีวิต งบประมาณ ฐานเงินเดือน .... พวกเค้าจะตัดค่าอาหารคนละ
20 - 25 USD ต่อวันต่อคน ( ตัดสูงกว่าทหารเรือไทย 22 เท่า !!! )
แสดงความคิดเห็น
ปกติทหารบนเรือรบกินอาหารแบบไหนครับ
เลยสงสัยว่าบนเรือรบเค้ากินอะไรกันครับ