ขอระบายหน่อยเถอะ ต้องขออภัยหากยาวไปหน่อย เพราะรู้สึกเหมือนถูกทำให้โง่ และที่นี่เมืองไทย ใครคิดจะทำอะไรหลอกลวงใครไม่รักษาสัญญากับใคร (เน้นธนาคาร!!!!!) ย่อมทำได้.....เพราะไม่มีใครคุ้มครองคนที่มีฐานะเป็นผู้บริโภค เจ็บใจสุดๆ
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2556 ฉันตัดสินใจเปิดบัญชีทวีทรัพย์เพื่อเข้าโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตของธนาคารกสิกรไทย เพราะหวังว่าจะได้เพียงแค่บัตรเครดิตสักใบ เพื่อเริ่มสร้างเครดิต เนื่องจากฉันไปอยู่ต่างประเทศมา 6 ปี (ฉันลาออกจากงานราชการและย้ายไปปี พ.ศ.2549 ไม่เคยมีบัตรเครดิตมาก่อนและคิดว่าช่วงนั้นบัตรเครดิตยังไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรในไทย และฉันย้ายกลับมาปี พ.ศ.2555) และฉันได้ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อมีชื่อ/มีสิทธิ์ตามที่โครงการระบุทุกอย่างเรียบร้อย
เพื่อนๆคงเข้าใจในการทำธุรกรรมต่างๆในปัจจุบัน ถ้าไม่มีบัตรเครดิตก็จ่ายสินค้า ซื้อสินค้า จ่ายค่าบริการ บางอย่างไม่ได้เลยซึ่งเขาไม่รับเงินสด ไม่รับแม้บัตรเดบิตอีกต่างหาก!
หลังจากการฝากเงินงวดที่ 12 ในเดือน ก.พ. 2557 ฉันจึงทำการสมัครขอบัตรเครดิตที่ธนาคารกสิกรไทยที่ฉันเปิดบัญชีไว้ หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ กสิกรไทยได้ส่งจดหมายมาแจ้งว่า"ไม่อนุมัติเนื่องจากข้อมูลของท่านไม่ผ่านตามเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร ในการนี้ ธนาคารได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร และรายละเอียดเอกสารประกอบการพิจารณาได้ที่ www.kbankcard.com" ฉันไม่ว่างศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงถูกปฏิเสธ ได้แต่มองแง่ดีว่า ไม่เป็นไร สักพักค่อยยื่นขอใหม่
จน 18 ส.ค. 2557 ฉันได้โทรศัพท์สอบถามสาเหตุ ธนาคารแจ้งว่ามันเกิน 3 เดือนแล้ว ไม่มีข้อมูลในระบบ แนะนำให้ฉันยื่นขอบัตรเครดิตใหม่ ฉันจึงขอให้เช็คว่าฉันมีสิทธิ์ตามโครงการไหม เธอบอกว่าฉันมีสิทธิ์.....
ดังนั้น หลังจากการฝากเงินงวดที่ 24 งวดสุดท้าย ฉันได้กลับไปที่กสิกรสาขาเดิม ในวันที่ 13 ม.ค. 2558 เพื่อสมัครขอบัตรเครดิตผ่าน"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต"อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ที่รับใบสมัครได้โทรศัพท์ติดต่อ call center และถ่ายทอดคำพูดว่าฉันต้อง register ก่อน ฉันบอกว่าฉันสมัครเข้าโครงการและมีสิทธิ์แล้ว ฉันจึงโทรศัพท์ไป call center คุยเองก่อนแล้วจึงยื่นให้เจ้าหน้าที่คนนั้นคุยต่อ เสร็จ ฉันสังเกตุเห็นในใบสมัครไม่มีช่องสี่เหลี่ยมให้กาหรือให้ติ๊กว่า"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต" เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ตอบไม่ได้ จึงโทรศัพท์ไป call center อีก และทาง call center บอกเธอว่าให้ใส่โค๊ด/รหัสของโครงการว่า 1767 ซึ่งฉันมีความรูสึกว่าไม่คุ้นเลยและไม่น่าจะใช่ด้วย แต่ไม่อยากโต้แย้ง เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงบอกว่าภายใน 1-2 อาทิตย์ทราบผล
เมื่อกลับมาบ้าน ฉันได้ค้นพบ copy กระดาษระบุวิธีลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่เจ้าหน้าที่สาขา (แต่เขาย้ายไปแล้ว) ที่ฉันเปิดบัญชีเมื่อ 5 ก.พ. 2556 ให้มา ระบุชัดเจนว่าโค๊ด/รหัสโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต คือ DKL 1 ฉันจึงได้โทรศัพท์ไป call center 15 และ 16 ม.ค. 2558 พยายามแจ้งว่าโค๊ด/รหัส 1767 ที่เจ้าหน้าที่ที่สาขาใส่ไปอาจไม่ถูกต้อง น่าจะเป็น DKL 1 ตามในเอกสารแต่เขาไม่ว่าอะไร ว่า 1767 ถูกต้องแล้ว!
