ตอนตัดสินใจไปดูหนังเรื่องนี้ ผมรู้สึกสองจิตสองใจเหมือนกัน
ใจหนึ่งคิดว่า น่าจะออกมาเจ๋ง เพราะตัวอย่างทำออกมาได้น่าสนใจ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นก็ทำหนังบู๊ที่ทำออกมาถูกใจผมอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น SP Yabou Hen, SP Kakumei Hen หรือ Rurouni Kenshin ภาค 2-3 และเรื่อง Joker Game นี้ก็จัดเป็นหนังที่แนวสายลับที่ไม่ค่อยเห็นได้เท่าใดนักจากญี่ปุ่น
ในอีกด้านหนึ่ง ใจหนึ่งผมก็กลัวออกมาว่าจะแป้กหมือนกัน เพราะหนังญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดที่ได้ไปดูในโรงก็คือ Lupin The Third ซึ่งหนังตัวอย่างทำออกมาตื่นตาตื่นใจมาก แต่พอไปดูในโรงจริงๆ หากไม่นับฉากจารกรรมตอนต้นเรื่อง และคุโรกิ เมสะแล้ว หนังทำออกมาได้น่าผิดหวัง ดูไม่ค่อยสมกับเป็นแนวโจรกรรมอย่างที่คาดไหวเท่าไร ในทางกลับกัน หนังกลับพยายามทำให้เรื่องออกเป็นแนว 007 ซึ่งก็ไม่สำเร็จ และออกมาดูเชยๆเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ผมตัดสินใจไปดูแล้ว ต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมากครับ รู้สึกคุ้มค่าเงิน และคิดว่าสามารถเอาไปชนกับหนังสายลับฝรั่งดังๆได้ทีเดียวครับ
สิ่งที่ชอบ
1. การเดินเรื่องสามารถทำออกมาฉับไว น่าติดตาม การปูเรื่องก็น่าสนใจ เพราะพวกพระเอกเป็นหน่วยงานสายลับของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ร้ายเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร แต่กระนั้นก็ตาม หน่วยงานของพระเอก ( องค์กร D) ก็ไม่ขึ้นตรงและไม่ถูกกับกองทัพญี่ปุ่นเท่าใดนัก คำขวัญประจำองค์กรก็มีอยู่ว่า "ห้ามฆ่า ห้ามตาย"
2. ตอนแรกๆ หลายๆคนอาจจะคาดว่า Joker Game เป็น 007 ฉบับญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้ว ตัวหนังสามารถผสมผสานองค์ประกอบหนังแนวสายลับสามกระแสหลักของฝรั่งได้ออกมากลมกล่อม กล่าวคือ
- มี การปลอมตัว แฝงตัว หักเหลี่ยมเฉือนคมกัน(โดยแต่ละฝ่ายต่างมีพิษสงไม่แพ้กัน) และความเวอร์เล็กๆ ตามสไตล์ Mission Impossible (เน้นภาคแรก)
- หนังเน้นฉากต่อสู้ประชิดตัวที่ดุดัน โดยที่ตัวละครช่างสังเกตและรู้จักใช้สิ่งแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ ตามสไตล์ Jason Bourne
- มีทั้งหัวหน้าผู้ร้ายและสมุนมือขวาที่มี character ชัดเจน มีตัวละครหญิงสไตล์ Femme Fatale ในแบบฉบับ James Bond ด้วย
