How to: เรียกสติกลับคืน สำหรับคนอกหักรับวาเลนไทน์

เลิกกับแฟนช่วงไหนก็ไม่แย่เท่าช่วงก่อนวาเลนไทน์ค่ะ อันนี้ทุกคนรู้ดี แต่จะทำยังไงให้เราไม่เศร้า เป็นอีเพิ้ง เมฆดำปกคลุม ขนขาไม่ยอมโกน ในขณะที่คนมีคู่คนอื่นๆ เค้ารักกันหวานชื่นโลกเป็นสีชมพูในช่วงนี้ เราเลยอยากเขียนเป็น step ง่ายๆ ที่ทำให้เราทำใจ เรียกสติกลับคืนมาได้ พร้อมสู้วันแห่งความรักอย่างสง่างาม มาแชร์กันค่ะ ใครอยากเสริมเพิ่มอะไรตรงไหน ติชม แนะนำ บอกได้เลยค่ะ

Step 1 เล่น MV
คนถูกแฟนบอกเลิก มันเจ็บค่ะ อัดอั้น พะอืดพะอม กินข้าวไม่ลง อันดับแรกเลยจะผ่านไปได้ ต้องร้องไห้ค่ะ ร้องให้ดังๆ ร้องให้ขี้มูกโป่ง ร้องให้ตาบวม ร้องเวลาขับรถ อาบน้ำ ทำงานก็แอบร้องในห้องน้ำไม่ให้เจ้านายรู้ ร้องจนทิชชู่หมด เวลานอนก็น้ำตาซึมนิดๆ แบบนางเอกเกาหลี ร้องจนฝึกให้น้ำตาไหลออกมาเป็นเม็ดงามๆ เต็มๆ เม็ดได้เหมือนในซีรี่ย์ ถึงจะถือว่าผ่านค่ะ

Step 2 โผเข้าสู่อ้อมกอดที่อบอุ่น
เวลาคนที่เรารักเดินจากเราไป ความรู้สึกที่จะเกิด คือ ความรู้สึกที่ว่าตัวเองไร้ค่า ฟังดูดราม่านะคะ แต่เราเชื่อว่าหลายคนรู้สึกแบบเรา วิธีรักษาที่ดีที่สุด คือ หันกลับไปมองพ่อกับแม่ของเราค่ะ พ่อแม่คือคนที่เห็นค่าเราและจะเตือนเราในจุดนี้ได้มากที่สุด ตอนที่ได้คุยกับแม่เรื่องเลิกกับแฟน มันทำให้เรารู้สึกเหมือนได้ยกความอัดแน่นในอก ได้โผเข้าสู่ความรักอันอบอุ่นของแม่ ที่พร้อมเป็นกำลังใจให้เราเสมอ ประโยคนึงที่แม่บอก (รู้สึกว่าจะเอามาจากซีรี่ย์ไต้หวันหรือเกาหลีเนี่ยแหละ) และทำให้เราคิดได้ คือประโยคที่บอกว่า “ถ้าเราปล่อยต้นไม้ที่ไม่ใช่ของเราไป สักวันนึงเราจะเจอกับป่าใหญ่” มันเป็นประโยคที่เต็มไปด้วยความหวัง ความเข้าใจในความเป็นจริง กระตุ้นให้เราปล่อยวางและมองไปข้างหน้าได้อีกครั้ง

Step 3 ค้นคว้าวิจัย
แน่นอน ไอ้ step ข้างบน บางวันทำแล้วก็รู้สึกโคตรดี แบบว่า โอ๊ย กรูโสดดดดด แฮปปี้ แต่บางวัน แบบแมร่งงงง เศร้าโคตร หดหู่ ในหัวเต็มไปด้วยความคิดล้านแปด อยากกลับไป ทำไมมันไม่เวิร์ค ถ้าเราทำนู่น ทำนี่ ไม่ทำอย่างนี้ อย่างนั้น ถ้าเราเดินก้าวเท้าซ้ายออกจากบ้านวันนั้น ถ้าตาเราไม่กระตุก ถ้าสัปดาห์นี้ไม่มีวันจันทร์ โอ๊ยยยยย สารพัด บ้าบอ แล้วโดยส่วนตัวเป็นคนชอบอ่านค่ะ ไอ้พวก how-to หนังสือ self help ต่างๆ ชอบค้นคว้าบทความด้วย พันทิปนี่เราก็อ่าน เพราะทำให้ได้เห็นเรื่องราวของผู้คนหลากหลายที่หนักหนากว่าเรามากนัก อ่านเยอะมาก อ่านตลอดเวลา (เดี๋ยวตอนท้ายจะทำเป็น list ของอันที่มันเวิร์คกับเราไว้ให้เผื่อใครอยากลองไปหาดูเพิ่มเติม) มันทำให้เราเข้าใจอารมณ์ที่เราเผชิญอยู่ได้ดีขึ้น เมื่อเรารู้ว่ามันเป็นเรื่องธรรมชาติ และคนทุกคนต้องเคยผ่าน ยังไม่มีใครตายเพราะอกหัก ทุกคนผ่านมันมาได้ กลายเป็นคนที่เข้มแข็ง เป็นผู้ใหญ่ และมีมุมมองที่กว้างมากขึ้นค่ะ

