ผมมีเรื่องจะมาเล่าให้ชาวพันทิพได้อ่านกันนะคับ ผมได้รู้จักผู้ชายคนนึงซึ่งตอนแรกผมก็ไม่ค่อยชอบหน้าเขาเท่าไหร่ เพราะเขาเรียนเก่งมาก (แอบด่าในใจ) แต่อะไรไม่รู้ดลใจ วันนั้น เขาซื้อกระต่ายมาให้แฟนที่เป็นผู้หญิงเลี้ยง แต่ผมดันเหยียบเข้า หน้าเอ๋อสิครับ เพราะเขาอุส่าต์ตั้งใจจะซื้อให้แฟนเขา ผมได้แต่ขอโทษ ทำหน้าไม่ถูก ผ่านไปปีกว่า เราเข้าม.สี่ด้วยกัน แถมยังได้อยู่ห้องเดียว แต่ก็ยังไม่ได้สนิทอะไรด้วย เพราะเคยทำผิดนี่นา ผมและเขาอยู่คนละแก๊ง ผมจะชอบปกับผู้หญิงส่วนเขาก็ไปกับพวกผู้ชาย เรื่องราวก็ดำเนินผ่านไป จนมาถึงช่วงสอบเทอม2 ก็เริ่มจะคุยกันมากขึ้นเพราะเราโง่ ต้องอาศัยถามในวิชาที่ยังสงสัย หลังจากสอบเสร็จช่วงปิดเทอม ผมได้ไปเรียนพิเศษที่ขอนแก่น รู้สึกเหงามาก เลยโทรหาเพื่อนในห้องว่าแต่ละคนไปไหนมาบ้างตอนปิดเทอม จนกระทั่งผมก็โทรหาเขาและเราก็คุยกันมากขึ้นจนเริ่มสนิทกัน บางวันคุยเกือบ 3 ชั่วโมง ตอนนั้นก็ยังไม่ได้คิดอะไรมากเพราะเขาคือเพื่อนร่วมชั้น คุยกันทุกวันจนถึงเวลาเปิดเทอม ม.5 ผมและเขาได้ย้ายโต๊ะมานั่งด้วยกัน เพื่อนในห้องต่างก็แซว ทำเอาผมอายมากและไม่รู้จะแก้ตัวอะไร เพราะช่วงนั้นเราสนิทกับเขามากจิงๆ มีงานอะไรเขาก็จะช่วยผมมาโดยตลอด ผมและเขาคุยกันทุกวันจนไม่รู้ว่าผมและเขาเป็นแฟนกันได้ยังงัย ครูแต่ละคนเริ่มเห็นผมไปกับเขา ก็มีแซวบ้าง ชีวิตก็ดำเนินไปเรื่อยๆ จนกระทั่ง ม.6 โรงเรียนผมเข้ารับโรงเรียนในฝัน พวกเราต่างมีหน้าที่ของแต่ละคน โดยที่เขารับหน้าที่พิธีกรและดูแลผู้ที่จะมาประเมิน ส่วนผมได้ประจำอยู่ที่ห้องคณิตศาสตร์ สรุปว่า พอหลังการประเมินโรงเรียนพวกเราผ่าน พวกผมดีใจมากคับที่มีส่วนให้โรงเรียนผานการประเมินในครั้งนี้ ต่อไปไม่นานก็เริ่มสอบ โอเน็ต เอเน็ต เราขี่มอไซต์ไปสอบกัน พอหลังจากสอบเสร็จแล้วก็จะมีเวลาว่างไปนั่งพักผ่อนก่อนที่เราจะกลับบ้าน บอกเลยว่าช่วงนั้นมีความสุขมาก เพราะเป็นรักครั้งแรกที่ผมมีเลย และเขาเหมือนกับว่าทุ่มเททุกอย่างให้กับผม หลังจากสอบเสร็จ พวกเราจะจบ ม.