เรื่องคู่น้ำพระทัยค่ะ?

คือเรากับแฟน เป็นคริสเตียนทั้งคู่ ส่วนตัวเราเชื่อมา เกือบ 5 ปี  ส่วนแฟนเรา  15 ปีแล้วค่ะ  อายุเราห่างกัน  7 ปี  
สิ่งที่ทำให้เราคบกันได้คือเรามารับใช้ด้วยกันค่ะ  เราอยู่ทีมนมัสการทั้งคู่ เลยทำให้เราผูกพันกันมากขึ้น  
        
        
จนถึงช่วงนึงเราก้ตกลงคบกันแต่ทางคริสเตียน เราคบแบบชาวโลกไมได้ค่ะ  เราต้องมีการบอกให้ทางฝ่ายพี่เลี้ยงรู้ก่อน ต้องบอกทั้งคู่  แล้วพี่เลี้ยงจะรายงานผู้นำแล้วเค้าจะให้บททดสอบหรือวางกรอบ  เพื่อชีวิตที่เดินตามในพระเจ้าจะได้ไม่ถูกสิ่งล่อลวงไปในทางที่ผิด  แบบชาวโลกที่คบกันแล้วก้เลิก ทางคริสเตียนถ้าคิดจะคบก้ต้องถึงตอนแต่งานเลยค่ะ  
        
                พอเราทั้งคู่ตัดสินใจบอกพี่เลี้ยง ผู้นำก้รับทราบเราทั้งคู่เลยต้องอยู่ในการดูแลของผู้นำ  คืออย่าเกินเลยแบบไปไหนกันแค่สองคน  
ถ้าจะไปก้รายงานพี่เลี้ยง  ไม่อยู่ในที่ลับตา  โทรคุยได้  แชทได้ เราเข้าใจค่ะว่ามันค่อนข้างอึดอัด
               เรากับแฟนทำตามพักนึง ทางฝ่ายวิญญาณเราดีขึ้นนะคะ อึดอัดแค่ไมได้ทำตามแบบชาวโลก  ทำไมต้องมาโดนแบบนี่  แต่เราเข้าใจค่ะมันคือบททดสอบถ้าผ่านไปสักระยะผู้นำเค้าก้จะไม่มากดดันแบบนี่คะ แต่ทางฝ่ายชายเค้าเริ่มทนไม่ไหว  เลยพากันไม่ทำตามอยู่ทั้งหมดสามครั้งๆใหญ่ๆ

            จนครั้งสุดท้ายเราแอบคบกัน  8-9 เดือน ไปไหนมาไหนด้วยกัน  ทางบ้านเรารับรู้ ทำแบบชาวโลกเลยค่ะ นอนห้องเดียวกันแทบทุกวัน เราเรียนเสร็จเขาก็มารับไปนอนห้อง บางครั้งเขาก็ไปนอนห้องเรา ไปเที่ยวต่างจังหวัด คือทำแบบคนรักปกติเลยค่ะ เรื่องถูกเนื้อต้องตัวก็มีเป็นธรรมดาค่ะ กอด จูบ

            แต่พอมาโบสถ์เราก็วางตัวแค่พี่น้อง อยู่ต่อหน้าเขาทำเป็นไม่คุย คุยน้อยกว่าก่อนคบ แทบไม่มองหน้าเลยค่ะ   เขาบอกแค่ว่ายังไม่พร้อม  
ไม่อยากให้ผู้นำรู้  เลยต้องแสดงแบบนี่  ตอนแรกเราเชื่อเขา  เราโอเคกับทุกๆๆอย่าง  แต่พอมาระยะหลังๆ ทางฝ่ายผู้นำเขาก็รู้ว่าเราคบกันเกินเลยกว่าพี่น้อง
               พี่เลี้ยงเราก็รู้ค่ะ  เราแทบไม่ใช่เวลาหรือเข้าหาพี่เลี้ยงเลย  เพราะเรากลัวเขาถาม เราไม่สามารถโกหกเขาได้ เราละอายจริงๆค่ะ  จนเรื่องมันไม่ไหว  อาทิตย์ที่ผ่านมาเขามารับเรา  เราไปโบสถ์พร้อมกัน  เขาบอกให้เราเข้าไปก่อน ส่วนตัวเขาเข้าทีหลัง เราก้ทำตามแต่สุดท้ายพี่เลี้ยงหรือผู้นำเขาก็รู้ค่ะ  แต่เขาก็ม่ได้ว่า  แค่ขอความชัดเจนว่าจะเป็นสถานะอะไรกันแน่

