"- มุมมองของผมในการลงทุนปี 2558 -"
เดือนแรกของปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากครับ เราพึ่งจะฉลองปีใหม่ไปไม่นานนี้เอง
ตัวผมเอง มีงานประจำที่ทำอยู่รัดตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากบริษัทมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจและจะมีโครงการใหญ่ในปีนี้
เดือนแรกผ่านไป SET Index บวกประมาณ 5.6% จากปลายปีที่แล้ว พอร์ทของครอบครัวผมบวกประมาณ 7% ก็ถือว่าแข็งแรงกว่าผลรวมของตลาดเล็กน้อย
ผมอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมองในตลาดหลักทรัพย์ประจำปีนี้ดังนี้
1) ปัจจัยภายนอกประเทศ:
ยังคงวุ่ยวายต่อไปจากนโยบายทางการเงินของชาติยักษ์ใหญ่, มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน, การต่อสู้ทางค่าเงินของดอลล่าห์/ยูโร/หยวน/เยน, สงครามทางการค้าที่เกิดขึ้น และการคว่ำบาตรรัสเซีย
ผมมองว่า การวุ่นวายอย่างนี้เกิดมาหลายปีแล้ว และจะเกิดต่อไป คงจะไม่เป็นปัจจัยอะไรมากในการลงทุนของผม
นอกจากว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาจะทำ QE อีกรอบ แต่คงเป็นไปในทางตรงกันข้ามมากกว่า
2) ปัจจัยภายในประเทศ
โชคดีคือ ตอนนี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจพอสมควร ทางการเมืองถือว่านิ่ง อาจจะมีกระเพื่อมบ้างจากดุลอำนาจที่เปลี่ยนแปลง และรักษาดุลอำนาจใหม่ของทั้ง 3 ฝ่าย เลือกตั้งคงจะยังไม่มีในปีนี้
เมื่อการเมืองนิ่งในระดับหนึ่ง (หวังว่าจะเป็นเช่นนี้สักระยะ) ทำให้รัฐบาลมีเวลาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน โดยนโยบายหลักๆ คือ
- การดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟรางคู่, รถไฟฟ้าต่างๆ, ท่าเรือ, ถนน, สนามบินและสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเปิดรับ AEC
- การมุ่งเน้นไปยังเศรษฐกิจแบบดิจิตอล (Digital Economy) เช่น 4G, broadband, FTTX, การนำเอาเสาไฟฟ้าลงดิน
- นโยบายที่มุ่งเน้นด้านพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม เช่นการควบคุมและจำกัดขยะให้ถูกวิธี และนโยบายต่างๆ ที่ทำให้ทุกบ้านติตตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้สะดวก ประหยัด และมีประสิทธิภาพ
3) ปัจจัยอื่นๆ ที่ผมมอง
- ประเทศไทยมีชนชั้นกลางที่มากขึ้น ใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง รักสวยรักงาม และมีอายุยืนยาวมากขึ้น
- การเคลื่อนย้ายจากระบบทีวีอนาล็อกมาเป็นระบบทีวีดิจิตอล ที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
ซึ่งจากปัจจัยข้อ 2) และ ข้อ 3) ทำให้ผมตั้งนโยบายการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ดังนี้ครับ
A. ยังคงลงทุนในหุ้นโรงพยาบาลและหุ้นประกันชีวิตต่อไป เพื่อถือลงทุนในระยะยาว เหตุผลคือ เพื่อรองรับสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น
B. ลงทุนในหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่และหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก digital economy และ 4G
C. ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง เช่น กลุ่มที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง, เสาเข็ม หรือ แผ่นคอนกรีตต่างๆ
D. ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายพลังงานทดแทนและการควบคุมหรือทำลายขยะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