3. โดยส่วนตัว ผมมาติดตามบันเทิงญี่ปุ่นในยุคที่ K-pop รุ่งเรื่อง ผมจึงไม่รู้จักเคียวโกะ ฟุกุดะ เท่าใดนัก แต่พอได้มาดูเธอในเรื่องนี้เข้า ก็เข้าใจว่าทำไมเธอคนนี้จึงถูกนับว่าเป็นเจ้าแม่วงการบันเทิงญี่ปุ่นสมัย J-pop ยังรุ่งโรจน์ในไทย สวยมีเสน่ห์ทะลุวัยเลยสามไปเลย
4. คนญี่ปุ่นที่แสดงในเรื่อง พูดอังกฤษได้สำเนียงดีมาก โดยเฉพาะตัวพระเอก
สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็มีนิดๆหน่อยๆครับ
1. หนังตัวอย่าง spoil เกี่ยวกับเคียวโกะ ฟุกุดะ ไว้เล็กๆ ฉากบางฉากในหนึงจึงไม่สามารถสร้าง impact ให้กับคนดูได้มากนัก
2. ฉากบางฉากที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับถูกจับยัดขึ้นมาแบบแปลกๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ เคียวโกะ ถูกผู้ร้ายจับไปในสภาพสวมเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขายาว แต่พอพระเอกช่วยออกจากคุก เธอก็หยิบชุดดำที่แขวนอยู่ในคุกมาสวม แล้วเดินออกมาในชุดดำอย่างสวยสมาร์ท นอกจากฉากนี้ ยังมีฉากวางระเบิดที่ได้อารมณ์แบบการ์ตูน ทอมแอนด์เจอรี่อย่างไรก็ไม่รู้
สรุปโดยรวมแล้วถือว่า ดีมากครับ และน่าจะมีการทำภาคต่อออกมาแน่ๆ ซึ่งแค่ดูเรื่องย่อจากหนังสือเล่มสองก็น่าจะสนุกมากไม่แพ้กัน เพราะองค์กร D ของพระเอก จะต้องเผชิญหน้ากับ "หน่วยวาตะ" ซึ่งเป็นองค์กรคู่ขนานในญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับคำขวัญว่า "จงฆ่า จงพลีชีพ" (แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าฉบับหนังกับหนังสือเล่มแรกจะตรงกันขนาดไหน เพราะตัวเอกในฉบับหนังสือนั้น ดูเหมือนจะเป็นตัวหัวหน้ายูกิมากกว่า)
Joker Game : เมื่อญี่ปุ่นหันทำหนังแนวสายลับ ผลจะเป็นอย่างไรนั้น โปรดติดตามในกระทู้
ใจหนึ่งคิดว่า น่าจะออกมาเจ๋ง เพราะตัวอย่างทำออกมาได้น่าสนใจ และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นก็ทำหนังบู๊ที่ทำออกมาถูกใจผมอยู่หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น SP Yabou Hen, SP Kakumei Hen หรือ Rurouni Kenshin ภาค 2-3 และเรื่อง Joker Game นี้ก็จัดเป็นหนังที่แนวสายลับที่ไม่ค่อยเห็นได้เท่าใดนักจากญี่ปุ่น
ในอีกด้านหนึ่ง ใจหนึ่งผมก็กลัวออกมาว่าจะแป้กหมือนกัน เพราะหนังญี่ปุ่นเรื่องล่าสุดที่ได้ไปดูในโรงก็คือ Lupin The Third ซึ่งหนังตัวอย่างทำออกมาตื่นตาตื่นใจมาก แต่พอไปดูในโรงจริงๆ หากไม่นับฉากจารกรรมตอนต้นเรื่อง และคุโรกิ เมสะแล้ว หนังทำออกมาได้น่าผิดหวัง ดูไม่ค่อยสมกับเป็นแนวโจรกรรมอย่างที่คาดไหวเท่าไร ในทางกลับกัน หนังกลับพยายามทำให้เรื่องออกเป็นแนว 007 ซึ่งก็ไม่สำเร็จ และออกมาดูเชยๆเสียด้วยซ้ำ
