แด่ความคิดถึง ที่ได้แต่เก็บไว้ในใจ

คนฉลาด ไม่ทำอะไรถูกเสมอไป และการทำอะไรถูก ไม่ได้ทำให้มีความสุขเสมอไป

ชีวิตคนเรามีหลายหลายแง่มุม มีหัวโขน มีหลายภาระหน้าที่

หากคุณเห็นเรายิ้ม เราดูมีความสุข เราลง FB บ่อยๆ เราไปนู่นมานี่ ใช้ชีวิตที่ดูน่าอิจฉา ดูประสพความสำเร็จ ดูเพียบพร้อม มันไม่ได้แปลว่า เรามีความสุข

เราเหงา!!

ใช่ เราเหงา

แต่ยิ่งเหงา กลับยิ่งเก็บตัว

เหงามาก ยิ่งลง FB มาก เพราะ ลึกๆ เราอยากระบาย เราอยากบอกความรู้สึกลึกๆ ของเราให้ใครที่เราก็ไม่รู้ ได้ฟัง ที่ไม่จำเพาะ เจาะจง
ใครที่จะเข้าใจเรา กับสิ่งที่เรารู้สึกอยู่ข้างใน โดยที่ไม่ทำให้ครอบครัวที่เรารัก เพื่อนๆ เพื่อนร่วมงาน ตกอกตกใจ เป็นห่วง หรือมองเราด้วยสายตาประหลาด มองว่าเราอ่อนแอ เพราะเห็นเราในมุมที่เค้าไม่เคยเห็นจากเรามาก่อน

เพราะเราคิดถึง "คนๆนั้น"


คนๆ นั้น คนที่เราเคยมีเวลาทั้งสุข ทั้งทุกข์ หัวเราะ ร้องไห้ ด้วยกันถึง หกปี!!

ผู้ชายคนเดียว ที่เราไม่เคยรู้สึกต้องระแวงเลย ว่าเค้าจะนอกใจเรา โกหกเรา เรื่องผู้หญิงคนอื่น!!!

คนที่เราบอกใครได้เต็มปากเต็มคำว่า เค้ารักเรามาก

คนที่ตำหนิเราได้ตลอดเวลา ว่าเราได้ทุกเรื่อง บอกว่าเรา นิสัยเหมือนผู้ชายบ้าง ดูแลใครไม่เป็นบ้าง ไม่ละเอียดอ่อน self-center สารพัด

ขุดข้อเสียของเรามาว่าได้ตลอด ไอ้นู่นต้องปรับปรุง ไอ้นี่ต้องเปลี่ยน ต้องเรียนนู่นนี่เพิ่ม

ขณะที่ใครหลายๆคน มองเราเฟอร์เฟ็กซ์ มองว่าเค้าเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉา ทั้งที่ตัวเราเองไม่ได้คิดว่าตัวเอง perfect อะไรมากมาย อย่างที่หลายๆคนบอก มีข้อบกพร่องพอสมควร แต่ก้อไม่ไดคิดว่าตัวเองแย่ขนาดต้องไปตายแล้วเกิดใหม่ เหมือนเวลาที่เค้าตำหนิเราจนทำให้เรารู้สึกว่าตรูไม่น่าเกิดมาเป็นคนเลย

คำพูดหวานๆ ไม่ค่อยจะมี ทำอะไรให้ ไม่ค่อยจะชื่นชม ง้อทีไร แทบไม่เคยจะเอ่ยคำขอโทษ

แต่ลึกๆ ทำไมไม่รู้ เรากลับเชื่อมั่น ว่าถึงปากเค้าจะไม่ดี Ego สูง แต่เค้ารักเรา เพราะเค้าไม่เคยไปไหน ไม่เคยจะขอเลิกเราก่อน