เราเลยบอกเขาค่ะ ว่าทางผู้นำเขารู้นะ  พี่เลี้ยงเราก็รู้  เขากลับโมโหค่ะแล้วถามว่า  "ทำไมเธอไม่ปฎิเสธไป  ไปยอมรับทำไมว่ามาด้วยกัน" เรารู้สึกใจไม่ดีแล้วค่ะ น้ำเสียงเขาโมโหมาก  เราก้ได้แต่บอกว่า

"ทางผู้นำกับพี่เลี้ยงก็รู้หมดแล้ว  เขาไม่ได้ว่านะ  แค่ขอให้เราชัดเจน" เราพยายามใจเย็นนะคะ แต่ดูเหมือนเขาโมโหมาก

"บอกแล้วไง  ว่าฉันยังไม่พร้อม  รู้ไหมเราจะเสีย (เสียอะไรในเมื่อผู้ใหญ่ไม่ได้ว่า  ที่แอบไปมาหาสู่กันน่าเสียกว่าอีก)"  แล้วเขาก็บอกอิกว่า  

"ฉันอยู่ทีมนมัสการสองวง  ฉันยังไม่อยากให้เค้ามองภาพลักษณ์ฉันแย่  ตั้งแต่คบแกมามีแต่ฉุด  ทำไมไม่เคยเสริมสร้างกันมั้ง" จุกค่ะเอาพูดไม่ออก  
และเขาก้ว่าเรายาวว เวลาเราทะเลาะกัน  เขาจะไม่ฟังคำพูดเราเลยค่ะ  บอกแค่ว่าเราเด็ก  บางครั้งเขาชวนทะเลาะเพื่อต้องการทดสอบอารมณ์เรา   ระยะแรกๆเรารู้วาเขาดัดนิสัย  แต่หลังๆมันไม่ใช่แล้วค่ะ  สุดท้ายก็จบด้วยคำว่า

"คบเด็กก็เป็นแบบนี่ละ  คิดอะไรตื้นๆ"  วันนั้นเราเลยเคลียกัน  สุรปเราต้องขอโทษเขาค่ะ เราไม่อยากทะเลาะ แต่เรายังไม่เข้าใจว่าเราผิดอะไร T____T  

จนปัจจุบันเราทนม่ไหวค่ะ  เราอึดอัดมาก  เขาให้เราทุกอย่าง  สิ่งของ  เวลา  พาเราไม่เที่ยว  แต่มันมีความสุขแค่ภายนอก  เราไม่มีความสุขในฝ่ายวิญญาณเลยค่ะ  จนสุดท้ายพี่เลี้ยงเลยเรียกเรามาคุย  จนเราต้องระบายทุกอย่างที่เก็บมาทั้งหมด  เขาเข้าใจเราค่ะ

เราไม่ต้องการมาโบสถ์เรามาแสดงว่าเป็นพี่น้องกัน  ไม่คุยกัน  แต่ลับหลังทุกคนกลับทำสิ่งที่ผิด  สิ่งที่ดูแย่ เราไม่เกิดผลในการรับใช้และฝ่ายวิยญาณ  
ทุกอย่างเราดรอปหมดค่ะ

           จนเราเข้าไปคุยกับผู้นำอีกครั้ง  เขาบอกว่าต้องชัดเจน  ถ้าจะคบกันต่อ มีทางเลือกสองทาง  คือ
1. รายงานพี่เลี้ยงว่าไปไหนมาไหน ทำแบบเดิมแต่เค่รายงานแต่สุดท้ายพี่เลี้ยงไม่รับรองและบางครั้งก้ไม่เห็นด้วย  
2. ทำสิ่งถูกต้อง  ผู้ นำจะทดสอบสักระยะ ว่าให้คุยกัน  แต่ไม่นัดเจอแบบแต่ก่อนแล้ว  ไปเที่ยวสองคนไม่ได้  ถ้าไม่ไหวเขาจะจัดกิจกรรมให้ทำร่วมกัน ถ้าผ่านก้คบกันต่อแบบสบาย  เดินในทางพระเจ้า  

