คำสอนของคุณตา กับหลานที่บ้ามอไซค์

ไอ่เรามันเป็นคนที่ชอบมอไซค์ ชอบออกทริป ก็มี Spark135i อยู่คันนึง ก็ใชออกทริปตลอด อยู่มาวันนึง ดันมีคนมาสบประมาทว่า รถเล็ก กระจอกๆ จะไปได้สักกี่น้ำ เดี๋ยวรถก็พัง พอเจอคนมาดูถูกแบบนั้น ก็เลยเกิดอาการเซ็งขึ้นมาในอารมณ์ คิดในใจ " " ถ้ากูมีเงินซื้อบิ๊กไบค์มาขับเหมือน..เมื่อไหร่ กูจะขับมาเหยียบหน้า..คนแรกเลย พอกลับมาถึงบ้านก็หน้างอเดินเข้าบ้าน  คุณตาก็ถามว่าเป็นอะไร เลยเล่าเรื่องที่เจอมาให้ตาฟัง
คุณตาบอกว่า
-มันเกี่ยวกันมัยว่ารถที่ cc. สูงกว่าจะวิ่งได้ไกลกว่า
-มันเกี่ยวกันมัยว่ารถที่รุ่นใหม่กว่าจะทนกว่า
-มันเกี่ยวกันมัยว่ารถที่แพงกว่าจะมีศักดิ์ศรีมากกว่า
-รถใหม่ cc.ใหญ่อาจจะเร็วแรงกว่าจริง สะดวกกว่าจริง แต่สุดท้ายแล้วมันก็มี 2 ล้อเท่ากัน และถึงจุดมุ่งหมายเช่นกัน แต่จะช้าหรือเร็วกว่าเท่านั้นเอง ยังร้อน ยังเปียกอยู่ดี เร็ว แรง สบายมากไปก็ใช่จะดี เพราะบางทีรถที่เร็วแรงมาก มันอาจจะทำให้เราพลาดเห็นสิ่งดีๆ ของ 2 ข้างทาง เช่น วิถีชิวิตชาวบ้าน วิวทิวทัศน์ เพราะสายตาต้องจับจ้องอยู่กับถนนแบบพลาดไม่ได้ ส่วนรถที่เร็ว แรง ก็จะเหนื่อยน้อยหน่อยเพราะถึงจุดหมายได้เร็วกว่าได้พักก่อน มีข้อดีแตกต่างกันไป ตาอยากให้หลานคิดเอา ว่าชอบชีวิตการเดินทางแบบไหนที่เรียกว่ารสชาติชีวิตของหลานกันแน่ หลานชอบใช้ชีวิตไปกับการเดินทาง หรือใช้ความสะดวกสะบายโก้เก๋ในการเดินทาง ให้หลานคิดเอา
‪#‎มันไม่เกี่ยวหรอกว่า‬ รถใครจะcc. สูงกว่าใคร, จะแพงกว่าใคร, จะรุ่นใหม่กว่าใคร แล้วจะเหนือกว่าใคร
** มันเกี่ยวแค่ว่า เราใช้รถคันไหนแล้วมีความสุขกับมันมากกว่า "รถที่เรารัก" รถที่เรามีความทรงจำ รถที่เราไปไหนมาไหนกับมันแล้วอุ่นใจ รถที่ไม่ต้องคอยวิ่งตามแฟชั่น รถที่เราไม่ต้องกระกระสนดิ้นรนจนต้องเป็นหนี้ใหญ่โต "รถเราที่อะไรก็แทนมันไม่ได้" ถึงแม้วันหนึ่งมันจะขับไม่ได้แล้ว ก็ยังมีมันให้เห็นเป็นอนุสรณ์ไปจนชั่วลูกหลาน ทุกครั้งที่เรามองมันเสมือนได้ย้อนเวลากลับไป ช่วยให้ตายังหนุ่มอยู่เสมอทั้งที่ตอนนี้ก็ 81 ปีแล้ว จำไว้นะหลาน รถก็เหมือนแฟน เพราะต่อให้เราเจอคนที่ดีกว่าแค่ไหน แต่ถ้าเราได้เลือกแล้ว ไม่ว่าใครจะดีกว่าแค่ไหนก็ไม่มีความหมายกับเรา เพราะความสุขอยู่ที่ความพอใจ และรู้จักพอ แล้วออมจะจำไว้นะค่ะคุณตา เป็นคำสอนที่ดีมากเลย