อย่างไรก็ดี หลังจากที่ผมตัดสินใจไปดูแล้ว ต้องบอกว่าเรื่องนี้ทำออกมาได้ดีมากครับ รู้สึกคุ้มค่าเงิน และคิดว่าสามารถเอาไปชนกับหนังสายลับฝรั่งดังๆได้ทีเดียวครับ
สิ่งที่ชอบ
1. การเดินเรื่องสามารถทำออกมาฉับไว น่าติดตาม การปูเรื่องก็น่าสนใจ เพราะพวกพระเอกเป็นหน่วยงานสายลับของญี่ปุ่นในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง ผู้ร้ายเป็นฝ่ายสัมพันธมิตร แต่กระนั้นก็ตาม หน่วยงานของพระเอก ( องค์กร D) ก็ไม่ขึ้นตรงและไม่ถูกกับกองทัพญี่ปุ่นเท่าใดนัก คำขวัญประจำองค์กรก็มีอยู่ว่า "ห้ามฆ่า ห้ามตาย"
2. ตอนแรกๆ หลายๆคนอาจจะคาดว่า Joker Game เป็น 007 ฉบับญี่ปุ่น แต่จริงๆแล้ว ตัวหนังสามารถผสมผสานองค์ประกอบหนังแนวสายลับสามกระแสหลักของฝรั่งได้ออกมากลมกล่อม กล่าวคือ
- มี การปลอมตัว แฝงตัว หักเหลี่ยมเฉือนคมกัน(โดยแต่ละฝ่ายต่างมีพิษสงไม่แพ้กัน) และความเวอร์เล็กๆ ตามสไตล์ Mission Impossible (เน้นภาคแรก)
- หนังเน้นฉากต่อสู้ประชิดตัวที่ดุดัน โดยที่ตัวละครช่างสังเกตและรู้จักใช้สิ่งแวดล้อมให้เป็นประโยชน์ ตามสไตล์ Jason Bourne
- มีทั้งหัวหน้าผู้ร้ายและสมุนมือขวาที่มี character ชัดเจน มีตัวละครหญิงสไตล์ Femme Fatale ในแบบฉบับ James Bond ด้วย
3. โดยส่วนตัว ผมมาติดตามบันเทิงญี่ปุ่นในยุคที่ K-pop รุ่งเรื่อง ผมจึงไม่รู้จักเคียวโกะ ฟุกุดะ เท่าใดนัก แต่พอได้มาดูเธอในเรื่องนี้เข้า ก็เข้าใจว่าทำไมเธอคนนี้จึงถูกนับว่าเป็นเจ้าแม่วงการบันเทิงญี่ปุ่นสมัย J-pop ยังรุ่งโรจน์ในไทย สวยมีเสน่ห์ทะลุวัยเลยสามไปเลย
4. คนญี่ปุ่นที่แสดงในเรื่อง พูดอังกฤษได้สำเนียงดีมาก โดยเฉพาะตัวพระเอก
สิ่งที่ไม่ค่อยชอบก็มีนิดๆหน่อยๆครับ
1. หนังตัวอย่าง spoil เกี่ยวกับเคียวโกะ ฟุกุดะ ไว้เล็กๆ ฉากบางฉากในหนึงจึงไม่สามารถสร้าง impact ให้กับคนดูได้มากนัก
2. ฉากบางฉากที่ให้ความรู้สึกเหมือนกับถูกจับยัดขึ้นมาแบบแปลกๆ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สรุปโดยรวมแล้วถือว่า ดีมากครับ และน่าจะมีการทำภาคต่อออกมาแน่ๆ ซึ่งแค่ดูเรื่องย่อจากหนังสือเล่มสองก็น่าจะสนุกมากไม่แพ้กัน เพราะองค์กร D ของพระเอก จะต้องเผชิญหน้ากับ "หน่วยวาตะ" ซึ่งเป็นองค์กรคู่ขนานในญี่ปุ่นที่มาพร้อมกับคำขวัญว่า "จงฆ่า จงพลีชีพ" (แต่ผมก็ไม่แน่ใจว่าฉบับหนังกับหนังสือเล่มแรกจะตรงกันขนาดไหน เพราะตัวเอกในฉบับหนังสือนั้น ดูเหมือนจะเป็นตัวหัวหน้ายูกิมากกว่า)