มะเร็ง...เองเนาะ

สวัสดีค่าาา เราชื่อแพงน๊าา ตอนนี้อายุ 20 เรียนอยู่เทคนิคการแพทย์ มช.ค่ะที่มาตั้งกระทู้เพราะช่วงนี่เป็นช่วงที่ครบรอบ 1ปี กับการไม่สบายของเราพอดิบพอดี ตอนนี้เรารักษาครบละเนาะ คีโม 6 ครั้ง ฉายรังสี 20 ครั้ง เหลือ CT scan ดูอีกครั้งแล้วก็หวังว่าจะได้บ๊ายบายยยโรคนี้ล้ะ
หลายๆคนบอกว่า เราเป็นแรงบันดาลใจให้คนนู้นคนนี้เยอะแยะ เราก็ไม่รู้ว่าเรื่องจริงหรือเปล่า แต่ลองดูก็ไม่เสียหายเนาะ เผื่อเราจะเป็นประโยชน์กับสังคมโลกมากกว่านี้ แฮร่  ตามประสา หาข้อมูลนั่นนู่นนี่ ซึ่งส่วนมากก็เจอแต่ความน่ากลัว แต่เราผ่านมาแล้ว อยากเล่าเรื่องในมุมมองใหม่ๆ เป็นกำลังใจให้ทุกคนดูบ้าง พันทิพย์นี่แหละ เวิร์คสุดละ อีกอย่างก็คือ เราอยากใช้กระทู้บอกขอบคุณทุกคนที่คอยช่วยเหลือ และให้กำลังใจเรามาตลอด ขอแนบชื่อไว้ตอนท้ายของแต่ละตอนนะคะ ขอบคุณเป็นส่วนหนึ่ง ส่วนใหญ่ ที่ทำให้เรามีทุกวันนี้ ซึ่ง เราไม่สามารถใส่ชื่อได้ทุกคนจริงๆ เพราะมีเยอะมากกกกกกกกก แต่เราจำได้หมดนะ ไม่มีลืมม แฮร่ ><    มาๆ เข้าเรื่องกันดีกว่าาา


คือเราเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองเนาะ ( Primary Mediaastinal mass B-cell Lymphoma (บอกให้แลดูมีความรู้นิสนึง) ) อาการแรกเริ่มก็ไอเฉยๆนี่แหละค่ะ ตั้งแต่ช่วงงานรับปริญญามช. (ประมาณตอนนี้แหละ) ไอมีเสมหะธรรมดา ไอมาเรื่อยๆ เยอะขึ้นเรื่อยๆ จนหลังๆนี่อย่าเรียกไอเลย เรียกเห่าเถอะ 555555
เราก็กินยาแก้ไอบ้าง ยาแก้แพ้บ้าง ก็ไม่หายซะที ประกอบด้วยเราเป็นคนแพ้ฝุ่นอยู่ละช่วงนั้นเชียงใหม่มีหมอกควัน เลยคิดว่าเป็นภูมิแพ้ธรรมดา แต่ก็ไม่หายซักที ไอจนเหนื่อย เดินจากห้องเรียนออกมาหน้าตึกนี่หอบเหมือนวิ่งรอบสามมาซักสามรอบ บางทีกินอะไรเข้าไปไม่ทันย่อยก็ไออ้วกออกมาหมด จนถึงสงกรานต์นี่แบบ ไม่ไหวละ เลยไปหาหมอที่ "โรงพยาบาลมหาราช นครเชียงใหม่" ของเราเองงงง