พอเย็นวันที่ 20 ม.ค. 2558 มีข้อความจากกสิกรเข้ามาที่มือถือฉันว่าธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิต! และจดหมายจะส่งภายใน 7 วัน ฉันจึงโทรศัพท์เข้าไปถามว่าทำไมไม่อนุมัติ เจ้าหน้าที่กสิกรว่าขาดเอกสารรายได้ ฉันว่าก็กสิกรระบุว่าบัญชีทวีทรัพย์ใช้แทน slip ได้เลย แล้วทำไมยังต้องการ slip อีก ฉันอาชีพอิสระไม่มีนายจ้าง จะเอา slip ที่ไหน เพราะแบบนี้จึงมาเข้าโครงการนี้ไง! เสร็จเจ้าหน้าที่นั้นบอกว่าจะสอบถามไปที่สาขาและจะแจ้งให้เราทราบ
วันที่ 21 ม.ค. 2558 ผู้ช่วยธนาคารกสิกรสาขาที่ฉันเปิดบัญชีและขอบัตรเครดิตโทรมาว่าเขาทราบแต่ว่าทางสำนักงานใหญ่ระบุว่าใบสมัครฉันยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน เขาบอกว่าไม่ทราบว่าถูกแจ้งว่าไม่อนุมัติ เขาถึงไม่ได้โทรติดต่อฉัน ฉันถามว่าทำไมเขาไม่อนุมัติ เธอว่าขาดเอกสารเพิ่มเติม ฉันถามว่างั้นแม้จะส่งเอกสารเข้าไปเพิ่มเติมก็คงไม่ทันสิ เพราะเขาไม่อนุมัติไปแล้ว เธอบอกว่าใช่ ไม่ได้แล้ว เพราะไม่อนุมัติไปแล้ว
ตอนนี้ ฉันไม่รู้สึกอะไรกับการอนุมัติหรือไม่ ฉันเพียงแต่ต้องการหาข้อมูลว่า"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต"ของกสิกรนี้ แหกตาใช่ไหม? เพราะในช่วงก่อนหน้าที่ฉันจะไปขอบัตรเครดิตอีกครั้ง ฉันได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ ฉับได้พบข้อมูลและกระทู้บน pantip ด้วย facebook ด้วย เกี่ยวกับคนที่ไปฝากเงินกับกสิกรไทยเพื่อเข้าโครงการนี้ เพราะต้องการขอบัตรเครดิตเหมือนฉันและไม่ผ่านมากเหมือนกัน ฉันจึงเพิ่งเข้าใจ
ต้องขออนุญาตคัดลอกข้อมุลจาก facebook ของคุณ Jurujuru Kodomo ที่เธอโพสต์ถามและมีเจ้าหน้าที่จากกสิกรตอบเธอ
https://th-th.facebook.com/KBankLive/posts/10151780355357891
พอฉันอ่าน ฉันจึงเข้าใจในกลยุทธหมกเม็ดที่ธนาคารไม่เคยแจ้งให้ผู้ฝากได้รับรู้เงื่อนไขก่อนเริ่มต้นฝากเงินเข้าโครงการนี้ว่า "ต้องฝากเงินเข้าบัญชีในทุกวันที่ 1 ของเดือนทุกเดือนตลอดระยะเวลา 2 ปีหรือ 24 งวด เพื่อที่เวลากสิกรมาหาค่าเฉลี่ยต่อเดือนจะได้เท่ากันๆทุกเดือน และยอดเป็นยอดที่เราได้ฝากเข้าไปจริงๆ เช่น ถ้าฝาก 4,000 บาท ทุกวันที่ 1 ทุกเดือนเป็นเวลา 24 เดือน เงินค่าเฉลี่ยที่กสิกรคิดจะได้เท่ากับ 4,000 บาท แต่.....ขอย้ำคำว่าแต่!!! กสิกรไม่เคยบอก ไม่บอก.......แต่ตอนที่ฉันคุยกับเจ้าหน้าที่ call center ทางโทรศัพท์ เขาว่าถึงกระนั้น ยอดเงิน 20,000 บาท ของฉันเข้าทุกวันที่ 5 ของเดือน เมื่อมาหาค่าเฉลี่ยก็ยังมากกว่าขั้นต่ำ 4,000 บาท ที่กสิกรกำหนดอยู่ดี ฉันบอกว่าฉันรู้และฉันเห็นด้วย......แล้วกรณีของฉัน กสิกรใช้อะไรส่วนไหนของร่างกาย (ถ้ามี) คิดล่ะ? ไม่มีอะไรมากมาย....ฉันว่ามันแค่สัจธรรม....ที่คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด....