E. ลงทุนในหุ้นดิจิตอลทีวี ที่มีแนวโน้มที่จะได้ส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้นและราคาโฆษณาที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่จะซื้อต้องไม่แพงจนเดินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าของกิจการ
คุณล่ะครับ มีนโยบายการลงทุนปีนี้อย่างไร
- ขอให้โชคดีครับ -
ที่มา: www.facebook.com/SustainW
"- มุมมองของผมในการลงทุนปี 2558 -"
เดือนแรกของปีได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วมากครับ เราพึ่งจะฉลองปีใหม่ไปไม่นานนี้เอง
ตัวผมเอง มีงานประจำที่ทำอยู่รัดตัวค่อนข้างมาก เนื่องจากบริษัทมีนโยบายที่จะขยายธุรกิจและจะมีโครงการใหญ่ในปีนี้
เดือนแรกผ่านไป SET Index บวกประมาณ 5.6% จากปลายปีที่แล้ว พอร์ทของครอบครัวผมบวกประมาณ 7% ก็ถือว่าแข็งแรงกว่าผลรวมของตลาดเล็กน้อย
ผมอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมองในตลาดหลักทรัพย์ประจำปีนี้ดังนี้
1) ปัจจัยภายนอกประเทศ:
ยังคงวุ่ยวายต่อไปจากนโยบายทางการเงินของชาติยักษ์ใหญ่, มาตรการผ่อนคลายทางการเงิน, การต่อสู้ทางค่าเงินของดอลล่าห์/ยูโร/หยวน/เยน, สงครามทางการค้าที่เกิดขึ้น และการคว่ำบาตรรัสเซีย
ผมมองว่า การวุ่นวายอย่างนี้เกิดมาหลายปีแล้ว และจะเกิดต่อไป คงจะไม่เป็นปัจจัยอะไรมากในการลงทุนของผม
นอกจากว่า ประเทศสหรัฐอเมริกาจะทำ QE อีกรอบ แต่คงเป็นไปในทางตรงกันข้ามมากกว่า
2) ปัจจัยภายในประเทศ
โชคดีคือ ตอนนี้เรามีนายกรัฐมนตรีที่มีอำนาจพอสมควร ทางการเมืองถือว่านิ่ง อาจจะมีกระเพื่อมบ้างจากดุลอำนาจที่เปลี่ยนแปลง และรักษาดุลอำนาจใหม่ของทั้ง 3 ฝ่าย เลือกตั้งคงจะยังไม่มีในปีนี้
เมื่อการเมืองนิ่งในระดับหนึ่ง (หวังว่าจะเป็นเช่นนี้สักระยะ) ทำให้รัฐบาลมีเวลาแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปัญหาปากท้องประชาชน โดยนโยบายหลักๆ คือ
- การดำเนินการโครงสร้างพื้นฐาน เช่น รถไฟรางคู่, รถไฟฟ้าต่างๆ, ท่าเรือ, ถนน, สนามบินและสาธารณูปโภคต่างๆ เพื่อเปิดรับ AEC
- การมุ่งเน้นไปยังเศรษฐกิจแบบดิจิตอล (Digital Economy) เช่น 4G, broadband, FTTX, การนำเอาเสาไฟฟ้าลงดิน
- นโยบายที่มุ่งเน้นด้านพลังงานทดแทนและสิ่งแวดล้อม เช่นการควบคุมและจำกัดขยะให้ถูกวิธี และนโยบายต่างๆ ที่ทำให้ทุกบ้านติตตั้งแผงโซล่าเซลล์ได้สะดวก ประหยัด และมีประสิทธิภาพ
3) ปัจจัยอื่นๆ ที่ผมมอง
- ประเทศไทยมีชนชั้นกลางที่มากขึ้น ใส่ใจดูแลสุขภาพตนเอง รักสวยรักงาม และมีอายุยืนยาวมากขึ้น
- การเคลื่อนย้ายจากระบบทีวีอนาล็อกมาเป็นระบบทีวีดิจิตอล ที่ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น
ซึ่งจากปัจจัยข้อ 2) และ ข้อ 3) ทำให้ผมตั้งนโยบายการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ดังนี้ครับ
A. ยังคงลงทุนในหุ้นโรงพยาบาลและหุ้นประกันชีวิตต่อไป เพื่อถือลงทุนในระยะยาว เหตุผลคือ เพื่อรองรับสังคมที่มีผู้สูงอายุมากขึ้น
B. ลงทุนในหุ้นสื่อสารขนาดใหญ่และหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก digital economy และ 4G
C. ลงทุนในหุ้นที่เกี่ยวกับการก่อสร้าง เช่น กลุ่มที่เกี่ยวกับวัสดุก่อสร้าง, เสาเข็ม หรือ แผ่นคอนกรีตต่างๆ
D. ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชน์จากนโยบายพลังงานทดแทนและการควบคุมหรือทำลายขยะอย่างถูกต้องตามกฎหมาย
E. ลงทุนในหุ้นดิจิตอลทีวี ที่มีแนวโน้มที่จะได้ส่วนแบ่งการตลาดที่มากขึ้นและราคาโฆษณาที่สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นที่จะซื้อต้องไม่แพงจนเดินไปเมื่อเทียบกับมูลค่าของกิจการ
คุณล่ะครับ มีนโยบายการลงทุนปีนี้อย่างไร
- ขอให้โชคดีครับ -
ที่มา: www.facebook.com/SustainW