ใครมีเพื่อนหรือแฟนที่เป็นชาวอินเดีย, แขก หรือเชื้อสายอินเดียบ้าง

เราเพิ่งมาเรียน ป โท ที่ UK น่ะ เรียนเกี่ยวกับ IT เพื่อนที่เรียนด้วยกันส่วนใหญ่มีแต่แขก ก็เลยบังคับให้มีเพื่อนเป็นแขกไปในตัว แล้วทีนี้ กลุ่มเรามีกันอยู่ 3 คน รวมเราแล้วนะ คนนึงเป็นแขกขาว มาจากอินเดีย สมมุตว่าชื่อ A อีกคนเป็นแขกดำ เป็นชาวอินเดีย แต่ครอบครัวย้ายมาอยู่ที่ดูไบตั้งแต่เด็กๆ สมมุตว่าชื่อ B เป็นเพื่อนกันมา 3 สัปดาห์ได้ เรียนด้วยกัน ไปกินข้าวด้วยกัน
A แก่กว่าเรา 2 ปี ส่วน B เด็กกว่าเรา 2 ปี มีคนบอกเราหน้าตาประมาณ 17-21 แต่เรา อายุมากกว่านั้น
ทั้งสองคนก็เป็นเพื่อนที่ดีนะ ใจดีทั้งคู่ เวลาเค้าพูดกันเร็ว เราฟังไม่ทัน หรือฟังสำเนียงเค้าไม่รู้เรื่อง เค้าก็จะพูดช้าๆ เปลี่ยนสำเนียงการพูด และอธิบายให้เราเข้าใจ(ภาษาอังกฤษเรายังไม่ค่อยแข็งแรงน่ะ ไอเอลผ่านก็จริง แต่ฟังสำเนียงแขกไม่ค่อยออก 55+) ทั้งคู่ก็สุภาพนะ เป็นผู้ชายที่ให้เกียรติผู้หญิง เปิดปีะตูให้ ไปกินข้าวก็สั่งให้ ตอนนั่งก็ให้นั่งก่อน ยังไม่เจออะไรแย่ๆ แบบที่อ่านรีวิวชาวแขกมานะ 55+
แอกอฮอลไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ (A นับถือศาสนาอิสลาม ละหมาดทุกเวลา เคร่งมาก ส่วน B เป็นคริสเตียนเหมือนเรา)

หลังจากที่ชี้แจงภาพรวมแล้ว ก็เข้าประเด็นที่ B เลยละกัน ตอนแรกที่ไปคลาส Induction ก็ยังไม่รู้จักใคร ก็มารวมๆ กันหลายๆ เมเจอร์ ก็ทักทายได้เพื่อนใหม่ 2-3 คน คุยกันมุ้งมิ้งประสาสาวๆ แต่ในห้อง มีคนที่เรียนสาขาเดียวกันกับเรา 2 คน คือ B และ C (คนนี้ชอบปลีกวิเวก เลยไม่กล่าวถึงละกัน) ตอนเลิกคลาสเราก็เดินกลับคนเดียวแบบชิวๆ แล้ว B ก็เข้ามาทักทาย แนะนำตัว คุยกันนิดหน่อย เดินกลับด้วยกันครึ่งทาง เพราะพักคนละที่กัน
หลังจากนั้น ต่อมาก็เป็นคลาสรีวิววิชาเรียน ก็มาเจอกับ A ที่ A เพิ่งมาวันนี้ เพราะวีซ่าเพิ่งผ่าน หลังจากเลิกคลาส A ก็เป็นต้นคิดให้ทุกคนแลกเบอร์กัน จะได้ติดต่อง่ายๆ แล้วก็แยกย้ายกันกลับ ส่วน A กับ B ไปเช่าบ้านอยู่ด้วยกันเฉยเลย ทั้งที่เพิ่งรู้จักกัน เรารู้วันต่อมา ตกใจเลย เพราะถ้าเป็นเรา คงไม่กล้าเอาชีวิตส่วนตัวไปเสี่ยงอยู่กับคนที่เพิ่งรู้จัก
