[SR] The Truth about Beauty : ถ้าฉันไม่สวยคุณยังจะรักฉันไหม

[มีการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญ]


ขออภัยทุกท่านที่อ่านมาถึงบรรทัดนี้ หัวกระทู้ของเรา “ถ้าฉันไม่สวยคุณยังจะรักฉันไหม” จะว่าไปก็เหมือนสปอล์ย แต่ดูอีกทีก็ไม่สปอล์ยรุนแรงแบบที่คิด หากท่านไม่ถือสาอะไร เราก็จะอธิบายต่อให้ฟังว่า

"นี่เป็นหนังรัก โรแมนติค คอเมดี้ เรื่องราวของหญิงสาว ชายหนุ่ม ที่มีการศัลยกรรมเป็นตัวแปร"

เพราะฉะนั้น ประโยคข้างต้น อาจเป็นการเปิดเผยเนื้อหาสำคัญไปบ้าง แต่มันก็ไม่ใช่แก่นจริงๆของเรื่อง มันพูดเรื่องความสวยความงาม ความพยายามของผู้หญิงคนหนึ่งที่ถูกแฟนทิ้งและอยากสวยขึ้นมา มันเริ่มต้นแบบนั้น หากคุณรับได้ เชิญอ่านต่อได้เลยค่ะ

Aubrey Lam Oi-Wah หรือ Oi-Wah Lam เธอเป็นมือเขียนบทมีชื่อ เขียนบทให้หนังฮ่องกงและจีนดังๆมาหลายเรื่องที่ฟอร์มใหญ่หน่อยก็อย่าง Wu xia (2011), The Warlords (2007) และบรรดาหนังชื่อดังเรื่องอื่นๆอีกมากมาย แต่มักไม่ได้ติดเครดิตเธอ ซึ่งหนังแนวที่เธอถนัดจริงๆเห็นจะเป็นพวกบรรดาหนังรัก หนังโรแมนติค หนังที่เธอมีโอกาสได้เขียนบทให้ แม้จะฟอร์มเล็กที่มักได้ฉายแค่ในฮ่องกง จีน ญี่ปุ่น เท่านั้น แต่แม้จะเป็นหนังเล็กๆแต่ดาราที่เคยร่วมงานกับเธอนั้น ก็เข้าขั้นเป็นดาราในกระแส และตัวเป้งๆทั้งสิ้น ทั้ง เจย์ โจว, แดเนียล วู, ชอว์ ยู ฯลฯ คนไหนเป็นตัวท็อปในช่วงนั้น คนนั้นมักได้เล่นหนังที่เธอเขียนบทให้เสมอ นอกจากเขียนบทแล้ว เธอเองก็ขึ้นแท่นไปเป็นผู้กำกับเองหลายเรื่อง แต่ส่วนใหญ่มักไม่โอเคเท่าไหร่นัก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

กระทั่งมาถึง The Truth about Beauty อีกครั้งที่ ออเบรย์ นั่งแท่นเขียนบทและกำกับ



ความน่าสนใจของ The Truth about Beauty หรือ ชื่อเดิมคือ Facelift Diary ก็คือ .. "นี่เป็นหนังตลกเรื่องแรกในจีนที่พูดถึงวงการศัลยกรรมอย่างซีเรียส จริงจัง" และเราไม่ได้เคลมข้อมูลนี้ขึ้นมาเอง แต่เป็นตัวโปรดิวเซอร์ของหนังเรื่องนี้ อย่าง Peter Chan ต่างหากที่เป็นคนพูด

"หลายคนมีทัศนคติต่อการศัลยกรรมในมุมมองแย่ๆ แต่มีเพื่อนผมหลายคนที่ไม่คิดแบบนั้น และมุมมองต่อการศัลยกรรมของพวกเขา ทำให้เรารู้สึกว่า มันไม่ได้มีอะไรแปลกประหลาดเลย ซึ่งมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ"

หนังในปี 2013 ของ Peter Chan ที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก และกวาดรางวัลในงานเทศกาลเกือบทุกแห่งอย่าง American Dreams in China เองแม้จะไม่มีชื่อให้เครดิตในหนังว่าใครเป็นคนเขียนบท จนหลายคนที่ไม่ได้สังเกตุอาจคิดว่า ปีเตอร์นั่นแหละที่เขียนเอง แต่เปล่า เป็น Aubrey Lam ผู้กำกับและคนเขียนบท The Truth about Beauty นี่แหละ ที่เป็นหนึ่งในทีมเขียนบท American Dreams in China