22 ม.ค 2558 ฉันยังได้รับโทรศัพท์จากกสิกรซึ่งพูดกันไม่เข้าใจเพราะบุคคลที่โทรมาไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตเลย ฉันจึงบอกว่าให้เจ้าหน้าที่ที่รู้เกี่ยวกับโครงการหรือปฏิบัติงานในโครงการนี้อยู่โทรมาคุยดีกว่า เขาว่าจะให้คนที่รู้โทรกลับมาภายในวันนั้นแต่ไม่มี....
24 ม.ค. 2558 ฉันจึงได้รับจดหมายที่แจ้งว่าไม่อนุมัติ ระบุว่า "เอกสารประกอบการสมัครไม่ครบถ้วน/ไม่สมบูรณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด" และยังกล่าวเท็จโป้ปดอีกว่า "และธนาคารได้มอบหมายให้พนักงานติดตามเอกสารเพิ่มเติมจากท่านแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันพบว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วน/ไม่สมบูรณ์ เป็นผลให้ธนาคาร ไม่สามารถอนุมัติบัตรเครดิตกสิกรไทยให้ท่านในขณะนี้ได้ รายละเอียดเอกสารที่ธนาคารต้องการเพิ่มเติม มีดังต่อไปนี้ -สำเนา statement ต่อเนื่องย้อนหลัง 6 เดือนที่ใช้ทำธุรกิจ".......ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะโกหกหน้าตายพูดมาได้ว่าให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมจากฉันแล้ว แต่ฉันนิ่งเฉย!!! ฉันจึงโทรเข้าไปบอกว่าโกหกไม่มีใครบอกขอเอกสารเพิ่มเติมมีแต่บอกว่าไม่อนุมัติอย่างเดียวเท่านั้น และเวลาฉันถามและพูดถึงโครงการก็ไม่เคยมีใครที่กสิกรนี่คุยรู้เรื่องหรือตอบคำถามฉันได้เลยสักคน และเวลาพูดบอกข้อมูลต่างๆ ก็ไม่เคยเหมือนกันสักครั้ง.....ฉันโกรธมากและถามว่าการสนทนานี้มีการบันทึกเสียงไว้ไหม? เขาบอกว่าบันทึก ฉันบอกว่าดี ควรให้กสิกรเปิดฟังดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง การบริการที่ไม่ได้เรื่อง คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง ควรแก้ไข ปรับปรุง จนเจ้าหน้าที่นั้นบอกว่าถ้าฉันยื่น statement 6 เดือนย้อนหล้งเข้าไป เขาว่าจะเอาใบสมัครมาดำเนินการใหม่อีกครั้ง แต่ฉันโกรธมาก ได้วางหูไป
จน 28 ม.ค. 2558 ฉันลองโทรเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่คุยกันครั้งสุดท้าย เกี่ยวกับคำพูดเขาที่ว่าถ้าฉันส่งเอกสารเพิ่มเติมให้เขา แล้วเขาจะดำเนินการให้ ซึ่งฉันก็พยายามอธิบายว่าตาม F&Qhttp://www.kasikornbank.com/TH/PromotionPrivileges/Pages/SavingForFuture_FAQ.aspx ของกสิกรระบุไว้ในข้อ 9 ว่า
9. การยื่นขอสินเชื่อไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารประกอบรายได้ ใช่หรือไม่
ตอบ เมื่อลูกค้าเดินบัญชี ครบกำหนดตามเงื่อนไขสามารถขอสินเชื่อประเภทต่างๆ ได้ตามที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารประกอบรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน, Statement ประกอบการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ตามเอกสารประเภทอื่นๆ เช่น เอกสารแสดงความมีตัวตน หรือ มีกิจการ รวมถึง เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับหลักประกันอื่นๆ ยังคงต้องใช้อยู่ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนการค้า, รูปถ่าย+ที่ตั้งร้านค้า, สำเนาโฉนดที่ดิน, แบบแปลนก่อสร้าง, สัญญาจะซื้อ-จะขาย ฯลฯ
มันแสดงไว้ว่า statement ไม่ต้องใช้!!!!! แต่เจ้าหน้าที่นั้นตอบว่าการขอบัตรเครดิตอย่างเดียวจำเป็นต้องใช้ statement ด้วย เพราะ ธปท.กำหนด ธปท. เป็นผู้อนุมัติ แต่ถ้าเป็นสินเชื่ออื่นๆ ไม่ต้องใช้เพราะว่ากสิกรพิจารณาและอนุมัติได้เอง.......
