คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ไม่รู้นะ แต่ถ้าผมจะให้แฟนยืมเงินผมไม่คิดดอกเบี้ยแน่นอน (มีข้อแม้ว่าถ้าเยอะขนาดนี้คงต้องทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเป็นแค่แฟน ยังไม่ใช่สามีภรรยา) แต่ถ้าผมคิดว่าจะเอาเงินก้อนนี้ไปลงทุน หรือว่าก้อนนี้จำเป็นต้องเอาไว้เก็บออม ผมก็จะไม่เสนอตัวให้ยืมตั้งแต่แรก เอาไปลงทุนอย่างอื่น ไม่ใช่เอามาลงทุนคิดดอกกับแฟน
คิดในทางเหตุผลมันก็ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ แทนที่จะเอาเงินไปเสียดอกให้แบงก์ จ่ายให้กันเอง ก็ได้ประโยชน์ในหมู่ด้วยกันเอง แต่ในทางความรู้สึกมันไม่ใช่ และคนเป็นแฟนกันมันไม่ได้มีแต่เรื่องเหตุผล มันมีเรื่องของความรู้สึกอยู่ด้วย เพราะงั้นถ้าต้องการกำไร ก็ควรเอาไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่ามาคิดดอกเบี้ยกับแฟนให้หมางใจกัน ผมคิดแบบนี้นะ
เรื่องนิสัยมันพูดยาก แต่ละคนเกิดและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน หรือต่อให้เกิดและโตมาที่เดียวกันยังนิสัยไม่เหมือนกันเลย คุณลองชั่งใจดูก็แล้วกันว่าคุณรับนิสัยข้อนี้ของเขาได้ไหม ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับรักไม่รักหรอก ดูจากที่เล่าหลายๆ อย่าง ผมว่ามันเป็นนิสัย(สัน---)ของเขาเลยแหละ น่าจะเป็นคนที่เขี้ยวกับทุกเรื่อง ซึ่งตรงนี้มันบอกไม่ได้หรอกว่าเขารักคุณหรือไม่รัก บางคนเขี้ยวลากดินแม้กระทั่งกับพ่อแม่ตัวเองยังมี แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รัก บางคนก็สบายๆ เปย์ๆ แต่ไม่รักจริง นอกใจ เจ้าชู้ มีกิ๊ก ทำให้เสียใจมันก็มี
คุณลองประเมินดูรวมๆ ก็แล้วกันว่ารับได้ไหม ดีแล้วที่ได้รู้จักนิสัยกันให้ดีก่อนแต่ง
ป.ล. ผมว่าตัดปัญหา ถ้าส่วนต่างดอกเบี้ยมันแค่นิดหน่อยก็ไม่ต้องไปยืมเขาหรอก เงินแค่นิดเดียว (ถ้าตามที่คุณบอกก็ส่วนต่างแค่หมื่นกว่าๆ น่าแทบไม่มีผลอะไรกับชีวิตคุณเลย) เดี๋ยวมีปัญหาเลิกกันวันหลังจะวุ่นวายมากกว่า ผ่อนกับธนาคารก็ดีแล้วสบายใจดี
คิดในทางเหตุผลมันก็ดีกว่าจริงๆ นั่นแหละ แทนที่จะเอาเงินไปเสียดอกให้แบงก์ จ่ายให้กันเอง ก็ได้ประโยชน์ในหมู่ด้วยกันเอง แต่ในทางความรู้สึกมันไม่ใช่ และคนเป็นแฟนกันมันไม่ได้มีแต่เรื่องเหตุผล มันมีเรื่องของความรู้สึกอยู่ด้วย เพราะงั้นถ้าต้องการกำไร ก็ควรเอาไปลงทุนอย่างอื่นดีกว่ามาคิดดอกเบี้ยกับแฟนให้หมางใจกัน ผมคิดแบบนี้นะ