วันต่อมา มีคลาส อะไรซักอย่างนิแหละ ที่แนะนำเกี่ยวกับงาน พูดถึงศิษย์เก่า เราว่าไม่น่าสนใจ ก็เลยกะว่าจะไม่ไป แต่ B ก็ส่งข้อความมาชวนให้ไป เราก็โอเค ไปก็ไป แต่พอไปถึง อาจารย์ไม่มา นั่งรอกันพักใหญ่ A เลยไปทำเรื่องจ่ายค่าเทอม เพราะมาช้า ไม่ทันได้จ่าย ก็เหลือเราอยู่กับ B 2 คน B ก็ทำท่าเหมือนอยากกลับนะ เพราะไม่มีอะไรทำ แต่เราต้องอยู่รอ เพื่อเรียนเสริมภาษาอังกฤษต่อ เราก็บอกให้ B กลับไปก่อนเราอยู่คนเดียวได้ แต่ B ก็อยู่เป็นเพื่อน จนถึงเวลาเรียน B ก็กลับไป (ณ จุดนี้เหมือนเราเป็นภาระเลย เขาชวนมา เขาเลยต้องยุเปนเพื่อน 55+) แต่ระหว่างนี้ก็ได้คุยกันมากมาย B ก็เล่าเรื่องของตัวเองให้ฟังเรื่อยเปื่อย เปิดคลิปตลกให้ดู เปิดคลิปสัตว์ต่างๆ ที่บ้านเขาให้ดู มีสุนัข แพะ นกแก้ว ฯลฯ แล้วก็โชว์ผลงานที่เคยทำมาตั้งแต่เริ่มแรก ทั้งแอนนิเมชั่น ทั้งแอพ และเกม เขาบอกว่าเราเขียนแอพได้เงินจากโฆษณาสูงสุดเดือนละ 2500 ปอน เทียบจาก USD เป็น GBP เราก็คิดละ ขี้โม้ตามคำร่ำลือรึเปล่า แต่เราก็อือออตามไป (ภายเค้าก็เอาเมลให้ดู ว่าทำงานให้กับ Google และได้เงินจริง) ส่วนเราก็คุยๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เราทำ เกี่ยวกับเกมออนไลน์ ก็แชร์ๆ ประสบการณ์กันไป
หลังจากที่เริ่มเรียน ก็เป็นเพื่อนคุยกันเฮฮาไปตามปกติ ส่วน A ชอบแกล้งเรา แกล้งเหมือนคุณครูชอบแกล้งดุนักเรียน เช่น เราชอบถ่ายรูปนู่นนี่นั่น บรรยากาศในห้องเรียน A ก็จะชอบว่า ที่นี่ไม่อนุณาตให้ถ่ายรูปในห้องเรียน เราก็จะสตั้นไปแปบ แบบ จริงหรอ? (เรายังไม่ค่อยรู้วัฒนธรรมของที่นี่ แต่เพื่อนเรา เค้าเที่ยวมาหลายประเทศกันแล้ว) ชอบทำให้คิดว่า เรากำลังทำผิดอยู่ แต่ B ก็จะอธิบาย ให้เราเก็ทมุก
ตอนเดิน B ก็จะเดินข้างเราตลอด บางทีเดินกันสามคน มีคนสวนมา เราก็จะเดินหลบไปด้านหลัง B ก็จะหันมามองตลอด ทำอย่างกะกลัวเด็กพัดหลง 555+
ตอนเรียนแลปแรก เรานั่งข้าง A แต่ B ก็จะชอบหันมามองตลอด อันนี้ ไม่รู้มองจริง หรือติดไปเองนะ แต่รู้สึกเหมือนโดนมองอยู่
แลปต่อมา A ให้ B นั่งข้างเราก็เรียนๆ เรื่อยมา B ก็คอยถามตลอด ว่าทำถึงไหน ทำได้ไหม ติดปัญหาตรงนี้เหมือนกันมั๊ย ลองทำแบบนี้ดูสิ เราก็มึนๆ อึนๆ ใส่ไป เพราะเราฟังเขาพูดไม่ค่อยรู้เรื่อง จะถามให้อธิบายบ่อยๆ ก็เกรงใจ 55+ แต่เราก็ทำแลปเสร็จก่อนตลอด เขาก็เริ่มหงอยๆ ละ เพราะตอนแรก โม้ไว้เยอะว่าทำนั่นทำนี่ รู้จักนั่นนี่
เขาก็ถามเรานะ ว่าทำนั่นนี่เป็นไหม รู้จักนั่นนี่ไหม เราก็ตอบไปว่ารู้บ้างไม่รู้บ้าง เขาก็คงคิดว่าเราอึนๆ โง่ๆ แน่เลย 555+
ตอนเรานั่งฟังเลคเชอร์ ทำหน้าง่วงๆ หิวๆ ไม่ยิ้มให้เขา เขาก็ถามเราว่าโกรธหรอ เราก็บอกว่าเปล่าแค่หิวเฉยๆ เพราะปกติเราเป็นคนยิ้มแย้มแจ่มใส ยิ้มให้กับทุกคนตลอด เพราะพูดไม่เก่ง ยิ่งภาษาอังกฤษยิ่งยากไปใหญ่ การจะแสดงอาการโอเวอร์แอคติ้ง มันยิ่งยากไปใหญ่ เพราะปกติเราเป็นคนนิ่งๆ เงียบๆ