ฉันจึงนึกในใจว่าครั้งสุดท้ายที่จะลอง ใจเย็นถามว่าเอา sure เลยว่าต้องการแค่ statement โดยให้ไปขอที่ธนาคารที่ฉันมีบัญชีเข้าออก 6 เดือนย้อนหลังเท่านั้น พอฉันถามว่าแล้วจะให้ส่งอย่างไร เขาบอกว่าส่งที่สาขาที่ฉันเปิดทวีทรัพย์/ขอบัตรเครดิต หรือสาขาไหนก็ได้ แต่แล้วเขาก็บอกให้ฉันรอสักครู่และเขาหายไปพักใหญ่เลย พอกลับมา เขากลับเปลี่ยนคำพูดว่าหลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมต้องเป็นเอกสารหรือจดหมายแสดงที่มาของรายได้ (ประมาณว่าต้องการมั่นใจว่าไม่โกหกเกี่ยวกับที่มาของรายได้) ซึ่งมันต่างจาก statement ย้อนหลัง 6 เดือนโดยสิ้นเชิง! ฉันถามว่าฉันมีรายได้รับเป็นเงินสด จะไปเอาเอกสาร/จดหมายที่ว่าจากไหน? เขาจึงบอกว่าเขาถาม (ใครก็ตาม...ที่เขาหายไปพักใหญ่) มาเผื่อเพราะเห็นว่าฉันต้องการบัตรเครดิตจริงๆว่ายังมีอีก 1 ช่องทาง คือ สมัครขอบัตรเครดิตโดยใช้เงินฝากทวีทรัพย์ค้ำประกัน ฉันบอกว่าฉันรู้.....แต่ที่ฉันฝากเงินทวีทรัพย์โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตนี้ก็เพื่อจะขอบัตรเครดิตจากสิทธิประโยชน์ของโครงการ ฉันโกรธอีกและพูดว่า เอางี้ พูดง่ายๆดีกว่า "FORGET IT!" ใช่ไหม? โครงการนี้มันไม่มีอยู่จริง.....
ฉันเล่าให้แฟนฟังทั้งหมด เขาบอกว่า It's a spam!.....Crooked.....เขาว่าทำไมกฏหมายเมืองไทยทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ กฏหมายเมืองไทยมีแต่เอื้อประโยชน์ให้พวกเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจพวกนี้ เอาเปรียบผู้บริโภคอย่างฉัน อย่างเพื่อนๆหลายๆคน ไม่เป็นไร อย่างน้อยฉันได้เขียนประจาน ได้ถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง.....แต่ฉันจะไม่ยอมโง่อีก ฉันจะไม่ทำธุรกิจ ธุรกรรมอะไรกับธนาคารนี้อีกแล้ว ขออนุญาตยกสุภาษิตภาษาอังกฤษที่เขากล่าวไว้ว่า " Fool me once, shame on you. Fool me twice, shame on me ". หลอกฉันได้หนเดียว หนเดียวจริงๆ ไม่ยอมโง่หนสองแน่!
แต่มีอยู่อย่างที่ฉันสงสัย เพื่อนๆคนไหนมีความรู้ช่วยบอกทีว่าที่กสิกรไทยบอกว่าการขอบัตรเครดิตในโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตต้องผ่านการอนุมัติ/เห็นชอบจาก ธปท. นั้นเป็นเรื่องจริงหรือ? ถ้าจริงเพราะอะไร? มันไม่ใช่ดุลพินิจของกสิกรไทยเองหรือ? รบกวนเพื่อนๆด้วย ขอบคุณ.....