Step 4 เป็นแม่นางสารพัดนัด
พอผ่านช่วงตาบวมฉึ่ง เริ่มออกมาเจอผู้คนได้แล้ว นอกเหนือจากการอ่านบทความตามอินเตอร์เน็ต ตอนนี้ถึงคราวออกทัวร์เจอเพื่อนฝูงค่ะ นัดมันให้หมด เพื่อนที่ไม่เจอกันเป็นปี เพื่อนที่ทำงานเก่า เพื่อนอนุบาล เพื่อนของเพื่อน คนไหนก็ได้ที่เรียกได้ว่าเพื่อน เราจะได้มุมมองแปลกๆ จากคนหลายแบบ บางครั้งเพื่อนที่ไม่ได้เจอเรามานานก็จะช่วยพูดให้ฉุกคิดได้ในสิ่งที่เพื่อนที่เจอเราบ่อยๆ มองไม่เห็น และที่สำคัญที่สุด นัดกับตัวเองค่ะ หาเวลาทำกิจกรรมให้ตัวเอง ไปเดินสวนสาธารณะ (สวนลุม) ปั่นจักรยาน (สวนรถไฟ) ถ้าขั้น advance ต้องถีบเรือเป็ดคนเดียวได้ด้วย เล่นกับแมว (ที่บ้าน) ไปสวดมนต์ (วัดปทุมข้างพารากอน) ไปลองเสื้อผ้าเล่นในห้าง (ส่วนตัวชอบห้องลอง H&M กว้างดี แสงสวย) ไม่ต้องซื้อทุกตัว แค่ใส่เล่นๆ สวยๆ ก็พอ ไปดูหนังคนเดียว (ถ้าเลือกเรื่องเศร้าก็ใช้โอกาสร้องไห้ในโรงให้เต็มที่) แล้วจะรู้ว่าโลกนี้มันสวยงามค่ะ ชีวิตมีอะไรให้ทำมากมาย บางวันเหงาบ้างก็ยอมรับ เป็นเรื่องธรรมชาติ เดินๆ อยู่น้ำตาไหลบ้างก็ไม่เป็นไร หัดพกทิชชู่ไว้ในกระเป๋าค่ะ ซับแบบสวยๆ ให้ตาไม่เลอะ เราอยู่ได้ค่ะ เรายังไม่ตาย

Step 5 หันมามองตัวเอง
Step นี้สำคัญที่สุดสำหรับเรา แชร์สั้นๆ นะคะ ที่เราเลิกกับแฟนไม่ใช่ว่าใครมีคนใหม่ แต่มันเป็นความสัมพันธ์ที่เครียดและกดดันค่ะ เรายุ่งกับการเปลี่ยนงาน ชีวิตที่ยังไม่ลงตัว ส่วนเค้าอยากใช้เวลากับเราให้มากๆ ความต้องการมันเลยไม่ตรงกันค่ะ แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นที่เราเรียนรู้จากการจบความสัมพันธ์นี้คือ การสำรวจตัวเองค่ะ เรารู้แจ้งแล้วว่าเวลาจะคบใครนั้น เราต้องหันมามองตัวเอง ว่าเราพร้อมแล้วหรือยัง หน้าที่การงาน บ้างานแค่ไหน เวลามีมั๊ย สุขภาพแข็งแรงมั๊ย กำลังทรัพย์มีพอกินมั๊ย พ่อแม่ เพื่อน ความสัมพันธ์ด้านอื่นๆ ในชีวิต เราจัดการได้ดีหรือยัง ถ้าชีวิตคุณ ยังมีข้อที่ยังทำได้ไม่ดี ขอแนะนำว่าให้เอาเวลาหาแฟนไปพัฒนาตรงนั้นก่อนค่ะ คนเราจะได้เจอคนรักดีๆ เราก็ต้องดีด้วยค่ะ เหมือนคำพูดที่ว่า ศีลต้องเสมอกัน มันจริงนะคะ ถ้าเรายังไม่เต็มในตัวเอง แล้วหวังให้คนอื่นมาเติม มันไปได้ไม่นานหรอกค่ะ แต่ถ้าเมื่อไรที่เราเต็มแล้ว เราก็จะมีความรักมากพอที่จะไปแบ่งให้คนอื่น และทำให้เค้ามีความสุขอย่างแท้จริง เน้นที่แท้จริงนะคะ ถ้าไอ้ความสุขแบบมาเร็วไปเร็ว หวานเลี่ยน แบบไปดินเนอร์หรูๆ สวีทหวานแหวนออกจอจนเพื่อนอิจฉา อันนั้นใครๆ ก็ทำได้ค่ะ ง่ายมาก แต่การเดินเคียงคู่กันที่จะยืดยาว มันต้องไปอย่างช้าๆ มีสติ และพัฒนาให้เราทั้งสองคนเป็นคนที่ดีขึ้นได้ในแบบที่ไม่ต้องเสียสละคุณค่าความเป็นตัวเอง ของแบบนี้มาช้าค่ะ แต่เนิ่นนาน