หกแล้ว ช่วงที่จัดงานปัจฉิมทิเนศนั้น ผมและเขาทะเลาะกันด้วยเหตุที่ว่าเขาไม่ค่อยสนใจผมรึเปล่าไม่รู้ (แอบงอล) เขาพยายามที่จะมาถ่ายรูปกับผม แต่ผมดันไม่สนใจเขา ผมก็ให้เวลากับเพื่อนนนซะส่วนใหญ่ แต่ก็แอบมองเขาอยู่บ้าง จนสุดท้ายเพื่อนก็ลากผมและเขามาถ่ายรูปด้วยกัน เขาโทรมาง้อและถามว่าทำไมไม่คุยกับเค้าทั้งๆที่ ขอไม่ได้ทำไรผิด ณ วินาทีนั้น ผมพูดไม่ออก เราเงียบทั้งคู่ ต่างคนต่างถือสายรอให้ใครพูดก่อน ก็ไม่มีใครพูด ผมอ่ะน้ำตาไหล ร้องไห้ แต่ก็พยายามไม่ให้มีเสียงเพราะรู้ว่าตัวเองผิดเต็มๆ ผมไม่รู้ว่าเขาร้องไห้รึเปล่าเพราะต่างคนก็เงียบไป ในใจรู้สึกผิดมาก วันต่อมาเลยส่งข้อความไปขอโทษ หลังจากนั้นเราสองคนก็กลับมาคุยกันปกติเหมื๊อนเดิมทุกอย่าง จบ.ม.ปลายแล้ว ผมและเขาต้องหาที่เรียนต่อ ครอบครัวผมอยากให้เรียนสายสุขภาพ ผมก็ไปสมัครหลายที่มาก และชวนเขาไปสมัครด้วยเผื่อได้เรียนที่เดียวกัน แต่เขาบอกว่าไม่ชอบ เพราะกลัวเข็ม เขาอยากรับราชการครู ผมก็เลยตามใจเขา จนในที่สุดผมติดเด็กพิเศษ สาธารณสุข ที่มหาลัยในอิสาน ไปแล้ว รายงานตัวเรียบร้อย ส่วนเขาก็ติด ครุศาสตร์ เหมือนกัน ต่างคนต่างแสดงความยินดีแก่กัน ทำให้รู้ว่าผมรักเขามาก และเชื่อว่าเขาก็รักผม อีกไม่นานครอบครัวให้ผมยื่นคะแนนไปเรียนที่ วสส.ชลบุรี ผมก็ลงตามที่พ่อแม่บอก เพราะไม่คิดวาตัวเองจะติด ปรากฎว่า ติดที่นั่น พ่อและแม่พาผมไปลาออกจาก มหาลัยที่ผมรายงานตัว และให้ผมไปเรียนที่ชลบุรี ตอนนั้น เรารู้สึกว่าจะต้องห่างกันไกบขนาดนี้เลยหรา เพราะรู้สึกว่าคิดถึงและแอบหวงว่าเขาจะติดสาวที่ไหนรึเปล่า กังวล สับสน แต่ทำงัยได้ก็ต้องไปเพื่อให้ครอบครัวสบายใจ ช่วงเรียนแรกๆ มีรับน้อง ทั้งโหดและฮา ต่างคนต่างเล่าสู่กันฟังทุ๊กวันนนนนน แแแต่ไม่รู้ทำไมหลังจากรับน้องกำลังจะเสร็จ ผมเองเกิดไม่รับโทรศัพท์เขาและหาข้ออ้างว่า โทรมาบ่อยรำคาญ ช่วงนั้นอาจเป็นเพราะเหนื่อยทั้งเรียน เข้ารับน้อง นอนดึก ทำการบ้านอีก เลยไม่รับ โทณศัพท์เขา เขาโทรมาวันละเกือบร้อยสาย โทรมาทุกวัน จนบางครั้งจนต้องปิดเครื่องหนี เขาทั้งโทรและส่งข้อความมาบอกว่าเขาทำไรผิด ถึงไม่ยอมคุยกับเขา เขาทำแบบนี้ประมาณ หนึ่ง เดือน ตอนนั้นยอมรับเลยว่าคิดอะไรอยู่ถึงทำเช่นนั้นไป (ผมไม่ได้มีคนอื่นนะคับ) หลังจากนั้นเขาก็เริ่มโทรมาหาน้อยลง