โง่กับโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตกสิกรไทยจนได้
เมื่อวันที่ 5 ก.พ. 2556 ฉันตัดสินใจเปิดบัญชีทวีทรัพย์เพื่อเข้าโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตของธนาคารกสิกรไทย เพราะหวังว่าจะได้เพียงแค่บัตรเครดิตสักใบ เพื่อเริ่มสร้างเครดิต เนื่องจากฉันไปอยู่ต่างประเทศมา 6 ปี (ฉันลาออกจากงานราชการและย้ายไปปี พ.ศ.2549 ไม่เคยมีบัตรเครดิตมาก่อนและคิดว่าช่วงนั้นบัตรเครดิตยังไม่ค่อยมีบทบาทเท่าไรในไทย และฉันย้ายกลับมาปี พ.ศ.2555) และฉันได้ลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมโครงการเพื่อมีชื่อ/มีสิทธิ์ตามที่โครงการระบุทุกอย่างเรียบร้อย
เพื่อนๆคงเข้าใจในการทำธุรกรรมต่างๆในปัจจุบัน ถ้าไม่มีบัตรเครดิตก็จ่ายสินค้า ซื้อสินค้า จ่ายค่าบริการ บางอย่างไม่ได้เลยซึ่งเขาไม่รับเงินสด ไม่รับแม้บัตรเดบิตอีกต่างหาก!
หลังจากการฝากเงินงวดที่ 12 ในเดือน ก.พ. 2557 ฉันจึงทำการสมัครขอบัตรเครดิตที่ธนาคารกสิกรไทยที่ฉันเปิดบัญชีไว้ หลังจากนั้นประมาณ 1 อาทิตย์ กสิกรไทยได้ส่งจดหมายมาแจ้งว่า"ไม่อนุมัติเนื่องจากข้อมูลของท่านไม่ผ่านตามเกณฑ์การพิจารณาของธนาคาร ในการนี้ ธนาคารได้จัดแสดงข้อมูลเกี่ยวกับคุณสมบัติผู้สมัคร และรายละเอียดเอกสารประกอบการพิจารณาได้ที่ www.kbankcard.com" ฉันไม่ว่างศึกษาว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมจึงถูกปฏิเสธ ได้แต่มองแง่ดีว่า ไม่เป็นไร สักพักค่อยยื่นขอใหม่
จน 18 ส.ค. 2557 ฉันได้โทรศัพท์สอบถามสาเหตุ ธนาคารแจ้งว่ามันเกิน 3 เดือนแล้ว ไม่มีข้อมูลในระบบ แนะนำให้ฉันยื่นขอบัตรเครดิตใหม่ ฉันจึงขอให้เช็คว่าฉันมีสิทธิ์ตามโครงการไหม เธอบอกว่าฉันมีสิทธิ์.....
ดังนั้น หลังจากการฝากเงินงวดที่ 24 งวดสุดท้าย ฉันได้กลับไปที่กสิกรสาขาเดิม ในวันที่ 13 ม.ค. 2558 เพื่อสมัครขอบัตรเครดิตผ่าน"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต"อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ที่รับใบสมัครได้โทรศัพท์ติดต่อ call center และถ่ายทอดคำพูดว่าฉันต้อง register ก่อน ฉันบอกว่าฉันสมัครเข้าโครงการและมีสิทธิ์แล้ว ฉันจึงโทรศัพท์ไป call center คุยเองก่อนแล้วจึงยื่นให้เจ้าหน้าที่คนนั้นคุยต่อ เสร็จ ฉันสังเกตุเห็นในใบสมัครไม่มีช่องสี่เหลี่ยมให้กาหรือให้ติ๊กว่า"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต" เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ตอบไม่ได้ จึงโทรศัพท์ไป call center อีก และทาง call center บอกเธอว่าให้ใส่โค๊ด/รหัสของโครงการว่า 1767 ซึ่งฉันมีความรูสึกว่าไม่คุ้นเลยและไม่น่าจะใช่ด้วย แต่ไม่อยากโต้แย้ง เจ้าหน้าที่คนนั้นจึงบอกว่าภายใน 1-2 อาทิตย์ทราบผล
เมื่อกลับมาบ้าน ฉันได้ค้นพบ copy กระดาษระบุวิธีลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการที่เจ้าหน้าที่สาขา (แต่เขาย้ายไปแล้ว) ที่ฉันเปิดบัญชีเมื่อ 5 ก.พ. 2556 ให้มา ระบุชัดเจนว่าโค๊ด/รหัสโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต คือ DKL 1 ฉันจึงได้โทรศัพท์ไป call center 15 และ 16 ม.ค. 2558 พยายามแจ้งว่าโค๊ด/รหัส 1767 ที่เจ้าหน้าที่ที่สาขาใส่ไปอาจไม่ถูกต้อง น่าจะเป็น DKL 1 ตามในเอกสารแต่เขาไม่ว่าอะไร ว่า 1767 ถูกต้องแล้ว!
