"ยิ่งโตขึ้น เพื่อนก็จะยิ่งน้อยลง" คำนี้ที่แม่บอกฉันจำได้แม่น
การเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แตกต่าง ทั้งเรื่องเรียนเรื่องกิจกรรม ไม่ค่อยได้มีโอกาสกลับบ้าน ต้องปรับตัวกับอะไรหลายๆอย่างที่อาจะไม่เคยเจอมาก่อน
การจะหาเพื่อนสนิทสักคนทำไมยากจัง คนที่จะเข้ากับเราได้ คนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่องอย่างสนิทใจ คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ หายังไงก็ยังไม่เจอ มีแต่เพื่อนร่วมเรียนที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นครั้งเป็นคราว
แม้แต่เพื่อนร่วมห้องที่น่าจะสนิทกันแต่กลับไม่สนิทเลย ห้องเงียบแทบไม่พูดกัน เหมือนต่างคนต่างอยู่ บรรยากาศไม่น่าอยู่ เป็นเพราะเรายังไม่ได้ปรับตัวเข้ากับเขาหรือป่าว ?
ก็ลองปรับตัว จากที่เป็นคนเงียบๆพูดน้อยก็จะพยายามชวนเพื่อนคุย ใส่ใจตลอด เวลาเพื่อนถามอะไรเราจะรีบตอบนะ แต่บางครั้งพอเราถาม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ เหมือนพูดอยู่คนเดียว เจอแบบนี้เสียความรู้สึกไปเลยนะจนไม่กล้าจะถามอะไรอีกเลย บางครั้งก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวทั้งที่เพื่อนเต็มห้อง มันเป็นเพราะอะไร ??? ท้อมากกับสังคมแบบนี้ ใจเริ่มหมดไปเรื่อยๆกับสิ่งบั่นทอนจิตใจเรื่อยๆ อยากจะเป็นคนไร้ความรู้สึก ไม่คิดมาก ไม่แคร์อะไร แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีเรื่องให้รู้สึกอยู่ทุกวันเรื่อยไป
บางครั้งเครียดมาก แอบร้องไห้ในห้องน้ำอยู่คนเดียว เหมือนเก็บบมานานแล้วจนไม่ไหว ต้องระบายออกมา มันก็รู้สึกดีขึ้นบ้างนะ
การใช้ชีวิตเป็นแบบผ่านไปวันๆ จันทร์ถึงศุกร์ก็เรียนตามปกติ เสาร์อาทิตย์ก็เหมือนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกับเพื่อนร่วมห้อง เล่นคอม ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ เวลาหมุนเร็วมาก เดี๋ยวเช้าเดี๋ยวค่ำ ได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถือซะว่าเป็นบททดสอบชีวิต พิสูจน์ว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมที่แตกต่างนี้ได้หรือยัง โตแล้วต้องรู้จักอดทนอดกลั้นนะ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด เรามาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อใคร ใครคือคนที่เราควรจะแคร์
คำที่ว่า ทุกคนต้องมีเพื่อน ยังจริงอยู่มั๊ย หรือเราควรจะหัดทำอะไรด้วยตัวเองใช่ไหม ควรอยู่คนเดียวให้ได้ใช่ไหม มันจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือป่าว จะสบายใจกว่าไหมนะ..
เรียนไกลบ้านต่างถิ่น คิดถึงพ่อกับแม่
การเข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยกับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมที่แตกต่าง ทั้งเรื่องเรียนเรื่องกิจกรรม ไม่ค่อยได้มีโอกาสกลับบ้าน ต้องปรับตัวกับอะไรหลายๆอย่างที่อาจะไม่เคยเจอมาก่อน
การจะหาเพื่อนสนิทสักคนทำไมยากจัง คนที่จะเข้ากับเราได้ คนที่เราสามารถคุยได้ทุกเรื่องอย่างสนิทใจ คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ หายังไงก็ยังไม่เจอ มีแต่เพื่อนร่วมเรียนที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นครั้งเป็นคราว
แม้แต่เพื่อนร่วมห้องที่น่าจะสนิทกันแต่กลับไม่สนิทเลย ห้องเงียบแทบไม่พูดกัน เหมือนต่างคนต่างอยู่ บรรยากาศไม่น่าอยู่ เป็นเพราะเรายังไม่ได้ปรับตัวเข้ากับเขาหรือป่าว ?
ก็ลองปรับตัว จากที่เป็นคนเงียบๆพูดน้อยก็จะพยายามชวนเพื่อนคุย ใส่ใจตลอด เวลาเพื่อนถามอะไรเราจะรีบตอบนะ แต่บางครั้งพอเราถาม สิ่งที่ได้รับกลับมาคือความเงียบ เหมือนพูดอยู่คนเดียว เจอแบบนี้เสียความรู้สึกไปเลยนะจนไม่กล้าจะถามอะไรอีกเลย บางครั้งก็รู้สึกเหมือนอยู่คนเดียวทั้งที่เพื่อนเต็มห้อง มันเป็นเพราะอะไร ??? ท้อมากกับสังคมแบบนี้ ใจเริ่มหมดไปเรื่อยๆกับสิ่งบั่นทอนจิตใจเรื่อยๆ อยากจะเป็นคนไร้ความรู้สึก ไม่คิดมาก ไม่แคร์อะไร แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีเรื่องให้รู้สึกอยู่ทุกวันเรื่อยไป
บางครั้งเครียดมาก แอบร้องไห้ในห้องน้ำอยู่คนเดียว เหมือนเก็บบมานานแล้วจนไม่ไหว ต้องระบายออกมา มันก็รู้สึกดีขึ้นบ้างนะ
การใช้ชีวิตเป็นแบบผ่านไปวันๆ จันทร์ถึงศุกร์ก็เรียนตามปกติ เสาร์อาทิตย์ก็เหมือนอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมกับเพื่อนร่วมห้อง เล่นคอม ฟังเพลง ดูหนัง อ่านหนังสือ เวลาหมุนเร็วมาก เดี๋ยวเช้าเดี๋ยวค่ำ ได้แต่บอกตัวเองว่า ไม่เป็นไร ถือซะว่าเป็นบททดสอบชีวิต พิสูจน์ว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับสังคมที่แตกต่างนี้ได้หรือยัง โตแล้วต้องรู้จักอดทนอดกลั้นนะ อย่าลืมสิ่งที่สำคัญที่สุด เรามาที่นี่เพื่ออะไร เพื่อใคร ใครคือคนที่เราควรจะแคร์
คำที่ว่า ทุกคนต้องมีเพื่อน ยังจริงอยู่มั๊ย หรือเราควรจะหัดทำอะไรด้วยตัวเองใช่ไหม ควรอยู่คนเดียวให้ได้ใช่ไหม มันจะดีกว่าที่เป็นอยู่ตอนนี้หรือป่าว จะสบายใจกว่าไหมนะ..