จนกระทั่ง ปิดเทอมแรกของปี หนึ่ง เขาก็เงียบหายไป และผมก็ไม่ได้โทรหาเขาอีกเลย เราไม่ได้ติดต่อกันอีก ต่างฝ่ายต่างอยู่คนเดียว จนเพื่อนโทรมาถามหลายคนเลยว่า ทำไมไม่คุยกัน เลิกกันแล้วหรา รู้มั๊ยว่าเขาคิดถึงมากแค่ไหน เขาจากที่คนร่างเริง สนุกสนาน กลับมาทำหน้าซึม เหม่อลอย ร้องไห้ ผมก็เลยบอกเพื่อนว่าไม่รู้สิ อยู่ๆมันรู้สึกบื่อๆ แต่กูไม่ได้มีคนอื่นนะเว้ย กูก็ยังรักเขาเหมือนเดิม อาจป็นเพราะโชคชะตาเราไม่ได้คู่กันมั่ง ผมและเขาก็เลยเป็นแบบนี้ พอช่วงปีสาม ทราบข่าวว่าเขามีแฟนใหม่ เป็นรุ่นน้องที่คณะเขา เขากลับไปรักผู้หญิงเหมือนเคย ผมก็ยินดีด้วยกับเขา ที่เขาโชคดีที่เจอคนที่รักเขามาก แต่ผมก็แอบส่องเฟสบุ๊ึเขาตลอด ดูแลอยู่ห่างๆ
ทุกวันนี้ เราต่างเรียนจบทั้งคู่แล้ว ผมทำงานที่ รพ.สต. จะ2ปีละ ส่วนเขาพึ่งเรียนจบและสอบรับราชการครูได้ที่บ้านเกิดตัวเอง สอนที่โรงเรียนน่าจะขยายโอกาสใน อ.กุดบาก ผมยังถามข่าวคราว เรื่องเขาเสมอ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่างน้อยความสัมพันธ์ของเพื่อน(ที่เรียกได้ว่าแฟนเก่า) ก็ยังโอเคร ณ จุดนี้ ถ้าย้อนเวลาได้คงไม่อยากเสียเทอไปหรอก เพราะเขาคือรักแรกของผม ผมจะรักและคอยแอบมองเขาอยู่ห่างห่างอย่างนี้ ถึงแม้รู้ว่ารักของผมและเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก
ขอบคุณที่มอบความรักให้กันตลอดระยะเวลา 2ปีกว่าๆ
รักและคิดถึงตลอดไป ..........
เรื่องราวดีดีระหว่างผมและแฟน(เพื่อน)เก่า
ทุกวันนี้ เราต่างเรียนจบทั้งคู่แล้ว ผมทำงานที่ รพ.สต. จะ2ปีละ ส่วนเขาพึ่งเรียนจบและสอบรับราชการครูได้ที่บ้านเกิดตัวเอง สอนที่โรงเรียนน่าจะขยายโอกาสใน อ.กุดบาก ผมยังถามข่าวคราว เรื่องเขาเสมอ ถึงแม้เราจะไม่ได้เป็นอะไรกัน อย่างน้อยความสัมพันธ์ของเพื่อน(ที่เรียกได้ว่าแฟนเก่า) ก็ยังโอเคร ณ จุดนี้ ถ้าย้อนเวลาได้คงไม่อยากเสียเทอไปหรอก เพราะเขาคือรักแรกของผม ผมจะรักและคอยแอบมองเขาอยู่ห่างห่างอย่างนี้ ถึงแม้รู้ว่ารักของผมและเขาจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้อีก
ขอบคุณที่มอบความรักให้กันตลอดระยะเวลา 2ปีกว่าๆ
รักและคิดถึงตลอดไป ..........