- หาหมอ -

             เราก็ไปนั่งไอๆในห้องตรวจนี่แหละ หมอก็ตรวจๆไป ฟังนู่นฟังนี่(หมอหล่อ ><) ละบอกว่า อาการเราเนี่ยคล้ายภูมิแพ้นะ แต่ไม่น่าใช่วัณโรค เดี๋ยวหมอให้ยาแก้แพ้ไปก่อนถ้าไม่ดีขึ้นยังไงกลับมาตรวจใหม่นะครับ เราก็กลับบ้านไปพร้อมยา 20 เม็ด เราก็กินๆไป อาการก็ไม่ดีขึ้น รพ.ก็หยุดสงกรานต์ บ้านเราอยู่ไกลด้วย ก็ขี้เกียจมา ผ่านไปสามวันเลยไปคลินิกแถวบ้าน ลุงหมอก็วินิจฉัยว่าเป็นหลอดลมอักเสบ ก็ฉีดยาไปเข็มนึง แล้วงดพูดสามวัน (อันนี้คือเราเงิบมากกกก ไอแคนท์ดูอิทค่ะหมออ TT) ฉีดยาผ่านไปวันนึง เห้ย ดีขึ้นอะ ไอน้อยลงละ แต่พอวันที่สอง ก็กลับมาเหมือนเดิม ไอทั้งคืนไม่ได้หลับได้นอน อีกวัน(21เม.ย 2557) เราตื่นเตรียมตัวจะไปเรียนละ แต่คืออาการร่อแร่มากเพราะแทบไม่ได้นอนเลบ ก็เลยว่าจะแวะไปหาหมอก่อน ซ้อนมอไซแม่ ไปได้ครึ่งทาง เราก็เป็นลมกลางทาง แม่เลยโทรบอกพี่สาวกับพี่เขยให้ขับรถมา รับ พอถึงรพ.ตอนนั้นก็สายละ คนเยอะมากกกกกก จนท.ก็แนะนำเราว่า ให้ไปตรวจคลินิกของนศ.ในมอแล้วให้หมอส่งเรื่องมา จะเร็วกว่า เราก็ควบมอไซค์แม่ ไม่ทันออกรถ เราเป็นลมอีกแล้วจย้า จนท.เลยเข็นเราไปห้องฉุกเฉิน หมอก็มาตรวจนู่นนี่ ส่งเอกซเรย์ อัลตร้าซาวด์ปอด จนผลเอกซเรย์ออก พบว่า เรามีก้อนเนื้ออยู่บริเวณอกซ้าย ซึ่งต้องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ดูอีกที ว่าหน้าตานางเป็นยังไง คืออะไรกันแน่ แต่คิวที่ได้คืออีกเดือนกว่าาาาาาาาา !!!!  แม่ก็แบบ เห้ยยย แค่นี้เราก็เป็นลมละ กว่าจะถึงคิวนี่ไม่ตายก่อนหรอ ซึ่งถ้าจะให้เร็วก็ต้องทำที่คลินิกพิเศษ ซึ่งเราไม่มีตังค์แน่นอนนนน  หมอก็เลยช่วยขอเลื่อนคิวขึ้นมาให้ ได้เร็วขึ้นมา 2 สัปดาห์  ซึ่งก็ถือว่านานอยู่ดีกับอาการตอนนั้น เราก็เลยขึ้นไปหาอาจารย์ภาควิชาเรา ขออาจารย์ช่วยหน่อย อาจารย์ก็โทรๆคุยกัน ขอให้ได้เป็นอีกวันถัดมาเลย เย้ๆๆๆ
                        *ขอขอบคุณอาจารย์เนตรดาว กับอาจารย์สมพงษ์ มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ **




- สวัสดีโรงพยาบาล -
        
         หลังจากเราเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ไปละ ก็กลับไปไอต่อที่บ้านอย่างสนุกสนาน  ซึ่ง ฟังอีก 3 สัปดาห์ค่าาาาา  ซึ่งเราแทบจะกินอะไรไม่ได้เลย ก็แบบ เห้ยยยย สามอาทิตย์เลยนะ จะไหวหรออออออ ผ่านไปสี่วันเราเลยโทรหาลูกพี่ลูกน้องสะใภ้ที่เป็นคุณหมออยู่ที่รพ.ว่าช่วยไปดูผลให้หน่อย ตอนนี้น้องไม่ไหวแย้ววววว พี่เราก็ไปดูให้ เห็นผลออกมาละ ละบอกให้ไปตรวจที่วอร์ดโรคปอดดูเลย บอกหมอว่ามาเอกซเรย์ไว้แล้ว เราก็ไปจ้าาาาาาาา คุณหมอก็ดูๆผล แล้วสั่งแอดมิท ทำ biopsy (เจาะชิ้นเนื้อ) และนี่คือการนอนรพ.ครั้งแรกในชีวิตหลังตอนเกิดของเราาาาา



ซึ่งปกติแล้ว วอร์ดอายุรกรรมธรรมดานี่จะไม่ให้ญาติเฝ้า แต่เรายังเป็นเด็กน้อยน่ารัก พยาบาลเลยให้แม่นอนด้วยได้ด้วยยยย จัดไปเลยจ้าาา สามวันสองคืน

       *ขอขอบคุณพี่ปุ้ม พญ.ปรัชญพร เปรมกมล คุณหมอกันต์ คุณหมอและเจ้าหน้าที่พยาบาลดูแลเคส และประจำวอร์ดทุกคนด้วยนะคะ* พาพันขอบคุณพาพันขอบคุณ