The Truth about Beauty พูดถึงหญิงสาวคนหนึ่งที่หน้าตาปานกลาง แต่ถูกแฟนทิ้ง และกำลังตกงาน ทั้งที่เธอเป็นคนเรียนเก่ง ได้เกียรตินิยม แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ และเธอก็พบว่า การศัลยกรรมอาจทำให้อะไรๆดีขึ้นก็ได้ ท่ามกลางกระแสการศัลยกรรมที่กำลังถล่มจีนและฮ่องกงอยู่ ณ ตอนนี้ ธุรกิจคลีนิคและโรงพยาบาลศัลยกรรมผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด และเธอก็เลือกศัลยกรรมในที่สุด แม้จะไม่ค่อยมั่นใจนักว่าตัวเองต้องทำ โดยเริ่มต้นที่ การทำตา 2 ชั้นก่อน

มันเป็นก้าวแรก แค่ก้าวเล็กๆ และกำลังจะเป็นการนำไปสู่อะไรบางอย่างที่ใหญ่กว่านั้นมากมายเลยทีเดียว



หนังทำให้เราได้เห็นว่า วงการศัลยกรรมในจีน ไม่ได้สวยงาม แบบที่เราเคยเห็นตามที่หนังเกาหลีเคยพยายามนำเสนอมาตลอด มันไม่ได้มีแค่คลีนิคสีขาว การตกแต่งทันสมัย ผู้คนหน้าตาดีเดินสวนกันไปมาเท่านั้น แต่หนังพาเราไปดูคลีนิคศัลยกรรมในจีน ที่มีหลายเกรด ตั้งแต่ระดับล่าง สู่ระดับไฮเอนด์ ผลงานและฝีมือ ก็แปรผันตามเงินที่คุณจ่ายไป

หนังบอกว่า กว่าที่ กัวจิ่ง (ไป๋ไป่เหอ) จะเริ่มทำศัลยกรรมได้ครั้งแรกเธอก็ต้องฝ่าฝันและขวนขวายหลายอย่าง กว่าจะหาเงินก้อนแรกมากได้ และเมื่อเริ่มทำไปได้ 1 อย่าง ก็ดูเหมือนว่า มันน่าจะยังไม่พอ อย่างที่ 2 อาจจะต้องตามมา

นอกจากการที่หนังเลือกเปิดเผยธุรกิจวงการศัลยกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในจีนแล้วสิ่งที่เป็นแก่นของหนังจริงๆ ก็คือ เรื่องที่เราถกเถียงมาหลายครั้งหลายพันหนว่า สุดท้ายแล้ว เราตัดสินคนที่เปลือกนอกที่หรือที่ตัวตนภายในก่อนกัน

มันไม่ใช่ประเด็นใหม่เลย แต่หนังก็ทำได้ดีด้วยการสร้างคาแร็คเตอร์ ของ "กัวจิ่ง" ที่แสดงโดย "ไป๋ ไป่เหอ" เธอเป็นคนฉลาดเรียนเก่ง นิสัยดี ไม่ริษยาใคร แค่มีหน้าตาธรรมดา (ที่เราก็มองว่าน่ารักอยู่แล้ว) และเธอจน

"ความจน" คือ ตัวแปรสำคัญ แค่คุณจนคนก็มองข้ามคุณแล้วคุณยังไม่สวยอีกก็ไม่มีใครอยากย้อนกลับมามอง เพราะฉะนั้น คนจนถึงต้องพยายามถีบตัวเองเพื่อให้คนหันกลับมามองให้ได้ กัวจิ่ง เธอจนแต่เธอพยายามเท่าที่ทำได้ เธอเริ่มต้นที่การศัลยกรรม และโอกาสต่างๆก็เข้ามามากมาย ทางเลือกในชีวิตของเธอเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งนั่นเป็นเรื่องที่เราต้องยอมรับว่า โลกเป็นเช่นนี้จริงๆ

"คนหน้าตาดีมักได้อภิสิทธิ์บางอย่างมากกว่าคนหน้าตาไม่ดี"



เมื่อเธอดูดีขึ้น เธอก็ได้งาน ด้วยความสวยที่เพิ่มขึ้นมาจากเดิมเล็กน้อย และ ความฉลาดเฉลียวที่เธอมี (นั่นหมายความว่า คุณก็สวยแต่โง่ไม่ได้เหมือนกัน)หลังจากเธอได้งาน เรื่องรักๆใคร่ๆก็เริ่มตามมา เมื่อเธอพบรักครั้งใหม่ กับคนในบริษัท นี่เป็นอีก 1 จุดพลิกของหนัง คือ แม้เธอจะสวยแล้ว แต่เธอก็ยังหลงรักผู้ชายที่

"หน้าตาไม่ดี แต่รวย"


