ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ สำนวนผู้ใหญ่ไม่เคยฟังเด็กเป็นเรื่องจริง
-- เมื่อครั้งเกิดเป็นประเด็นร้อนเพราะนักศึกษาได้ออกมาประท้วงในโลกโชเชียวเน๊ตเวิกด์เนื่องจากออกนโยบาลของท่านอธิการบดีโดยไม่ให้ปิดภาคเรียนและการแจ้งที่ล่าช้า ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเนื่องจากประกาศที่ล่าช้าจากทางมหาลัย
โดยมีผู้บริหารของทางมหาลัยมารับทราบปัญหาโดยผู้ที่มารับทราบ เมื่อฟังดูแล้ว ตอบคำถามไม่ตรงประเด็นเลยสักนิด แถมยังพยายามบ่ายเบียงและตอบคำถามได้แบบแค่ให้ผ่านๆไป โดยนักศึกษาได้ตั้งคำถามหลักๆ คือ
1. เมื่อเปิดแบบนี้ทางมหาลัยจะทำยังไง แล้วนักศึกษาที่ลงชื่อฝึกงานไปจะทำยังไง จะเสียเครดิตนักศึกษาหรือไม่ แล้วทางมหาลัยจะทำยังไง
คำตอบของผู้บริหารคือ จะให้ทางสาขาเป็นคนจัดการ ซึ่งอันนี้เราอยากจะตั้งคำถามกลับอีกว่า นโยบายแบบนี้ทางสาขาเป็นคนจัดการหรือไม่ โดยคำตอบที่ผู้บริหารถ้าฟังดูดีๆเหมือนคนบัดความรับผิดชอบ ซึ่งนี้คงไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีอย่างแน่นอน มันคือคำตอบของผู้ที่ได้รับการศึกษาระดับสูงแต่คำตอบอาจเหมือนเด็กอนุบาลฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ท่านไม่เคยคิดว่าถ้าเป็นลูกท่านจะเป็นยังไง มาตรฐานการศึกษาไทยมักจะถูกมองว่าต่ำอยู่เสมอเพราะมีบุคคลที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้เรียนแบบนี้ อีกหนึ่งอย่างท่านบอกอีกว่าเราจะจบก่อนมหาลัยอื่น 3 เดือน แต่ท่านไม่คิดว่า ถ้านักศึกษาส่วนใหญ่จบไปแบบควายถือใบปริญญา โดยไม่มีประสบการณ์ชีวิตและไม่มีความรู้ที่เพียงพอ นักศึกษาที่จบรุ่นต่อไปจะไม่ถูกสถานประกอบการณ์มองว่านักศึกษาไม่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า
2. นักศึกษาถามว่า ตกลงจะเปิดตามปฏิทินเดิมใช่ไหม
คำตอบคือ ต้องเอาเข้าที่ประชุมแล้วตกลงกัน ขนาดท่านฟังถึงปัญหาขนาดนั้น ท่านยังไม่คิดและจะเปิดตามปฏิทินเดิม แล้วท่านจะจัดประชุมทำไม สร้างภาพ หรือว่าตอนที่ท่านนั้งฟังท่านไม่ใส่ใจ โดยคิดว่าคำตอบที่ได้คือ ผมจะช่วยคุณไม่ใช่ผมจะตกลงกันก่อนแล้วยึดปฏิทินเดิม งั้นแปลว่าที่มานั่งฟังวันนั้นท่านไม่คิด
--- เพราะดังนี้ จึงขอเชิญชวนชาวราชมงคลล้านนาทุกวิทยาเขตร่วมลงชื่อ และเรียกร้องผลประโยชน์ของเรา ตราบใดที่เรายังไม่สิ้นเราก็ยังต้องดิ้นเพื่อสู้ต่อไป --