ตอนนี้เราก็มีเศร้าบ้างนะคะ แต่เราก็มีความหวัง เราเชื่อว่าวันนึงเราจะเจอคนที่ทำให้เราเดินเคียงข้างเค้าไปได้เรื่อยๆ โดยที่ไม่ต้องฝืน แต่เป็นการที่เราอยากจะเติบโตไปด้วยกัน และวันนั้น เราจะเป็นผู้หญิงที่พร้อมสำหรับเค้า แล้วเค้าก็จะพร้อมสำหรับเราค่ะ ขอให้ทุกคนพบกับความรักที่ทำให้คุณมีสตินะคะ
สำหรับตัวช่วยข้างล่างนี้เอามาแชร์ไว้เล่นๆ ค่ะ เผื่อใครสนใจ

หนังสือ
-    The Secret by Rhonda Byrne พลังของการคิดบวกมันยิ่งใหญ่ค่ะ
-    ตกหลุมรักให้เป็น โดย ริวโฮ โอคาวา อ่านแล้วจะรู้ว่าควรจะหึงยังไงให้เป็น
-    For Women Only by Shaunti Feldhahn ที่จริงอันนี้เหมาะกับตอนมีแฟน เพราะจะทำให้เข้าใจคุณผู้ชายได้มากขึ้น แต่ก็อ่านเอาความรู้ได้ค่ะ
-    Men are from Mars, Women are from Venus by John Gray อันนี้คงรู้จักกันดีอยู่แล้ว แต่มันช่วยให้ทำความเข้าใจได้จริงๆ ค่ะ

เว็บไซต์/บทความ
-https://www.psychologytoday.com/
เว็บนี้จะเป็นบทความจากนักจิตวิทยาฉบับสั้นๆ ที่มีเกี่ยวกับทุกปัญหาความสัมพันธ์เลยค่ะ คือข้อมูลมันจะอิงกับการวิจัยเยอะมาก ไม่ใช่สักแต่ว่าเขียนให้ดราม่าไปงั้นๆ
-http://elitedaily.com/dating/just-works-19-signs-happy-healthy-relationship/908532/
อันนี้เป็น checklist แบบง่ายๆ ไม่ต้องคิดมากนะคะ ว่าไอ้สัญญาณของคู่ที่มันมีความสัมพันธ์ที่ดีเนี่ย มันควรจะเป็นประมาณไหน

เพลง
-Let It Go
เพื่อนสาวบอกว่าต้องเพลงนี้เท่านั้นค่ะ ถึงจะผ่านช่วงแรกๆ ไปได้ ไอ้ 321 ล้านวิวบนยูทูบเนี่ย คาดว่า 1 ล้านเป็นของอิชั้นเองค่ะ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
-    รักที่ตามหา  
โศกเศร้าเสร็จเราต้องมาสร้างความหวังกันค่ะ เพลงนี้อ่ะใช่เลย ความรักที่ดีมันมีอยู่จริงค่ะ เราต้องมีความเชื่อมั่น ตอนนี้แค่มันยังไม่ถึงเวลา ทำตัวให้สวยๆ เติมตัวเองให้เต็ม เดี๋ยวคนที่ใช่ก็จะมาเอง แล้วมันก็จะไปได้เรื่อยๆ แบบง่ายๆ แต่มั่นคงค่ะ (พูดเหมือนเจอแล้ว 555 ป่าว แต่จะเชื่อแบบนี้ คิดแล้วมีความสุข จริงมะ)
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ไว้ถ้านึกอะไรได้เพิ่มจะเอามาแปะไว้อีกค่ะ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่