เธอหลงรัก เพราะเขาน่าหลงรัก ไม่ใช่เพราะเขารวย แต่ความรวยก็ทำให้ผู้ชายคนนี้เป็นที่ต้องการของสาวๆเช่นกัน
หนังจึงพูดทั้งประเด็น ความไม่สวย ความไม่หล่อ ความสวย ความหล่อ ความจน ความรวย และ บรรทัดฐานของสังคมที่แทบจะกลายเป็นมาตรฐานของโลกไปแล้ว คือ "คนที่หน้าตาดี มักถูกเลือกก่อนเสมอ"



สิ่งที่ดีของหนังคือ หนังพยายามตีแผ่ประเด็นที่ค่อนข้างซีเรียส และเลวร้าย ออกมาในมุมมองที่ป็อปสุดๆ มัน ตลก ขำขัน แบบไม่ใช่ตลกร้าย จิกกัด แต่อย่างใดแต่เป็น ตลกคอเมดี้ ขนานแท้ แบบที่เวลาคุณดู หนังตลกคอเมดี้ของเกาหลีนั่นแหละ (ผู้เขียนพิสูจน์แล้วด้วยการพาเพื่อนผู้หญิงที่เป็นคนดูหนังทั่วไปเข้าไปดู กรี๊ดกร๊าดชอบกันทุกคน) มันมีมุกที่ตลกมาก จังหวะกำกับที่เป็นหนังตลก มีประเด็นโรแมนติคที่โคตรน้ำเน่า และ มีจุดจบที่เราคงเดาได้ด้วยซ้ำ แต่มันก็สามารถตีแผ่ให้เห็นอะไรบางอย่างมากมายที่ซ่อนอยู่ตลอดทั้งเรื่องได้จริงๆ

นอกเหนือจากนั้น เราจะได้เห็นว่า ระบบการทำงานของบริษัทใหญ่ในจีน (ในเรื่องเป็นบริษัทเกาหลีที่มีสาขาในจีน) ก็มีระบบชนชั้น และใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์องค์กรอย่างมาก พนักงานต้องดูดีตลอดเวลา ที่ชอบมากคือ มีตัวอย่างของคนที่ สวยเพอร์เฟ็ค ทำงานเก่ง แต่สุดท้ายก็ต้องเฟลในงานตัวเอง เพราะเหตุผลส่วนตัวบางอย่างที่บริษัทยอมรับไม่ได้

สวย เก่ง ดี ก็ไม่ใช่คำตอบที่ถูกต้องที่สุดเช่นกัน



การที่หนังใช้ชื่อของ Peter Chan มาปะหน้าเพื่อโปรโมต นอกจากจะเป็นการการันตีตัวหนังได้แล้ว ชื่อของ Aubrey Lam ก็อาจเน้นย้ำเรื่องความโดดเด่นด้านความโรแมนติคคอเมดี้ของหนังลงไปอีก นอกจากนั้นหากคุณเคยดูหนังจีน หรือติดตามหนังจีนมาบ้าง คุณอาจคุ้นชื่อของ ไป๋ไป่เหอ (Bai Baihe) ในปี 2013 เธอถูกขนานนามให้เป็น ราชินีหนังโรแมนติค จากหนังเรื่อง The Stolen Years (2013) จนถูกให้การยกย่องว่า เธอมีแววจะเทียบกับ หลิวอี้เฟย , จ้าวเหว่ย และ จางซือยี่ ได้เลยทีเดียว เรียกได้ว่า เธอคือ ดาราจีนขวัญใจของวงการคนล่าสุดนั่นแหล่ะ



สรุปแล้ว นี่เป็นจะเป็นหนัง โรเมติค คอเมดี้ ที่เปิดมุมมองใหม่ๆให้กับการศัลยกรรมของคุณ มันเป็นหนังจีน-ฮ่องกง ที่แม้จะไม่มีดาราที่คุณรู้จักเลย แต่จะทำให้คุณหัวเราะท้องแข็งและอมยิ้มฟรุ้งฟริ้งได้แน่นอน เราเองก็ชอบมาก และคิดว่าหากไม่มีคนเชิญมา ก็ไม่ไปดูแน่นอน เพราะไม่ได้สนใจการศัลยกรรมนักแต่พอได้ดูแล้วต้องยอมรับว่า เป็นหนังที่โอเคมากในระดับนึงเลยทีเดียว

ก็ดีนะแก..

ชื่อสินค้า:   The Truth about Beauty อึ๋ม เด้ง โด่ง แล้วเธอจะรักชั้นมั๊ย
คะแนน:     
**SR - Sponsored Review : ผู้เขียนรีวิวนี้ไม่ได้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง แต่มีผู้สนับสนุนสินค้าหรือบริการนี้ให้แก่ผู้เขียนรีวิว โดยที่ผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนอื่นใดในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่