เรื่องนิสัยมันพูดยาก แต่ละคนเกิดและเติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน หรือต่อให้เกิดและโตมาที่เดียวกันยังนิสัยไม่เหมือนกันเลย คุณลองชั่งใจดูก็แล้วกันว่าคุณรับนิสัยข้อนี้ของเขาได้ไหม ผมว่ามันไม่ได้เกี่ยวกับรักไม่รักหรอก ดูจากที่เล่าหลายๆ อย่าง ผมว่ามันเป็นนิสัย(สัน---)ของเขาเลยแหละ น่าจะเป็นคนที่เขี้ยวกับทุกเรื่อง ซึ่งตรงนี้มันบอกไม่ได้หรอกว่าเขารักคุณหรือไม่รัก บางคนเขี้ยวลากดินแม้กระทั่งกับพ่อแม่ตัวเองยังมี แต่ก็ไม่ใช่ว่าไม่รัก บางคนก็สบายๆ เปย์ๆ แต่ไม่รักจริง นอกใจ เจ้าชู้ มีกิ๊ก ทำให้เสียใจมันก็มี
คุณลองประเมินดูรวมๆ ก็แล้วกันว่ารับได้ไหม ดีแล้วที่ได้รู้จักนิสัยกันให้ดีก่อนแต่ง
ป.ล. ผมว่าตัดปัญหา ถ้าส่วนต่างดอกเบี้ยมันแค่นิดหน่อยก็ไม่ต้องไปยืมเขาหรอก เงินแค่นิดเดียว (ถ้าตามที่คุณบอกก็ส่วนต่างแค่หมื่นกว่าๆ น่าแทบไม่มีผลอะไรกับชีวิตคุณเลย) เดี๋ยวมีปัญหาเลิกกันวันหลังจะวุ่นวายมากกว่า ผ่อนกับธนาคารก็ดีแล้วสบายใจดี
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 37
"ก่อนหน้านี้เค้าบอกว่าอยากแต่งงานกับเราสิ้นปีนี้ ซึ่งถ้าแต่ง บ้านนี้เค้าก็จะมาอยู่กับเราค่ะ"
บอกไปเลยว่าถ้ามาอยู่ด้วยกัน บ้านหลังนี้ต้องหาร2 คุยกันก่อนว่าเขาจะยอมหรือไม่ ถ้าไม่คงคิดใหม่
ดีกว่าแต่งแล้วเข้ามาอยู่มีปัญหาทีหลัง มีแน่ๆถ้าเขาเข้ามาอยู่แล้ว ปล่อยให้จขกท.จ่ายค่าน้ำ ไฟ ค่าผ่อนบ้านเองทุกอย่าง
คนเราเป็นแฟนกันเล็กๆน้อยๆ ฝ่ายชายยังไม่ยอม นี่ยังไม่แต่งงานนะ ถ้าแต่งแล้วจะขนาดไหน ไม่เป็นทาสเลยหรือ
คิดว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่Happy อยู่คนเดียวดีเสียกว่า ไม่ต้องเสียสุขภาพจิต
บอกไปเลยว่าถ้ามาอยู่ด้วยกัน บ้านหลังนี้ต้องหาร2 คุยกันก่อนว่าเขาจะยอมหรือไม่ ถ้าไม่คงคิดใหม่
ดีกว่าแต่งแล้วเข้ามาอยู่มีปัญหาทีหลัง มีแน่ๆถ้าเขาเข้ามาอยู่แล้ว ปล่อยให้จขกท.จ่ายค่าน้ำ ไฟ ค่าผ่อนบ้านเองทุกอย่าง
คนเราเป็นแฟนกันเล็กๆน้อยๆ ฝ่ายชายยังไม่ยอม นี่ยังไม่แต่งงานนะ ถ้าแต่งแล้วจะขนาดไหน ไม่เป็นทาสเลยหรือ