เวลาเดินหรือนั่งคุยกัน มันก็จะมีบางคำที่ฟังไม่รู้เรื่อง หรือบางตัวสะกด ที่เค้าออกเสียงไม่เหมือนคนไทยเรา เช่น L T P คือคนไทยเราจะออกเสียงตรงตัวสะกด ชาวต่างชาติเขาฟังไม่รู้เรื่อง ตา B เนี่ย ก็จะสอนเราออกเสียง เวลาเราออกเสียงผิดก็จะชอบเอามาล้อเรา

นอกจากที่มหาลัยแล้วก็คุยกันผ่านทาง Social Network ทุกวันเลย เขาทักเรามาก่อนตลอด แบบทำอะไรอยู่ หรือมาเล่าเรื่องให้ฟัง แล้วก็จะถ่ายรูปส่งมาให้ดู เช่น เดินไปกินพิซซ่ากับ B ก็ถ่ายรูประหว่างทางมาให้ดู ประกอบเก้าอี้ก็ถ่าย ลายถุงเท้าก็ถ่าย ช่วย A ทำกับข้าวก็ถ่าย A ทำกับข้าวเก่ง แต่ B ทำไม่เป็น
ก็คุยกัน แชร์เรื่องส่วนตัวพอหอมปากหอมคอ แบบชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ถามถามเราก่อนล่ะนะ เราก็ถามกลับไปตามมารยาท เช่น ชอบสีอะไร ชอบเล่นเกมอะไร (เป็นเกมเมอร์เหมือนกัน) แล้วก็คุยเรื่องสภาพอากาศ เราก็เล่าๆ ไป ว่าชอบหิมะ อยากเห็นหิมะ ไม่เคยเห็นเลย จนวันนึงที่หิมะตก แต่เราหลับอยู่ ปิดเสียงโทสับไว้ เขาเลยปลุกเราไม่ตื่น เขาก็เลยถ่ายคลิปหิมะตกไว้ แล้วส่งมาให้เราดู(ปกติเขาชอบถ่ายคลิปสิ่งรอบตัวอยู่แล้วนะ เจอคนสีไวโอลินที่ถนนก็ถ่าย)
แล้วก็เข้าสู่เรื่องของอดีต เขาก็เล่าว่า เขาอกหักมาหลายครั้งจนเขาคิดว่า ไม่คิดจะคบใครแล้ว จะอยู่คนเดียวตลอดไป ล่าสุดที่เขามีแฟนก็หลายปีก่อน เขาเป็นคนชอบท่องเที่ยว ทำให้เธอคิดว่าเขาจะไม่กลับมาแล้ว เธอคนนั้นก็เลยบอกเลิกเขาแล้วก็ขาดการติดต่อไป เขาบอกว่าเจ็บปวดมาหลายปี ทำให้เขาคิดว่าไม่ต้องมีใคร จะได้ไม่ต้องเจ็บปวดอีก
เขาก็ดูเป็นคนอัธยาศัยดีนะ เขาบอกว่ามีเพื่อนง่าย แต่รักษามิตรภาพไว้ไม่ได้ เขาบอกอีกว่าเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยแคร์อะไร ไม่ค่อยแค่คนรอบข้างเท่าไหร่ ยกเว้นคนที่เขารักเท่านั้น ซึ่งตอนนี้ไม่มี บางทีเราก็รู้สึกว่าเขาเป็นคนเฉยชานะ (ผ่านทางแชท แต่ตอนเจอกันดูเอาใจใส่คนรอบข้างดี)
ที่คุยกันส่วนตัวก็คุยแบบคุยเล่น ไม่มีคำหวานอะไร ก็ถามไถ่ทั่วไป แสดงอาการงอแงบ้าง แต่เราก็ไม่ได้ง้อ เพราะเราไม่ได้คิดอะไร เราก็แบบ ก็แล้วแต่นะ
มีครั้งนึงที่เราทักไปก่อน เพราะจะถามเรื่องวิชาเรียน เราก็ทักไปอย่างสุภาพ ประมาณว่า ทำอะไรอยู่ สะดวกคุยหรือเปล่า เขาก็ตอบกลับมาแบบติดตลกประมาณว่า ว่าไง คิดถึงเราหรอ แต่เราก็ไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยิงคำถาที่เรียนของเราไปเลย นอกจากนี้ บางวันไม่ได้แชทอะไรกันเลย แต่เขาก็จะมาบอกว่า Night Night ทุกคืน