แต่วันนี้ เค้าไม่อยู่ในฐานะ ที่เราจะบอกเค้าว่า คิดถึง

ไม่สามารถโทรหาได้ ไม่สามารถแชทไปหาได้ ทุกครั้งที่ต้องการ ไม่สามารถถามได้ ว่าเธออยู่ไหน ทำอะไรอยู่ เหนื่อยมั้ย ไม่สบายมั้ย

เจ็ดเดือนเต็ม ที่เราขาดจากสถานะ การเป็นแฟน เพราะ เราเป็นขอเลิกเค้า ครั้งที่เท่าไหร่ก้อไม่รู้ เพราะศักดิ์ศรี อีโก้ หรืออะไรก้อไม่รู้ ที่ทำให้เรา บอกตัวเองว่า ชั้นจะไม่ทนให้คนที่เอาแต่ตำหนิสารพัด คนที่ทำให้ชั้นต้องยอมตามเงื่อนไขชีวิตเค้า มาเป็นห่วงผูกตัวเองอีก

ความน้อยใจ ครั้งที่เท่าไหร่ ก้อไม่รู้ เป็นบ่อเกิดของฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้เค้าบอกตัวเองว่า ครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ที่เค้าจะโดนเราบอกเลิก

และมันกลายเป็นการยกเลิกการแต่งงาน และกลายเป็นเรื่องระหว่างสองครอบครัว ที่ต่างฝ่ายต่างถือศักดิ์ศรีกันทั้งคู่

ใช้เวลาสองอาทิตย์กว่าเราจะคิดได้ว่า เรายังอยากมีเค้าอยู่ และยอมลดศักดิ์ศรีตัวเอง เพื่อไปขอโทษเค้า ขอโทษครอบครัวเค้า

บอกกระทั่งว่า ชั้นยอมอยู่ในสถานะไหนก้อได้ ขอให้มีเธออยู่

แต่เค้าเจ็บเกินกว่าจะกลับมา

ครอบครัวเค้า บางคน ไม่ปลื้มเรา ขนาดจะให้ลูกชายเค้ากลับมาหาเรา

เลิก ก้อ คือ เลิก

คนเลิกกันแล้ว

เค้าชัดเจนมาก ว่า จะไม่กลับมาหาเราอีกต่อไป เค้าบอกเค้าเหนื่อยมามากแล้ว กว่าจะทำให้ที่บ้านเค้าทุกคนยอมรับเรา เหนื่อยที่จะผลักดันให้งานแต่งงานเกิดขึ้น

วันนี้ เค้าไม่อยากกลับไปทะเลาะกับที่บ้านเค้าอีก

เค้าสบายใจที่อยู่คนเดียว ไม่ต้องตะกายใช้ชีวิตตามมาตรฐานของเรา ที่มันดูไฮโซสำหรับเค้า เค้าพอใจกับการทำอะไรติดดิน Lifestyle เราต่างกัน

แต่บอกว่า ถึงเรื่องของเราจะเดินต่อไปไม่ได้ but I know I will never stop loving you.

พูดถึงขนาดนี้แล้ว จะให้ชั้นเวิ่นเว้อ อะไรกับเค้าอีก เค้าอยากให้จบ มันต้องจบ!!!

จบ เพื่อเค้า เพื่อความสบายใจของเค้า ของครอบครัวเค้า ของครอบครัวเรา ที่ไม่พอใจครอบครัวฝั่งเค้าเช่นกัน

ขนาดนี้แล้ว คิดอะไร รู้สึกอะไร ได้แต่เก็บมันเอาไว้ในใจ

โตแล้ว พูดกันรู้เรื่อง สามสิบกว่าแล้ว หน้าที่ การงาน ความรับผิดชอบขนาดไหน จะให้มาร้องไห้ฟูมฟายให้ใครดู

ดูแลตัวเองมาตั้งแต่เด็กยันโต จะมาให้ครอบครัวเป็นห่วงเหมือนเด็กๆ สิบห้า สิบหก เหรอไง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่