คิดว่าถ้าอยู่ด้วยกันแล้วไม่Happy อยู่คนเดียวดีเสียกว่า ไม่ต้องเสียสุขภาพจิต
ความคิดเห็นที่ 29
คุณลองคิดในมุมของเขาบ้างดีกว่า
เงิน 700000 สมมติฝากออมทรัพย์ทีเอ็มบีดอกเบี้ย 2% 24เดือนได้ดอกเบี้ย 28000
แต่ถ้าแฟนคุณเค้าไปฝากประจำ 24 เดือน เดือนละ 25000 เค้ายังต้องได้ดอกอีกเท่าไหร่
เค้ามีใจช่วยคุณ แต่ก็ไม่อยากเสียผลประโยชน์ของตัวเอง เค้าไม่ได้จะทำการค้ากับคุณ
แต่งงานรึก็ยัง คนค้ำก็ไม่มี เลิกกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่แสดงว่าผู้ชายเค้ารักคุณจริงเค้าถึงได้ยอม แม้มีความเสี่ยงอยู่มาก
แฟนคุณเค้าไม่ใช่พระเอกละคร เค้าคือผู้ชายธรรมดาที่พยายามจะช่วยแฟนตัวเอง โดยที่ตัวเองก็จะไม่เสียผลประโยชน์ในส่วนที่ควรจะได้ถ้ามันอยู่ในแบงค์เฉยๆ น่ะ
เงิน 700000 สมมติฝากออมทรัพย์ทีเอ็มบีดอกเบี้ย 2% 24เดือนได้ดอกเบี้ย 28000
แต่ถ้าแฟนคุณเค้าไปฝากประจำ 24 เดือน เดือนละ 25000 เค้ายังต้องได้ดอกอีกเท่าไหร่
เค้ามีใจช่วยคุณ แต่ก็ไม่อยากเสียผลประโยชน์ของตัวเอง เค้าไม่ได้จะทำการค้ากับคุณ
แต่งงานรึก็ยัง คนค้ำก็ไม่มี เลิกกันเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ นี่แสดงว่าผู้ชายเค้ารักคุณจริงเค้าถึงได้ยอม แม้มีความเสี่ยงอยู่มาก
แฟนคุณเค้าไม่ใช่พระเอกละคร เค้าคือผู้ชายธรรมดาที่พยายามจะช่วยแฟนตัวเอง โดยที่ตัวเองก็จะไม่เสียผลประโยชน์ในส่วนที่ควรจะได้ถ้ามันอยู่ในแบงค์เฉยๆ น่ะ
ความคิดเห็นที่ 56
เรื่องค่าบ้านไม่ขอออกความเห็น แต่พฤติกรรมอื่นๆ คหสต เราว่าแฟนคุณคิดเล็กคิดน้อยมากค่ะ ต่อไปพอแต่งงานกันแล้ว มันจะมีเรื่องเงินๆทองๆมาเกี่ยวข้องกันเยอะกว่านี้มาก ถ้าเค้ายังคงมาตรฐานแบบนี้อยู่ คุณจะมีเรื่องให้เสียความรู้สึกอีกหลายครั้งค่ะ แล้วมันจะบั่นทอนชีวิตรัก บอกเลย จริงๆของแบบนี้ไม่มีใครถูกหรือผิดหรอกค่ะ มันขึ้นอยู่กับความสบายใจ ความพอใจของคนทั้งคู่มากกว่าค่ะ ถ้าแฟนคุณคบกับผู้หญิงที่เค้าไม่คิดอะไรกับเรื่องแบบนี้ ก็คงคบกันได้ แต่เราคิดว่าคุณไม่ใช่ ฉะนั้นต้องคิดให้มากๆนะคะ ถ้าจะใช้ชีวิตร่วมกัน
แสดงความคิดเห็น
แฟนจะให้เงินเรากู้เพื่อโปะบ้าน แล้วคิดดอกเบี้ยจากเรา เป็นเรื่องปกติหรือเปล่า?
ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ร่วมกันตอบนะคะ
ได้มุมมองจากคนทั่วไปอีกเยอะ
ขอบคุณค่ะ