คุยไปคุยมา ก็มีชื่อเล่นเรียกส่วนตัวกัน เป็นชื่อย่อมาจากชื่อจริง เติม y แต่เรียกในแชท หรือตอนคุยกันสองคนนะ ไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อย เพราะ A ชอบยุ่ง มีธุระอะไรไม่รู้เยอะแยะ แว๊บไปนู่นนี่ตลอด
เขาบอกว่าชอบเรียกชื่อนี้ เพราะเราน่ารักเหมาะกับชื่อนี้ดี เราก็ขอบคุณตามมารยาทไป เป็นครั้งแรกที่ชมหรือพูดดีๆ ด้วยเลย !! ปกติที่ผ่านมาจะชอบกวนตีน(มาก) ชอบพูดเล่น ชอบแกล้ง ตอนอยู่ 2 คน เช่น ชอบล้อว่าเราเป็นหมู ชอบว่าเราอ้วน พอเรานิ่งๆ ทำท่าทางเหมือนโกรธ เขาก็บอกว่าเขาล้อเล่น เขาคิดว่าเราไม่อ้วนนะ  เล่นเกมด้วยกัน ก็ชอบว่าเรา Noob ตลอด แต่เขาเล่นเกมเก่งจริงไรจริง โดยเฉพาะเกมยิงปืน แม่นมาก เล่นกับนาย A ฆ่านาย A แบบ 18-0 อะไร แบบนี้ จนนาย A เลิกเล่นด้วยเลย เกมใช้ทักษะความไว เขาชนะเราตลอด แต้กมแนวใช้ความคิดหรือ puzzle เราชนะ อิอิ เขาก็ว่า เขาฆ่าเราได้คนเดียวเท่านั้น คนอื่นห้ามทำร้ายเรา อะไรประมาณนี้ ก็แบบเป็นคนขี้เล่น แต่ตอนทำงานก็จริงจังมาก
ล่าสุดตอนเรียนวิชานึง ก็นั่งโต๊ะกลม ทำงานกลุ่ม มีช่วงนึง เราก็ลุกไปยืนดูเขาซักพักนึง เขาก็บอกว่า " ไปเอาเก้าอี้มานั่งสิ หรือให้เราไปยกมาให้มั๊ย" เราก็สะอึกเลย แล้วเราก็บอกว่า ไม่ๆๆ แล้วเราก็ไปยกมาเอง ให้คนอื่นยกให้มันยังไงไม่รู้สิ เก้าอี้ตัวเล็กๆ เอง เรายกไหวสบายมาก (เราเป็นคนชอบทำอะไรเอง ถ้าไม่จำเป็นจะไม่พึ่งคนอื่นน่ะ)
ตอนเรียนวิชานึง อีก 30 นาทีจะหมดคาบ นาย A เจ้าเก่า ก็ขอตัวไปละหมาด นาย B ก็ทำท่าอยากกลับ ก็ชวนเรากลับ แต่ด้วยนิสัยเรา รู้สึกเกรงใจอาจารย์ ยังไม่หมดเวลา ก็ไม่ควรจะไปนะ ถึงจะเป็นแลปก็เถอะ เรายังไม่กลับ นาย B ก็เลยไม่ยอมกลับ พอหมดคาบ กำลังจะกลับ นาย D เพื่อนในห้องก็มาคุยกับนาย B เราก็นะ อยากกลับแล้ว มืดแล้ว แต่นาย B อุตส่าอยู่เป็นเพื่อนเรา ก็อยู่เป็นเพื่อนมันหน่อยละกัน คิดว่าคงคุยแปบเดียว แต่ที่ไหนได้ นาย D ร่ายยาวเลยค่ะ (นาย B ถามนาย D เรื่องเน็ตเวิคด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ นาย B เคยถามเรา เราก็ตอบงูๆ ปลาๆ นาย B ก็บอกว่า คิดว่าเราเป็น professional ซะอีก เพราะเราทำเกมอินไลน์ได้ เราเลยคิดว่า เพราะอยากได้ข้อมูลส่วนนี้ เลยอยากเป็นเพื่อนกับเรารึเปล่า?)