พอเย็นวันที่ 20 ม.ค. 2558 มีข้อความจากกสิกรเข้ามาที่มือถือฉันว่าธนาคารไม่อนุมัติบัตรเครดิต! และจดหมายจะส่งภายใน 7 วัน ฉันจึงโทรศัพท์เข้าไปถามว่าทำไมไม่อนุมัติ เจ้าหน้าที่กสิกรว่าขาดเอกสารรายได้ ฉันว่าก็กสิกรระบุว่าบัญชีทวีทรัพย์ใช้แทน slip ได้เลย แล้วทำไมยังต้องการ slip อีก ฉันอาชีพอิสระไม่มีนายจ้าง จะเอา slip ที่ไหน เพราะแบบนี้จึงมาเข้าโครงการนี้ไง! เสร็จเจ้าหน้าที่นั้นบอกว่าจะสอบถามไปที่สาขาและจะแจ้งให้เราทราบ
วันที่ 21 ม.ค. 2558 ผู้ช่วยธนาคารกสิกรสาขาที่ฉันเปิดบัญชีและขอบัตรเครดิตโทรมาว่าเขาทราบแต่ว่าทางสำนักงานใหญ่ระบุว่าใบสมัครฉันยังอยู่ในขั้นตอนดำเนินงาน เขาบอกว่าไม่ทราบว่าถูกแจ้งว่าไม่อนุมัติ เขาถึงไม่ได้โทรติดต่อฉัน ฉันถามว่าทำไมเขาไม่อนุมัติ เธอว่าขาดเอกสารเพิ่มเติม ฉันถามว่างั้นแม้จะส่งเอกสารเข้าไปเพิ่มเติมก็คงไม่ทันสิ เพราะเขาไม่อนุมัติไปแล้ว เธอบอกว่าใช่ ไม่ได้แล้ว เพราะไม่อนุมัติไปแล้ว
ตอนนี้ ฉันไม่รู้สึกอะไรกับการอนุมัติหรือไม่ ฉันเพียงแต่ต้องการหาข้อมูลว่า"โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคต"ของกสิกรนี้ แหกตาใช่ไหม? เพราะในช่วงก่อนหน้าที่ฉันจะไปขอบัตรเครดิตอีกครั้ง ฉันได้ค้นข้อมูลเกี่ยวกับโครงการนี้ ฉับได้พบข้อมูลและกระทู้บน pantip ด้วย facebook ด้วย เกี่ยวกับคนที่ไปฝากเงินกับกสิกรไทยเพื่อเข้าโครงการนี้ เพราะต้องการขอบัตรเครดิตเหมือนฉันและไม่ผ่านมากเหมือนกัน ฉันจึงเพิ่งเข้าใจ
ต้องขออนุญาตคัดลอกข้อมุลจาก facebook ของคุณ Jurujuru Kodomo ที่เธอโพสต์ถามและมีเจ้าหน้าที่จากกสิกรตอบเธอ https://th-th.facebook.com/KBankLive/posts/10151780355357891
พอฉันอ่าน ฉันจึงเข้าใจในกลยุทธหมกเม็ดที่ธนาคารไม่เคยแจ้งให้ผู้ฝากได้รับรู้เงื่อนไขก่อนเริ่มต้นฝากเงินเข้าโครงการนี้ว่า "ต้องฝากเงินเข้าบัญชีในทุกวันที่ 1 ของเดือนทุกเดือนตลอดระยะเวลา 2 ปีหรือ 24 งวด เพื่อที่เวลากสิกรมาหาค่าเฉลี่ยต่อเดือนจะได้เท่ากันๆทุกเดือน และยอดเป็นยอดที่เราได้ฝากเข้าไปจริงๆ เช่น ถ้าฝาก 4,000 บาท ทุกวันที่ 1 ทุกเดือนเป็นเวลา 24 เดือน เงินค่าเฉลี่ยที่กสิกรคิดจะได้เท่ากับ 4,000 บาท แต่.....ขอย้ำคำว่าแต่!!! กสิกรไม่เคยบอก ไม่บอก.......แต่ตอนที่ฉันคุยกับเจ้าหน้าที่ call center ทางโทรศัพท์ เขาว่าถึงกระนั้น ยอดเงิน 20,000 บาท ของฉันเข้าทุกวันที่ 5 ของเดือน เมื่อมาหาค่าเฉลี่ยก็ยังมากกว่าขั้นต่ำ 4,000 บาท ที่กสิกรกำหนดอยู่ดี ฉันบอกว่าฉันรู้และฉันเห็นด้วย......แล้วกรณีของฉัน กสิกรใช้อะไรส่วนไหนของร่างกาย (ถ้ามี) คิดล่ะ? ไม่มีอะไรมากมาย....ฉันว่ามันแค่สัจธรรม....ที่คนโง่ย่อมเป็นเหยื่อของคนฉลาด....
