ว่าด้วยเรื่องของการ์ตูนเกี่ยวกับประวัติศาสตร์หรือวรรณคดีไทย

มีหลายคนที่เบื่อว่าทำไมเมืองไทยชอบทำแต่แอนิเมชั่นออกมาเป็นแนวประวัติศาสตร์หรือวรรณคดีไทย ทำไมไม่ทำแนวอื่นบ้าง จริง ๆ ผมคิดว่า ทำออกมาเป็นแนวแบบนั้น มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรตรงไหน ดีซะอีก ที่จะทำให้เข้าใจเรื่องพวกนั้นได้ง่ายขึ้น หรือเด็กเข้าถึงเรื่องพวกนั้นได้ง่ายขึ้น คนที่บอกว่าเบื่อ ก็คงเป็นคนที่ไม่ชอบเรื่องอะไรแบบนั้น

แต่ ก็ไม่ได้หมายความว่าให้ทำแต่แนวนั้นแนวเดียว ให้สลับสับเปลี่ยนมีแนวอื่นออกมาบ้าง ซึ่งก็ใช่ว่าเมืองไทยไม่เคยมี อาจจะมีแต่เน้นทำให้เด็กดูไปหน่อย เช่น ปังปอนด์,ยักษ์,เอคโค่,สตาร์ด็อก เนื้อหา บท เพลงประกอบเลยดูเป็นการ์ตูนเด็ก ๆ ไป จริง ๆ ก้านกล้วยก็ไม่ถือว่าเป็นการ์ตูนประวัติศาสตร์นัก เพราะเน้นไปทางก้านกล้วย ทางด้านอื่นมากกว่า แล้วมีเนื้อเรื่องของพระนเรศวรเข้ามาเป็นส่วนประกอบเล็กน้อย อีกอย่าง ในก้านกล้วยภาค ๒ นี่คือเนื้อเรื่องที่แต่งเองล้วน ๆ แล้วจะเห็นว่า มีฉากรบครั้งสุดท้ายที่พระนเรศวรมีการใช้คาถาอาคม มีฉากที่ไม่ได้ปรากฏในประวัติศาสตร์เพิ่มขึ้นมา (อาจเป็นก้าวแรกที่คนไทยกล้าที่จะเริ่มเอาบุคคลในประวัติศาสตร์มาเล่น มาเสริมแต่งอะไรเข้าไป ไม่ใช่ให้ตรงไปตามประวัติศาสตร์เป๊ะ ๆ ไม่กล้าออกนอกเรื่องไปไหน)

จริง ๆ การ์ตูนที่เป็นวรรณคดีหรือประวัติศาสตร์ไทยจะทำให้สนุกก็สนุกได้ แต่อยู่ที่คนลำดับเรื่องและเขียนบท เพราะขนาดขุนศึก กับ บางระจัน เป็นละครย้อนยุคเหมือนกัน คนประพันธ์คนเดียวกัน แต่พอเอามาทำเป็นละคร ตีความต่างกัน เขียนบทคนละแบบ หรือหนังเรื่องเดียวกัน แต่คนละเวอร์ชั่นก็ได้ แค่บทต่างกัน การตีความต่างกัน ความสนุกก็ต่างกันแล้ว ถ้าทำการ์ตูนพวกนั้นโดยที่ตีความออกมาเจ๋ง ๆ บทเจ๋ง ๆ มันก็น่าสนใจขึ้นมา แล้วก็เลิกเอาวรรณคดี หรือบุคคลในประวัติศาสตร์เดิม ๆ มาทำได้แล้ว เพราะวรรณคดีและบุคคลสำคัญมีมากกว่านั้น
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่