หลังจากที่นาย B กับ D คุยกันได้ซักพัก ก็มีนาย E และ F เข้ามาแจมด้วย โอ้ ฉันจะได้กลับเมื่อไหร่เนี่ย จะหนีกลับก่อน ทิ้งนาย B ไว้ จะน่าเกลียดไหม เพราะก่อนหน้านี้เราเคยหนีกลับก่อนไปทีนึง แต่ตอนนั้นยังไม่สนิท เราก็นั่งๆ ฟังเค้าคุยกัน เกี่ยวกับอนาคต จบ ป โทแล้ว คิดว่าจะทำอะไรกันต่อ แล้วนาย D ก็พูดอย่างกับว่าเรากับนาย B เป็นแฟนกัน จะร่วมทโปรเจคงาน หรือสร้างอนาคตอะไรกันรึเปล่า แล้วทุกคนก็เงียบ นาย D ก็เลยพูดต่อ เราก็สะอึกรอบที่สองของวัน (ลืมนาย A ไปเลย) หลังจากที่นาย A ละหมาดเสร็จ ก็โทรมาถาม พอบอกว่าคุยกันอยู่ในห้องเรียน นาย A ก็เลยกลับก่อนเลยหลังจากคุยกันเสร็จก็เดินกลับกันสองคนอีกครั้ง ระหว่างทางนาย B ก็แบมือยกขึ้นมา เราก็ถามว่า อะไรหรอ เขาก็เอามืออีกข้างตีมือเขา เหมือนจะให้เราเอามือวางลงไป เราก็เอากำปั้นทุบมือเขาไปเบาๆ เขาก็เอามือลง แล้วก็เดินคุยเรื่อยเปื่อยนาย B ก็ให้เราสอนภาษาไทย บางคำ เราก็สอนๆ ไป (เขาพูดได้หลายภาษา มี ฮินดี้ อังกฤษ อาหรับ ฝรั่งเศส จีน-ญี่ปุ่น-ไทย บางคำ) เขาชอบเรียนภาษาด้วย
พอเดินไปซักพัก ใกล้ถึงทางแยก เราก็ถามย้ำไปว่า บ้านเขาไปทางไหนนะ เพราะเดินมาแยกทางกันตรงนี้เป็นครั้งที่สอง เราจำไม่ได้ว่าต้องแยกตรงไหน เขาก็ชี้ทาง แล้วก็ถามเราแบบติดตลกกลับมาว่า อยากให้กลับไปที่ห้องด้วยหรอ เราก็สะอึกรอบที่สามของวัน แล้วก็บอก ไม่ๆๆ บาย แล้วก็เดินแยกมาทางของเราเลย เค้าก็หัวเราะแล้วก็บายเรา

เล่ามาซะยาว 555+ (ที่เล่านี่ เพื่อประกอบคำตอบ)
มาถึงคำถามละ ว่า
- เค้ากำลังจีบเรารึเปล่า หรือเราคิดไปเอง? เค้าก็บอกนะว่า เค้าไม่อยากมีใคร เค้าไม่อยากเจ็บอีก
- เพราะเราเป็นผู้หญิงคนเดียวในเมเจอร์รึเปล่า เค้าถึงทำดีกับเรา? สอนนู่นนี่ เวลาพิมผิด พูดผิด เค้าก็แก้ให้  ชอบอธิบายสิ่งที่เราไม่รู้ให้เราฟัง บลาๆๆ ก็เคยถามนะ ว่าทำไมสอนเรา เขาก็บอกชอบสอน เขาก็บอกอีกว่า ถ้ารำคาญก็บอกนะ
- เค้าต้องการข้อมูลที่เค้าไม่รู้รึเปล่า เค้าถึงอยากเป็นเพื่อนกับเรา? เค้ากำลังหาคนที่มีความรู้เรื่องเน็ตเวิคไปช่วยสอนเค้าน่ะ ซึ่งเราบอกไปแล้วว่าเราไม่รู้
- สิ่งที่เค้าทำ มันเป็นเรื่อง เสรแสร้ง หรือ หวังปลอะไรรึเปล่า? เค้าก็ไม่เคยพูดจาหว่านล้อม หรือหวานหยดย้อยอะไรนะ จะเป็นแนวมาพูดเล่นติดตลกมากกว่า
- หรือใครมีความคิดเห็นอะไรเพิ่มเติมมั๊ย ที่อยากจะแนะนำ หรือร่วมแชร์ ยินดีรับฟังค่ะ ^_^

ก็นะ เค้าเป็นแขก เราก็เลยคิดมากหน่อย อ่านรีวิวมา เจอแต่ประสบการณ์ที่ไม่ดี แหะๆ
บางคำถามเหมือนเป็นคำถามงี่เง่า ก็ขอโทษด้วยนัคะ เรื่องของคนอื่นเราคิดว่าให้คำปรึกษาได้ดีพอควรนะ แต่พอเจอกับตัวเอง รู้สึกแยกแยะไม่ออก 55
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่