22 ม.ค 2558 ฉันยังได้รับโทรศัพท์จากกสิกรซึ่งพูดกันไม่เข้าใจเพราะบุคคลที่โทรมาไม่มีความรู้อะไรเกี่ยวกับโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตเลย ฉันจึงบอกว่าให้เจ้าหน้าที่ที่รู้เกี่ยวกับโครงการหรือปฏิบัติงานในโครงการนี้อยู่โทรมาคุยดีกว่า เขาว่าจะให้คนที่รู้โทรกลับมาภายในวันนั้นแต่ไม่มี....
24 ม.ค. 2558 ฉันจึงได้รับจดหมายที่แจ้งว่าไม่อนุมัติ ระบุว่า "เอกสารประกอบการสมัครไม่ครบถ้วน/ไม่สมบูรณ์ ตามหลักเกณฑ์ที่ธนาคารกำหนด" และยังกล่าวเท็จโป้ปดอีกว่า "และธนาคารได้มอบหมายให้พนักงานติดตามเอกสารเพิ่มเติมจากท่านแล้ว แต่จนถึงปัจจุบันพบว่าเอกสารยังไม่ครบถ้วน/ไม่สมบูรณ์ เป็นผลให้ธนาคาร ไม่สามารถอนุมัติบัตรเครดิตกสิกรไทยให้ท่านในขณะนี้ได้ รายละเอียดเอกสารที่ธนาคารต้องการเพิ่มเติม มีดังต่อไปนี้ -สำเนา statement ต่อเนื่องย้อนหลัง 6 เดือนที่ใช้ทำธุรกิจ".......ไม่น่าเชื่อเลยว่าจะโกหกหน้าตายพูดมาได้ว่าให้เจ้าหน้าที่ติดต่อเพื่อขอเอกสารเพิ่มเติมจากฉันแล้ว แต่ฉันนิ่งเฉย!!! ฉันจึงโทรเข้าไปบอกว่าโกหกไม่มีใครบอกขอเอกสารเพิ่มเติมมีแต่บอกว่าไม่อนุมัติอย่างเดียวเท่านั้น และเวลาฉันถามและพูดถึงโครงการก็ไม่เคยมีใครที่กสิกรนี่คุยรู้เรื่องหรือตอบคำถามฉันได้เลยสักคน และเวลาพูดบอกข้อมูลต่างๆ ก็ไม่เคยเหมือนกันสักครั้ง.....ฉันโกรธมากและถามว่าการสนทนานี้มีการบันทึกเสียงไว้ไหม? เขาบอกว่าบันทึก ฉันบอกว่าดี ควรให้กสิกรเปิดฟังดูว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง การบริการที่ไม่ได้เรื่อง คุยกันก็ไม่รู้เรื่อง ควรแก้ไข ปรับปรุง จนเจ้าหน้าที่นั้นบอกว่าถ้าฉันยื่น statement 6 เดือนย้อนหล้งเข้าไป เขาว่าจะเอาใบสมัครมาดำเนินการใหม่อีกครั้ง แต่ฉันโกรธมาก ได้วางหูไป
จน 28 ม.ค. 2558 ฉันลองโทรเข้าไปถามเจ้าหน้าที่ที่คุยกันครั้งสุดท้าย เกี่ยวกับคำพูดเขาที่ว่าถ้าฉันส่งเอกสารเพิ่มเติมให้เขา แล้วเขาจะดำเนินการให้ ซึ่งฉันก็พยายามอธิบายว่าตาม F&Qhttp://www.kasikornbank.com/TH/PromotionPrivileges/Pages/SavingForFuture_FAQ.aspx ของกสิกรระบุไว้ในข้อ 9 ว่า
9. การยื่นขอสินเชื่อไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารประกอบรายได้ ใช่หรือไม่
ตอบ เมื่อลูกค้าเดินบัญชี ครบกำหนดตามเงื่อนไขสามารถขอสินเชื่อประเภทต่างๆ ได้ตามที่กำหนดไว้ ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องใช้เอกสารประกอบรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน, Statement ประกอบการขอสินเชื่อ อย่างไรก็ตามเอกสารประเภทอื่นๆ เช่น เอกสารแสดงความมีตัวตน หรือ มีกิจการ รวมถึง เอกสารหลักฐานเกี่ยวกับหลักประกันอื่นๆ ยังคงต้องใช้อยู่ เช่น สำเนาบัตรประชาชน, สำเนาทะเบียนการค้า, รูปถ่าย+ที่ตั้งร้านค้า, สำเนาโฉนดที่ดิน, แบบแปลนก่อสร้าง, สัญญาจะซื้อ-จะขาย ฯลฯ
มันแสดงไว้ว่า statement ไม่ต้องใช้!!!!! แต่เจ้าหน้าที่นั้นตอบว่าการขอบัตรเครดิตอย่างเดียวจำเป็นต้องใช้ statement ด้วย เพราะ ธปท.กำหนด ธปท. เป็นผู้อนุมัติ แต่ถ้าเป็นสินเชื่ออื่นๆ ไม่ต้องใช้เพราะว่ากสิกรพิจารณาและอนุมัติได้เอง.......
