คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 6
วิเคราะห์จากบทความ อ่านได้หลายแง่
1.ประชาธิปัตย์ เป็นส่วนหนึ่งของการ รปห ดังนั้นจะวิพากย์วิจารณ์อะไรก็เต็มปาก เต็มคำ เป็นปากเป็นเสียงให้ชาวบ้านได้ ก็อาจจะได้ใจชาวบ้านตรงจุดนี้
2.เพื่อไทย ซึ่งเป็นเหมือนอีกฝ่ายของ รบ จะไปทำอะไรได้ เสนออะไรออกไป ไม่เข้าหู เดี๋ยวก็ จับไปปรับทัศนคติ
อ่านบทความนี้ ได้แต่ส่งสารเพื่อไทย ครับเจ้านาย
1.ประชาธิปัตย์ เป็นส่วนหนึ่งของการ รปห ดังนั้นจะวิพากย์วิจารณ์อะไรก็เต็มปาก เต็มคำ เป็นปากเป็นเสียงให้ชาวบ้านได้ ก็อาจจะได้ใจชาวบ้านตรงจุดนี้
2.เพื่อไทย ซึ่งเป็นเหมือนอีกฝ่ายของ รบ จะไปทำอะไรได้ เสนออะไรออกไป ไม่เข้าหู เดี๋ยวก็ จับไปปรับทัศนคติ
อ่านบทความนี้ ได้แต่ส่งสารเพื่อไทย ครับเจ้านาย
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
การเมือง
พรรคการเมือง
2 ด้าน การเมือง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ ท่าที ต่อรัฐบาล....ข่าวสดออนไลน์ .../sao..เหลือ..noi
ในการแก้ไขปัญหาราคายางพาราตกต่ำแล้ว
ต้อง "คารวะ" ให้หลายๆ จอก
เมื่อเปรียบเทียบกับการไม่มีการเคลื่อนไหวอะไรเลยจากพรรคเพื่อไทยก็ต้อง
ยอมรับว่าโอกาสของพรรคเพื่อไทยในภาคใต้นั้นริบหรี่
ทั้งยังอาจริบหรี่ในพื้นที่อื่นซึ่งมีการปลูก "ยางพารา"
บางคนอาจมองว่าที่พรรคเพื่อไทยต้องเงียบและไม่มีการเคลื่อนไหวเพราะถูก
"กด" เพราะถูก "บีบ" ให้ไม่มีโอกาสแสดงออก
อาจใช่ อาจเป็นเช่นนั้นจริง
แต่ หากศึกษา "กระบวนการ" อันมาจากพรรคประชาธิปัตย์อย่างให้ความเป็นธรรม
ก็ต้องยอมรับอีกเหมือนกันว่านักการเมืองในพรรคประชาธิปัตย์ "เล่นเป็น"
จัดวางจังหวะก้าวอย่างไม่มีสีสันของ "ฝ่ายค้าน"
ความได้เปรียบเป็นอย่างมากของพรรคประชาธิปัตย์ คือ การกำหนดบทบาท
และจุดยืนของตนอยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐบาล
แรกสุดก็คือ เห็นด้วยกับ "การรัฐประหาร"
การ เห็นด้วยนั้นมิใช่เห็นด้วยอย่างฝืนๆ ตรงกันข้าม พรรคประชาธิปัตย์ถือว่า
รัฐประหารที่ประสบความสำเร็จเพราะพรรคประชาธิปัตย์มี ส่วนช่วย
ช่วยในการ "ปูทาง" และสร้าง "เงื่อนไข"
ขณะ เดียวกัน หลังรัฐประหารอนุสาสน์อันมาจากแกนนำกปปส.
ซึ่งมีอิทธิพลอย่างยิ่งในพรรคประชา ธิปัตย์ก็คือ ให้กระบวนการต่างๆ
ผ่อนคลายการต่อต้านรัฐบาลเพราะถือว่ารัฐบาลที่มาจากการ
รัฐประหารเป็นพวก เดียวกัน
นั่นก็คือ เป็นรัฐบาลอย่างที่เรียกว่า "รัฐบาลของเรา"
จากจุดนี้เองทำให้การเคลื่อนไหวของพรรคประชาธิปัตย์คล่องตัวมากกว่า
เมื่อเปรียบเทียบกับการเคลื่อน ไหวของพรรคเพื่อไทย
ขอให้ดูกรณี "ยางพารา" เป็นตัวอย่าง
เริ่มจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคต่อสายไปยังรัฐบาลว่า
อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ปลูกยางจะขอเข้าพบ
พบเพื่อ "เสนอแนะ" พบเพื่อให้ "คำปรึกษา"
บทบาท เช่นนี้เท่ากับว่าพรรคประชาธิปัตย์และอดีตส.ส.ดำรงอยู่ในฐานะ
ตัวแทนของ เกษตรกรชาวสวนยางเพื่อนำ "ความเดือดร้อน" ไปบอกกล่าว
ให้รัฐบาลรับรู้
รับรู้แล้วก็แก้ไข "ปัญหา" อย่างเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
กล่าวสำหรับพรรคเพื่อไทยและอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทยอาจไม่สามารถ
แสดงบทบาทได้ระดับนั้น
กระนั้น ก็มิได้หมายความว่าจะต้องไม่รู้จัก "ยืดหยุ่น" จะต้องไม่รู้จัก
"พลิกแพลง" กระบวนท่าเพื่อให้สามารถนำเอาปัญหาและความ
เดือดร้อนของประชาชนให้ปรากฏแก่ รัฐบาล
เว้นแต่ "รัฐบาล" ไม่สนใจ เว้นแต่ "รัฐบาล" ไม่ยอมรับรู้
http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRReU1qZzJNamd6TXc9PQ==§ionid=