- ไข้ขึ้น -

      หลังจากทำ biopsy เรียบร้อยแล้ว ไม่มีอาการข้างเคียง เราก็กลับบ้านอย่างสบายอุรา (รอผล 4 สัปดาห์ TT_________TT)  ซึ่ง ตั้งแต่ออกจากรพ.ไปถึงบ้าน เราก็เริ่มมีไข้ (ไอเหมือนเดิม) กินยาแก้ไข้ เป็นๆหายๆตามฤทธิ์ยา กินยาเช้า ออกฤทธิ์เย็น งี้ก็มี แต่เราก็ไม่ยอมไปหาหมอนะเพราะช่วงนั้นกำลังจะสอบซัมเมอร์ ทำรายงานส่งอาจารย์งี้ เราก็แบบ เดี๋ยวสอบๆให้เสร็จละค่อยไปรพ.ละกันเนอะะ จนผ่านไป 8 วัน พี่สาวเรามาหา ก็บอกว่าน้องไปหาหมอก่อนมั้ย เรื่องเรียนไม่เป็นไรหรอก ยังไงก็ตามทัน พี่ข้างบ้านก็บอกว่าเนี่ย ค่อยขอสอบทีหลังก็ได้นั่นนี่ เราก็โอเคค่า ไปรพ.กันนนน ไปถึงรพ.ยาออกฤทธิ์พอดี ไม่มีไข้ แต่เราเดินจากรถมาห้องตรวจนี่หัวใจเต้นร้อยกว่า หมอฟังปอดไม่ได้ยินละ จับส่งฉุกเฉิน เอกซเรย์ ปอดซ้ายหายยยยย!!!!! แอดมิทโลดดดดดดดดดด


เราก็นอนรพ.ผ่านไป 1 คืนแบบทรมานมากกกก เพราะวอร์ดที่เราอยู่เป็นโซนคนไข้หนัก มีเครื่องนั่นนู่นนี่เต็มไปหมด อากาศไม่ถ่ายเทเลยยยยย ห้องนิดเดียว เตียงคนไข้ติดๆๆๆๆๆๆกัน ยัดๆกันหกเจ็ดเตียง ร้อนมากกกกก แต่เราโดนพัดลมไม่ได้ โดนก็ไอๆๆๆ ก็เลยเช็ดตัวเอา เหงื่อออกติดที่นอนเป็นรูปตัวเลยนะ  จนวันที่ 2 พยาบาลมาวัดไข้ตอนเช้า เรามีไข้อ่อนๆ (37.7) ซึ่งปกติเขาก็ไม่ให้ยา ให้เช็ดตัวแทน แต่คือออออออ ผ่านไป 7 ชั่วโมงไม่มีการวัดซ้ำใดๆทั้งสิ้น ไข้เราก็ขึ้นเอาๆ แต่แม่เราเฝ้าตลอดนะ เอาเสื่อมาปูทางเดินละเดินมาดูเราตลอดทั้งคืน TT พอ 5 ทุ่มคืนนั้นเราก็โทรหาแม่ว่าเข้ามาหาหน่อย ขอพยาบาลวัดไข้ให้หน่อย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้   เราก็กินยาเข้าไป  ผ่านไปครึ่งชม.เราแบบ หายใจไม่ออกละ เหมือนสูดเข้าไปละไม่มีอากาศอยู่ โทรเรียกแม่ หมอ พยาบาล ก็วิ่งกรูกันมา หมอตัวน้อยๆสุดหล่อ( อีกแล้ววววว5555) ของเราก็บอกว่า เดี๋ยวหมอต้องใส่เครื่องช่วยหายใจให้หนูนะครับ หนูต้องให้ความร่วมมือนะ ไม่งั้นจะเจ็บ จะลำบาก เราก็ค่ะๆๆๆๆ (อะไรก็ได้ค่ะหมออออ หนูไม่ไหวแล้วววว)  พยาบาลก็ขันเตียงลง ซึ่งเราต้องนอนราบ ไม่สามารถหายใจได้แล้วค่าาาา เราก็ตะโกนออกมาว่า  หมอออออออ ไม่เอาแล้วววววววว พร้อมเอื้อมแขนไปกอดเอวหมอไว้ แล้วทุกอย่างก็ดับวูบบบบบบบบบบ  [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

เที่ยงคืนกว่าแล้วง่าาาา ขอตัวไปนอนก่อนนะค้าาา เดี๋ยวพรุ่งนี้ว่างๆมาต่อให้ จุ๊บๆ เพี้ยนฝันดี

ปล.นี่กระทู้แรกในชีวิต ทำไม่เปนนนน ถ้าอ่านยาก อยากให้แก้ไข หรือมีข้อแนะนำอะไรยังไงบอกได้นะเจ้าจุ๊บๆเพี้ยนเพลีย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่