ที่ระบบล้มเพราะผู้บริหารไม่ฟังความเห็นนักศึกษา
คุณเชื่อหรือไม่ว่าผู้ใหญ่ไม่เคยฟังเด็ก เช่นเดียวกับผู้บริหารไม่ฟังความเห็นของนักศึกษามหาลัยราชมงคลล้านนา
-- เมื่อครั้งเกิดเป็นประเด็นร้อนเพราะนักศึกษาได้ออกมาประท้วงในโลกโชเชียวเน๊ตเวิกด์เนื่องจากออกนโยบาลของท่านอธิการบดีโดยไม่ให้ปิดภาคเรียนและการแจ้งที่ล่าช้า ทำให้นักศึกษาส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบเนื่องจากประกาศที่ล่าช้าจากทางมหาลัย
โดยมีผู้บริหารของทางมหาลัยมารับทราบปัญหาโดยผู้ที่มารับทราบ เมื่อฟังดูแล้ว ตอบคำถามไม่ตรงประเด็นเลยสักนิด แถมยังพยายามบ่ายเบียงและตอบคำถามได้แบบแค่ให้ผ่านๆไป โดยนักศึกษาได้ตั้งคำถามหลักๆ คือ
1. เมื่อเปิดแบบนี้ทางมหาลัยจะทำยังไง แล้วนักศึกษาที่ลงชื่อฝึกงานไปจะทำยังไง จะเสียเครดิตนักศึกษาหรือไม่ แล้วทางมหาลัยจะทำยังไง
คำตอบของผู้บริหารคือ จะให้ทางสาขาเป็นคนจัดการ ซึ่งอันนี้เราอยากจะตั้งคำถามกลับอีกว่า นโยบายแบบนี้ทางสาขาเป็นคนจัดการหรือไม่ โดยคำตอบที่ผู้บริหารถ้าฟังดูดีๆเหมือนคนบัดความรับผิดชอบ ซึ่งนี้คงไม่ใช่ผู้บริหารที่ดีอย่างแน่นอน มันคือคำตอบของผู้ที่ได้รับการศึกษาระดับสูงแต่คำตอบอาจเหมือนเด็กอนุบาลฟังยังไงก็ฟังไม่ขึ้น ท่านไม่เคยคิดว่าถ้าเป็นลูกท่านจะเป็นยังไง มาตรฐานการศึกษาไทยมักจะถูกมองว่าต่ำอยู่เสมอเพราะมีบุคคลที่ไม่คิดว่าตัวเองเป็นผู้เรียนแบบนี้ อีกหนึ่งอย่างท่านบอกอีกว่าเราจะจบก่อนมหาลัยอื่น 3 เดือน แต่ท่านไม่คิดว่า ถ้านักศึกษาส่วนใหญ่จบไปแบบควายถือใบปริญญา โดยไม่มีประสบการณ์ชีวิตและไม่มีความรู้ที่เพียงพอ นักศึกษาที่จบรุ่นต่อไปจะไม่ถูกสถานประกอบการณ์มองว่านักศึกษาไม่มีประสิทธิภาพหรือเปล่า
2. นักศึกษาถามว่า ตกลงจะเปิดตามปฏิทินเดิมใช่ไหม
คำตอบคือ ต้องเอาเข้าที่ประชุมแล้วตกลงกัน ขนาดท่านฟังถึงปัญหาขนาดนั้น ท่านยังไม่คิดและจะเปิดตามปฏิทินเดิม แล้วท่านจะจัดประชุมทำไม สร้างภาพ หรือว่าตอนที่ท่านนั้งฟังท่านไม่ใส่ใจ โดยคิดว่าคำตอบที่ได้คือ ผมจะช่วยคุณไม่ใช่ผมจะตกลงกันก่อนแล้วยึดปฏิทินเดิม งั้นแปลว่าที่มานั่งฟังวันนั้นท่านไม่คิด
--- เพราะดังนี้ จึงขอเชิญชวนชาวราชมงคลล้านนาทุกวิทยาเขตร่วมลงชื่อ และเรียกร้องผลประโยชน์ของเรา ตราบใดที่เรายังไม่สิ้นเราก็ยังต้องดิ้นเพื่อสู้ต่อไป --
ที่ระบบล้มเพราะผู้บริหารไม่ฟังความเห็นนักศึกษา