เราเลยเลือกอย่างที่สองค่ะ  เรารู้สึกว่าอยากทำในสิ่งที่ถูกกับพระเจ้าซะที ทางผู้นำบอกให้ไปคุยกับทางฝ่ายชายก่อน  'ถ้าเขาเข้าใจ  และทำตามเลือกที่จะเดินในทางพระเจ้า มันก็ไม่มีอะไรยาก' และเราก้ตกลงคุยกันค่ะ  

สรุปเขาไม่ทำตามค่ะ  และบอกว่าทำไมเราสร้างเรื่อง  สุดท้ายทะเลาะกันประมาณสองวัน  ตอนนี่เลิกแล้วค่ะ  เขารู้ว่าควรทำยังไงแต่เขาเลือกที่จะไม่ทำ  เขาถามว่าเราอึดอัดอัดอะไร  ทำไมเอาแต่ใจ  เราบอกเลยว่าเราอึดอัดในฝ่ายวิญญาณ  อาจจะดูงี่เง่าสำหรับชาวโลก  แต่เรามีปัญหากันหนักมากช่วงหลังๆ  คบแล้วไม่มีความสุข  บางครั้งข้อเสียเขา  ชอบเอาเราไปเปรียบกับผู้หญิงคนอื่น  ว่าเรา โง่มั้ง  เด็กมั้ง  คิดตื้นๆ ที่สำคัญ  เขาไม่เคยเปิดตัวเรากับพี่สาว  หรือคนที่ทำงาน  ไปต่างจังหวัดเจอญาติเขา  นับถือคริสเหมิอนกัน  ญาติเขาถามว่า
"ทำไมไม่ชวนน้องเข้าโบสถ์ละ" เราได้แต่เงียบและยิ้ม  เพราะเขาห้ามบอกว่าเราคบกัน  เจอกันที่โบสถ์ เป็นแค่พี่น้องกัน  เขาบอกแค่ว่าเราจะดูไม่ดี  

       แต่เราคิดว่า  สิ่งที่เขาทำลับหลังต่างหากที่ดูไม่ดี   เราไม่สามารถทนต่อความรู้สึกที่ผิดแบบนี่ได้ เขาบอกแค่ว่ารอเวลา  เขายังไม่พร้อม เรายังไม่โตพอ  ไม่ดีพอ  เขายังไม่อยากประกาศหรือเปิดตัว  เราไม่ต้องการให้เขาประากาศหรอกค่ะ  แต่แค่ทำสิง่ที่ถูกต้องในทางพระเจ้าก็พอ สุดท้ายเขาไม่ใช่คู่น้ำพระทัยจริงๆค่ะ เราได้แต่ยอมรับและกลับใจในสิ่งที่ทำพลาดไปทั้งหมดค่ะ แล้วที่เราอยากทราบว่า  สิง่ที่เราทำไปมันถูกแล้วหรือยังคะ?  หรือควรกลับไปขอโทษเขาแล้วเริ่มต้นใหม่  แต่ยังลงอีหรอบนี้อีก  เราเลือกแบบนี่ถูกหรือยังคะ??
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ฮบ13.4    กจ15.20    1คร5.1 ,  1คร6.13,18  ,  1คร7.2  กท5.19  1ธส4.3

จากหลักการพระเจ้า พระองค์ให้ความสำคัญเรื่องการล่วงประเวณี คือการมีความสัมพันธ์ก่อนแต่ง มากกว่าค่ะ

คำสอนมีพื้นฐานเดียวกันคือจากพระคัมภีร์ แต่ขึ้นอยู่กับวัฒนธรรม การประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม

พี่เลี้ยง ผู้นำ ท่านห่วงใยเราด้านฝ่ายวิญญาณ
เราเองทำถูกต้องแล้วที่กล่าวรายงาน และอยู่ภายใต้การปกคลุมฝ่ายวิญญาณ
เชื่อว่าพระเจ้า จะอวยพระพรผู้ที่เชื่อ และ ยึดมั่นในพระวจนะของพระองค์
เราเองจะได้รับพระพร และผลดีตามมาอย่างแน่นอน

อยากหนุนใจให้อดทน รักษาชีวิต และ อธิษฐานขอกำลัง และสติปัญญาให้ผ่านพ้น และมีชัยชนะ
ยินดีกับชีวิตที่เราจะเติบโตกับพระเจ้าอีกหนึ่งสเต็บค่ะ

พระเจ้าอยู่ด้วยนะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่