ฉันจึงนึกในใจว่าครั้งสุดท้ายที่จะลอง ใจเย็นถามว่าเอา sure เลยว่าต้องการแค่ statement โดยให้ไปขอที่ธนาคารที่ฉันมีบัญชีเข้าออก 6 เดือนย้อนหลังเท่านั้น พอฉันถามว่าแล้วจะให้ส่งอย่างไร เขาบอกว่าส่งที่สาขาที่ฉันเปิดทวีทรัพย์/ขอบัตรเครดิต หรือสาขาไหนก็ได้ แต่แล้วเขาก็บอกให้ฉันรอสักครู่และเขาหายไปพักใหญ่เลย พอกลับมา เขากลับเปลี่ยนคำพูดว่าหลักฐานที่ยื่นเพิ่มเติมต้องเป็นเอกสารหรือจดหมายแสดงที่มาของรายได้ (ประมาณว่าต้องการมั่นใจว่าไม่โกหกเกี่ยวกับที่มาของรายได้) ซึ่งมันต่างจาก statement ย้อนหลัง 6 เดือนโดยสิ้นเชิง! ฉันถามว่าฉันมีรายได้รับเป็นเงินสด จะไปเอาเอกสาร/จดหมายที่ว่าจากไหน? เขาจึงบอกว่าเขาถาม (ใครก็ตาม...ที่เขาหายไปพักใหญ่) มาเผื่อเพราะเห็นว่าฉันต้องการบัตรเครดิตจริงๆว่ายังมีอีก 1 ช่องทาง คือ สมัครขอบัตรเครดิตโดยใช้เงินฝากทวีทรัพย์ค้ำประกัน ฉันบอกว่าฉันรู้.....แต่ที่ฉันฝากเงินทวีทรัพย์โครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตนี้ก็เพื่อจะขอบัตรเครดิตจากสิทธิประโยชน์ของโครงการ ฉันโกรธอีกและพูดว่า เอางี้ พูดง่ายๆดีกว่า "FORGET IT!" ใช่ไหม? โครงการนี้มันไม่มีอยู่จริง.....
ฉันเล่าให้แฟนฟังทั้งหมด เขาบอกว่า It's a spam!.....Crooked.....เขาว่าทำไมกฏหมายเมืองไทยทำอะไรพวกนี้ไม่ได้ กฏหมายเมืองไทยมีแต่เอื้อประโยชน์ให้พวกเห็นแก่ตัวและน่ารังเกียจพวกนี้ เอาเปรียบผู้บริโภคอย่างฉัน อย่างเพื่อนๆหลายๆคน ไม่เป็นไร อย่างน้อยฉันได้เขียนประจาน ได้ถ่ายทอดเล่าสู่กันฟัง.....แต่ฉันจะไม่ยอมโง่อีก ฉันจะไม่ทำธุรกิจ ธุรกรรมอะไรกับธนาคารนี้อีกแล้ว ขออนุญาตยกสุภาษิตภาษาอังกฤษที่เขากล่าวไว้ว่า " Fool me once, shame on you. Fool me twice, shame on me ". หลอกฉันได้หนเดียว หนเดียวจริงๆ ไม่ยอมโง่หนสองแน่!
แต่มีอยู่อย่างที่ฉันสงสัย เพื่อนๆคนไหนมีความรู้ช่วยบอกทีว่าที่กสิกรไทยบอกว่าการขอบัตรเครดิตในโครงการเดินบัญชีเพื่ออนาคตต้องผ่านการอนุมัติ/เห็นชอบจาก ธปท. นั้นเป็นเรื่องจริงหรือ? ถ้าจริงเพราะอะไร? มันไม่ใช่ดุลพินิจของกสิกรไทยเองหรือ? รบกวนเพื่อนๆด้วย ขอบคุณ.....